พาไปทำความรู้จักโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพ

            โรงเรียนนานาชาติเป็นโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งในห้องเรียนและในชีวิตประจำวัน และครูส่วนใหญ่ของโรงเรียนจะเป็นครูชาวต่างชาติซึ่งมาจากหลากหลายประเทศ ซึ่งถ้าพูดถึงค่าเทอมทุกคนก็จะรู้กันดีอยู่แล้วว่ามีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร คนส่วนใหญ่ที่จะส่งลูกเรียนได้ก็ต้องมีรายได้สูงเลยทีเดียว และถ้าพูดถึงฮาร์โรว์กรุงเทพรับรองว่าไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน แต่วันนี้เราจะพาไปทำเจาะลึกรายละเอียดของโรงเรียนนี้กันครับ             โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1998 โดยเป็นโรงเรียนแรกของเครือฮารโรว์ทั่วโลกที่ก่อตั้งขึ้นในเอเชีย รวมถึงยังเป็นโรงเรียนนานาชาติแบบประจำในระบบอังกฤษที่มีอายุยาวนานที่สุดในเอเชีย ในฐานะที่เป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำที่ดีที่สุดในประเทศไทย โรงเรียนฮาร์โรว์กรุงเทพได้ตั้งอยู่ในพื้นที่สีเขียวขนาด 142,000 ตารางเมตร หรือ 88 ไร่  ในปัจจุบันโรงเรียนฮาร์โรว์กรุงเทพฯ ได้มีจำนวนนักเรียนทั้งหมดประมาณ 1,600 คน และยังมีการจัดสรรหอพักแบบกินนอนแก่นักเรียนประจำอีกด้วย ได้รับการดูแลภายใต้โรงเรียนฮาร์โรว์ลอนดอน จึงได้รับการรักษาชื่อเสียงและคุณภาพของโรงเรียนอยู่เสมอมา โดยทั้งโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ และโรงเรียนฮาร์โรว์ลอนดอนได้ดำเนินงานภายใต้เป้าหมาย Educational Excellence for Life and Leadership โดยให้การศึกษาที่ดีเลิศ ควบคู่ไปกับกิจกรรมนอกหลักสูตร และกิจกรรมประจำกลุ่มบ้าน เพื่่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ไปถึงเป้าหมายได้โดยสมบูรณ์           

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพ
            โดยปกติแล้วค่าเทอมของโรงเรียนนานาชาติจะมีการปรับขึ้นแทบทุกปี ค่าเทอมด้านล่างนี้เป็นค่าเทอม Harrow International School Bangkok ในปีการศึกษา 2021-2022 โดยจะแบ่งค่าเทอมและค่าแรกเข้าดังนี้
            - ค่าสมัครและค่าแรกเข้า เป็นค่าใช้จ่ายครั้งแรกเพียงครั้งเดียว ประกอบไปด้วย
            - Application Fee 5,000 THB (Non Refundable)
            - Registration Fee 225,000 THB (Non Refundable)
            - ค่า Deposit จ่ายครั้งเดียวเป็นแบบ Refundable
            - ค่า Deposit จะแบ่งออกเป็นของนักเรียนแบบไปกลับ (Day Student) และนักเรียนประจำ (Boarding Student)

            ค่าหอพักนักเรียนประจำจะรวมค่าอาหารทุกมื้อ ค่าติวเตอร์ช่วงเย็น และกิจกรรมบางชนิดแล้ว (เรียนพิเศษช่วงบ่าย, ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และการเรียนในวันเสาร์) สำหรับใครที่อยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กๆ และกำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติอยู่หวังว่าข้อมูลที่เรานำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะครับ