ซื้อรถแล้วผ่อนไม่ไหว ขอคืนรถได้หรือไม่
5 เม.ย. 66 15:58 น. /
ดู 1,736 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
รู้ยัง! ผ่อนค่างวดรถไม่ไหว ขอคืนรถได้นะ โดยรายละเอียดจะมีอยู่ 2 กรณี นั่นก็คือ คนที่ส่งชำระค่างวดทุกเดือน กับคนที่ส่งชำระขาดเป็นเวลา 3 เดือน จะต้องพบเจออะไรกันบ้าง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะอาจจะส่งผลร้ายในระยะยาวได้ ถ้าไม่รีบวางแผนให้ดีๆ
สิ่งที่สำคัญที่ต้องมีนั่นก็คือ "สัญญาเช่าซื้อ" จะเป็นตัวชี้วัดว่าเราจะต้องเสียส่วนต่างหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสัญญาเช่าซื้อฉบับนี้ ถ้าในสัญญามีระบุไว้ว่าอะไร
เราจะขอแบ่งออกมาเป็นสองกรณี ได้แก่
คนที่มีประวัติดี จ่ายค่างวดรถทุกเดือน และคนที่ประวัติไม่ดี ไม่จ่ายเงินค่างวดเป็นเวลา 3 เดือน โดยจะมีกระบวนการดำเนินงานแตกต่างกันดังนี้
ถ้าเป็นคนประวัติดี
ไม่เคยผิดชำระหนี้ และไม่ค้างชำระค่างวด สามารถติดต่อลิซซิ่งและสามารถทำเรื่องขอคืนรถได้ทันที โดยจะดำเนินงานในรูปแบบยกเลิกสัญญา เมื่อยกเลิกแล้วจะมีผลทันที ไม่จำเป็นต้องผ่อนต่อ สามารถจบได้เลย
ถ้าประวัติไม่ดี
ส่งค่างวด 3 เดือน จะโดนยึดรถและอาจมีภาระหนี้ผูกพันธ์ตามมา เพราะในกรณีที่ค้างค่างวดสามเดือนและในสัญญาระบุว่า "ผู้ให้เช่าซื้อยินยอม ให้ผู้เช่าซื้อ ยกเลิกสัญญาได้โดยส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืน พร้อมเคลียร์ค่างวดที่ค้างชำระทั้งหมดและยินยอมรับผิดในกรณีนำรถออกขายรถขาดราคา" ในกรณีนี้จึงมีความจำเป็นจะต้องชำระหนี้ที่เหลือ และถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา เช่น ติดต่อไม่ได้ เกินในระยะเวลาที่กำหนก จะมีหมายศาลตามมา ในกรณีนี้ ควรเข้าพบเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย และบอกไปตรงๆ ว่าติดปัญหาอะไรที่ทำให้เราผ่อนรถไม่ไหว
วิธีประเมินว่าควรคืนรถยนต์หรือไม่
1. ดูค่าใช้จ่ายแวดล้อมที่เกี่ยวของ
เพราะรถยนต์มีค่าใช้จ่ายรอบตัวที่เราต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน
- ค่าทางด่วน
- ค่าจอดรถ
- ค่าน้ำมัน
- ค่าประกันรายปี
- ค่าตรวจเช็กสภาพรายปี
2. อย่ามองรายได้ในอนาคต ให้มองรายจ่ายปัจจุบัน
เพราะรายได้ในอนาคตนั้นไม่แน่นอน แต่รายจ่ายนั้นรออยู่แล้วๆ ต้องประเมินรายจ่ายในแต่ละเดือนให้ดี ถ้ามองดูแล้วในอีก 3 เดือน เราไม่สามารถจ่ายได้ เพราะตกงาน หรือเจ็บป่วยทำให้ขาดรายได้ ให้ติดต่อเพื่อขอคืนรถให้เร็วที่สุด
3. มองถึงความจำเป็นจริงๆ
ให้ถามตัวเองว่าเรามีความจำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้รถยนต์เพื่อเดินทาง ถ้าไม่มีความจำเป็น เพราะในแต่ละเดือนมีโอกาสใช้รถแค่ไม่กี่วัน ลองเปลี่ยนเป็นวิธีย้ายไปอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานได้หรือไม่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป
4. ถ้าประเมินแล้วไม่ไหวให้รีบคืนรถ
หลังจากดูทิศทางการเงินในอนาคตแล้ว ไม่สามารถจ่ายไหว ให้เราคืนรถไปได้เลย อย่ารอให้ถึงขั้นมายึดรถไป เพราะจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต
"เพราะขอคืนรถคือการยกเลิกสัญญา จึงไม่เสียประวัติเครดิตบูโร"
ที่มา: https://www.one2car.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88/66504
เราจะขอแบ่งออกมาเป็นสองกรณี ได้แก่
คนที่มีประวัติดี จ่ายค่างวดรถทุกเดือน และคนที่ประวัติไม่ดี ไม่จ่ายเงินค่างวดเป็นเวลา 3 เดือน โดยจะมีกระบวนการดำเนินงานแตกต่างกันดังนี้
ถ้าเป็นคนประวัติดี
ไม่เคยผิดชำระหนี้ และไม่ค้างชำระค่างวด สามารถติดต่อลิซซิ่งและสามารถทำเรื่องขอคืนรถได้ทันที โดยจะดำเนินงานในรูปแบบยกเลิกสัญญา เมื่อยกเลิกแล้วจะมีผลทันที ไม่จำเป็นต้องผ่อนต่อ สามารถจบได้เลย
ถ้าประวัติไม่ดี
ส่งค่างวด 3 เดือน จะโดนยึดรถและอาจมีภาระหนี้ผูกพันธ์ตามมา เพราะในกรณีที่ค้างค่างวดสามเดือนและในสัญญาระบุว่า "ผู้ให้เช่าซื้อยินยอม ให้ผู้เช่าซื้อ ยกเลิกสัญญาได้โดยส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืน พร้อมเคลียร์ค่างวดที่ค้างชำระทั้งหมดและยินยอมรับผิดในกรณีนำรถออกขายรถขาดราคา" ในกรณีนี้จึงมีความจำเป็นจะต้องชำระหนี้ที่เหลือ และถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา เช่น ติดต่อไม่ได้ เกินในระยะเวลาที่กำหนก จะมีหมายศาลตามมา ในกรณีนี้ ควรเข้าพบเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย และบอกไปตรงๆ ว่าติดปัญหาอะไรที่ทำให้เราผ่อนรถไม่ไหว
วิธีประเมินว่าควรคืนรถยนต์หรือไม่
1. ดูค่าใช้จ่ายแวดล้อมที่เกี่ยวของ
เพราะรถยนต์มีค่าใช้จ่ายรอบตัวที่เราต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน
- ค่าทางด่วน
- ค่าจอดรถ
- ค่าน้ำมัน
- ค่าประกันรายปี
- ค่าตรวจเช็กสภาพรายปี
2. อย่ามองรายได้ในอนาคต ให้มองรายจ่ายปัจจุบัน
เพราะรายได้ในอนาคตนั้นไม่แน่นอน แต่รายจ่ายนั้นรออยู่แล้วๆ ต้องประเมินรายจ่ายในแต่ละเดือนให้ดี ถ้ามองดูแล้วในอีก 3 เดือน เราไม่สามารถจ่ายได้ เพราะตกงาน หรือเจ็บป่วยทำให้ขาดรายได้ ให้ติดต่อเพื่อขอคืนรถให้เร็วที่สุด
3. มองถึงความจำเป็นจริงๆ
ให้ถามตัวเองว่าเรามีความจำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้รถยนต์เพื่อเดินทาง ถ้าไม่มีความจำเป็น เพราะในแต่ละเดือนมีโอกาสใช้รถแค่ไม่กี่วัน ลองเปลี่ยนเป็นวิธีย้ายไปอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานได้หรือไม่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป
4. ถ้าประเมินแล้วไม่ไหวให้รีบคืนรถ
หลังจากดูทิศทางการเงินในอนาคตแล้ว ไม่สามารถจ่ายไหว ให้เราคืนรถไปได้เลย อย่ารอให้ถึงขั้นมายึดรถไป เพราะจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต
"เพราะขอคืนรถคือการยกเลิกสัญญา จึงไม่เสียประวัติเครดิตบูโร"
ที่มา: https://www.one2car.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88/66504
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google