เลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 2 และ 3 ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์
9 ก.ย. 66 02:51 น. /
ดู 16,286 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ประกันภัยรถยนต์ไม่ได้มีไว้แค่สำหรับคนรักรถเท่านั้น แต่ประกันรถยนต์ยังเป็นตัวช่วยให้เจ้าของรถอุ่นใจมากขึ้น เมื่อมีตัวช่วยดี ๆ เราก็ควรเลือกซื้อให้มีความคุ้มค่าสูงสุด ให้รู้สึกอุ่นใจในทุกการเดินทาง
นอกจาก ประกันรถยนต์ชั้น 1 2 และ 3 วันนี้เรายังมี ประกันชั้น 2 พลัส และ 3 พลัส มาแนะนำ หากอ่านแล้วพบว่าไลฟ์สไตล์การใช้รถ รวมถึงลักษณะการเดินทางของเราเหมาะสมกับประกันแบบใด สามารถเข้าไปเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ได้ที่เว็บไซต์ของ SCB Protect ตลอด 24 ชม.
ประกันชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นตัวเลือกอันดับแรกของรถใหม่เพิ่งออกจากศูนย์ หากอายุรถยังไม่เกิน 5 ปี และผู้ขับขี่ยังไม่มีประสบการณ์การขับขี่มากพอ ประกันชั้น 1 จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้มากที่สุด เพราะนอกจากจะคุ้มครองการถูกโจรกรรม น้ำท่วม และไฟไหม้แล้ว ยังคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์แม้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่มีคู่กรณีอีกด้วย เช่น ขูดทางเท้าริมถนน ชนต้นไม้ ประกันชั้น 1 คุ้มครองให้หมด รวมถึงความเสียหายต่อรถยนต์ของฝั่งคู่กรณีและค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ ผู้โดยสารในรถยนต์ของทั้ง 2 ฝ่าย ใครต้องการความคุ้มครองสูงสุดเท่าที่ตลาดมี ประกันประเภทนี้คือคำตอบเดียว
ประกันชั้น 2 พลัส และประกันชั้น 2
ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับชั้น 1 แตกต่างกันเพียงเงื่อนไข "ต้องมีคู่กรณี" และอาจไม่คุ้มครองเหตุน้ำท่วมร่วมด้วยเท่านั้น แต่ชั้น 2 พลัส ยังคงให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ และค่ารักษาพยาบาลของทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนชั้น 1 ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 2 จะไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันไม่ว่าจะเป็นกรณีใด พูดง่าย ๆ ว่าผู้ขับขี่ต้องเป็นคนจ่ายเงินซ่อมเอง ดังนั้นใครที่ต้องการประหยัดงบค่าเบี้ย แต่ได้ความคุ้มครองใกล้เคียงชั้น 1 แนะนำทำ ประกันชั้น 2 พลัสจะเหมาะมากกว่า
ประกันชั้น 3 พลัส และประกันชั้น 3
แม้ ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะถูกมองว่าเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองต่ำที่สุดในตลาด แต่บริษัทประกันภัยก็ยังออกประกันชั้น 3 พลัส มาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยประกันชั้น 3 พลัส จะให้ความคุ้มครองต่อรถยนต์ของทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี ในขณะที่ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์เฉพาะของฝั่งคู่กรณีเท่านั้น ส่วนค่ารักษาพยาบาล ชั้น 3 พลัส และชั้น 3 ให้ความคุ้มครองทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนกัน พูดง่าย ๆ ว่าประกันชั้น 3 ผู้ขับขี่ต้องซ่อมรถตัวเอง ส่วนชั้น 3 พลัส ประกันซ่อมให้ ประกันประเภทนี้จึงเหมาะกับผู้ใช้รถยนต์ที่มีความชำนาญในการขับขี่และใช้รถยนต์ที่มีอายุค่อนข้างมากแล้ว จอดในที่ไม่เสี่ยงภัย เพราะไม่ได้รับความคุ้มครองเรื่องน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือการถูกโจรกรรม
ถึงจะเป็นประกันภัยภาคสมัครใจก็จริง แต่ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมในหลายด้าน เมื่อเปรียบเทียบกับ พ.ร.บ. การซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจจึงช่วยเพิ่มความอุ่นใจและแบ่งเบาภาระทางการเงินเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบันสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้แล้ว ซึ่ง SCB Protect ก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะรวบรวมประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศมารวมไว้ ในราคาค่าเบี้ยแบบย่อมเยา ทั้งยังสามารถเข้าไปเช็กค่าเบี้ยและซื้อประกันได้ตลอด 24 ชม. ชมเพิ่มเติมที่ https://online.scbprotect.co.th/motor/type-1 ได้เลย
นอกจาก ประกันรถยนต์ชั้น 1 2 และ 3 วันนี้เรายังมี ประกันชั้น 2 พลัส และ 3 พลัส มาแนะนำ หากอ่านแล้วพบว่าไลฟ์สไตล์การใช้รถ รวมถึงลักษณะการเดินทางของเราเหมาะสมกับประกันแบบใด สามารถเข้าไปเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ได้ที่เว็บไซต์ของ SCB Protect ตลอด 24 ชม.
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นตัวเลือกอันดับแรกของรถใหม่เพิ่งออกจากศูนย์ หากอายุรถยังไม่เกิน 5 ปี และผู้ขับขี่ยังไม่มีประสบการณ์การขับขี่มากพอ ประกันชั้น 1 จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้มากที่สุด เพราะนอกจากจะคุ้มครองการถูกโจรกรรม น้ำท่วม และไฟไหม้แล้ว ยังคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์แม้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่มีคู่กรณีอีกด้วย เช่น ขูดทางเท้าริมถนน ชนต้นไม้ ประกันชั้น 1 คุ้มครองให้หมด รวมถึงความเสียหายต่อรถยนต์ของฝั่งคู่กรณีและค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ ผู้โดยสารในรถยนต์ของทั้ง 2 ฝ่าย ใครต้องการความคุ้มครองสูงสุดเท่าที่ตลาดมี ประกันประเภทนี้คือคำตอบเดียว
ประกันชั้น 2 พลัส และประกันชั้น 2
ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับชั้น 1 แตกต่างกันเพียงเงื่อนไข "ต้องมีคู่กรณี" และอาจไม่คุ้มครองเหตุน้ำท่วมร่วมด้วยเท่านั้น แต่ชั้น 2 พลัส ยังคงให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ และค่ารักษาพยาบาลของทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนชั้น 1 ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 2 จะไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันไม่ว่าจะเป็นกรณีใด พูดง่าย ๆ ว่าผู้ขับขี่ต้องเป็นคนจ่ายเงินซ่อมเอง ดังนั้นใครที่ต้องการประหยัดงบค่าเบี้ย แต่ได้ความคุ้มครองใกล้เคียงชั้น 1 แนะนำทำ ประกันชั้น 2 พลัสจะเหมาะมากกว่า
ประกันชั้น 3 พลัส และประกันชั้น 3
แม้ ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะถูกมองว่าเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองต่ำที่สุดในตลาด แต่บริษัทประกันภัยก็ยังออกประกันชั้น 3 พลัส มาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยประกันชั้น 3 พลัส จะให้ความคุ้มครองต่อรถยนต์ของทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี ในขณะที่ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์เฉพาะของฝั่งคู่กรณีเท่านั้น ส่วนค่ารักษาพยาบาล ชั้น 3 พลัส และชั้น 3 ให้ความคุ้มครองทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนกัน พูดง่าย ๆ ว่าประกันชั้น 3 ผู้ขับขี่ต้องซ่อมรถตัวเอง ส่วนชั้น 3 พลัส ประกันซ่อมให้ ประกันประเภทนี้จึงเหมาะกับผู้ใช้รถยนต์ที่มีความชำนาญในการขับขี่และใช้รถยนต์ที่มีอายุค่อนข้างมากแล้ว จอดในที่ไม่เสี่ยงภัย เพราะไม่ได้รับความคุ้มครองเรื่องน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือการถูกโจรกรรม
ถึงจะเป็นประกันภัยภาคสมัครใจก็จริง แต่ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมในหลายด้าน เมื่อเปรียบเทียบกับ พ.ร.บ. การซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจจึงช่วยเพิ่มความอุ่นใจและแบ่งเบาภาระทางการเงินเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบันสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้แล้ว ซึ่ง SCB Protect ก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะรวบรวมประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศมารวมไว้ ในราคาค่าเบี้ยแบบย่อมเยา ทั้งยังสามารถเข้าไปเช็กค่าเบี้ยและซื้อประกันได้ตลอด 24 ชม. ชมเพิ่มเติมที่ https://online.scbprotect.co.th/motor/type-1 ได้เลย
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google