ละคร เจ้าบ้าน เจ้าเรือน

ดู 5,192 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันพุธ วันพฤหัส
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 3
เริ่มออกอากาศ 2 มีนาคม 2559
เวลาออกอากาศ 20:15 - 22:45 น.
  
กำกับโดย รัญญา ศิยานนท์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ แก้วเก้า, บทโทรทัศน์ ปราณประมูล
นำแสดงโดย
เจษฎาภรณ์ ผลดี ... ไรวินท์
ศรีริต้า เจนเซ่น ... แพรขาว
รินลณี ศรีเพ็ญ ... สีนวล
พศุตม์ บานแย้ม ... สาโรจน์
ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง ... พัสกร
น้ำฝน กุลณัฐ ... เขมินี
ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ... ดิว
เจสัน ยัง ... ลลิต
ศุภักษร ไชยมงคล ... มาตา
ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล ... มาลาตี
ดุสิตา อนุชิตชาญชัย ... สุดสวาท
ปริญญาฉัตต์ ไพรหิรัญ ... รำไพ
รัดเกล้า แจ่มอุลิตรัตน์ ... บัวน้อย
ขวัญฤดี กลมกล่อม ... คุณนายวารี
ศุกล ศศิจุลกะ ... แรม
รมิดา ประภาสโนบล ... อาน้อย
ไปรมา รัชตะ ... มะลิ
สมมาตร ไพรหิรัญ ... หลวงไผท
ปาริฉัตร ไพรหิรัญ ... ประสม
ดวงตา ตุงคะมณี ... คุณนายแถบทิพย์
จิรดา โมแรน ... ชมพู
นันทวัน เมฆใหญ่ ... ยายเกสร
ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์ ... ป้าสมพร
ณัฐนี สิทธิสมาน ... ประไพ
วิมลพรรณ ชาลีจังหาญ ... ปี
ณัฐฐิรา จิวระโมไนย์กุล ... นลิน
กันต์ดนย์ อะคาซาน ... ป๊อป
ศศิมา สุรทรัพย์มณี ... จารุวรรณ
สุรินทร คารวุตม์ ... ต๊อก
บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ ... เจ๊ยอด
ปรารถนา สัชฌุกร ... หวานหวาน
อรัญญา ประทุมทอง ... เนย
เสกสรร สุทธิจันทร์ ... เท็น
สุกัญญา นาคสนธิ์ ... ป้าใหญ่
น้ำเงิน บุญหนัก ... คุณหญิงจีบ
นฤมล นิลวรรณ ... แม่ชีบุญมา
วุฒิ คงคาเขตร ... ลุงแคล้ว
คุณากร เกิดพันธุ์ ... อาเผดิม
อมรเทพ ศุภพร ... เสมียนชาย
ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล ... เล็ก
นินท์วริศ กิตติชัยวรางค์กูร ... ไรวินท์ตอนหนุ่ม
เปมิกา วรรณสนธยา ... ยัยหนู
ธิติวัฒน์ ลิ้มพิมพ์เพราะ ... ไรวินท์ตอนเด็ก
จักริน โมแรน ... ลูกชายชมพู
ผู้สร้าง บริษัท ฮู แอนด์ ฮู จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ เจ้าบ้าน เจ้าเรือน

แพรขาว (ศรีริต้า เจนเซ่น) หญิงสาวที่มีลูกติดคือ ชมพู (จิรดา โมแรน) ต้องออกมาจากคฤหาสน์ของ คุณนายแถบทิพย์ (ดวงตา ตุงคะมณี) เมื่อ พัสกร (ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง) สามีของเธอคว้า ดิว (ศกุนตลา เทียนไพโรจน์) สาวในร้านคาราโอเกะมาทำภรรยา และหอบหิ้วลูกน้อยมาอีกหนึ่งคน อ้างว่าเป็นลูกของพัสกร แพรขาวจึงไปเช่าบ้านของ ยายเกสร (นันทวัน เมฆใหญ่) มี ป้าสมพร (ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์) และ นลิน (ณัฐฐิรา จิวระโมไนย์กุล) อยู่ด้วย ถึงแม้เขมิกา พี่สาวของพัสกร จะยื่นข้อเสนอให้แพรขาวเอาชมพูไปอยู่ที่คอนโด แล้วจะเป็นคนส่งเสียให้ชมพูเรียนหนังสือ แต่แพรขาวก็ไม่ยอม พัสกรจะเอาลูกกลับมาอยู่กับตนให้ได้ ถึงขนาดตามไปอาละวาดกับแพรขาวยื้อแย่งตัวชมพูทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน แต่ก็ไม่สำเร็จ เขมิกาให้ สาโรจน์ (พศุตม์ บานแย้ม) ทนายความประจำบริษัทไปช่วยแพรขาวไว้ เพราะสาโรจน์ให้เหตุผลว่าแพรขาวมีสิทธิ์ในตัวชมพูมากกว่าใคร หรือแม้กระทั่งวันที่พัสกรมาอาละวาดที่บ้าน ไรวินท์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) วิญญาณเจ้าบ้านเจ้าเรือนที่แพรขาวอาศัยอยู่ก็ออกมาช่วยแพรขาว ปกป้องชมพูอีกแรง จนพัสกรต้องล่าถอยกลับไป ไรวินท์อยู่คอยเป็นเพื่อนเล่นกับชมพูอยู่เสมอ ในยามที่แพรขาวไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว จวบจนกระทั่ง ลลิต (เจสัน ยัง) นักธุรกิจหนุ่ม มาซื้อที่ฝั่งตรงข้ามบ้านเช่าของแพรขาวเพื่อทำสปา ลลิตเห็นความงามในตัวแพรขาว ลงทุนมาหาแพรขาวถึงบ้านเพื่อชวนไปทำงานที่สปาในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ไรวินท์ท้วงติง ด้วยความเป็นห่วงไม่อยากให้แพรขาวไปทำงานกับลลิต แต่แพรขาวไม่ฟัง เพราะเธอกำลังขัดสนเรื่องเงิน ลลิตสะกดจิตแพรขาวตั้งแต่วันแรกที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับแพรขาว โชคดีที่ไรวินท์ให้ชมพูนำกุหลาบขาวของไรวินท์ติดตัวไป เลยทำให้แพรขาวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

นลินเห็นแพรขาวยืนพูดอยู่คนเดียวจึงเริ่มสงสัย เลยถามแพรขาวว่าคุยอยู่กับใคร แพรขาวจึงบอกกับนลิน ยายเกสร และป้าสมพร ว่าคุยกับไรวินท์ ทุกคนฟังแล้วอึ้ง จนขนหัวแทบลุก สุดท้ายยายเกสรจึงเล่าความจริงให้ฟังว่า ไรวินท์ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือนอยู่ที่บ้านหลังนี้ หลังจากที่ในสมัยยังสาวยายเกสรได้ซื้อเรือนไม้เก่าๆ ในราคาถูก มาปลูกที่บ้านหลังนี้ แล้วไรวินท์ก็เป็นวิญญาณมาช่วยดูแล ปกป้อง คนในครอบครัวไว้หลายครั้ง พร้อมทั้งมาเข้าฝันให้ยายเกสร สร้างเรือนให้อยู่แยกออกไปจากเรือนใหญ่ ซึ่งก็คือศาลเจ้าบ้านเจ้าเรือนจนถึงปัจจุบัน เมื่อได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างแพรขาวถึงกับอึ้งไป นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ชมพูตกลงไปในน้ำตั้งแต่วันแรกที่มาถึง และไรวินท์ช่วยชีวิตชมพูเอาไว้ หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่พัสกรมาอาละวาดที่บ้านจนไรวินท์ช่วยไว้ได้อีก หลังจากนั้นไรวินท์ก็เริ่มเล่าเรื่องอดีตให้กับแพรขาวฟัง ว่าทำไมวิญญาณเขาถึงติดอยู่ที่นี่ เริ่มตั้งแต่ แรม (ศุกล ศศิจุลกะ) พ่อของเขา ซึ่งเป็นนักเรียนกฎหมายไปสอนหนังสือพิเศษให้กับ เล็ก (ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล) น้องชายของ วารี (ขวัญฤดี กลมกล่อม) แม่ของไรวินท์ วารีตกหลุมรักแรมตั้งแต่นั้นมา จนแรมเรียนจบกฎหมายได้เป็นทนายความที่สำนักกฎหมาย จวบจนคุณย่าของวารีเสียชีวิต ซึ่งวารีดูแลจนถึงวาระสุดท้าย จึงได้มรดกมากมายจากย่า จนสามารถตั้งตัวได้ ทำให้หญิงใหญ่กับวีณา น้องสาวของวารีไม่พอใจ สุดท้ายทั้งหญิงใหญ่และวีณาก็ออกเรือนไปหมด แล้ววารีก็ได้แต่งงานกับแรมในที่สุด จนมีลูกด้วยกันคือ ไรวินท์ (ธิติวัฒน์ ลิ้มพิมพ์เพราะ) แล้ววีณาก็เลิกกับสามีมาอยู่ที่บ้านของวารี แรมกับวีณามีความสัมพันธ์กันลับๆ แล้วแรมก็ยอมรับความจริงกับวารีในที่สุด วารีเจ็บปวดแต่ก็จำทน จนแรมถูกย้ายไปทำงานที่กำแพงเพชร วีณาก็ตามไปอยู่ด้วย นานๆ ที แรมกลับมาหาวารีสักครั้ง แต่วารีก็ยังรักแรมเช่นเดิม ความสัมพันธ์ของไรวินท์กับพ่อจึงห่างเหิน มีเพียง คุณหญิงจีบ (น้ำเงิน บุญหนัก) ผู้เป็นยาย และน้าเล็ก คอยดูแลเอาใจใส่ไรวินท์เสียยิ่งกว่าไข่ในหิน

คุณหญิงจีบยกทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้กับวารี รวมทั้งในส่วนของวีณาด้วย เพราะผิดที่วีณาแย่งสามีของวารีไป ต่อมา ไรวินท์ (นินท์วริศ กิตติชัยวรางค์กูร) เริ่มโตเป็นหนุ่ม เล็กก็เสียชีวิตลง เขายกสมบัติทั้งหมดให้กับไรวินท์เพียงผู้เดียว รวมทั้งเรือนใหญ่ด้วย แรมยังคงใช้ชีวิตอยู่กับวีณาที่กำแพงเพชร แต่หน้าที่การงานไม่ได้เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร เพราะวีณายังทำตัวเป็นคุณนาย ดูถูกคนจน ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานหรือชาวบ้านได้สักคน สุดท้ายวีณาทนความเงียบเหงาอยู่ต่างจังหวัดไม่ไหว จึงให้แรมย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ แต่ทำเรื่องยื่นไปเท่าไรก็ไม่เป็นผล สุดท้ายแรมจึงลาออกจากราชการ กลับมาทำงานที่สำนักงานทนายความที่กรุงเทพฯ แทน แรมกลับมาที่บ้านวารีดีใจมาก แต่ไรวินท์กลับมีท่าทีห่างเหิน เพราะเสียใจที่พ่อทิ้งแม่ไป แรมขอกลับมาอยู่เรือนใหญ่พร้อมกับวีณา แต่ไรวินท์ไม่ยอมเพราะตอนนี้เขาถือสิทธิ์ขาดในเรือนใหญ่ที่เล็กยกให้ แรมโกรธตรงเข้าทำร้ายไรวินท์ วารีเข้าช่วยจึงได้รับบาดเจ็บ ไรวินท์โกรธพ่อ สงสารแม่จับใจ ยื่นคำขาดให้พ่อกลับมาอยู่ได้เพียงคนเดียว ไม่นับญาติกับวารีอีก แรมกลับไปด้วยความแค้น เงินทองที่ได้จากการทำงานก็ต้องไปเช่าบ้าน จ่ายค่าเลี้ยงดู ค่าแต่งตัวให้กับวีณา จนสุดท้ายวีณาทนไม่ไหวไปมีสามีใหม่ทิ้งให้แรมอยู่ลำพัง เจ้าของสำนักงานทนายความก็เสียชีวิตลง แรมเลยกลายเป็นคนตกงานตอนใกล้เกษียณ ติดเหล้า ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างน่าเวทนา ไรวินท์ขายเรือนหลังใหญ่ที่เล็กยกให้ แล้วตนเองกลับมาอยู่เรือนเล็กกับแม่ ไรวินท์เรียนจบรัฐศาสตร์และเข้ารับราชการที่กระทรวงมหาดไทย ท่านเจ้าคุณที่ซื้อเรือนไปย้ายเข้ามาอยู่ เขามีลูกสาวสามคน สองคนแรกออกเรือนไป เหลือเพียง สีนวล (รินลณี ศรีเพ็ญ) ลูกสาวคนสุดท้อง วารีแม่ของไรวินทร์อยากให้ไรวินท์แต่งงานกับสีนวล ผู้หญิงที่พร้อมทุกอย่าง ไรวินท์ตามใจแม่เพราะไม่อยากให้เสียใจ ตกลงใจแต่งงานกับสีนวลในที่สุด ทั้งๆ ที่ไม่ได้รัก ป้าของวารีเล่าให้ฟังว่า วีณากลายเป็นง่อย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ น่าเวทนายิ่งนัก ไรวินท์แอบไปหาพ่อเห็นสภาพพ่อก็ทนไม่ได้ แอบส่งเสียหาที่พักให้ใหม่ สร้างความสุขใจให้กับแรมมาก แรมเตือนสติไรวินท์ว่าแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักอาจทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นตามมา

ไรวินท์ยังคงเล่าถึงอดีตต่อไปเรื่องที่เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงถึง 3 คนด้วยกันก่อนที่จะมาแต่งงานกับสีนวล เริ่มตั้งแต่ บัวน้อย (รัดเกล้า แจ่มอุลิตรัตน์) สาววัยรุ่นร้านขายข้าวแกงที่ตกหลุมรักไรวินท์ จนเขาพาไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกันลับๆ และไรวินท์ยังให้บัวน้อยดูแลพ่อของตนเองด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างแรมและไรวินท์จึงเริ่มดีขึ้น ส่วน รำไพ (ปริญญาฉัตต์ ไพรหิรัญ) น้องสาวของสนอง เพื่อนรักของไรวินท์ ที่มีปัญหากับพี่สะใภ้จนต้องหอบน้องชายอีกสองคนระเหเร่ร่อนออกมาจากบ้าน ไรวินท์จึงช่วยเหลือและอยู่กินกับรำไพด้วยอีกคน และคนสุดท้าย สุดสวาท (ดุสิตา อนุชิตชาญชัย) ลูกสาวของหลวงพิทักษ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ในกรมปลัดมหาดไทย คนนี้ถึงแม้ไรวินท์จะไม่ได้รักนัก แต่ด้วยความมีหน้ามีตาทางสังคมและไรวินท์เกรงจะมีผลกระทบเรื่องหน้าที่การงาน เขาจึงคบหากับสุดสวาทด้วยอีกคน แพรขาวไม่ชอบใจที่ไรวินท์ทำตัวเจ้าชู้ จึงต่อว่าเขาอยู่หลายครั้ง ไรวินท์ได้พบกับ มาลาตี (ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล) และหลงใหลเธอมากจนไม่ได้มาดูแลบัวน้อย สุดท้ายบัวน้อยจึงแต่งงานไปกับคนอื่น ทิ้งให้แรมอยู่บ้านเช่าเพียงลำพัง ไรวินท์ส่งตัวแรมไปโรงพยาบาล โดยให้รำไพมาเฝ้าไข้แทน วารีมาเยี่ยมไข้แรมจึงได้พบกับรำไพ รู้ว่ารำไพเป็นเมียน้อยของไรวินท์ วารีพูดให้รำไพคิดว่าอย่าทำผิดต่อลูกเมียของไรวินท์ ที่ตอนนี้สีนวลกำลังตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว สีนวลเองก็เสียใจจนบอกไม่ถูก วารีพูดอโหสิกรรมให้กับแรมในทุกสิ่งที่ผ่านมา แล้วแรมก็เสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น รำไพตัดใจจากไรวินท์ในที่สุด เขียนจดหมายลาให้ไรวินท์แล้วจากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่

เขมิกาสงสัยว่าลูกของดิวจะไม่ใช่ลูกของพัสกร จึงหาวิธีจะตรวจดีเอ็นเอเด็ก ดิวรีบเอาลูกหนีไปอยู่กับสามี ทำให้พัสกรว้าวุ่นใจมาก แต่ดิวทนความลำบากไม่ไหวเพราะ ไม่มีเงินทองใช้ เลยกลับมาติดต่อพัสกร พอดีลูกป่วยเลยต้องให้พัสกรพาไปโรงพยาบาล แถบทิพย์ เขมินี (น้ำฝน กุลณัฐ) สาโรจน์ดีใจมาก เพราะจะได้พิสูจน์ดีเอ็นเอของเด็กไปด้วย ผลพิสูจน์ปรากฏว่า ลูกของดิวไม่ได้เกิดกับพัสกร แถบทิพย์เสียใจมาก ดิวก็รีบพาลูกหนีไปเพราะกลัวความผิด ส่วนลลิตก็ไปติดต่องานต่างประเทศให้ มาตา (ศุภักษร ไชยมงคล) ดูแลกิจการสปาแทน พนักงานสาวๆ ถูกไล่ออก แพรขาวเริ่มหนักใจ พอดีสาโรจน์ยื่นข้อเสนอเรื่องงานใหม่ เงินเดือนงาม ทำเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ให้กับแพรขาว เธอจึงตัดสินใจออกจากลลิตสปา ย้อนไปในอดีตสีนวลเจ็บท้อง วารีว้าวุ่นใจ ไม่มีรถพาไปโรงพยาบาล จึงให้เด็กรับใช้ไปตามหมอตำแยแถวบ้านมาช่วยทำคลอดให้ สีนวลคลอดลูกสาวปลอดภัยดีทั้งแม่และลูก ไรวินท์เริ่มรักลูกสาวมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ใยดีกับสีนวลนักก็ตาม สีนวลแอบร้องไห้เสียใจอยู่บ่อยๆ แล้วคดีความเรื่องพินัยกรรมก็ตัดสิน สุดสวาทเป็นฝ่ายชนะเพราะหลักฐานยืนยันว่า พินัยกรรมของมาลาตีเป็นของปลอม สุดสวาทได้ทรัพย์สินทั้งหมดไป มาลาตีบีบน้ำตากับไรวินท์จนเขาใจอ่อน แล้วทั้งสองก็มีความสัมพันธ์กัน สีนวลสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนไปของไรวินท์ เริ่มระแวง เคียดแค้นไรวินท์มากขึ้นทุกวัน ที่ไม่ใยดีตน

ลลิตพยายามจะปลุกปล้ำแพรขาว แต่ ต๊อก (สุรินทร คารวุตม์) ช่วยเอาไว้จนถูกยิงตาย พอดีมาตาเข้ามา แพรขาวเลยหนีกลับบ้านไป ไรวินท์เป็นห่วงแพรขาวมาก นลิน พาแพรขาวไปแจ้งความ ลลิตกับมาตาตามไปที่โรงพัก หาว่าแพรขาวเข้าไปขโมยของ สาโรจน์มาช่วยแพรขาวอีกแรง ด้วยความอ่อนล้าหมดแรงทำให้แพรขาวหมดสติไป สาโรจน์นำตัวแพรขาวส่งโรงพยาบาล รุ่งขึ้นเมื่อแพรขาวอาการดีขึ้นจึงไปรับชมพูพร้อมกับสาโรจน์ พบพัสกรที่จับตัวดิวขังไว้ เขมินีพยายามจะช่วยดิวออกมา แต่พัสกรมีปืน แพรขาวตกใจจนแทบเป็นลม โชคดีที่สาโรจน์ช่วยไว้แล้วปืนในมือพัสกรก็ตกลงพื้น ดิวหยิบขึ้นได้ยิงเข้าใส่พัสกรเข้ากลางอก พัสกรเสียชีวิตในที่สุด แถบทิพย์เสียใจจนแทบไม่ได้สติ สาโรจน์กับแพรขาวต้องเป็นธุระจัดงานเรื่องงานศพให้ ในขณะที่เขมินีต้องอยู่เป็นเพื่อนแถบทิพย์ วิญญาณของพัสกรอาละวาดจนคนในบ้านอยู่กันแทบไม่ได้ ต้องไปอยู่ที่คอนโดเขมินีด้วยกันทั้งหมด รวมถึงแพรขาวกับชมพูด้วย แพรขาวไม่ได้กลับไปที่บ้านเช่านานนับเดือน ทำให้ไรวินท์เหงาหงอยมาก ไรวินท์ดีใจมากเมื่อแพรขาวกลับมาที่บ้านเช่าอีกครั้ง เขาเล่าเรื่องราวในอดีตให้แพรขาวได้ฟัง สีนวลยังคงดูแลวารีและเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง ไรวินท์ไม่ได้มาสนใจใยดีเธอ จนก้าวเข้าสู่ยุคสงครามไรวินท์ให้วารี สีนวล และลูกไปอยู่ที่อยุธยา ส่วนตนเองไปเช่าบ้านที่เมืองนนท์อยู่กับมาลาตี สีนวลเสียใจมากที่จะไม่ได้เห็นหน้าไรวินท์อีก จนกระทั่งลูกของสีนวลเริ่มโต วารีก็ต้องมาตายด้วยโรคท้องร่วงที่กำลังระบาด ไรวินท์กลับไปงานศพแม่ แล้วรุ่งขึ้นลูกสาวก็มาตกน้ำตายอีก สีนวลเสียใจแทบคลั่ง ไรวินท์ยังไม่มีที่ท่าใยดีกับสีนวลเช่นเดิม สีนวลขอติดเรือไรวินท์กลับไปที่เมืองนนท์ จึงได้พบกับมาลาตี รู้ความจริงว่าไรวินท์มีมาลาตีอยู่ตลอดเวลา สีนวลกลับไปอยู่ที่ตึกใหญ่ ไรวินท์ขอแยกทางกับสีนวล ยกทั้งตึกใหญ่และเรือนเล็กที่ไรวินท์เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กให้กับสีนวล สีนวลบอกจะรักษาสมบัติทุกชิ้นเก็บไว้ให้ไรวินท์ รอวันที่เขากลับมาดังคำสั่งเสียของวารีที่บอกไม่ให้สีนวลทอดทิ้งไรวินท์

มาลาตีเสียใจไม่น้อยที่ไรวินท์ไม่ได้เอาสมบัติติดตัวออกมาจากบ้านเลย ซ้ำร้ายไรวินท์ยังจับได้อีกว่ามาลาตีปลอมลายมือของพ่อเรื่องพินัยกรรมเรื่องการยกสมบัติให้ ไรวินท์เสียใจมากที่ถูกหลอกมาตลอด ในงานศพของ ประสม (ปาริฉัตร ไพรหิรัญ) แม่ของสุดสวาท ไรวินท์ก็ไปด้วย สุดสวาทไล่ให้ไรวินท์ออกจากงานไปอย่างไม่ใยดี โทษที่เข้าข้างคนผิดอย่างมาลาตี และใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสามีและภรรยาอย่างออกนอกหน้า ทั้งๆ ที่ไรวินท์ก็มีครอบครัวแล้ว ทำให้ไรวินท์อายมาก ซ้ำร้ายมาลาตียังปลอมลายมือว่าเป็นไรวินท์ เขียนจดหมายไปขอเงินกับสีนวลตลอดเวลา จนสีนวลต้องขายข้าวของในบ้าน เอาเงินให้คนของมาลาตีไป โดยไม่รู้ว่าโดนหลอก สุดท้ายไรวินท์จึงจับได้ว่ามาลาตีปลอมพินัยกรรมของคุณพ่อจริงๆ แต่ด้วยความหลงใหลทำให้ไรวินท์อภัยให้มาลาตีทุกอย่าง ป้าใหญ่ (สุกัญญา นาคสนธิ์) ไปเยี่ยมสีนวลที่กำลังเจ็บหนัก จึงเขียนจดหมายให้ไรวินท์ไปเยี่ยม แต่พอดีเขาติดราชการมาลาตีจึงไม่ยอมให้ไปเยี่ยม ศรีนวลรอคอยการกลับมาของไรวินท์ ด้วยการใช้มีดกรีดที่ข้างเสาเรือนนับวันรอเขาทุกคืน จนสุดท้ายเธอก็ตรอมใจตาย เพ้อหาไรวินท์จนนาทีสุดท้ายของชีวิต สีนวลยกบ้านให้ไรวินท์โดยฝากกุญแจไว้กับป้าใหญ่ ไรวินท์กลับไปที่บ้านหลังนั้นเขาไม่เห็นทรัพย์สินใดๆ หลงเหลือ มีเพียงจดหมายขอเงินที่ลงชื่อว่าเป็นของเขา ซึ่งแท้ที่จริงเป็นลายมือของมาลาตีนั่นเอง ไรวินท์เศร้าและเสียใจเป็นที่สุด รู้สึกถึงความผิดและความโง่เขลาของตัวเอง ที่หลงรักมาลาตีจนไม่ลืมหูลืมตา และไม่ได้มาดูใจสีนวลเลยจนนาทีสุดท้าย

ไรวินท์แค้นใจมาลาตีเป็นที่สุด กลับไปดูหีบใส่ของจึงพบแหวนของแม่ไรวินท์อยู่กับมาลาตี เขาจึงยิ่งมั่นใจว่ามาลาตีจะต้องไปเอาสมบัติจากสีนวลมาอย่างแน่นอน มาลาตีสุดจะแก้ตัว เพราะไรวินท์ถือจดหมายลายมือของเธอมายืนยัน ไรวินท์ให้มาลาตีสารภาพผิดมาทั้งหมด และขอเลิกกับมาลาตีในที่สุด มาลาตียังไม่หยุดแค่นั้นยังปลอมลายมือไรวินท์ ไปกู้หนี้ยืมสินจนเจ้าหนี้มาเอาผิดกับไรวินท์ เขากลัวจะเสียประวัติการทำงานจึงต้องลาออก นำเงินมาใช้หนี้โดยที่เขาไม่ได้ก่อ ไรวินท์กลับมาอยู่ที่บ้านของสีนวล ส่วนมาลาตีก็มีสามีใหม่ ถูกปอกลอกจนหมดเนื้อหมดตัวและผูกคอตายในที่สุด ไรวินท์ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างน่าเวทนา มีเพียงเงินที่เขาเอาบ้านไปจำนองไว้กับป้าใหญ่ ไว้เลี้ยงดูตนเอง อดมื้อกินมื้อ มีเพียงป้าใหญ่ ที่คอยส่งข้าว ส่งน้ำมาให้ แถมยังป่วยกระเสาะกระแสะอีก ไรวินท์เห็นวิญญาณของลูกและสีนวลมาหาเขา สีนวลบอกจะรอคอยวันที่จะได้มาอยู่ด้วยกันกับไรวินท์ ไม่ว่าจะนานเพียงใด ด้วยความตกใจไรวินท์จึงวิ่งหนีตกบันไดลงมาเสียชีวิตอยู่ที่เรือนนั้นเอง แพรขาวได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างจากไรวินท์แล้วก็รู้สึกเศร้าใจไปด้วย ไรวินท์ยอมรับว่าเขาเสียใจที่ทำผิดต่อสีนวล แต่ยังไงเสียเขาก็ไม่ได้รักสีนวลและไม่มีวันรัก วิญญาณของสีนวลที่อยู่บนชั้น 2 ของเรือนหลังเล็กของยายเกสร สีนวลได้แต่เจ็บใจและบอกจะไม่มีวันปรากฏวิญญาณให้ไรวินท์เห็น เพราะกลัวไรวินท์จะหนีเธอไปอีก สีนวลขอเฝ้ามองไรวินท์อย่างนี้ตลอดไป

ลลิตหาทางแก้แค้นแพรขาวจึงไปที่บ้านแพรขาวพร้อมกับมาตา มาตาเป็นคนเอาน้ำมันไปราดบริเวณบ้าน แต่เห็นวิญญาณของสีนวลยืนอยู่จึงตกใจวิ่งหนีไปก่อน ส่วนลลิตไปที่ห้องขจงของแพรขาว ไรวินท์จึงรีบมาปลุกแพรขาวให้หนีไปที่เรือนของยายเกสรทำให้รอดไปได้หวุดหวิด ลลิตเจอเข้ากับวิญญาณของต๊อก ต๊อกสิงร่างลลิต มาตาจึงเห็นลลิตเป็นต๊อก ใช้ไม้พายตีจนลลิตตาย ส่วนตัวเองหนีจนพลาดตกตึกตายตามไปอีกคน วิญญาณของพัสกรยังคงอาละวาด จะเอาแม่ไปอยู่ด้วย จนแถบทิพย์ประสาทเสียแทบไม่ได้นอน แพรขาวต้องนำตัวชมพูและตนเองไปนอนเป็นเพื่อนแถบทิพย์ ที่คอนโดเขมินีอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายยายเกสรก็เสียชีวิต ป้าสมพรตัดสินใจขายที่และรื้อบ้านทิ้ง วิญญาณของต๊อกมาบอกกับแพรขาวว่าวิญญาณของสีนวลอยู่ที่ชั้น 2 ของเรือนหลังเล็กอีกหลังในบ้านของยายเกสร แพรขาวจึงไปหาสีนวลเพื่อเกลี้ยกล่อมให้สีนวลปล่อยไรวินท์ไป เพื่อไรวินท์จะได้ไปเกิด ไม่ต้องทนทุกข์อยู่อย่างโดดเดี่ยว สีนวลยิ่งโกรธ เมื่อเห็นว่าแพรขาวมีใจผูกพันกับไรวินท์ จึงให้วิญญาณร้ายมาทำร้ายแพรขาว ไรวินท์คุกเข่าขอร้องไม่ให้สีนวลทำร้ายแพรขาว สุดท้ายไรวินท์ยอมสละวิญญาณตนเองไปเป็นวิญญาณร้ายแทน เพื่อช่วยชีวิตแพรขาว ความตั้งใจดี ยอมเสียสละจิตวิญญาณเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้วิญญาณของไรวินท์หลุดพ้นจากบ้านแห่งนี้ สีนวลจึงกลายเป็นวิญญาณที่โดดเดี่ยว ไม่ได้มองเห็นไรวินท์อีกต่อไป

วิญญาณของไรวินท์ตามมาขอบคุณที่แพรขาวทำให้เธอหลุดพ้นจากทุกสิ่ง ซ้ำยังเกลี้ยกล่อมให้พัสกรปล่อยวาง แล้วไปสู่ภพภูมิที่ดีไม่ต้องวนเวียนอยู่กับอดีตอีก พัสกรจึงจากไปอย่างสงบ บ้านไม้ของยายเกสรถูกรื้อ วิญญาณของสีนวลไม่มีที่อยู่ แพรขาวให้สาโรจน์เป็นธุระนำไม้ไปสร้างศาลาถวายวัดเป็นศาลาคู่ ชื่อว่าศาลาไรวินท์และศาลาสีนวล วิญญาณของไรวินท์พาสีนวลมาอยู่ที่ศาลา ทั้งสองต่างอโหสิให้กัน ไม่มีกรรมใดผูกพันกันอีก ไรวินท์มาพบแพรขาวในฝันเพื่อบอกลา และให้แพรขาวลืมเรื่องราวที่เขาและแพรขาวได้พบกัน เพื่อที่จะได้หมดความผูกพันและได้แต่งงานกับสาโรจน์ผู้ชายที่รักมั่นในตัวแพรขาว ตราบใดที่ไม่มีใครพูดถึงไรวินท์ แพรขาวจะไม่สามารถจดจำเรื่องราวระหว่างเขาและแพรขาวได้อีก วิญญาณของสีนวลก็มาขอบคุณแพรขาวเช่นกัน ที่ทำให้เธอมีที่อยู่ไม่ต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อน แพรขาวลืมเรื่องราวระหว่างเธอและไรวินท์อย่างหมดสิ้น เธอแต่งงานกับสาโรจน์ในเวลาต่อมา ชมพูไปเรียนต่อเมืองนอกจนเป็นสาวและแต่งงานมีครอบครัว พร้อมกับลูกแฝด สาโรจน์เสียชีวิตในเวลาต่อมา ชมพูจึงพาครอบครัวกลัวมาอยู่เมืองไทย เธอซื้อเพลงมาฝากแพรขาว ซึ่งเป็นเสียงเปียโนที่ไรวินท์เคยเล่นให้ฟัง ชมพูบอกคิดถึงคุณลุงไรวินท์ ทำให้อดีตที่แพรขาวเคยลืมเลือนกลับมาอย่างสมบูรณ์ เธอร้องไห้คิดถึงไรวินท์ คืนนั้นแพรขาวเสียชีวิตและได้พบกับไรวินท์อีกครั้ง ทั้งสองต่างมีความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน ได้พบและอยู่ด้วยกันในที่สุด