รู้จักเทคนิคการเลือก แก้วกาแฟ ให้เหมาะกับเครื่องดื่มเมนูต่าง ๆ
2 ส.ค. 66 01:52 น. /
ดู 17,971 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
"กาแฟ" ถือเป็นเครื่องดื่มเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะนอกจากรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า มีพลังในการเรียนหรือทำงานได้ตลอดทั้งวัน ยิ่งหากได้ แก้วกาแฟ ดี ๆ มาใช้คู่กันด้วยแล้วก็จะยิ่งเพิ่มอรรถรสในการดื่มด่ำกาแฟมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น แก้วที่วางขายอยู่ในท้องตลาดก็มีมากมายนับไม่ถ้วน คำถามคือเราควรจะเลือกใช้แก้วแบบไหนให้เหมาะกับกาแฟแต่ละเมนู? ซึ่งวันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
แก้วกาแฟแบบเย็นและร้อนต่างกันอย่างไร?
ถ้วยกาแฟ ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดจะมีให้เลือกทั้งแบบเย็นและร้อน ไม่ควรนำมาใช้ปนกัน เพราะถึงแม้จะเป็นแก้วเหมือนกันแต่ความทนทานต่ออุณหภูมิแตกต่างกัน หากนำแก้วสำหรับเครื่องดื่มเย็นมาใช้กับเครื่องดื่มร้อนก็อาจทำให้แก้วเสียหายเพราะความร้อนได้ หรือหากนำแก้วแบบร้อนไปใส่เครื่องดื่มเย็นก็อาจทำให้แก้วเสียคุณสมบัติเก็บความร้อนได้เช่นกัน นอกจากนี้แก้วแบบเย็นและแบบร้อนยังมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยแก้วแบบเย็นมักจะเป็นแก้วทรงสูง ความจุมาก ไม่มีหูจับ ส่วนใหญ่จะใช้งานคู่กับหลอด ส่วนแก้วแบบร้อนมักจะเป็นแก้วทรงเตี้ย ความจุน้อย มีหูจับเพื่อถือหรือยกดื่ม/จิบได้โดยไม่ร้อนมือ
เทคนิคการเลือกแก้วกาแฟให้เหมาะกับเครื่องดื่มต่าง ๆ
การเลือก แก้วกาแฟ ให้เหมาะกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ควรพิจารณาจากขนาดและรูปทรงของแก้วเป็นสำคัญ โดยเราสามารถแบ่งประเภทของแก้วได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1. แก้วลองดริ๊งก์ (Long Drink Glass) แก้วทรงสูง ไม่มีหูจับ ลักษณะดูคล้ายแก้วน้ำดื่มทั่วไป แต่จะใส่น้ำได้มากเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะมีความจุราว 13 ออนซ์ นิยมใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นอย่างกาแฟเย็นหรือน้ำอัดลม
2. แก้วเอสเพรสโซ่ (Espresso Cup) แก้วทรงเตี้ย มีหูจับ เส้นผ่านศูนย์กลางแก้วอยู่ที่ประมาณ 50 มิลลิเมตร จุเครื่องดื่มได้ไม่เกิน 3 ออนซ์ เพราะกาแฟเอสเพรสโซ่จะไม่เติมน้ำหรือนมเพิ่ม จึงมีปริมาณน้ำน้อย ปากแก้วจะมีความหนาพอดีกับริมฝีปาก ตัวแก้วมีคุณสมบัติเก็บความร้อนได้ดี
3. แก้ว คาปูชิโน่ (Cappuccino Cup) แก้วขนาดกลาง ๆ ความจุ 6 8 ออนซ์ มีหูจับ ก้นแก้วจะมีลักษณะโค้งมน ปากแก้วกว้างเป็นพิเศษเพื่อวาดลายฟองนม ส่วนใหญ่เนื้อแก้วจะมีความหนาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นความหนาที่ช่วยให้จิบกาแฟพร้อมฟองนมได้สะดวก นิยมใช้เสิร์ฟลาเต้ร้อนและ คาปูชิโน่ ร้อน
4. แก้วมัก (Mug Cup) แก้วทรงสูงแบบมีหู ความจุ 12 ออนซ์ ถูกออกแบบมาให้จับถือได้ง่าย ไม่ว่าจับที่แก้วโดยตรงหรือจับที่หูแก้ว ช่วยให้ยกดื่มง่าย ไม่หกเลอะ ก้นแก้วจะมีลักษณะแคบคล้ายคอขวด ปากแก้วกว้าง นิยมใช้เสิร์ฟกาแฟร้อน อย่างกาแฟดำ อเมริกาโน่ร้อน และลาเต้ร้อน
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการเลือก ถ้วยกาแฟ ให้เหมาะกับเครื่องดื่มเมนูต่าง ๆ ใครกำลังคิดที่จะเปิดร้านกาแฟควรให้ความสำคัญกับความเหมาะสมของภาชนะที่ใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มพอ ๆ กับรสชาติของเครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟ เพราะการเลือกแก้วให้เหมาะสมกับประเภทเครื่องดื่มจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่ม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับร้านได้อีกด้วย
ถ้วยกาแฟ ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดจะมีให้เลือกทั้งแบบเย็นและร้อน ไม่ควรนำมาใช้ปนกัน เพราะถึงแม้จะเป็นแก้วเหมือนกันแต่ความทนทานต่ออุณหภูมิแตกต่างกัน หากนำแก้วสำหรับเครื่องดื่มเย็นมาใช้กับเครื่องดื่มร้อนก็อาจทำให้แก้วเสียหายเพราะความร้อนได้ หรือหากนำแก้วแบบร้อนไปใส่เครื่องดื่มเย็นก็อาจทำให้แก้วเสียคุณสมบัติเก็บความร้อนได้เช่นกัน นอกจากนี้แก้วแบบเย็นและแบบร้อนยังมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยแก้วแบบเย็นมักจะเป็นแก้วทรงสูง ความจุมาก ไม่มีหูจับ ส่วนใหญ่จะใช้งานคู่กับหลอด ส่วนแก้วแบบร้อนมักจะเป็นแก้วทรงเตี้ย ความจุน้อย มีหูจับเพื่อถือหรือยกดื่ม/จิบได้โดยไม่ร้อนมือ
เทคนิคการเลือกแก้วกาแฟให้เหมาะกับเครื่องดื่มต่าง ๆ
การเลือก แก้วกาแฟ ให้เหมาะกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ควรพิจารณาจากขนาดและรูปทรงของแก้วเป็นสำคัญ โดยเราสามารถแบ่งประเภทของแก้วได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1. แก้วลองดริ๊งก์ (Long Drink Glass) แก้วทรงสูง ไม่มีหูจับ ลักษณะดูคล้ายแก้วน้ำดื่มทั่วไป แต่จะใส่น้ำได้มากเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะมีความจุราว 13 ออนซ์ นิยมใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นอย่างกาแฟเย็นหรือน้ำอัดลม
2. แก้วเอสเพรสโซ่ (Espresso Cup) แก้วทรงเตี้ย มีหูจับ เส้นผ่านศูนย์กลางแก้วอยู่ที่ประมาณ 50 มิลลิเมตร จุเครื่องดื่มได้ไม่เกิน 3 ออนซ์ เพราะกาแฟเอสเพรสโซ่จะไม่เติมน้ำหรือนมเพิ่ม จึงมีปริมาณน้ำน้อย ปากแก้วจะมีความหนาพอดีกับริมฝีปาก ตัวแก้วมีคุณสมบัติเก็บความร้อนได้ดี
3. แก้ว คาปูชิโน่ (Cappuccino Cup) แก้วขนาดกลาง ๆ ความจุ 6 8 ออนซ์ มีหูจับ ก้นแก้วจะมีลักษณะโค้งมน ปากแก้วกว้างเป็นพิเศษเพื่อวาดลายฟองนม ส่วนใหญ่เนื้อแก้วจะมีความหนาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นความหนาที่ช่วยให้จิบกาแฟพร้อมฟองนมได้สะดวก นิยมใช้เสิร์ฟลาเต้ร้อนและ คาปูชิโน่ ร้อน
4. แก้วมัก (Mug Cup) แก้วทรงสูงแบบมีหู ความจุ 12 ออนซ์ ถูกออกแบบมาให้จับถือได้ง่าย ไม่ว่าจับที่แก้วโดยตรงหรือจับที่หูแก้ว ช่วยให้ยกดื่มง่าย ไม่หกเลอะ ก้นแก้วจะมีลักษณะแคบคล้ายคอขวด ปากแก้วกว้าง นิยมใช้เสิร์ฟกาแฟร้อน อย่างกาแฟดำ อเมริกาโน่ร้อน และลาเต้ร้อน
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการเลือก ถ้วยกาแฟ ให้เหมาะกับเครื่องดื่มเมนูต่าง ๆ ใครกำลังคิดที่จะเปิดร้านกาแฟควรให้ความสำคัญกับความเหมาะสมของภาชนะที่ใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มพอ ๆ กับรสชาติของเครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟ เพราะการเลือกแก้วให้เหมาะสมกับประเภทเครื่องดื่มจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่ม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับร้านได้อีกด้วย
แก้ไขล่าสุด 2 ส.ค. 66 01:56 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google