ฝันร้ายของธุรกิจท่องเที่ยวไทยเมื่อเทรนด์เที่่ยวนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป
25 พ.ค. 66 10:30 น. /
ดู 1,918 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เทรนด์ใหม่ของนักท่องเที่ยวจีน เน้นเก็บจุดเช็คอิน ไม่เน้นควักเงินใช้จ่าย
ฝันร้ายของธุรกิจท่องเที่ยวที่คิดจะหวังพึ่งพาการควักเงินใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวจีน
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากหลายประเทศหวังจะฟื้นตัวจากเม็ดเงินของชาวจีน ต้องคิดใหม่แล้ว เพราะเทรนด์ใหม่นักท่องเที่ยวจีน คือเที่ยวให้มาก ใช้เวลาให้น้อย ขณะเดียวกัน ก็ควักเงินออกมาใช้จ่ายให้น้อยด้วย
ต้องบอกว่า นี่คือฝันร้ายของธุรกิจท่องเที่ยวที่ฝากความหวังไว้กับนักท่องเที่ยวชัดๆ เมื่อคนจีนรุ่นใหม่หันมาเที่ยวแบบเก็บปริมาณสถานที่เที่ยว มากกว่าจะเน้นใช้จ่ายเงิน เทรนด์ใหม่ที่ว่าเรียกรูปแบบการท่องเที่ยวแบบนี้ว่าเป็นการเที่ยวแบบกองกำลังพิเศษ (special forces-style travel) ซึ่งสื่อจีนก็บอกเองเลยว่า นี่น่าจะเป็นการตีความ "กองกำลังพิเศษ" แบบผิดๆ แถมกระแสนี้ดันเป็นที่นิยมมากว่า 2 เดือนแล้ว
เทรนด์ท่องเที่ยวแบบกองกำลังพิเศษคืออะไร?
เทรนด์นี้คือ การเน้นเที่ยวในจุดที่ถูกแนะนำว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้มาก ใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และก็ใช้เงินให้น้อยที่สุดด้วย ถ้าให้อธิบายง่ายๆ ก็เหมือนคำว่า "ทัวร์ชะโงก" แบบที่บ้านเราใช้กัน แต่บ้านเรามักจะเป็นการท่องเที่ยวแบบกรุปทัวร์ ที่มักจะไปตามสถานที่เด่นๆ ใช้เวลาน้อย เพราะต้องทำเวลา เที่ยวหลายๆ ที่ในเวลาที่จำกัด คนจึงมักนำมาเปรียบเทียบว่าเป็นทัวร์ชะโงก คือได้ไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเหมือนไปทัวร์ด้วยตัวเอง
สำหรับสไตล์ท่องเที่ยวแบบกองกำลังพิเศษนี้ เพิ่งจะมานิยมทำกันในช่วงเช็งเม้ง หรือช่วง 4-5 เมษายนที่ผ่านมาและช่วงวันหยุดยาวสำหรับแรงงาน คือช่วง 29 เมษายนถึง 3 พฤษภาคม ช่วงเวลาที่ว่านี้ถือว่าเป็นช่วงที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการท่องเที่ยวสไตล์นี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีข้อเท็จจริงของจีน พบว่า 1 ใน 5 ของวัยรุ่นจีนว่างงาน จึงอาจส่งผลทำให้เกิดเทรนด์นี้ เทรนด์ที่ว่าก็คือ
นอนที่ไหนก็ได้ เที่ยวที่ไหนก็ได้
CGTN รายงานว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักจะทำตามเทรนด์นี้ ยกตัวอย่างการเที่ยวแบบนอนที่ไหนก็ได้ เช่น นอนที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่หรือไม่ก็นอนในห้องส่วนตัวในไห่ตี้เหลา (Haidilao) หรือร้านชาบูหม่าล่าหม้อไฟที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง
นักท่องเที่ยวบางกลุ่มก็สามารถเที่ยวได้มากถึง 10 แห่งภายใน 1 วัน หรืออย่างน้อยก็ใช้ระยะเดินราวๆ 40,000 ก้าว แค่นั้นไม่พอ ยังมีการเข้าไปนอนพักในโรงอาบน้ำด้วย ทั้งหมดที่ทำไปนี้ก็เพื่อประหยัดงบในการท่องเที่ยวทั้งนั้นเลย สำหรับการรวมค่าใช่จ่ายแบบประหยัดสุดๆ นี้ตีไว้คร่าวๆ ที่ประมาณ 1,400 กว่าบาทต่อทริป 2 วัน 1 คืน (ค่าใช้จ่ายดังกล่าว คาดว่าจะเป็นยอดการใช้จ่ายภายในประเทศเท่านั้น แน่นอนว่ายอดแค่นี้ ไม่น่าทำให้เศรษฐกิจจีนหวังพึ่งพาการท่องเที่ยวภายในประเทศได้เช่นกัน
#ธุรกิจท่องเที่ยวไทย
#เทรนด์เที่ยวนักท่องเที่ยวจีน
#เที่ยวแนวประหยัด
ที่มา https://brandinside.asia/get-to-know-special-forces-style-tourism/
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากหลายประเทศหวังจะฟื้นตัวจากเม็ดเงินของชาวจีน ต้องคิดใหม่แล้ว เพราะเทรนด์ใหม่นักท่องเที่ยวจีน คือเที่ยวให้มาก ใช้เวลาให้น้อย ขณะเดียวกัน ก็ควักเงินออกมาใช้จ่ายให้น้อยด้วย
ต้องบอกว่า นี่คือฝันร้ายของธุรกิจท่องเที่ยวที่ฝากความหวังไว้กับนักท่องเที่ยวชัดๆ เมื่อคนจีนรุ่นใหม่หันมาเที่ยวแบบเก็บปริมาณสถานที่เที่ยว มากกว่าจะเน้นใช้จ่ายเงิน เทรนด์ใหม่ที่ว่าเรียกรูปแบบการท่องเที่ยวแบบนี้ว่าเป็นการเที่ยวแบบกองกำลังพิเศษ (special forces-style travel) ซึ่งสื่อจีนก็บอกเองเลยว่า นี่น่าจะเป็นการตีความ "กองกำลังพิเศษ" แบบผิดๆ แถมกระแสนี้ดันเป็นที่นิยมมากว่า 2 เดือนแล้ว
เทรนด์ท่องเที่ยวแบบกองกำลังพิเศษคืออะไร?
เทรนด์นี้คือ การเน้นเที่ยวในจุดที่ถูกแนะนำว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้มาก ใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และก็ใช้เงินให้น้อยที่สุดด้วย ถ้าให้อธิบายง่ายๆ ก็เหมือนคำว่า "ทัวร์ชะโงก" แบบที่บ้านเราใช้กัน แต่บ้านเรามักจะเป็นการท่องเที่ยวแบบกรุปทัวร์ ที่มักจะไปตามสถานที่เด่นๆ ใช้เวลาน้อย เพราะต้องทำเวลา เที่ยวหลายๆ ที่ในเวลาที่จำกัด คนจึงมักนำมาเปรียบเทียบว่าเป็นทัวร์ชะโงก คือได้ไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเหมือนไปทัวร์ด้วยตัวเอง
สำหรับสไตล์ท่องเที่ยวแบบกองกำลังพิเศษนี้ เพิ่งจะมานิยมทำกันในช่วงเช็งเม้ง หรือช่วง 4-5 เมษายนที่ผ่านมาและช่วงวันหยุดยาวสำหรับแรงงาน คือช่วง 29 เมษายนถึง 3 พฤษภาคม ช่วงเวลาที่ว่านี้ถือว่าเป็นช่วงที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการท่องเที่ยวสไตล์นี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีข้อเท็จจริงของจีน พบว่า 1 ใน 5 ของวัยรุ่นจีนว่างงาน จึงอาจส่งผลทำให้เกิดเทรนด์นี้ เทรนด์ที่ว่าก็คือ
นอนที่ไหนก็ได้ เที่ยวที่ไหนก็ได้
CGTN รายงานว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักจะทำตามเทรนด์นี้ ยกตัวอย่างการเที่ยวแบบนอนที่ไหนก็ได้ เช่น นอนที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่หรือไม่ก็นอนในห้องส่วนตัวในไห่ตี้เหลา (Haidilao) หรือร้านชาบูหม่าล่าหม้อไฟที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง
นักท่องเที่ยวบางกลุ่มก็สามารถเที่ยวได้มากถึง 10 แห่งภายใน 1 วัน หรืออย่างน้อยก็ใช้ระยะเดินราวๆ 40,000 ก้าว แค่นั้นไม่พอ ยังมีการเข้าไปนอนพักในโรงอาบน้ำด้วย ทั้งหมดที่ทำไปนี้ก็เพื่อประหยัดงบในการท่องเที่ยวทั้งนั้นเลย สำหรับการรวมค่าใช่จ่ายแบบประหยัดสุดๆ นี้ตีไว้คร่าวๆ ที่ประมาณ 1,400 กว่าบาทต่อทริป 2 วัน 1 คืน (ค่าใช้จ่ายดังกล่าว คาดว่าจะเป็นยอดการใช้จ่ายภายในประเทศเท่านั้น แน่นอนว่ายอดแค่นี้ ไม่น่าทำให้เศรษฐกิจจีนหวังพึ่งพาการท่องเที่ยวภายในประเทศได้เช่นกัน
#ธุรกิจท่องเที่ยวไทย
#เทรนด์เที่ยวนักท่องเที่ยวจีน
#เที่ยวแนวประหยัด
ที่มา https://brandinside.asia/get-to-know-special-forces-style-tourism/
แก้ไขล่าสุด 25 พ.ค. 66 10:47 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google