คิงเพาเวอร์ ธุรกิจคนไทย เติมเต็มความต้องการสู่สังคม THE POWER OF POSSIBILITIES
23 เม.ย. 66 13:46 น. /
ดู 1,623 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
คิง เพาเวอร์ ปลุก พลังความสำเร็จ ครั้งใหญ่เดินหน้าธุรกิจคนไทยผงาดครบวงจรทั้งการลงทุนและตอบแทนสังคม ไตรมาส 1 ตลอด 3 เดือนแรกปี'66 เริ่ม "ม.ค." มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา "แจกอุปกรณ์การแพทย์" ทั่วไทย "ก.พ." อัยยวัฒน์ซีอีโอนำทีมคว้ารางวัล "สุดยอดแบรนด์ของโลกแห่งปี 2022-2023" และ "มี.ค." ประกาศเปลี่ยนผ่าน 4 เป็น 8 กลุ่มธุรกิจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "THE POWER OF POSSIBILITIES :ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้"
โดยได้ดำเนินธุรกิจควบคู่กับตอบแทนประโยชน์สู่สังคมด้วยโครงการ "คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย" ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ กีฬา ชุมชน ดนตรี พร้อมทั้งมี "มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา" ของผู้ก่อตั้ง คิง เพาเวอร์ ทำหน้าที่ขับเคลื่อนช่วยเหลือสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์แก่โรงพยาบาล แจกทุนการศึกษาแก่เด็กเยาวชนสายสามัญระดับมัธยมศึกษา และสายอาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้มีโอกาสเรียนต่อจนจบมหาวิทยาลัย
ช่วงไตรมาส1 3 เดือนแรก ระหว่าง "มกราคม-มีนาคม 2566" กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สร้าง "ผลงานความสำเร็จ" ในฐานะธุรกิจของคนไทยสร้างชื่อเสียงในเวทีโลกอย่างเข้มแข็ง 3 ทศวรรษ ต้อนรับศักราชใหม่เป็นจังหวะเศรษฐกิจเมืองไทยและทั่วโลกกำลังฟื้นตัว และสังคมยังคงต้องการแรงสนับสนุนด้านสำคัญ ๆ ดังนี้
"เดือนมกราคม 2566" นำมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา" มอบความสุขด้วยการ "ส่งมอบตู้อบเด็กทารกแรกเกิด" ให้โรงพยาบาลอำเภอทั่วประเทศถึง 70 โรงพยาบาล 70 เครื่อง ทำให้เด็กแรกเกิดที่มีความเสี่ยงจำนวนมากมีชีวิตรอดได้ เป็นโครงการทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 ตอบโจทย์โรงพยาบาลที่ขาดแคลนได้มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ดีบริการประชาชน
"เดือนกุมภาพันธ์ 2566" นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประกาศข่าวดีกับคนไทยทั้งประเทศถึงการนำคิง เพาเวอร์ คว้ารางวัล "สุดยอดแบรนด์ของโลกแห่งปี 2022-2023" สาขา "ผู้นำค้าปลีกสินค้าดิวฟรี :Retailer-Duty Free Thailand" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ของWorld Brand Awards 2022 ในเวที World Branding Forum ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีความท้าทายอย่างมาก เพราะเวทีนี้ทางคณะกรรมการและผู้บริโภคอีกกว่า 1.3 ล้านคน จะต้องร่วมกันลงคะแนนโหวตคัดเลือกผู้ลงสนามแข่งขันทั้งหมดกว่า 500 แบรนด์ มากถึง 60 ประเทศ
รางวัลใหญ่แห่งปี 2566 ที่ได้รับครั้งนี้ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของทั่วโลกต่างให้การยอมรับธุรกิจของคนไทยในเวทีสากล รวมทั้งสะท้อนถึงศักยภาพความสามารถของผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีคนไทย ซึ่งพร้อมส่งมอบประสบการณ์ความประทับใจอย่างมีคุณค่าและความหมายแก่นักเดินทาง แล้วยังเป็นอีกช่องทางที่ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงภาพลักษณ์ประเทศไทยคือศูนย์กลางการช้อปปิ้งและจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวครองใจนานาชาติอันดับต้น ๆ ของโลก
จากนั้น "มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา" ก็ประกาศรับสมัครแจกทุนการศึกษาเรียนฟรี เริ่ม 21 กุมภาพันธ์ -31 มีนาคม 2566 ให้แก่เยาวชนระดับ ม.1, ม.4 และ ปวช. ที่อยู่ห่างไกล มีความประพฤติดี ผลการเรียนเกรดเฉลี่ย 2.5 และขาดแคลนทุนทรัพย์ มีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมจนจบมหาวิทยาลัย สามารถส่งใบสมัครได้ทางไปรษณีย์ส่งมายัง "มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา" เลขที่ 8 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โดยเข้าไปดาวโหลดรายละเอียดโครงการและใบสมัครขอรับทุนได้ที่ https://vichaisrivaddhanaprabha.com/scholarship-th/
เป็นอีกกิจกรรมความสำเร็จที่มีเสียงตอบรับจากเด็ก ๆ เยาวชน ถึงการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน "สังคม" อย่างเต็มที่ สร้างโอกาสให้คนเติบโตเป็นพลเมืองของชาติอย่างมีคุณภาพต่อไป
"เดือนมีนาคม 2566" นายอัยยวัฒน์ เปิดเวทีประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ใหม่ในรอบ 3 ทศวรรษ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "THE POWER OF POSSIBILITIES :ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้" โดยมีทุกคนร่วมสนับสนุนอย่างเต็มพลังทั้งครอบครัว "ศรีวัฒนประภา" ในฐานะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รวมผู้บริหารระดับจำนวนมากซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน และพนักงานคิง เพาเวอร์ ทั้งหมด
ก้าวใหม่ในยุคเปลี่ยนผ่านจากผู้นำ "ธุรกิจดิวตี้ฟรี" คนไทย ขยายฐานต่อสู่ธุรกิจ "Multi Business" จากอดีตถึงปัจจุบัน 4 กลุ่มแกนหลัก ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จะเพิ่มเป็น 8 กลุ่มแกนหลัก ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ธุรกิจสินค้าปลอดอากร (Travel Retail) กลุ่มที่ 2 ธุรกิจค้าปลีก (Retail) กลุ่มที่ 3 ธุรกิจอาหาร (Dining) กลุ่มที่ 4 ธุรกิจโรงแรม (Hospitality) กลุ่มที่ 5 ธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค (Consumer Products) กลุ่มที่ 6 ธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์ (Travel Experiences) กลุ่มที่ 7 ธุรกิจกีฬา (Sports) และกลุ่มที่ 8 กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)
โดยมีไฮไลต์ขยายการลงทุนใหม่มูลค่าไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท เตรียมพร้อมรองรับกำลังซื้อคนไทยและทั่วโลก เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งจะเป็นพลังเสริมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย 2 โครงการใหม่ ได้แก่
โครงการแรก "คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี" ในพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ Sattelite Building สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ตามที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) "ทอท." ซึ่งเป็นคู่สัญญาประกาศจะเปิดให้บริการได้ตั้งแต่กันยายน 2566 เป็นต้นไป ขนาดรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 15 ล้านคน และก่อนเปิดใช้งานล่วงหน้า 6 เดือน จะต้องให้ผู้ประกอบการเข้าไปตกแต่งพื้นที่โดดเด่นสวยงามดึงดูดนักเดินทางสนใจเลือกช้อปสินค้า พร้อมรองรับได้เฉลี่ยวันละ 151,000 คน โดย ทอท.ระบุแต่ละปีจะนำผู้โดยสารมาใช้สนามบินบินสุวรรณภูมิให้ได้ไม่ต่ำกว่า 66 ล้านคน จึงจะจัดเก็บค่าตอบแทนจากคู่ค้าแบบมินิมัมการันตีได้
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเมษายน 2565 คิง เพาเวอร์ ร่วมกับแบรนด์พันธมิตรระดับโลก ลงทุนเปลี่ยนโฉมช้อปใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ชูจุดขาย "World Junction" สร้างปรากฎการณ์ "Duty Free World Class Shopping Destination" ทำให้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินแห่งเอเชีย สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ World Fashion, World Beauty และ World Duty Free
โครงการที่สอง "ร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมือง" (King Power Downtown Duty Free) คิง เพาเวอร์ ได้จัดเตรียมพื้นที่ทำเลใจกลางย่านธุรกิจ (CBD :Center Building District) รองรับนักช้อปที่จะเดินทางเข้าไปใช้บริการได้วันละไม่น้อยกว่า 50,000 คน
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมแล้วที่จะปลุกพลังความสำเร็จมาให้คนทั้งประเทศอีกครั้งตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ทำให้ธุรกิจคนไทยครองใจผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างรายได้เสริมเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน
ที่มา เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen
#คิงเพาเวอร์
#ดิวตี้ฟรี
#ธุรกิจท่องเที่ยว
#THE POWER OF POSSIBILITIES
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google