วิน ได้ข้อคิดจากการเล่นเรื่องแรกแล้วดังเลย เป็นแรงผลักดันให้พัฒนาตัวเองจนปังทั้งฐานะนักแสดง & CEO
12 ต.ค. 67 19:44 น. /
ดู 7,925 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#วินเมธวิน

ระยะหลังมีไปออกรายการทอล์กโชว์กระเทาะเปลือกให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เลย
สำหรับ CEO และนักแสดงหนุ่มสุดฮอต วิน เมธวิน ล่าสุดก็ได้ไปเยือนรายการดังอย่าง เจาะใจ

เริ่มต้นรายการมาก็พูดถึงพาร์ทการเป็นนักแสดงที่ได้ลองเล่นมาหลายแนวแล้ว แต่ที่อยากลองจริงๆ เจ้าตัวบอก
เป็นแนวบู๊ Action แบบ John Wick ไปเลย เพราะเราเป็นพวกบ้าพลัง นอกจากการแสดง
ก็มีงานถ่ายแบบ ถ่ายนิตยสาร ถ่ายละคร ร้องเพลง มีแฟนมีต และถ้าย้อนกลับไปที่ทำให้มีแฟนคลับมากมายขนาดนี้
จากซีรีส์เรื่องแรกที่ดังเป็นพลุแตกอย่าง คั่นกู วินก็ยังถ่อมตัวให้เครดิตสถานการณ์โควิด ที่ตอนนั้นทุกคนต้องอยู่บ้านแล้ว
ตอนนั้นอาจไม่มีคอนเทนต์มาตอบโจทย์ และเหลือแต่เรื่องเราให้คนได้ดู และสายสัมพันธ์กับแฟนๆ ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว
ก็อยู่มาจนถึงวันนี้ ซึ่ง ดู๋ สัญญา พิธีกรก็ได้ชมเปรียเปรยความสัมพันธ์ของวินกับแฟนๆ ว่า เป็นต้นไม้ ทั้งแฟนทั้งคุณช่วยกันใส่ปุ๋ยดูแลต่อ เรามีจัดงานนะ เจอกันนะ คุยกันนะ มันเลยไปต่อได้💚

และจากที่มีความฝันเป็นสถาปนิก แต่สุดท้ายได้เลือกเรียนคณะบริหารและเศรษฐศาสตร์ เพราะครอบครัวอยากให้มาต่อยอดธุรกิจขายเหล็กของที่บ้าน จากตอนแรกวินบอก ก็ไม่เข้าใจว่าจะเรียนเศรษฐศาสตร์ทำไม แต่พอโตขึ้นการที่ได้เรียน ด้านนี้มาก็ทำให้เราเป็นคนที่มองทุกอย่างในภาพกว้างมากยิ่งขึ้น อย่างในงานกองถ่าย ที่ว่าทำไมต้องรีบถ่ายซีนๆ นึง ให้เสร็จเพื่อไปซีนอื่นต่อ เพราะในภาพกว้างมันมีต้นทุน มีโอทีของแต่ละคน ถ้าเราไม่คุมเราขาดทุนเลย ทำให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และก่อนหน้านี้ก็อยากมีธุรกิจของตัวเองมาตั้งนานแล้วเป็นสายสินค้าสำเร็จแล้วให้ลูกค้าโดยตรง ต่างจากธุรกิจที่บ้าน และพอประจวบเหมาะกับเวลาที่ทำได้ก็เลยเริ่มทำ เริ่มจากแบรนด์เสื้อผ้า Velence เราจะอยู่ฝ่ายควบคุม เชิญฝ่ายต่างๆ มาร่วมกันสร้างสรรค์ด้วยเงินทุนของเราเอง ตอนแรกก็ยอมรับว่ากลัวเจ๊ง แต่ด้วยความกล้าได้กล้าเสียก็ลองดูก่อน กลุ่มลูกค้าจะผู้หญิงเยอะมาก แต่เป็นเสื้อผ้าในร้านจะเป็น Unisex

ส่วนธุรกิจที่ 2 มาการอง Souri เริ่มมาจากพี่สาวที่เรียนจบด้านอาหารมาโดยตรงเลยและก็ใช้สูตรของพี่ และก่อนจะขึ้นร้านอย่างทุกวันนี้ ออเดอร์แรกๆ พี่สาวทำอยู่ที่บ้านต้องระดมแม่ แม่บ้าน ทุกคนมาช่วยกันที่ครัวที่บ้าน ส่วนเราช่วงแรกๆ มีส่วนร่วมด้วยการตั้งกล้องถ่ายแนะนำรสชาติลงในโซเชียลมีเดีย และก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ที่พร้อมจะซัปพอร์ตเราทุกอย่างจริงๆ ซึ่งแฟนๆ ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เรากล้าทำ แต่เราไม่ได้จะทำมาเพื่อฉาบฉวย
เราทำเพราะเราตั้งใจทำมันจริงๆ ก่อนหน้านี้มีธุรกิจไอศครีม Velato ด้วย เกิดมาตอนช่วงโควิด แบบเราว่างเรา lost
เลยหาอะไรทำ เลยไปเรียนทำไอศครีมและปั่นทุกวันและลองชิมจนตอนนั้นไอหนักจนคิดว่าตัวเองเป็นโควิดรึเปล่า แต่จริงๆ เกิดจากการกินของเย็นเยอะ ตอนนี้ Velato ก็เอามารวมกับ Souri แล้ว และร้านตอนนี้มีอยู่ 12 สาขา แต่แพลนในอนาคตปีหน้าจะไปต่างจังหวัดแล้ว และมีแพลนจะไปต่างประเทศด้วย ความท้าทายคือเรื่องโลจิสติกแพ็กเกจจิ้งการรักษาความเย็นและสภาพขนม ซึ่งเรากำลังคุยกับโรงงานอยู่ เราอยากจะทำแบรนด์ไทยสินค้าไทยให้มีคุณภาพระดับโกลบอลให้ได้ นำชื่อเสียงมาให้ประเทศให้ได้ทั้งเรื่องวงการบันเทิงและสินค้าไทย นั่นคือโกล

ที่ฟังมาทุกอย่างอาจจะดูราบรื่นสวยงาม แต่วินยอมรับว่าก็มี ที่ต้องเฟลท้อถอยบ้างอยู่แล้ว หน้าบ้านอาจจะดูแฮปปี้
แต่หลังบ้านทุกคนไม่รู้ว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ด้วยความที่เราเล่นเรื่องแรกแล้วดังเลย มันกลายเป็นว่าจำนวนคนที่ชื่นชอบเรากับความสามารถเรามันยังไม่ดีพอสำหรับจำนวนคนที่มารักเราขนาดนี้ ทั้งด้านการแสดง ร้องเพลง เต้น มันเลยเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองมากขึ้น และแน่นอนมีคนรักก็มีคนเกลียด แต่โชคดีที่เป็นคนไม่ค่อยเสพโซเชียล
ไม่เอาตัวเองไปหมกหมุ่นกับสิ่งที่บั่นทอนตัวเอง เราเป็นคนเซ้นซิทีฟแต่ว่าก็มีภูมิมากขึ้น เพราะยิ่งโตยิ่งเจออะไรที่ทำให้
เรามีเกราะป้องกันมากขึ้น จะสุขทุกข์อยู่ที่ใจเราเอง ว่าเราจะเอาใจเข้าไปอยู่ตรงไหน ท่ามกลางบรรยากาศคนดีดีไหม

และ Idol สำหรับวิน เจ้าตัว ย้ำมาตลอดว่าเป็นคุณพ่อ เป็นคนที่เราใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กๆ ครอบครัวเราให้ความสำคัญ
กับความเป็นครอบครัวมากๆ รวมถึงงานที่เราทำ พอเราเจอคนเยอะๆ ก็ไม่สามารถบาลานซ์รับมือกับทุกคนในชีวิตได้ดี
แต่สิ่งที่เราเห็นคุณพ่อทำทุกอย่างได้ดี ไม่ว่าจะงานหนักแค่ไหน ให้ความรักเราไม่รู้สึกขาดเลย แต่ถ้าสายนักแสดง
เป็น Tom Cruise เอเนอร์จี้เขาดีมากกๆ สำหรับบทเรียนที่ได้จากวงการบันเทิง เป็นเรื่องคน การที่เราได้ทำงานร่วมกับคนอื่น ไม่สามารถจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งได้ และไม่ว่าจะพาร์ทในวงการหรือพาร์ทธุรกิจเราเป็นคนรับฟังมากๆ เรามองถึง
ไอเดียที่จะแลกเปลี่ยนกัน และเรื่องกระแสความดังที่อาจมีวันหมดลง วินก็เข้าใจว่า ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกคนมีทั้งจังหวะที่ดีและไม่ดี แต่ช่วงเวลานั้นมาถึงเราจะสานต่อยังไง และมีความพร้อมแค่ไหนที่จะก้าวหน้ากับช่วงเวลานั้นของเรา

#วินเมธวิน
สำหรับ CEO และนักแสดงหนุ่มสุดฮอต วิน เมธวิน ล่าสุดก็ได้ไปเยือนรายการดังอย่าง เจาะใจ

เริ่มต้นรายการมาก็พูดถึงพาร์ทการเป็นนักแสดงที่ได้ลองเล่นมาหลายแนวแล้ว แต่ที่อยากลองจริงๆ เจ้าตัวบอก
เป็นแนวบู๊ Action แบบ John Wick ไปเลย เพราะเราเป็นพวกบ้าพลัง นอกจากการแสดง
ก็มีงานถ่ายแบบ ถ่ายนิตยสาร ถ่ายละคร ร้องเพลง มีแฟนมีต และถ้าย้อนกลับไปที่ทำให้มีแฟนคลับมากมายขนาดนี้
จากซีรีส์เรื่องแรกที่ดังเป็นพลุแตกอย่าง คั่นกู วินก็ยังถ่อมตัวให้เครดิตสถานการณ์โควิด ที่ตอนนั้นทุกคนต้องอยู่บ้านแล้ว
ตอนนั้นอาจไม่มีคอนเทนต์มาตอบโจทย์ และเหลือแต่เรื่องเราให้คนได้ดู และสายสัมพันธ์กับแฟนๆ ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว
ก็อยู่มาจนถึงวันนี้ ซึ่ง ดู๋ สัญญา พิธีกรก็ได้ชมเปรียเปรยความสัมพันธ์ของวินกับแฟนๆ ว่า เป็นต้นไม้ ทั้งแฟนทั้งคุณช่วยกันใส่ปุ๋ยดูแลต่อ เรามีจัดงานนะ เจอกันนะ คุยกันนะ มันเลยไปต่อได้💚

และจากที่มีความฝันเป็นสถาปนิก แต่สุดท้ายได้เลือกเรียนคณะบริหารและเศรษฐศาสตร์ เพราะครอบครัวอยากให้มาต่อยอดธุรกิจขายเหล็กของที่บ้าน จากตอนแรกวินบอก ก็ไม่เข้าใจว่าจะเรียนเศรษฐศาสตร์ทำไม แต่พอโตขึ้นการที่ได้เรียน ด้านนี้มาก็ทำให้เราเป็นคนที่มองทุกอย่างในภาพกว้างมากยิ่งขึ้น อย่างในงานกองถ่าย ที่ว่าทำไมต้องรีบถ่ายซีนๆ นึง ให้เสร็จเพื่อไปซีนอื่นต่อ เพราะในภาพกว้างมันมีต้นทุน มีโอทีของแต่ละคน ถ้าเราไม่คุมเราขาดทุนเลย ทำให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และก่อนหน้านี้ก็อยากมีธุรกิจของตัวเองมาตั้งนานแล้วเป็นสายสินค้าสำเร็จแล้วให้ลูกค้าโดยตรง ต่างจากธุรกิจที่บ้าน และพอประจวบเหมาะกับเวลาที่ทำได้ก็เลยเริ่มทำ เริ่มจากแบรนด์เสื้อผ้า Velence เราจะอยู่ฝ่ายควบคุม เชิญฝ่ายต่างๆ มาร่วมกันสร้างสรรค์ด้วยเงินทุนของเราเอง ตอนแรกก็ยอมรับว่ากลัวเจ๊ง แต่ด้วยความกล้าได้กล้าเสียก็ลองดูก่อน กลุ่มลูกค้าจะผู้หญิงเยอะมาก แต่เป็นเสื้อผ้าในร้านจะเป็น Unisex

ส่วนธุรกิจที่ 2 มาการอง Souri เริ่มมาจากพี่สาวที่เรียนจบด้านอาหารมาโดยตรงเลยและก็ใช้สูตรของพี่ และก่อนจะขึ้นร้านอย่างทุกวันนี้ ออเดอร์แรกๆ พี่สาวทำอยู่ที่บ้านต้องระดมแม่ แม่บ้าน ทุกคนมาช่วยกันที่ครัวที่บ้าน ส่วนเราช่วงแรกๆ มีส่วนร่วมด้วยการตั้งกล้องถ่ายแนะนำรสชาติลงในโซเชียลมีเดีย และก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ที่พร้อมจะซัปพอร์ตเราทุกอย่างจริงๆ ซึ่งแฟนๆ ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เรากล้าทำ แต่เราไม่ได้จะทำมาเพื่อฉาบฉวย
เราทำเพราะเราตั้งใจทำมันจริงๆ ก่อนหน้านี้มีธุรกิจไอศครีม Velato ด้วย เกิดมาตอนช่วงโควิด แบบเราว่างเรา lost
เลยหาอะไรทำ เลยไปเรียนทำไอศครีมและปั่นทุกวันและลองชิมจนตอนนั้นไอหนักจนคิดว่าตัวเองเป็นโควิดรึเปล่า แต่จริงๆ เกิดจากการกินของเย็นเยอะ ตอนนี้ Velato ก็เอามารวมกับ Souri แล้ว และร้านตอนนี้มีอยู่ 12 สาขา แต่แพลนในอนาคตปีหน้าจะไปต่างจังหวัดแล้ว และมีแพลนจะไปต่างประเทศด้วย ความท้าทายคือเรื่องโลจิสติกแพ็กเกจจิ้งการรักษาความเย็นและสภาพขนม ซึ่งเรากำลังคุยกับโรงงานอยู่ เราอยากจะทำแบรนด์ไทยสินค้าไทยให้มีคุณภาพระดับโกลบอลให้ได้ นำชื่อเสียงมาให้ประเทศให้ได้ทั้งเรื่องวงการบันเทิงและสินค้าไทย นั่นคือโกล

ที่ฟังมาทุกอย่างอาจจะดูราบรื่นสวยงาม แต่วินยอมรับว่าก็มี ที่ต้องเฟลท้อถอยบ้างอยู่แล้ว หน้าบ้านอาจจะดูแฮปปี้
แต่หลังบ้านทุกคนไม่รู้ว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ด้วยความที่เราเล่นเรื่องแรกแล้วดังเลย มันกลายเป็นว่าจำนวนคนที่ชื่นชอบเรากับความสามารถเรามันยังไม่ดีพอสำหรับจำนวนคนที่มารักเราขนาดนี้ ทั้งด้านการแสดง ร้องเพลง เต้น มันเลยเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองมากขึ้น และแน่นอนมีคนรักก็มีคนเกลียด แต่โชคดีที่เป็นคนไม่ค่อยเสพโซเชียล
ไม่เอาตัวเองไปหมกหมุ่นกับสิ่งที่บั่นทอนตัวเอง เราเป็นคนเซ้นซิทีฟแต่ว่าก็มีภูมิมากขึ้น เพราะยิ่งโตยิ่งเจออะไรที่ทำให้
เรามีเกราะป้องกันมากขึ้น จะสุขทุกข์อยู่ที่ใจเราเอง ว่าเราจะเอาใจเข้าไปอยู่ตรงไหน ท่ามกลางบรรยากาศคนดีดีไหม

และ Idol สำหรับวิน เจ้าตัว ย้ำมาตลอดว่าเป็นคุณพ่อ เป็นคนที่เราใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กๆ ครอบครัวเราให้ความสำคัญ
กับความเป็นครอบครัวมากๆ รวมถึงงานที่เราทำ พอเราเจอคนเยอะๆ ก็ไม่สามารถบาลานซ์รับมือกับทุกคนในชีวิตได้ดี
แต่สิ่งที่เราเห็นคุณพ่อทำทุกอย่างได้ดี ไม่ว่าจะงานหนักแค่ไหน ให้ความรักเราไม่รู้สึกขาดเลย แต่ถ้าสายนักแสดง
เป็น Tom Cruise เอเนอร์จี้เขาดีมากกๆ สำหรับบทเรียนที่ได้จากวงการบันเทิง เป็นเรื่องคน การที่เราได้ทำงานร่วมกับคนอื่น ไม่สามารถจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งได้ และไม่ว่าจะพาร์ทในวงการหรือพาร์ทธุรกิจเราเป็นคนรับฟังมากๆ เรามองถึง
ไอเดียที่จะแลกเปลี่ยนกัน และเรื่องกระแสความดังที่อาจมีวันหมดลง วินก็เข้าใจว่า ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกคนมีทั้งจังหวะที่ดีและไม่ดี แต่ช่วงเวลานั้นมาถึงเราจะสานต่อยังไง และมีความพร้อมแค่ไหนที่จะก้าวหน้ากับช่วงเวลานั้นของเรา

#วินเมธวิน
ขอบคุณภาพและคลิปจาก
@jslglobalmedia
แก้ไขล่าสุด 20 ต.ค. 67 10:17 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google