นักวิชาการย้ำอาหารแช่แข็งมีประโยชน์ รับประทานเหมาะสม เลือกที่มีมาตรฐาน อย.
25 ก.ย. 66 16:43 น. /
ดู 11,630 ครั้ง /
3 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารเผยข้อดีของอาหารแช่แข็งคือ ยืดอายุการเก็บให้นานขึ้น สามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงอาหารสด ย้ำควรเลือกซื้อจากแหล่งน่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน อย. พร้อมแนะวิธีการเก็บ ประกอบอาหารอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิไลรัก อินธิปัญญา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า "อาหารแช่แข็ง" เป็นผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปให้อยู่ในสภาพแช่แข็ง เพื่อถนอมอาหาร ยืดอายุการเก็บให้นานขึ้น และสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงอาหารสด ช่วยตอบโจทย์ด้านความสะดวกและรวดเร็วสำหรับวิถีการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
หลักสำคัญของกระบวนการผลิตอาหารแช่แข็ง คือทำให้อาหารอยู่ในสภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง อย่างน้อยถึง -18 องศาเซลเซียส เป็นระดับความเย็นที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่เป็นโทษต่อร่างกาย ช่วยยับยั้งการเสื่อมเสียของอาหาร จึงช่วยให้สามารถเก็บรักษาอาหารได้นาน 6 เดือน-1 ปี หรือนานกว่านั้น
กระบวนการผลิตอาหารแช่แข็งที่ได้มาตรฐาน จะมีการควบคุมตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การตรวจสอบสิ่งแปลกปลอม การเก็บรักษา และการขนส่ง รวมถึงการควบคุมสุขลักษณะของพนักงาน โดยทุกขั้นตอนจะมีการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอย่างสม่ำเสมอ สอดคล้องตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เช่น ระบบ GMP หรือระบบมาตรฐานสากลที่เข้มงวดกว่า เช่น มาตรฐาน BRC Global Standard, ISO เป็นต้น ทำให้อาหารแช่แข็งได้รับความเชื่อมั่นในเรื่องของความสะอาด และปลอดภัย
ปัจจุบันยังมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น เช่น ระบบ Air Blast Freezer, Cryogenic Freezing ช่วยให้สามารถลดอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์อาหารได้อย่างรวดเร็วสูง (fast freezing) ทำให้สามารถรักษาเนื้อสัมผัสและยังคงคุณภาพทางด้านโภชนาการ เหมือนอาหารปรุงสุกใหม่ นอกจากนี้ ผู้ผลิตอาหารยังคำนึงถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารแช่แข็ง ที่สามารถรักษาความสะอาด คุณภาพของอาหาร และยังมีคุณสมบัติที่ปลอดภัยต่อการอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟ
ปัจจัยสำคัญและความท้าทายของอาหารแช่แข็งในเมืองร้อนอย่างประเทศไทยคือ เมื่อนำอาหารแช่แข็งออกจากตู้เยือกแข็งจะเกิดการละลายของน้ำแข็งในอาหารได้อย่างรวดเร็วซึ่งจะส่งผลต่อการเสื่อมเสียของอาหารได้โดยง่าย จึงต้องระมัดระวังในเรื่องของการจัดเก็บ การขนส่ง และการวางจำหน่าย โดยต้องควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมตลอดเวลา เราจึงมักจะเห็นว่าอุณหภูมิของตู้เก็บอาหารแช่แข็งในซูเปอร์มาร์เกตหรือร้านที่จำหน่ายอาหารแช่แข็งมักตั้งไว้ที่ -20 ถึง -22 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของอาหารเพิ่มขึ้นสูงกว่าอุณหภูมิมาตรฐาน คือ -18 องศาเซลเซียส
ข้อควรปฏิบัติของผู้บริโภค เมื่อซื้ออาหารแช่แข็งแล้ว ควรเก็บในกล่องที่มีน้ำแข็งหรือน้ำแข็งแห้ง (dry ice) เพื่อรักษาความเย็นของอาหารแช่แข็งตลอดระยะเวลาเดินทาง และนำเก็บในตู้แช่แข็งทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน เพื่อป้องกันผลิตภัณฑ์ละลายและป้องกันการเจริญของจุลินทรีย์ที่จะทำให้อาหารเสื่อมเสีย รวมถึงป้องกันการก่อโรค ก่อนรับประทานควรนำอาหารแช่แข็งมาละลายอย่างรวดเร็ว หรือสามารถนำไปอุ่นในไมโครเวฟเพื่อรับประทานได้ทันที
ทั้งนี้ ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคควรพิจารณาตราสัญลักษณ์บนผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด เช่น ฉลาก GDA หรือฉลากหวาน มัน เค็ม ที่มีการแสดงสารอาหารที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ สังเกตเครื่องหมาย อย. และเครื่องหมายอื่นๆ ที่เป็นเครื่องหมายรับรองด้านคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร นอกจากนี้ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งจากสถานที่จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เพื่อความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://mgronline.com/business/detail/9650000069035
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google