แบมแบม เผยเรื่องยากในชีวิต ใช้เวลาหลายปีกว่าจะเป็นที่ยอมรับ

เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่มีคนไทยดังไกลระดับโลกอย่าง "แบมแบม - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล" โดยล่าสุดมาเปิดใจในรายการ Woody FM ถึงเรื่องราวหนักที่สุดในชีวิต เคยโดนเปรียบเทียบ และถูกพาดพิงว่าไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในวง "GOT7" ต้องใช้เวลากว่าจะเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับที่เกาหลี
รู้สึกว่าที่ผ่านมา แบมแบม จะมีกระแสลบอยู่เรื่อยๆ 
"เรื่องนู่นนี่ไร้สาระครับ จะบอกว่าหลังจากที่ชีวิตโซโลผมเริ่มคลี่คลาย เริ่มโดนเยอะ ช่วงแรกก็แคร์นะครับแต่ว่าหลังๆ ผมเริ่มไม่แคร์แล้ว การที่มีคนเข้ามาเกลียด คือคนที่เราเป็นเป็นศูนย์กลางของกระแสแล้ว คือคนเขาก็สนใจเราตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเลยครับ แต่คนที่ไม่มีคนเกลียดเลยก็คือเอาจริงๆ ไม่มีคนสนใจ ซึ่งไม่ใช่ผมคนเดียวนะ ผมอาจจะอ่านทุกภาษาออกเลยจะรู้สึกว่าผมโดนเยอะหน่อย แต่ว่าตามจริงวงอื่นเขาก็โดนเยอะเหมือนกัน ซึ่งโดนเยอะกันอย่างนี้ทุกคน"


ตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ความกดดันที่เกิดขึ้นหนักไหม
"ถามว่าหนักไหม ก็หนักนะ หนักในช่วงแรกๆ จะมีช่วงที่หนักเป็นพิเศษหน่อย แต่ว่าช่วงนี้พอมีแผนในอนาคตตลอด มีเป้าหมายใหม่ที่ผมตั้งทุกอย่างจะราบรื่นตลอด กับตอนที่เขาสั่งให้เราทำอะไร เราก็ทำตามเขา ตอนนั้นจะเป็นช่วงกดดัน บางทีสิ่งที่เขาสั่งให้เราทำ เรารู้สึกได้ว่าอันนี้กระแสตอบรับไม่น่าจะดี แต่พูดอะไรไม่ได้เราก็ต้องทำตาม แต่ว่าพอคนที่ร่วมงานกับผม ทางแฟนคลับ เขาเริ่มที่จะยอมรับในตัวตนของผม เริ่มเชื่อมั่นกันและกันมากขึ้น พอเรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร สิ่งที่อยู่ในหัวและแพลนหรือสิ่งที่ผมจะทำลงไปจะเพื่อเป้าหมายนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้กดดันน้อยลงนะ สมมติว่าผมทำเพลงออกมาแล้วรู้สึกว่าไม่พอที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ ผมว่ายังไม่ปล่อยเพลงเลยดีกว่า ก็ทำใหม่เรื่อยๆ ไม่ค่อยกดดันสักเท่าไรครับ"


อะไรที่คุณไม่ชอบ
"การพูดครับ เมื่อก่อนพูดอะไรที่มันไม่ได้อยู่ในหัวของเราครับ ต้องอ่านสคริปต์ ต้องตามสคริปต์อยู่ตลอด ซึ่งผมไม่ค่อยชอบ ผมเริ่มที่จะได้รับความสนใจมากขึ้นที่เกาหลี เริ่มได้ไปออกรายการเยอะๆ หลังจากที่ผมเริ่มไม่อ่านสคริปต์ครับ (หัวเราะ) เพราะว่าทุกอย่างจริงใจไงครับ คนดูเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะประเทศไหนเขาดูรู้ครับ ยุคนี้เป็นแบบนี้แล้ว เมื่อก่อนสคริปต์อาจจะปลอดภัยกว่า แต่ว่าถ้าเกิดเราสามารถคอนโทรลได้แล้ว ถ้าหัวใจของเราบริสุทธิ์จริงๆ พอไม่มีสคริปต์ก็ไม่อันตรายครับ" 


เรื่องยากที่สุดในชีวิต ตอนฝึกยากที่สุดไหม
"ยากครับ เหนื่อยครับ แต่ผมก็เอ็นจอยกับช่วงเวลานั้นๆ เพราะว่าผมก็ได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง ตอนที่ผมเดบิวต์แรกๆ คือเหมือนโดนเปรียบเทียบเยอะครับผม GOT7 ทุกคนดูดีหมด แต่พอผ่านผมแล้วทำไมต้องเอาคนนี้ใส่เข้าไปในกลุ่ม ในเด็กฝึกผมจะอยู่เป็นตัวท็อปมาตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรเรื่องงาน เรื่องซ้อม เรื่องเต้น เรื่องทัศนคติ ซึ่งตอนเป็นเด็กฝึกทำให้ผมมั่นใจมาก แต่พอเดบิวต์แล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย พอมาเจอโลกจริงแล้วแบบมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ผมก็เลยเอาความแค้นตรงนั้นมาเปลี่ยนเป็นพลังเพื่อผลักดันตัวเองครับผม ผมเพิ่งจะได้ยอมรับที่ประเทศเกาหลีจริงๆ น่าจะเป็น 3 ปีที่แล้ว หลังจากที่ไม่อ่านสคริปต์ ตอนแรกผมไปเกาหลีไม่มีคนรู้จักเลยครับขนาดเดบิวต์ไปประมาณ 7 ปีแล้วยังไม่มีคนรู้จักเลย"


ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิก GOT7 มีการคุยเรื่องการมารวมตัวกันบ้างไหม
"มีการคุยกันเรื่อยๆ ครับผม ถามว่ากดดันไหมก็กดดันครับ เราจะกดดันที่ว่าจะสามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแฟนคลับได้ไหม ทั้งในเรื่องของเวลาด้วย ซึ่งตอนนี้มี 2 คนที่เป็นทหารอยู่ เราต้องรอให้เขาออกมาก่อน คือตอนนี้ก็มีหน้าที่ของแต่ละคนที่ต้องทำอะไรเยอะ เราก็เลยปล่อยให้ปีนี้เป็นช่วงที่ให้ทุกคนโฟกัสกับเรื่องของตัวเองไปก่อน แล้วพอ 2 คนออกจากกรมแล้วค่อยมาว่ากันอีกที คือจริงๆ ผมรับปากว่ากลับมารวมแน่นอนอยู่แล้ว คือเพลงอะไรออกมาหมดแล้ว ทำเสร็จเรียบร้อย รอแค่เวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ส่วนตัวผมคิดว่าแพลนที่ผมคิดว่าเป็นเวลาที่ดี คือต้นปี 2025 หรือว่ากลางปี 2025 ประมาณนั้นครับ"

#แบมแบมกันต์พิมุกต์