N@gaZine 21 ┇┇ ☞ ภาพงานออกแบบมากมายจาก ┗┛P ☜ !!!!!

#1 | Kentaro | 2 พ.ค. 52 22:25 น.

♣ Pos ┠ T ┨ er ♣


Coco Avant Chanel 「 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█

" นี่เป็นหนังฝรั่งเศสที่จับเอาดาราเจ้าเสน่ห์ Audrey Tautou มาวิ่งชนชีวประวัติ Coco Chanel " ประโยคเดียวที่รวบรัดความสำคัญของหนังเรื่องนี้ได้ทั้งหมด แต่แท้จริงแล้วเรายังมีหลายเรื่องให้พูดถึง เพราะถึงจะได้ Audrey Tautou มาอยู่ในหนังฝรั่งเศส แต่เธอไม่ได้เล่นบทน่ารักใสกิ๊กอย่างที่เราคุ้นเคย ผิดถนัด ทว่าว่าเธอกำลังก้าวหน้าทางอาชีพทางการแสดงด้วยการรับบทที่ดราม่ามากขึ้น และความสดใสก็ไม่ใช่จุดขายของเธอในเรื่องนี้ เพราะการเป็น Gabrielle Bonheur Chanel เจ้าแม่ดีไซเนอร์ของโลกนั้น ต้องเป็นยิ่งกว่าสาวใสผู้มองโลกในแง่ดีเยี่ยงเอมีลี่ แล้วหนังจะบอกคุณเองว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ออสการ์ได้ผู้ชนะในสาขานำหญิงเป็นสาวสวยชาวฝรั่งเศส Marion Cotillard จากบทนักร้องสาว Edith Piaf ที่ทั่วโลกตะลึงในเสียงของเธอ และในปีนี้ เราสามารถบอกได้ว่าการแสดงของ Tautou กำลังจะพาเธอเดินตามรอยรุ่นพี่ เพราะการเปลี่ยนแปลงเพื่อรับบทคนที่มีตัวตนจริงนั้นเป็นสิ่งที่ออสการ์เอ็นดูมาตลอด และมันก็ใช่ในกรณีนี้ ( การแสดงของเธอเป็นที่คาดหวังบนเวทีออสการ์ ) ในใบปิดใหม่ข้างล่างนี้แสดงให้เห็น Tautou ในบทบาทเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่นในชุดนอนธรรมดา กับกิริยาคีบบุหรี่ที่ปลายนิ้ว ซึ่งอาจจะดูเป็น Coco Chanel ที่ดูขัดแย้งกับภาพคนดังของโลก แต่นั่นแหละคือสิ่งที่หนังกำลังบอกเล่าให้ฟัง อันจะเป็นช่วงเวลาไต่เต้าก่อนเป็นดาวเด่นของเธอที่คนนับล้านรุ้จัก และเป็นส่วนหนึ่งในงานออกแบบสุดเร้าใจ แล้วที่ชอบที่สุดก็คือสายตานักคิดนักออกแบบในดวงตาเธอนั้น ดูลึกลับน่าค้นหาจริงๆ ยิ่งได้ดูตัวอย่างแล้วจะยิ่งอยากดู ส่วนประวัติจริงๆของ Coco Chanel ก็ดุเดือดเลือดพล่านไม่แพ้ Edith Piaf เหมือนกัน เรียกว่าได้วัตถุดิบดีขนาดนี้มาขึ้นจอ อย่าทำเสียของล่ะ!!

หมายเหตุ :: ใบปิดนี้ถูกแบนที่ฝรั่งเศส อันเนื่องจากภาพการสูบบุหรี่ที่ไม่เหมาะสม



Ninja Assassin「 25 พฤศจิกายน 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█

แฟนหนังทั่วโลกเห็นอาจจะยังเฉยๆกับใบปิดนี้ ที่ยังไม่จ๊าบแล้วก็แปลกใหม่อะไร แถมระยะหลังการนำวัฒนธรรมเอเชียมาขึ้นจอก็ไม่ได้ประสบความงดงามบนตารางหนังทำเงินเท่าไหร่ ส่วนแฟนๆพี่เรนจะยิ้มออกได้แค่ไหนก็ไม่รู้ ก็ดูเข้าสิ ขนาดภาพกับใบปิดแรกยังเยินขนาดนี้เลย แล้วในหนังจะขนาดไหน

เรนในเรื่องจะเป็นนินจาที่มีอันต้องกลับมาโค่นล้างองค์กรที่ เป็นสถานที่เลี้ยงดูและฝึกวิชาต่างๆให้

หนังเป็นการร่วมมือกันอีกครั้งของของผกก. James McTeigue กับพี่น้อง Wachowski ที่มี V for Vendetta เป็นการร่วมงานกันครั้งที่แล้ว ส่วนชาวฝรั่งจะสนใจเรื่องนินจาล้างแค้นแค่ไหนในยุคนี้ยังสงสัย ยิ่งนักแสดงนำอย่างเรนก็ไม่ได้เรียกพลังๆแฟนในหนังก่อนหน้านี้ได้ดีซักเท่าไหร่ ผลสุดท้ายจะออกหัวหรือก้อย ต้องรอดู



Inglourious Basterds「 21 สิงหาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇

การกระทำสุดโหดร้ายของพวกนาซีเป็นวัตถุดิบที่นักทำหนังหยิบเลือกแง่มุมมาใช้กันอย่างเมามัน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาฮิตเลอร์และพวกพ้องรอบตัว อันได้แก่ชาวพรรคและทหารที่ทำงานให้ขึ้นจอด้วยมาดต่างๆมากมาย ทั้งเคร่งเครียดเอาจริงเอาจัง โหดร้ายทารุณ ตลกขบขัน ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ และล่าสุดนาซีก็เป็นซอมบี้ได้ด้วย!

และในขณะที่มีหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชาวยิว ซึ่งมักจะเป็นผู้คนโดนกระทำเสียส่วนใหญ่ หรือจะเป็นภาพการเอาคืนของผู้คนที่คัดค้าน ที่เพิ่งมีหนังทอม ครูซเสนอไป หรือจะหนังฝรั่งเศสที่ว่าด้วยพลทหารหญิงขออาสาจัดการพวกนาซีเอง แต่คงจะไม่มีหนังล้างผลาญเหล่านาซีครั้งไหนที่มัน บ้า ดุเดือดเลือดพล่าน สะใจเลือดสาด เท่า Inglourious Basterds !!



ที่กล้าโม้ไปงั้น ไม่ใช่อะไร แต่นี่เป็นหนังสงครามที่บ้าคลั่งไปทุกๆด้านของ Quentin Tarantino ด้วยการจับ Brad Pitt มาเป็นหัวหน้าตั้งทีมเฉพาะกิจไว้ล่าหัวพวกนาซี ด้วยการเอานายทหารผู้ต้องโทษชาวยิวออกมา แลกกับการทำภารกิจไล่ล่ากระทืบพวกบ้านั้นให้จมบาทา งานนี้จึงมีผู้ร่วมแสดงมากมาย ชนิดที่ไม่น่าจะมาเจอกันได้ แต่ในที่สุด Brad Pitt ก็โคจรมาเจอดาราตลก Mike Myers กับ Maggie Cheung...สาวงามจากเอเชียนั่นเลยที่ลัดฟ้ามาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

ส่วนตัวหนังจริงจะแหวะและทำให้เราเหวอแค่ไหน แฟนๆหนังเควนตินเตรียมกรี๊ดได้เลย เพราะเรื่องนี้แรงดีขนาดได้ไปฉายเมืองคานส์นั่นเลยทีเดียว และใบปิดใหม่ข้างล่างนี้ก็ต้องทำให้แฟนๆคุณพี่แบรด พิทต์ตื่นเต้นตับไหลไส้หลุดกันไปข้าง ก็พี่เขา....

หมายเหตุ :: นักแสดงร่วมในหนัง/ผกก. Eli Roth จะมีหนังสั้นแทรกไว้ในเรื่องนี้ด้วย ทั้งเล่นทั้งทำหนังให้ด้วย ใจดีจริงๆ




♣ Pic ┠ T ┨ ure ♣


Coco Avant Chanel 「 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█

สาวๆท่านใดที่คลั่งไคล้ในแฟชั่น คงมีความสุขกับรับชมหนังเรื่องนี้ไม่น้อย แต่จะมาหาว่าเรื่องนี้เป็นแค่หนังขายแฟชั่นภายนอกอย่างเดียวก็ไม่ถูก การแสดงของนางเอกที่ต้องถูกขับเน้นตลอดทั้งเรื่อง ก็คือจุดขายที่มาพร้อมเรื่องราวชีวิตจริงสุดเข้มข้นไม่แพ้กัน

ตั้งแต่เด็กกำพร้าสุดแสนจะยากจน มาจนถึงช่วงเวลาที่เธอประกาศให้โลกรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ทางด้านงานคิดค้น ด้วยการสร้างสรรค์งานออกแบบต่างๆด้วยรสนิยมอันล้ำเลิศของอดีตยาจกคนนี้ทำให้ชีวิตของโคโค่ยิ่งมีสีสันเข้าไปใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นมากกว่าเจ้าแม่แฟชั่น พอๆกับที่มีชีวิตช่วงลำบากยากไร้ไว้ให้ผกก.ทำหนังดราม่ารันทดดีๆสักเรื่อง แต่เธอคือผู้กำความเท่าเทียมแห่งเพศมายังหมู่มวลมนุษย์ และได้ชื่อว่าเป็นเฟมินิสต์ผู้ไม่ยอมก้มหัวให้โชคชะตา แค่เท่านี้ก็น่าจะเรียกร้องความสนใจจากคอหนังได้แล้วล่ะมั้ง...ว่าแต่ได้กลิ่นออสการ์แถวนี้มั้ยอะ? เพราะแค่ชีวิตจริงก็เข้มข้นเข้าตากรรมการเหลือเกิน













The Road「 16 ตุลาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇██ █

ชื่อผกก. John Hillcoat กับมือดัดแปลง Joe Penhall อาจจะไม่คุ้นหูซักเท่าไหร่ แต่นักแสดงนำที่จะรับบทพ่อแม่ในเรื่องอย่าง Viggo Mortensen กับ Charlize Theron ต้องกระตุกต่อมคอหนังรางวัลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วการดัดแปลงจากนิยายชื่อดังเจ้าของรางวัลมากมายอย่างที่เขียนโดย Cormac McCarthy ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและการันตีคุณภาพไปในตัว เพราะหนังก่อนหน้านี้ที่เอานิยายของชายผู้ยิ่งใหญ่มาทำก็แค่ออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม No country for old men เท่านั้นเอง!!!

ในนิยายและหนังจะพูดถึงโลกในอนาคต ที่นอกจากจะไม่ต่างจากที่ Wall-E ทำงาน มันยังเลวร้ายกว่าหลายเท่า เพราะไม่ใช่แค่สภาพแวดล้อมที่ดูเลวร้าย แต่จริยธรรมในตัวมนุษย์ที่เผยออกตอนการหาหนทางรอดของชีวิตยังลดน้อยจนน่าใจหาย

หนังเล่าเรื่องการเดินทางไปตามถนนสายต่างๆของสองพ่อลุก ที่ระหว่างทางนั้นยังต้องระวังภัยจากธรรมชาติ ( อากาศเป็นมลพิษ ) และสภาพบ้านเมืองที่เรียกได้ล้มสลาย แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังไม่เท่าการรับมือกับเพื่อนร่วมโลกที่เรียกว่ามนุย์หรอก

ใครที่ยังนึกภาพโลกที่เลวร้ายจนไม่มีชิ้นดีไม่ออก แนะนำให้ดูภาพหลายภาพข้างล่างนี้...แล้วจะรู้ว่ามันนรกบนดินชัดๆ

































































Terminator Salvation「 21 พฤษภาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█

การจะได้กำกับหนังฟอร์มยักษ์ยัดเทคนิคบานๆก็ยากอยู่แล้ว แถมงานแรกยังเป็นถึงภาคต่อทรงคุณค่าอีกซะด้วย ผกก. McG ที่ก่อนหน้านี้เป็นแค่ผู้ส่งนางฟ้า Charlie's Angels ขึ้นจอ คงเหนื่อยใจไม่น้อย เพราะหลังฟันฝ่าคำวิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างหนาหูถึงแฟนๆ ยังต้องมาเจอคำกล่าวหาของอีตาไมเคิล เบย์อีกต่างหาก งานนี้ถ้าหนังออกไม่งามคนที่เหงื่อตกสุดคงหนีไม่พ้นใครที่ไหน

และถึงจะโดนว่า ว่าไปขโมยไอเดียสร้างหุ่นยนต์ยักษ์จากหนังชาวบ้านเขา ข้างล่างนี้ก็คืองานออกแบบมอเตอร์ไซค์หุ่นยนต์สังหารในเรื่องที่ดูมีระดับและพอจะสู้ใครได้สบาย...แต่จะว่าไป ในหนังภาคสองของพี่เบยื ก็มีหุ่นยนต์แปลงร่างเป็นวินมอเตอร์ไซค์เหมือนกันนี่หว่า เอาเป็นว่าตอนนี้ทั้งสองเรื่องต่างมีอะไรที่เหมือนกันไม่น้อย ทั้งเนื้อเรื่องที่เอื้อให้เกิดสงครามได้สบาย ( ซึ่งตัวอย่างก็ชี้ชัดอยู่แล้วด้วย ) การมีหุ่นยนต์เป็นตัวเอกแถมยังคล้ายกันอีก และดารานำที่มากด้วยความร้อนแรง แต่กว่าจะถึงวันออกฉายของทั้งสองเรื่อง คงทำเอาคอหนังหัวใจเต้นจนวายไปข้าง ก็ล่าสุดทั้งคู่ยังไม่ยอมหยุดสาดสงครามน้ำลายซะที

ทำหนังก็รบราฆ่าฟันระเบิดกันเข้าไป นอกจอก็ทะเลาะแหกปากกันอีก โลกเราในวันนี้มันวุ่นวายจริงๆว่ามั้ย เฮ้อ







Jonah Hex「 6 สิงหาคม 2o1O 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇██

ในหนังฮิตปี 2oO7 เรื่อง Transformers ที่คุณย่าข้างบ้านผมยังรู้จัก สาว Megan Fox อาจจะเป็นอาหารตาของหนุ่มๆและมีไว้เพื่อเป็นสาวงามของ Shia LaBeouf..ไอหนุ่มที่ไม่มีใครคิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ แต่ในภาคต่อที่มีชื่อ Revenge of the Fallen ตามมานั้น อาจบอกใหม่ได้ว่าหนุ่ม Shia จะมีเพื่อเป็นคู่ของเธอในเรื่องหรืออาจจะเด่นกว่าก็ไม่รู้ เพราะหลังจากนี้ความร้อนแรงของเธอจะกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าไม่แพ้ใครที่ไหนเหมือนกัน



ในปีเดียวกันเธอยังมี Jennifer's Body หนังไล่ล่าสยองขวัญไว้วัดระดับความดังแบบเดี่ยวๆของเธอเอง ที่ฟอร์มดีและจี๊ดถึงไส้แค่ไหน ดูว่าได้ระดับสาวซ่าไม่แพ้กันอย่าง Diablo Cody มาเขียนบทให้ และในปีหน้าเธอก็กำลังมีหนังแอ็กชั่นโปรแกรมเด็ดเตรียมไว้ให้ได้ดูกันอีก ซึ่งกำลังถ่ายทำกันอยู่ในขณะนี้ที่ทางตอนใต้ของ Louisiana แถมยังมีรุ่นพี่ฝีมือหายห่วงมาเทรนด์ให้มากมายอาทิ Josh Brolin, John Malkovich, Megan Fox, Will Arnett, Michael Shannon...คนแรกกับคนสุดท้ายเข้าชิงออสการ์สมทบชายปีที่ผ่านมาด้วยกันทั้งคู่ แถมยังได้ระดับ John Malkovich มาแจมด้วย ไม่มองว่าแม่จิ้งจอกสาวคนนี้เป็นโจลี่คนต่อไปก็คงไม่ไหวแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตอย่างน้อยมองล่วงหน้าไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า คุณเธอก็ยังมีหนังเล่น เห็นงี่แล้วเชื่อจริงว่าคุณเธอไม่หวั่นแม้หนังมามาก

ส่วน Jonah Hex ที่อ้างอิงมาจากการ์ตูนชื่อดังฝั่งดีซีนี้จะเป็นเรื่องราวของตัวเอกเจ้าของชื่อเรื่องที่รับบทโดย Josh Brolin คาวบอยหนุ่มผู้มีใบหน้าข้างขวายับเยินเสียโฉม และจะสวมเครื่องแบบของกองทัพสหพันธ์อยู่เสมอ พกปืนคู่ใจไว้ข้างกายพร้อมกับภาพภายนอกที่ดุเป็นคนโหด**ม แต่ที่จริงแล้วเป็นคนดีพร้อมช่วยเหลือผู้คน บรรยากาศในหนังจะเน้นความเป็นคาวบอยและผสมโรงด้วยเรื่องราวลี้ลับเล็กน้อย

















Iron Man 2「 7 พฤษภาคม 2o1O 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇██

หลังจากตอนจบในภาคแรก คุณพี่สตาร์คเผยตัวเองว่าเป็น Iron Man แค่นั้นแหละ ภาคสองมีอะไรให้เล่นอีกเยอะเลย เพราะนี่แทบจะเป็นครั้งแรกๆเลยก็ว่าได้ที่มีฮีโร่คนนึงลุกขึ้นมาเปิดเผยตัว ไม่เหมือนพวกแมนๆที่เหลือทั้งหลาย ทั้ง**แมงมุม แบทแมนเอย หรือจะซุปเปอร์แมนก็ตาม

Robert Downey Jr กลับมาพร้อมทีมนักแสดงสุดอลังการดาวล้านดวงอีกครั้ง อันจะประกอบไปด้วย Gwyneth Paltrow, Don Cheadle, Jon Favreau, Samuel L. Jackson, Mickey Rourke, Sam Rockwell, Paul Bettany, Scarlett Johannson, Gary Shandling, Kate Mara, Clark Gregg เห็นดาราเยอะขนาดนี้ คงจะมีข่าวเหยียบกันตายในกองถ่ายขึ้นมาสักวัน แต่ที่แน่ๆ นี่เป็นทีมที่แน่นไปด้วยคุณภาพและพลังดาราในตัวสูง แถมหนังยังมาพร้อมทีมงานชุดเดิมและพร้อมสุดๆที่จะระเบิดความมันต้นซัมเมอร์หน้า เหมือนที่แจ้งเกิดยกชุดมาแล้วเมื่อต้นซัมเมอร์ปีที่แล้ว 



Edge of Darkness「 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇███┇

เช่นเดียวกับ Ben Affleck ที่กลับมามีงานแสดงเรื่อง State of Play อีกครั้ง หลังจากไปได้สวยกับการกำกับหนัง Mel Gibson ก็กลับมามี Edge of Darkness ผลงานการแสดงล่าสุดหลังทำหนังได้ใจคอหนังมาแล้วเช่นกัน หลังจากเล่น Signs เป็นเรื่องสุดท้าย ( แล้วก็โดนมนุษย์ต่างดาวจับไปเพาะพันธุ์??? ) พี่แกไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมาเล่นหนังอีกเลย แถมทั้ง State of Play กับ Edge of Darkness ก็ล้วนเป็นหนังที่สร้างมาจากทีวีซีรี่ย์ด้วยกันทั้งสิ้น แต่แฟนๆพี่เมลคงภาวนาให้ผลลัพธ์ออกมาต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะอย่างที่รู้กันว่าเรื่องแรกไม่ระสบความสำเร็จด้านรายรับเอาซะเลย

ในเรื่องนี้ Mel Gibson รับบทบทนักสืบที่ต้องมาคลี่คลายปมปริศนาคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับลูกสาของตัวเอง จนสืบสาวไปจนทราบว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่โยงใยไปถึงการทำงานของรัฐบาล เป็นผลงานการกำกับของ Martin Campbell 





Bruno「 10 กรกฏาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇██ ▌

Sacha Baron Cohen ตลกสุดร้อนแรงแห่งยุคผู้มีพร้อมความแรงสุรุ่ยสุร่ายในหนังแต่ละเรื่อง กลับมามีงานแสดงอีกครั้ง ที่เป็นการขุดเอาคาแรกเตอร์ Bruno มาขึ้นจอใหญ่ คล้ายๆกับที่ทำ Borat ดังไปทั่วมาแล้ว แต่ครั้งนี้พี่แกจะแสบกว่าเก่าหลายเท่านัก เพราะถ้าหากโบแรททำคุณฮาค้างไปกับพฤติกรรมกวนประสาท ยียวนกวนใจชาวบ้านทั่วอันจะมาจากมันสมองที่น้อยกว่าลิงอุรังอุตังแค่นิดเดียวล่ะก็ บรูโนจะยิ่งกว่านั้นหลายเท่าตัวเข้าไปอีก ก็พี่แกเล่นเป็นเกย์ที่มาป่วนโลกแฟชั่นให้ปั่นป่วนด้วยวิถีบ้าๆบอๆน่ะสิ และแน่นอนว่าวิธีถ่ายทำก็ยังเป็นรูปแบบสารคดีเช่นเดิม.....โชคดีจริงๆที่คุณพี่ Coco Chanel ลาโลกไปนานแล้ว ไม่งั้น กลุ้มตาย











Shutter Island「 2 ตุลาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇

ลุงมาร์ตี้ :: " เล่นให้ป๋าอีกเรื่องนึงนะคุณน้องลีโอ ไหนๆก็เล่นร่วมงานกันมา 3 เรื่องและ ไหว้ล่ะ นะๆๆ "
ลีโอ :: " ฮื่อ! ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้ออสการ์ จองศาลาไว้ได้เลย ไอแก่ "
คุณน้องมีเชลล์ :: ....ตูไม่เกี่ยว แหะๆๆ...

ถ้าเปรียบหนังดราม่าไล่ล่าเร้าใจเรื่องนี้เป็นเสมือนอาหาร ก็ต้องบอกว่านี่เป็นจานเด็ดของเชฟสูงวัยที่ชื่อ Martin Scorsese เพราะหลังจากเพรียบพร้อมด้วยฝีมือมานาน เขาเพิ่งจะถูกออสการ์การันตีว่าทำอาหารอร่อยได้ยอดเยี่ยม และในจานนี้ มีทั้งวัตถุดิบชั้นเลิศที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ ก็ดูสิมีทั้ง Mark Ruffalo, Ben Kingsley, Michelle Williams, Patricia Clarkson, Max von Sydow, Emily Mortimer, Jackie Earle Haley เต็มชามเลย น่ากินจริงๆ แล้วไหนจะกลิ่นทริลเลอร์ลุ้นระทึกนิดๆก็เตะจมูกคนกินอย่างเราจริงๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้อยากกินยังไงไหว



Powder Blue「 8 พฤาภาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇

Powder Blue คือหนังดราม่า อาชญากรรม เกี่ยวกับ คนสี่คน: สัปเหร่อ, อดีตอาชญกร, อดีตพระ และ นักเต้นโหนเสา ที่ต้องมาพบกันโดยเหตุการณ์พาไปในคืนคริสมาสต์...พล็อตมึนๆที่ว่าด้วยหนึ่งเหตุการณ์นำพาหลายตัวละครมาพบกันอีกหนึ่งเรื่อง แถมยังได้ Forest Whitaker มาเล่นให้ด้วย ที่ผ่านๆมา นักแสดงมากฝีมือคนนี้อยู่ในหนังแนวเดียวกันนี้มาพอสมควร อาทิ Vantage Point,Powder Blue, The Air I Breathe และ Winged Creatures...หนังที่ผมได้ตั๋วฟรีสองที่ไว้ดูที่โรงหนังสยามในวันจันทร์นี้ แต่ยังหาคนไม่ได้เลย สนใจติดต่อได้ เพราะตอนนี้ยังว่าง และยังไม่อยากต้องนั่งถ่างขาตลอดชั่วโมงครึ่งด้วย....อนาถลูกตาคนข้างๆน่าดู 555

ถึงบรรทัดนี้คงจะไม่มีใครทนอ่านได้ เพราะภาพข้างล่างมันยั่วยวนเหลือเกิน หรือบางทีคุณอาจจะเข้ามาดูภาพนู้ดของนักแสดงสาวยังเดียวเลยก็ได้ แย่ไปกว่านั้นอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่มันกระทู้เกี่ยวกับอะไร..5555 จะมีมั้ยเนี่ยคนแบบนั้น

















Kick-Ass「 8 พฤาภาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇▌█┇

Mark Millar ส่ง Wanted มาให้เรารู้จักฮีโร่แบบใหม่เมื่อปีที่แล้ว ที่เล่าเรื่องฮีโร่คนพิเศษจากคนธรรมดา และในปีนี้ ผกก. Matthew Vaughn ที่กำลังลองทำหนังหลากแนวไปเรื่อยๆจะอัญเชิญ Kick-Ass อีกหนึ่งผลงานของพี่มาร์คแต่หน้าไม่หล่อเท่ามาขึ้นจอ ที่พูดถึงการออกปราบเหล่าร้ายของเด็กชายคนนึงที่ไม่ได้มีพลังวิเศษแต่อย่างใด มีแค่ใจรักและอยากเป็นกับชุดที่เขาตัดขึ้นมาเองเท่านั้น

ส่วนภาพข้างล่างนี้ก็คือ Hit Girl ที่มีพ่อเป็น Hitman เอ้ย ตัวละครของ Nicolas Cage อดีตนายตำรวจผู้จัดการเทรนด์ลูกสาวตัวเองให้เป็นนักฆ่าไว้จัดการเหล่าร้าย



Up「 29 พฤษภาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇██ ▌█▌█

พิกซาร์โตและสุกงอมทางความคิดแค่ไหน วัดได้จากผลงานชิ้นล่าสุดที่ชื่อสั้นสุดๆ Up การให้ตัวละครเอกเป็นตาแก่ใจซ่าที่มีลูกบ้าเกินร้อย กับเด็กอ้วนจ้ำม่ำแถมยังอายุห่างกันราวกับตาหลาน ถือเป็นการพัฒนาและฉีกแนวทางเดิมๆอย่างชัดเจน และคงจะมีแค่พิกซาร์ในเวลานี้เท่านั้นที่สนุกกับการลองอะไรใหม่ๆ ในขณะที่ค่ายอื่นๆนั้นยังคงคิดแค่ว่า ตัวละครในหนังการ์ตูนต้องเป็นเด็ก สัตว์ ตัวประหลาดเท่านั้น

งานนี้ได้ Pete Docter ผกก. Monsters, Inc มาใส่ความบ้าในหนังซ่าเรื่องนี้ และข้างล่างนี้ก็คือภาพวาดออกแบบตัวละครหลักของเรื่อง ตั้งแต่เด็กไปจนแก่ ส่วนความพยายามแหกกรอบเดิมๆในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ หรือจะกลายเป็นหนังเจ๊งเรื่องแรกของพิกซาร์อย่างที่มีคนเคยทำนายไว้ นั่นเป็นเรื่องสนุกที่จะลุ้นอีกครั้ง หลังจากค่ายนี้ไม่เคยมีประวัติเรื่องหวาดเสียวในการทำรายได้มาก่อน...ชักมันแล้วไง











และภาพข้างล่างนี้ก็คือของฝากนักกอล์ฟ เอ้ย นักออกแบบ เพราะมีคนใจดีไปถ่ายมาจาก The Art of Up หนังสือรวมภาพไอเดียหลากหลายที่เกี่ยวกับตัวหนังทั้งหมด งานนี้บอกตามตรงว่าอยากได้มักๆ แต่ด้วยราคาที่แพงทะลุขีดจำกัด คิดแล้วเอาเงินไปฝากสลากออมสินดีกว่า 5555...ล่าสุดเพิ่งถูกมา 2O,OOO บาท ดีใจสุดๆ อิอิ ( ** ขี้อวดชะมัดไอนี่ )





























Eminem is The Punisher on Magazine Covers「 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌██┇

ในวันที่ 19 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ อัลบั้มใหม่ Relapse ของนักร้องชื่อดัง Eminem จะได้ฤกษ์วางแผง เราจึงได้มีโอกาสเห็นเขาในมาด Punisher ขึ้นปกหนังสือที่มีชื่อว่า Eminem/Punisher: Kill You ซึ่งดูจะเป็นวิธีโปรโมทอัลบั้มที่เข้าท่าไม่เบา และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกในการโผล่มาบนหนังสือการ์ตูนหรือแวดวงน้ำหมึก เพราะนักเขียน J.G. Jones ก็ได้แรงบันดาลใจในการสร้างตัวละคร Wesley Gibson ใน Wanted จากแรปเปอร์ชื่อดังคนนี้เนี่ยแหละ





Avatar「 18 ธันวาคม 2oO9 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇██┇█┇█

ข้อมูลทั้งหมดในตอนนี้ที่เกี่ยวกับ Avatar คือมันเป็นหนังที่พาผกก. James Cameron กลับมาจากก้นโลก และเป็นงานชิ้นต่อจาก Titanic ความสำเร็จขั้นสูงสุดของผกก.คนเก่งคนนี้ เทคนิคใหม่ๆที่เจมส์คิดค้นขึ้นมาใหม่นั้นเยี่ยมยอดโคตรๆจนผกก. Steven Soderbergh ถึงกับเอ่ยปากชมอย่างรุนแรง จนสองพ่อมด Spielberg กับ Jackson ได้แรงบันดาลใจลับๆนี้ไปปรับปรุงใส่ตัวงานใหม่ของพวกเขาที่เรารายงานไปแล้วด้านบน และโปรเจคส์สุดแสนจะล้ำค่าที่จะมาพลิกวงการอีกครั้งนี้ยังคงเป็นการกำกับเขียนบทโชว์เดี่ยวของป๋าเจมส์ที่กินงบไปถึง 2OO ล้านเหรียญด้วยกัน ซึ่งด้วยความที่งบพอๆกับไททานิคนั้น ทำให้ผู้ชมทั่วโลกคาดหวังถึงความยิ่งใหญ่ในระดับเท่าเทียมหรือใหญ่กว่า ซึ่งความสำเร็จหลังจากนั้นที่จะตามมาต้องทำให้ Fox หายใจคล่องขึ้นไปอีกหลายชาติแน่ๆ



หนังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนอกจักรวาลที่เราคุ้นเคย เป็นเรื่องราวของอดีตนาวิกโยธินผู้เป็นอัมพาตทั้งตัว ซึ่งถูกส่งไปยังดาวชื่อแพนโดราเพื่อตั้งอาณานิคมให้มนุษย์ แต่กลับต้องไปต่อสู้กับชาวเนวีซึ่งเป็นเจ้าของดวงดาว

แค่เนื้อเรื่องก็ฟังดูไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย แต่เราก็เดาได้ว่าเจมส์ต้องสร้างความตื่นตะลึงบนดาวที่ชื่อแพนโดราอย่างแน่นอน แถมพล็อตที่ว่าด้วยการลี้ภัยของชาวโลกไปดาวอื่นนั้น ยังฟังดูทันสมัยและเป็นประเด็นใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้เทคนิคใหม่เช่นกัน



แถมการบุกนอกโลกครั้งใหม่นี้ยังได้นักแสดงสาวมากฝีมืออย่าง Sigourney Weaver มาร่วมงานด้วยอีกครั้ง เราจึงสามารถนิยาม Avatar ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของ Aliens ( เรื่องราวสุดหยั่งรู้นอกโลก ) + Terminator 2: Judgment Day ( เทคนิคใหม่ที่ทั่วโลกรอดู ) + Titanic ( ความยิ่งใหญ่บนงบประมาณ 2OO ล้าน )

Sam Worthington, Zoe Saldana, Sigourney Weaver, Wes Studi, Lola Herrera, Peter Mensah, Joel David Moore, CCH Pounder, Laz Alonso, Michael Biehn, Stephen Lang, Michelle Rodriguez, Giovanni Ribisi, Matt Gerald ก็คือทีมนักแสดงทั้งที่คุ้นและไม่คุ้นหน้า แต่จะดังสุดขีดพร้อมกันในปลายปีนี้



ต่อจากนี้เราก็จะพาท่านไปทัวร์เบื้องหลังการถ่ายทำอย่างลับๆ ตามข้าพเจ้ามาเลย วู้

ภาพแรก กับพี่เจมส์ ( ปังคุงอยู่ไหน ) ที่กำลังง่วนอยู่กับกล้องถ่ายทำระบบสามมิตรูปแบบใหม่



การถ่ายทำที่มีกล้อมสองตัวทำงานไปพร้อมๆกัน ตัวแรกด้านซ้ายจะถ่ายให้เห็นนักแสดงกับพื้นพลังไร้การเติมแต่งด้านหลัง



ส่วนตัวขวาคือภาพที่ผ่านการตัดแต่งสร้างเสริมมาแล้ว



และนี่คงเป็นไม่กี่ครั้งที่ภาพเบื้องหลังสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ Tron 2 จะเคยปล่อยภาพแนวนี้ออกมาแล้ว แต่ผลลัพธ์มันคนละเรื่องกันเลย



Scott Pilgrim vs. the World 「 2o1O 」 ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌█

ดูแค่ชื่อเรื่องแล้วแอบคิดในใจไปแว๊บนึงว่า เรื่องนี้มันต้องบู๊ล้างผลาญแน่เลย แต่พอมาดูคนทำคนแสดงก็ถึงบางอ้อว่า ไม่ใช่อย่างสิ้นเชิง ก็จะให้คิดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร ในเมื่อหนังได้ Edgar Wright ต้นตำรับความฮาเหลือรับประทานอย่าง Hot Fuzz และ Shaun of the Dead มากำกับความเสียสติ แล้วการหยิบการ์ตูนชื่อดังมาดัดแปลงก็ยิ่งสร้างความมั่นใจเข้าไปใหญ่ว่า เรื่องนี้ต้องสนุกและบ้าแน่

หนังได้ไอจืดแห่งยุค Michael Cera มารับบทนำ Scott Pilgrim ชายหนุ่มผู้ที่กำลังตกหลุมรักสาวงามนามว่า Ramona V. Flowers แต่หนทางการเป็นแฟนคงจะไม่ง่ายนัก เพราะเขาต้องจัดการกับบรรดาแฟนเก่าทั้ง 7 คนให้ได้เสียก่อน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆและนั่นก็เป็นที่มาของการผจญภัยพิชิตใจสาวของยอดชายนายเปิ่น ที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่หนังรักอาละวาดวัยรุ่นธรรมดาทั่วๆไป ส่วนตัวหนังเต็มๆจะวุ่นวายขายเสียงหัวเราะแค่ไหน ลองดูว่า คู่แข่งของสก็อตต์ไม่ใช่เล่นๆ แต่เป็นถึงระดับ Chris Evans ( ในรูปข้างล่างที่ดูกรู้ว่าจริงจังจนเวอร์ ) กับ Brandon Routh นั่นเลยจะบอกให้




♣ ┠ T ┨ alk of ┠ T ┨ he ┠ T ┨ Own ♣




▂▃▅▆█┇ Bryan Singer แห่ง Superman Returns จะลงมากำกับแบทแมน Christian Bale กับ Max Payne....Mark Wahlberg ในหนังทริลเลอร์ระทึกขวัญเรื่อง Prisoners และสองพระเอกมาดเท่ยังต้องมาเจอกันอีกใน The Fighter ของผกก.David O Russell ที่บอกได้เลยว่างานนี้มีมัน.....ร่วมงานกันสองเรื่องติดอย่างนี้ แฟนๆเตรียมฟังข่าวกิ๊กกันได้เลย    ☜

▂▃▅▆█┇ Spider-Man 4 อาจมาในรูปแบบ 3D แต่ที่จริงภาคสี่ มันควรต้องเป็น 4D เนอะ ( เพิ่มกลิ่นเข้ามาด้วย 555 ) แต่ถึงจะมาในรูปแบบ 9D แต่บทไม่ดี หนังมันก็ไม่ดีหรอก ได้ยินมั้ย แซมมี่ ☜

▂▃▅▆█┇ M Night Shyamalan’s The Last Airbender จะมีทีเซอร์โชว์แปะหน้า Transformers: Revenge of the Fallen แน่นอน เห็นโปรดิวเซอร์ Frank Marshall แอบกระซิบมาอย่างนั้นนะ ☜

▂▃▅▆█┇ หนังคู่หูผจญภัย The Lone Ranger ของ Johnny Depp ได้ผกก.เป็น Mike Newell ที่กำลังลับฝีมือกำกับหนังใหญ่อยู่ใน Prince of Persia: The Sands of Time ☜



▂▃▅▆█┇ Kristanna Loken สาวแข็งจาก Terminator 3 รับปากเล่นหนังใหม่ของ Uwe Boll ที่ชื่อ Janjaweed.....งานนี้บอกได้คำเดียวว่า " Drag me to hell " ของแท้  ☜

▂▃▅▆█┇ จะให้ป๋าเจมส์กลับมาทำเอเลี่ยนอีกรอบ คงไม่ได้ดูในเร็วๆนี้แน่นอน อย่ากระนั้นเลย ข่าวดีล่าสุดคือคุณพี่ Ridley Scott สนใจอย่างแรงกับเอเลี่ยนภาคใหม่ แต่จะว่าไปก่อนจะไปกวนป้าริปลี่ย์ที่แก่รออยู่โน่น เอาลุงโรบิน ฮู้ดให้รอดก่อนดีกว่ามั้ย เพราะล่าสุดบทหนังถูกปรับเปลี่ยนอีกรอบแล้วซะงั้น...เฮ้อ เปลี่ยนกันเก่งจัง ☜

▂▃▅▆█┇ เป็นอันรู้กันทั่วว่าตอนที่สามของ Twilight Saga: Eclipse จะได้รับการกำกับโดยผกก. 30 Days of Night ( ภาคสองกำลังตามมา ) และจะออกฉายในวันที่ 30 มิถุนายน 2o1O...มาเร็ว ไปเร็วของจริง ชนิดที่แฮร์รี่ยังอาย ☜

▂▃▅▆█┇ หนังใหม่ของพี่ล่ำ Gerard Butler ที่ชื่อ Game ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Citizen Game แล้วนะ และจะออกฉายให้มันโรง 4 กันยายนนี้จ้า ☜



▂▃▅▆█┇ ปีนี้พี่ Jim Carrey ของชาวเราจะทั้งเกย์ และแก่ ( ถ้าเป็นในชีวิตจริง คงหาทางปลิดชีพตัวเองไปนานแล้ว ) เป็นเกย์ก็คือ เป็นกิ๊กกับพี่ยวนชอบโชว์ใน I Love You Phillip Morris ซึ่งความที่หนัง ' เกย์ ' มากไป ส่งผลต่อการตัดสินใจฉายในโรงไม่น้อยเลย ซึ่งยังคงต้องลุ้นต่อไป แต่อย่างน้อยหนังก็ยังได้คำชมที่ดี ส่วนเรื่องที่เล่นเป็นตาแก่นั้นก็คือ A Christmas Carol ที่เจ๋งขนาดจะเอาบางส่วนของหนังไปฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์นั่นเลย !!☜

▂▃▅▆█┇ ต่อไปหนังอินดี้ก็สามมิติได้ เชื่อมะ ก็คิดดูสิ ขนาด Hairspray 2 คนสร้างมันยังแอบคิดให้ตัวละครอ้วนๆของ John Travolta เด๊งดิ๊งทะลุจอออกมาทักทายคนดูเลย....ยุคนี้มันยุค 3 มิติจริงๆ ☜

▂▃▅▆█┇ ซอมบี้สมัยนี้ทำตัวไม่น่ารักเหมือนสมัยปู่จอร์จทำเสียเลย เพราะถ้าไม่วิ่งสู้ฟัดกัดไวไปถึงกระดูกดำล่ะก็ ก็ออกแนวฮาวายป่วงไปข้าง ซึ่งพี่บี้จะถูกทำให้ฮาแตกอีกครั้งใน Zombieland ที่มีทั้งตลกและสยองไปในตัว แถมข่าวล่าสุดยังบอกเราว่า Bill Murray จะรับบทเป็นซอมบี้ในเรื่องด้วย...กลุ้มแทนปู่จอร์จจี้จริงๆ ☜



▂▃▅▆█┇ ผมเคยบอกว่าถ้าไมเคิล เบย์ทำหนังเล็กๆวันไหน วันนั้นโลกจะแตก ตอนนี้ผมชักกลัวแล้วสิ เพราะ Pain & Gain ก็คือหนังเรื่องต่อไปของพี่เบย์ เป็นหนังฟอร์มเล็กคั่นกลางก่อนจะกลับไปสานต่อ Transformers 3 ให้จบ เหมือนที่โนแลนทำ Inception นั่นเอง ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่าภาคสามของสงครามหุ่นยนต์คงมาในปี 2O12 แน่นอน ไม่ใช่ 2O11 ที่สตูดิโอบอกไว้...เป็นไง หน้าแหกเลย สมน้ำหน้า  ☜

▂▃▅▆█┇ ใครที่เป็นกังวลหนังเรื่องสุดท้ายของพี่ฮีท เล็ดเจอร์ โปรดวางใจ เพราะล่าสุด The Imaginarium of Doctor Parnassus ที่ได้วันฉายจริงยากกว่าที่คิดจะได้ฉายในเทศกาลคานส์เป็นที่แรกของโลก แม้ว่านักแสดงนำจะมองลงมาจากสวรรค์ในวันนั้นก็ตาม ☜

▂▃▅▆█┇ หลังตราบาปของออสการ์เกิดขึ้น เมื่อกรรมการเพิกเฉยต่อผลงานขึ้นหิ้งอย่าง The Dark Knight ของ Christopher Nolan สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีข้ออ้างเพียงแค่ความเป็นหนังฮีโร่ แต่ออสการ์ไม่มีทางเลี่ยงหนังเรื่องใหม่ของโนแลนที่ชื่อ Inception แน่นอน ยิ่งเป็นงานไซไฟทริลเลอร์แนวถนัดที่ทำในช่วงขาขึ้นของผกก.แล้วด้วย นี่ขนาดยังไม่อ้างทีมนักแสดงตัวเอ้ที่ไล่ตั้งแต่ Leonardo DiCaprio ( ที่คงเป็นเจ้าออสการ์ในเร็วๆนี้ ) , Ellen Page เยี่ยมรุ่นเล็ก , ขวัญใจคอหนังอินดี้ Joseph Gordon-Levitt , ขาประจำรุ่นดึก Michael Caine กับ Cillian Murphy จากแบทแมน และ Marion Cotillard ระดับออสการ์รับประกัน ทีนี้ไม่ว่าเวทีไหนๆคงแจกรางวัลให้พี่แกได้เสียทีนะ ไม่งั้นคงมีเดินประท้วงกันแน่ 555 ☜


♣ ┠ T ┨ een ┠ T ┨ ime ♣


████ Monsters vs. Aliens :: กำพืดเด็กช่างฝัน ████



เชื่อว่าหลายคนคงได้ดูได้ผ่านตากับหนังเรื่องนี้มาบ้างแล้ว และถึงจะไม่ได้ดู เราก็สามารถทำให้คุณเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ด้วยเวลา 2 วิ ก็คือในหนัง รัฐบาลมีหน่วยงานลับๆที่ทำหน้าที่ยัดพวกตัวประหลาดทั้งหลายมาอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้ จนกระทั่งมนุษย์ต่างดาวบุกโลกเพื่อมาหาของที่มันต้องการ เหล่าเดนสังคมเหล่านี้จึงกลายเป็นดาวเด่นขึ้นมาทันที และถูกสถาปนาอย่างทันทีให้เป็นผู้ต่อกรของผู้มาเยือนแทนมนุษย์ตาดำๆทั้งหลาย บทสรุปเป็นไงแทบไม่ต้องใช้สมองคิด เพราะหนังค่ายนี้แทบไม่มีอะไรให้ลึกลับซับซ้อน และเก็บเอาไปคิดอยู่แล้ว แต่จะเน้นความสนุกและคิดวิธีหาทางขยายตอนต่ออย่างเดียว

แล้วถามว่าค่ายดรีมเวิร์คนี้มีอะไรดี คำตอบก็คือมันทำหนังสนุก ตลกแทบจะทั้งเรื่อง ภาพก็สวย มุขก็ดีมีชั้นเชิง ยิ่งรายละเอียดในการล้อเลียนยิ่งขั้นเทพ แต่ก็นั่นแหละ ความสนุกของตัวหนังก็คือความหวานฉาบฉวยที่มีไว้ให้น่าสนใจแค่ช่วงเวลานั้นๆ ต่างจากหนังของอีกค่ายนึงอย่างพิกซาร์ ที่ทำหนังแต่ละครั้งด้วยความพิถีพิถันและมั่นใจในตัวงานได้ทุกครั้ง หนังแต่ละเบอร์จึงออกมาประทับใจและตราตรึงไม่รู้จบ ไม่ว่าจะหยิบเรื่องไหนมาดูตอนไหนก็ยังทรงคุณค่าเหนือกาลเวลาเสมอ

แต่ก็เข้าใจว่าที่ค่ายเด็กช่างฝันจะยังคงยึดแนวคิดเรียกเสียงฮาไว้ก่อนสิ่งใด เพราะมันก็เป็นเหมือนโลโก้ของค่ายนี้ไปเสียแล้ว แต่จะว่าไปก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่เป็นเช่นนั้น ยกตัวอย่างเช่น Kung fu Panda ที่เยี่ยมทั้งตัวบทและการเรียกเสียงหัวเราะที่มีมาอย่างไม่ขาดสาย แนวคิดดีๆเข้าใจไม่ยากก็ยังเบียดเสียดอยู่ในตัวเรื่องได้อย่างไม่ดูเป็นการยัดเยียด แต่เมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้ว ดูจะมุ่งทางการตลาดมากไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างตัวละครไว้เล่นกันทั้งเรื่อง ภาพที่เกิดมาเพื่อรองรับระบบสามมิติ ( แต่ก็ยังใช้ได้ไม่เต็มที่ ) หรือจะเนื้อเรื่องที่แทบไม่ได้ต่อยอดอะไรเลย แนวคิดคนชายขอบก็ถูกทิ้งไปเสียดื้อๆตอนกลางเรื่อง และหันมาสร้างความอัศจรรย์ลูกตาด้วยการต่อสู้ในช่วงท้ายเพียวๆ

สรุปแล้ว หนังสนุกตามมาตรฐานทั่วๆไป แต่ถ้าหนังค่ายนี้อยากจะไปเทียบชั้นพิกซาร์ให้ได้ล่ะก็ ความสมบูรณ์พร้อม และเนื้อเรื่องที่มากกว่าความสนุกแค่ฉาบฉวยต้องมีมากกว่านี้ และสำคัญสุดที่เป็นเคล็ดลับของค่ายคู่แข่งมาตลอด ก็คือการสร้างความตราตรึงไม่รู้จบ ที่คงจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะดูจากรูปแบบงานแล้ว เด็กช่างฝันคงยังหากินกับแนวทางนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งเป้าหมายในการทำภาคต่อและโปรเจคส์ใหม่ๆแต่สูตรเดิมก็ช่วยยืนยันคำพูดนี้ดี

ก็ไม่รู้เพราะเคยชิน หรือทำจนเป็นกำพืดไปแล้วก็ไม่รู้

████ Last Chance Harvey :: เปิดใจ...ไม่เกี่ยงวัย ████



Harvey Shine ( Dustin Hoffman ) ชายหนุ่มวัยกลางคนผู้มีมีอาชีพอยู่ในแวดวงดนตรี งานของเขาคือการแต่งเพลงไว้ใช้ในโฆษณา ซึ่งยังห่างไกลจากการเป็นนักเปียโนแจ๊ซอยู่พอสมควรตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นอีกฝันหนึ่งที่กลายเป็นสิ่งล้มเหลวในชีวิตเขา ตามหลังชีวิตแต่งงานที่ล้มไม่เป็นท่าเมื่อนานมาแล้ว ส่งผลให้เขาห่างไกลลูกสาวสุดที่รักและไม่มีโอกาสทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้ดีซักเท่าไหร่ ทั้งการทำตัวเป็นพ่อและที่ปรึกษาที่ดีของลูก หน้าที่การงานที่ความมั่นคงแปรผันไปตามวัยและวันเวลา การหาคนรู้ใจไว้ข้างกาย หรือจะการมีเพื่อนที่ดีซักคนไว้ระบายความในใจ ล้วนเป็นข้อบกพร่องที่เราเดาได้เลยว่าติดตัวชายผู้นี้มานานเหลือเกิน

ภาพในช่วงแรกของหนังจึงออกตัวด้วยเฉดสีน้ำเงิน เพื่อบ่งบอกถึงสภาพอารมณ์ของตัวละครที่ออกแนวเศร้าหมองมานานแรมปี และช่วยให้คนดูเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยฉากต่อมาเลยแม้แต่น้อย

เพราะเพียงหลังจากฮาร์วี่ย์เดินทางมาถึงลอนดอนเพื่อร่วมงานแต่งงานของลูกสาวสุดที่รักของเขา หายนะต่างๆก็เริ่มขึ้น



ในงานแต่ง ฮาร์วี่ย์ดูแปลกแยกจากครอบครัวใหม่ของอดีตภรรยา และคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด แถมความรู้สึกที่ไม่ได้เจอกันนานยังทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่น้อย ยิ่งการมาในครั้งนี้ยังมีเรื่องงานตามมารบกวนจิตใจด้วย ยิ่งช่วยเร่งให้ภาพพ่อผู้ห่างเหินกระจ่างชัดในพริบตา และทำร้ายความรู้สึกลูกสาวไม่น้อย ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องที่เขาตั้งใจก็ตาม

ลูกสาวจึงตัดสินใจว่าจะให้พ่อเลี้ยงของเธอเป็นคนส่งตัวให้ในงานแทนฮาร์วี่ย์ เพื่อเป็นการทดแทนความผิดหวังในตัวพ่อ หลังจากที่เขาเผยว่าต้องรีบกลับก่อนงานเลี้ยงอันเนื่องจากความมั่นคงทางอาชีพ ซึ่งเขาก็เข้าใจในการตัดสินใจทันด่วนของลูกสาว และถึงจะทนฝืนความเสียใจไว้แค่ไหน มันก็เทียบไม่ได้เลยกับเหตุการณ์ต่อมา เมื่อการจราจรที่ติดขัดทำให้ฮาร์วี่ย์ตกเครื่องและทำให้เจ้านายถือโอกาสโทรมาไล่ออกกลางอากาศเพียงไม่กี่นาที

ไม่ว่าใครในตอนนั้นก็คงรู้สึกไม่ต่างกันมาก แล้วยิ่งเป็นชายมีอายุ ผู้แตกหักกับครอบครัวและคนรอบข้างอย่างฮาร์วี่ย์ โลกมันแทบจะพังลงมาข้างหน้าให้ได้ ยังดีที่อายุขนาดนี้บอกเราว่าเขาเคยผ่านความเจ็บปวดมาแล้ว และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ฮาร์วี่ย์จึงตัดสินใจลากสัมภาระมาที่คาเฟ่แถวนั้น เพื่อที่จะใช้เหล้าละลายความเศร้าและพยายามไม่คิดอะไรให้มากที่สุด



ในระหว่างที่ฮาร์วี่ย์กำลังใช้เบียร์ดูดซับเรื่องเศร้าอยู่นั่น Kate Walker ( Emma Thompson ) พนักงานสอบถามความพึงพอใจผู้ใช้บริการ ที่นั่งอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้หนังเปิดตัวเธอสลับกับรายแรกอย่างเนียนๆ และบอกเป็นนัยๆในหลายฉากว่าทั้งคู่อยู่แก็งค์เดียวกันได้อย่างไม่มีเอะใจ ด้วยการตัดภาพเหตุการณ์คล้ายๆกันมาต่อกัน เช่นในฉากที่ฮาร์วี่ย์หนีผู้คนจากงานแต่ง ออกมาทำใจท่ามกลางช่วงเวลาสุขสันต์ของแขกในงาน เคตก็กำลังนั่งร้องไห้ในบาร์แห่งนึงเช่นกัน และปล่อยให้เด็กหนุ่ม-คนที่เพื่อนสนิทหามาให้ดูตัว นั่งคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น ซึ่งนั่นแหละที่ทำให้เคตเศร้า เมื่อตระหนักได้ว่าช่วงเวลาทำเธออาวุโสและสร้างน้ำแข็งมาเป็นเกราะหุ้มใจเธอไว้แค่ไหน

เคตที่อยู่ในโหมดทำใจและคิดอยู่เสมอว่า อยู่กับความผิดหวังดีกว่าไปเจอความเจ็บปวดครั้งใหม่ หาทางออกด้วยการอ่านหนังสือเงียบๆกับดื่มไวน์ชั้นดีแก้เซ็งในคาเฟ่แถวที่ทำงาน ก่อนที่เธอจะไปเช้าคลาสเขียนนิยายต่อ โดยที่ไม่รู้ว่ามีใครนั่งอยู่ข้างหลัง



ฮาร์วี่ย์ที่จำหน้าเคตได้เมื่อตอนที่เขาทำมารยาทเสียใส่เธอ ยามที่ฝ่ายหลังกำลังทำหน้าที่สอบถามผู้เดินทางตอนลงจากเครื่องบิน และเขากำลังอยู่ในภาวะรีบเร่งและเหน็ดเหนื่อยเกินจะตอบคำถามใคร จึงเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการขอโทษและแนะนำตัวเอง ก่อนที่จะเล่าเรื่องเฮงซวยที่ผ่านมาไม่นานนี้ให้คนแปลกหน้าฟัง ด้วยความที่ฮาร์วี่ย์ไร้คนสนิทพอที่จะรับฟังเรื่องราว เขาจึงกล้าพอที่จะเล่าเรื่องบ้าๆนี้ให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้ฟัง และมันก็บังเอิญไปจี้ใจเคตขึ้นมา เพราะชีวิตเธอก็ไม่ต่างอะไรกันมาก ตามประสาคนเศร้าใจ ทั้งคู่หันมาระบายและหาเรื่องคุยแก้เซ็งต่อได้อีกนาน แค่เพียงมื้ออาหารเดียว ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนกันเสียแล้ว



หลังเสร็จมื้อกลางวัน ทั้งสองที่เปลี่ยนสถานะจากคนแปลกหน้ามาเป็นเพื่อนได้เพียงแค่ไม่กี่นาที ตัดสินใจเดินหน้าความสัมพันธ์ที่ไร้คำอธิบายของพวกเขาต่อไป โดยฮาร์วี่ย์อาสาที่จะเดินไปส่งเคตที่ชั้นเรียน และระหว่างทางทั้งคู่ก็ได้รู้จักกันมากขึ้น ผ่านเรื่องราวทัศนะทางสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งหนังสือ ครอบครัว ชีวิตรัก เพื่อน และชีวิตส่วนตัว ฮาร์วี่ย์ไม่อายที่จะบอกเล่าเรื่องราวชีวิตเขาให้เคตฟัง เธอเองก็เปิดเผยออกมาเช่นกัน เส้นทางที่ทั้งสองย่างก้าวไปจึงเต็มไปด้วยแสงที่สาดส่องถึง และดูอบอุ่นใจไม่น้อยผิดกับตอนแรกที่แลดูเย็นยะเยือกเกินไป เมื่อถึงชั้นเรียน ทั้งสองโบกมือร่ำลากันอีกครั้งหลังจากที่ลากันที่คาเฟ่แล้ว แต่ฮาร์วี่ย์ยังตามมาขอเดินส่งเธออีก ชายหนุ่มก็พูดออกมาโดยแทบจะไม่ต้องคิดว่าจะรอแถวนี้ และยืนกรานว่ายังอยากคุยกับเธออีก

เคตแปลกใจแต่ก็ดีใจในคราเดียวกัน เธอเรียนเสร็จแล้วก็ออกมาเดินเที่ยวกับคนแปลกหน้าเมื่อครึ่งวันเช้าอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งคู่ดูผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่เปิดอกระบายความทุกข์ไปหมดสิ้นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คือมิตรภาพและความหวังดีล้วนๆ ซึ่งมันก็ทำให้คนดูอินตามไปด้วยไม่ยาก

บทสนทนาทำให้คนดูและเคตรู้ว่าฮาร์วี่ย์กำลังสลดและเศร้าใจเกินกว่าจะไปงานเลี้ยงของลูกสาวที่เขาบอกปัดไปได้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีเวลาตลอดชีวิตไว้เพื่อลุกแล้วก็ตาม เคตรู้ดังนั้นจึงกำชับให้เขาไปให้ได้ และเธอเองเนี่ยแหละที่จะไปด้วยในฐานะเพื่อนผู้ให้กำลังใจ และในฉากต่อมาทั้งคู่ก็พาตัวเองไปงานเลี้ยง และปล่อยให้ฮาร์วี่ย์ปรับความเข้าใจกับครอบครัวจนหมดเปลือก ไร้ปัญหาใดๆทั้งสิ้น



ในเมื่อฮาร์วี่ย์แก้ปัญหาตัวเองเสร็จแล้ว เขาสำนึกและรู้สึกขอบคุณเคตมากมาย ทั้งคู่เดินออกมาจากโรงแรมและปล่อยให้ลอนดอนดอนโอบอุ้มทั้งคู่ไว้อีกครั้ง ผ่านเส้นทางที่สวยงาม สถานที่งดงามไม่ว่าจะมองยามใด ฮาร์วี่ย์พาเคตมานั่งชมน้ำพุในฉากถัดมา และบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะมาเจอเธออีกครั้ง และเมื่อถึงตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าความรู้สึกของทั้งคู่มันมากกว่าแค่เพื่อน แต่ก็ไม่มีคำนั้นจากปากของทั้งคู่ ซึ่งมันก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายกัน ในเมื่อทั้งสองก็ต่างมีความสุขกันดี และไม่ว่าจะคบกันแบบไหน ภาพที่ทั้งคู่เดินเคียงข้างไปตามท้องถนนด้วยกันก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนพออยู่แล้ว

วันรุ่งขี้นฮาร์วี่ย์ทำให้เคตเข้าใจผิดว่าจะไม่มา อันเนื่องจากอาการปวยที่หัวใจกำเริบ แต่ทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกันในฉากสุดท้าย เมื่อเขามารอเคตที่หน้าชั้นเรียนเช่นเคย และอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน เคตเข้าใจดีและไม่โกรธเคืองแต่อย่างใด ทว่าเธอกลับเกิดอาการกลัวที่จะเปิดรับใครขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเมื่อครั้งอดีตเธอเคยช้ำรักมาแล้ว และในครั้งนี้ด้วยวัยๆนี้ เคตตระหนักได้ว่าเธอไม่กล้าพอที่จะลองรักเหมือนวัยรุ่นอีกต่อไป อย่างที่บอกไว้ข้างต้น เธอยอมอยู่กับความผิดหวังตลอดมาและตลอดไปดีกว่า

ฮาร์วี่ย์ที่มั่นใจในความรู้สึกมากๆค่อยๆพูดกับเคต และค่อยๆทำให้เธอคิดได้ว่า การเปิดใจรับโอกาสใดๆนั้นไม่ได้จำกัดไว้ที่วัยไหน หรือแค่ใคร แต่เป็นทุกคนต่างหากที่สามารถที่จะเปิดรับโอกาสได้ไม่แพ้กัน อย่างที่เราเดินเล่นและคุยกันเหมือนเด็กๆเหมือนไม่กี่วันนี้ไง

เคตหยุดคิดซักพักและเธอก็ยิ้มออก.....เคตค่อยๆลุกขึ้น และจับมือฮาร์วี่ย์ในที่สุด

ทั้งสองค่อยๆเดินเคียงคู่กันไปเรื่อยๆ เอียงคอคุยกันเงียบๆเสมือนว่าโลกนี้มีแค่สองเรา แล้วทั้งคู่ก็เดินจับมือสนทนากันไปตลอดทาง... ... ..ด้วยกัน..... .. ... .. .. . . .

████ บุปผาราตรี 3.1 :: บุปผาอาละวาดฟาดเงินสองเด้ง ████



ภาพโปรโมท จะคลิป จะรูปภาพหรือใบปิดที่ดึงดูดความสนใจชาวประชาด้วยการให้ผีบุปผามาปาดคอมาริโอ้กันจะๆ แล้วไหนจะผีเด็กสมาชิกใหม่ที่มาเพิ่มดีกรีความโหดกันตรงๆ กับการเป็นหนังภาคต่อที่ได้รับความนิยมมาตลอด แถมยังเป็น 3.1 ด้วย จึงไม่แปลกใจที่ในช่วงแรกหนังจะได้แฟนๆแห่ไปดูกันอย่างล้นหลาม แต่รายได้ที่ลดฮวบในสัปดาห์ต่อมาอย่างน่าใจหาย น่าจะมาจากตัวหนังเองที่ลวงคนดูไปดูหนัง ที่บิดเบือนไปจากหน้าหนังพอสมควร แล้วเนื้อในก็ไม่ได้ดีเด่นจนน่าอภัยเหมือนรักแห่งสยาม...หนังแจ้งเกิดของมาริโอ้ ที่ได้รุ่นพี่พลอยมาช่วยเสริม

ที่แน่ๆเลยคือภาคนี้มีปัญหา ใหญ่สุดคือการหั่นหนังออกเป็นสองตอนโดยไม่จำเป็น เพราะดูๆแล้วภาคนี้น้ำมากกว่าเนื้อ ดังนั้นแสดงว่าภาคสองต้องเข้มข้นสุดๆ ยุทธเลิศถึงจะหลุดพ้นข้อกล่าวหาต้มตุ๋นคนดูไปได้ ( ยังต้องรอดูและนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผมยอมเข้าไปดูตอนสองได้ ) เพราะตอนแรกนี้ทำได้เจ็บแสบไม่น้อยซะเลย



ตั้งแต่การโปรโมทที่มุ่งเน้นไปที่พระนาง แต่ที่จริงเด่นแค่เด็กผีตัวเดียว , มุขตลกคาเฟ่เน่าๆที่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในหนังยุทธเลิศ , หลายฉากในตัวอย่างที่ไม่มีในตอนนี้ , ความโหดที่เทียบไม่ได้กลับความน่ากลัวในภาคแรก และถ้าเอาเข้าจริง ก็สามารถตัดต่อให้เหลือชั่วโมงเดียวได้ ( ถ้าให้ผกก.หญ้าเขียวตัดต่อล่ะก็ อาจจะได้บุปผาความยาวครึ่งชั่วโมงก็เป็นได้ )



นอกนั้นหนังก็แค่พอดูได้และยังมีส่วนดีอยู่บ้าง ไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก อาทิเช่น มุขล้อเลียนหนังรักตัวเองเรื่อง รัก/สาม/เศร้า ที่เล่นเอาคนดูฮากันทั้งโรง กับมุขแซวนักการเมืองที่จับเอาหมอผีหน้าคุ้นมาลงสมัครสนามเกมการเมือง แล้วนโยบายในการหาเสียงก็คือการพาดพิงไปถึงบุคคลสองหน้า ทั้งเหลี่ยมและหล่อ ที่หมอผีอ้างว่าไม่ว่าหน้าไหนๆก็โกงทั้งนั้น ดังนั้นจงเลือกผมดีกว่า ที่ทั้งไม่หล่อไม่เหลื่ยม แล้วจะไปโกงพ่อโกงแม่คุณได้ไง...แสบมาก กับการแอบหยอกล้อคนเสื้อสีเล้กน้อย ในฉากที่สองสามีตบตีกัน โดยผกก.แอบเนียนให้สองคนนี้โพกผ้า เหลือง-แดง...คงตีกันตายอะ

จะมีก็แค่หงุดหงิดใจที่มันน่าจะออกมาดีกว่านี้ ถ้าผกก.ไม่รีบทำมันออกมาเพื่อผลประโยชน์การค้าซะก่อน ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าถ้าคุณยุทธเลิศให้เวลามากกว่านี้ บุปผาภาคนี้ต้องเข้มข้นและสนุกไม่แพ้ภาคแรกแน่นอน

แต่ที่เห็นมันก็แค่ความไม่สมบูรณ์เต็มร้อยที่ถูกปล่อยออกมาอาละวาดกระเป๋าตังคนดู ด้วยเหตุนี้จึงสามารถกล่าวได้ว่า ภาคนี้บุปผาน่ากลัวที่สุด แต่ไม่ใช่ที่หนังนะ!!

████ แต๋วเตะ**ระเบิด :: ตลก ตูด แต๋ว ████



แปะป้ายว่านี่เป็นหนังของ ' พจน์ อานนท์ ' ก็ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจ เพราะถึงแม้จะไม่ใช่คนที่เทิดทูนหนังพี่แก หรือเหยียดหยามอะไรมาก แต่ทุกครั้งที่พี่แกมาพร้อมหนังเรื่องใหม่ ย่อมได้กระแสตอบรับกลับไปอย่างล้นหลามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางฝ่ายไหนก็ตาม จนสามารถพูดได้ว่ามันเป็นปรากฏการณ์ในแต่ละครั้ง เพราะเสียงคนชื่นชอบก็ดูแล้วก็น่าจะพอๆกับคนที่ไม่ชอบเหมือนกัน ทั้งๆที่หนังของเขาก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรมาก แต่แน่ล่ะ มันก็ไม่ได้ดีเด่นทิ่มตาอะไร มิหนำซ้ำหนังของคุณพจน์ยังสร้างมาเพื่อตอบสนองแฟนคลับตัวเองอีกด้วย อันจะประกอบไปด้วยเหล่าเพศที่มากกว่าสองไปเรื่อยๆ ส่วนวัยรุ่นหนุ่มสาวก็อาจจะแวะเวียนเข้ามาดูหนังตามโอกาสเป็นครั้งคราว และอาจจะกล่าวได้อีกว่ามีคนที่ตามดูทั้งที่ใช่และไม่ใช่แต๋วอยู่เหมือนกัน แต่จะด้วยเหตุผลอะไรนั้นสุดจะรู้พะย่ะค่ะ

หนังเรื่องใหม่ที่หากินกับคำว่า " แต๋ว " นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับหนังเรื่องก่อนๆ ทั้งมุขตลกเป็นฉากๆ บทที่เขียนไปกำกับไป นักแสดงเน้นหน้าตาดีและบ้างฉายแววความเป็นกระเทย หรือเนื้อเรื่องที่เดาได้ไม่ยากและเต็มไปด้วยหลุมบ่อจำนวนมหาศาล



แต่ที่หนังของคุณพจน์ยังคงมีพื้นที่เจิดจรัสอยู่ได้ ก็เพราะความเป็นตัวของเขาเองเนี่ยแหละ คือไม่ว่ามันจะดูย่ำแย่ในสายตานักวิจารณ์อย่างไร ความฮาในระดับเกือบเสียสติก็ยังสร้างเสียงหัวเราะให้คนไทยได้เสมอมา ซึ่งบางมุขก็ใช้ได้ผล บ้างก็แป๊ก บ้างก็แย่ขั้นสาปแช่ง แต่สุดแล้วจะมอง ยังมีคนบางกลุ่มที่สนุกกับการดูผลงานโลโก้พจน์ อานนท์อยู่ร่ำไป ซึ่งไม่ใช่เพราะตัวหนังมันสนุกหรือตลก แต่ขำเพราะความไม่สมประกอบของหนัง คือหลุดสุดๆจนทำให้ฮาได้.....อนาถนะเนี่ย

แต่ก็ยังมีบางพวกที่เข้ามาดูอย่างอื่น นอกจากหวังแค่เสียงฮาอย่างเดียว ก็คือเข้ามาจ้องฉากโชว์บั้นท้ายที่แทบจะปรากฏอยู่ในงานทุกชิ้นของพี่แก เสมือนเป็นยี่ห้อแปะหน้าตัวอย่างไว้ยั่วยวนคนดูสีม่วงทั้งหลายให้เข้ามาส่องตุดบนจอใหญ่...อนาถกว่า ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าใช้ได้ผลมั้ย แต่ก็อย่างที่รู้กันว่ามีคนเคย ' เกิด ' จาก ' ก้น ' มาแล้ว ทั้งๆที่ออกมาไม่กี่ฉาก แต่กลับเป็นที่กล่าวขานในฉากพิศดารนั้นมากมายในหลายเว็บบอร์ด จะเป็นใครนั้นคงเดาไม่ยาก ใบ้ให้ว่าจากเรื่องหอแต๋วแตก



หนังเองก็ยังมีส่วนดีอื่นๆเช่นกัน นอกจากความเสื่อมเสียที่บอกไว้เมื่อข้างต้น อย่างน้อยที่สุด เสียงหัวเราะที่วัดได้จากหลายฉากก็น่าจะทำให้หลายคนอารมณ์ดีขึ้นมาได้ ก็น่าจะเป็นข้อดีได้ และยังมีฉากล้อคนเสื้อสีกับการเมืองอยู่นิดๆ คือในฉากฟาดแข้งที่ล้อเลียนเรียกเสียงฮากันตรงๆที่การตั้งชื่อ ให้เข้าใจผิดว่าไปข้องเกี่ยวกับกลุ่มคนทางการเมือง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ

และเราก็สามารถสรุปได้ว่าหนังของคุณพจน์มีส่วนสร้างมาเพื่อการค้าอยู่พอสมควร ซึ่งมันก็ควบคู่ไปกับแนวทางการสร้างหนังของผู้กำกับมากเด็กในสังกัดคนนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะ ตลก...ธีมหลักและในหลายๆฉาก ตูด....โผล่มาเรียกลูกค้าและสนองความต้องการกันทั้งคนดูและคนทำ?? แต๋ว.....เพศที่ผกก.มักนำมาใช้เป็นตัวดำเนินเรื่อง และหลายครั้งถูกนำมาสร้างภาพให้เข้าใจว่าเฮฮาไปวันๆ เป็นความคุ้นชินของคนดูและเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด

ส่วนใครจะยึกหลัก 3 ต. นี่ก็ไม่ว่า เพราะดูแล้วคงมีแต่คุณพจน์เท่านั้นที่เจนจัดของจริง !!!

████ ใหญ่แค้นเดือด :: ' ฟัด ' ที่หายไป แต่ยัง ' ใหญ่ ' เหมือนเดิม ████

Spoil!

กระแสตอบรับหนังเฉินหลงเรื่องใหม่ที่สู้เรื่องก่อนๆไม่ได้ น่าจะอธิบายด้วยเหตุผลง่ายๆไม่กี่ข้อ ข้อแรกเลยพี่เฉินในเรื่อง " ใหญ่แค้นเดือด " นี้ มาดขรึมสุดๆ ใบปิดมืดหม่นสุดๆ และแทนที่จะได้ยินคำว่า " ฟัด " เหมือนทุกที กลับเป็นคำว่า " แค้น " ที่เข้ามาเสียบแทนซะงั้น ข้อสองพฤติกรรมตัวละครกับความสามารถในการป้องกันตัว ที่เรียกได้ว่าคนละขั้วกับเรื่องก่อนๆอย่างสิ้นเชิง ซึ่งคงเป็นบทที่ได้รับ มันเป็นชาวจีนที่แอบลักลอบขึ้นฝั่งประเทศญี่ปุ่น...แค่ขื้นเรื่องก็ผิดกฏหมายแล้ว เหอๆ



รวบรัดเลยละกัน เฉินหลงในเรื่องนี้คือชายหนุ่มที่เป็นแค่ประชาชนระดับรากหญ้า ไม่ได้มีสิทธิพิเศษติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทั้งลีลากังฟูหรือหน้าตาทางสังคม เหตุผลการตามหาคนรักในเกาะญี่ปุ่นของพี่เฉินนั้นเป็นเป้าหมายที่แตกต่างจากคนอื่นที่หนีขึ้นประเทศมาด้วยกันอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่แรก และถึงจะไม่ได้หวังจะกอบโกยความรวยจากดินแดนเพื่อนบ้านนี้ ในเวลาไม่นานพี่เฉินของเราก็ยอมทำเรื่องผิดศีลธรรมเล็กๆน้อยๆที่รุ่นพี่ชาวจีนหยิบยื่นให้ เพื่อความอยู่รอดของชีวิตและความมั่นคงของเพื่อนพี่น้อง แต่ใครจะรู้ว่าการเริ่มต้นบนเส้นทางผิดกฏหมายนี้จะเป็นแค่ก้าวแรกที่พาไปสู่การทำอาชญากรรมขั้นรุนแรงต่อไป!!



กิจการโกงเล็กกินน้อยของพวกพ้องอาเฉินแผ่ขยายและรุ่งเรื่องในเวลาไม่นาน ซึ่งนอกจากจะทำให้พวกเขามีที่ทางทำกินบนหนทางสุจริตได้แล้วนั้น มันยังส่งผลไปถึงแก็งค์ยากูซ่าขาใหญ่เจ้าของพื้นที่อีกด้วย ทำให้มีเรื่องขัดผลประโยชน์กัน จึงมีเรื่องทะเลาะกันตามมา ก่อนจะลุกลามไปกันใหญ่ในตอนท้าย คือมีคนตายเพราะน้ำมือพี่เฉิน และเมื่อถึงจุดนีแล้ว ไม่ว่าใครก็ย้อนกลับไม่ได้ พี่เฉินตัดสินใจทำเลวให้ถึงที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ใหญ่โตและมีอำนาจมากพอที่จะสร้างอาณาจักรให้ลูกน้องตัวเองอยู่อย่างปลอดภัยได้ และสำคัญสุดคือจะได้เริ่มทำงานถูกกฏหมายโดยไม่ต้องมีเรื่องกังวลอีกต่อไป

แต่อย่างที่ศาสนาพุทธว่าไว้ ถึงพี่เฉินจะหวังดี แต่การกระทำของพี่มันไม่ถูก ผลที่ตามมาจึงเลวร้ายพอกัน ลูกน้องคนสนิทหักหลังและฆ่ากันเองเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ก่อนที่ฉากสุดท้ายจะมาถึงและคร่าชีวิตเพือนพี่น้องไปหลายสิบศพ รวมถึงตังเขาเองด้วย



ความที่พี่เฉินในเรื่องนี้มาในแนว โหด เลว ( แต่เจตนา ) ดี ทำให้ผลกรรมตามถึงในตอนท้าย และไม่ว่าจะเจตนาดีแค่ไหน ถ้าหนทางที่ได้มามันผิด ใครที่เดินบนเส้นทางนี้ก็ไม่มีทางเจริญขึ้นมาได้

ที่น่าชื่นชมคือผกก.เลือกที่จะปล่อยให้ตัวพระเอกเป็นมนุษย์คนนึงที่มีทั้งด้านมืดด้านสว่าง และถึงจะคิดดีก็ยังต้องเผชิญผลกรรมของตัวเองที่ทำไว้ได้อยู่ดี ไม่เหมือนเรื่องอื่นที่พระเอกจะฆ่าผู้ร้ายตายห่-าไปร้อยศพแค่ไหน ก็ไม่เป็นไร แต่เฉินหลงในเรื่องนี้คือปุถุชนคนนึงที่มีเลือดเนื้อรวมไปถึงกิเลสตัณหา ทำให้ชะตากรรมในตอนท้ายเรียกน้ำตาและความสงสารไปได้อย่างพร้อมเพรียง

ส่วนแฟนเก่าจะปลื้มมาดใหม่พี่เฉินหรือไม่ คงไม่ต้องออกแรงเดา แต่อย่างน้อยการพลิกโอกาสมารับบทที่แตกต่างในครั้งนี้ บอกได้เลยว่าถึงจะไม่ฟัดเหมือนก่อน แต่พี่แกยังใหญ่เหมือนเดิม...หมายถึงฝีมือน่ะ อย่าคิดมาก

▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌ ▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌█▌█ ▌█┇▌█▌██▌█▌█┇█▌▌█▌█┇█▌

N@gaZine ร่วมกับบอร์ดภาพยนตร์ สยามโซน ( ตอนไหนวะ ) สร้างกิจกรรม " ตั้งชิงโชค " เพื่อกระตุ้นยอดขายสบู่ เอ้ย กระตุ้นเพื่อนร่วมบอร์ดให้ออกมาตั้งกระทู้ดีๆ สร้างความสามัคคีพี่น้อง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

♣ ผู้ร่วมสนุกต้องเป็นมนุษย์ที่สมัครสมาชิกสยามโซนและมีความสามารถในการตั้งกระทู้
♣ คนที่ตั้งกระทู้ข่าวจะได้แต้มสะสมคนละ 1-10 แต้ม โดยถ้านำบทความที่อื่นมาลงจะได้ 1 แต้ม แต่หากเขียนเองจะได้ 10 แต้ม นอกนั้นคะแนนเป็น 0
♣ สะสมแต้มไปเรื่อยๆนับตั้งแต่กระทู้นี้ตั้ง จะมีทีมงานคอยสอดส่องและจดบันทึกการทำแต้มของแต่ละคน
♣ และจะประกาศคะแนนสะสมใน N@gaZine ฉบับต่อไป
♣ จนถึง