ละคร เรือนพะยอม

ดู 4,004 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 5 มิถุนายน 2560
เวลาออกอากาศ 20:30 - 22:30 น.
  
กำกับโดย รฤกฤกษ์ กัลย์จาฤก
ประพันธ์โดย บทประพันธ์โดย รอมแพง, บทโทรทัศน์โดย เริงใจ
นำแสดงโดย
ธาวิน เยาวพลกุล ... วฤกษ์ พนาเวท/พฤกษ์ พนาเวท
คามิลล่า กิตติวัฒน์ ... รสิกา/พะยอม
กรรณาภรณ์ พวงทอง ... จิต
ณัฐชา นวลแจ่ม ... กมลรัตน์/จันทร์
วาทิต โสภา ... ดรล
ธีร์ วณิชนันทธาดา ... นเรนทร์
อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์ ... จารุวรรณ
ปัทฐิมาภรณ์ ภาระกุล ... วิยะดา
ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน ... ภานุวัต
คนางค์ ดำรงหัด ... คุณย่ามะลิ
อนุสรณ์ เดชะปัญญา ... ท่านพยาสุนทรพนาเวท
ดวงตา ตุงคะมณี ... ปาริชาติ/คุณหญิงมุก
ภัสสร บุณยเกียรติ ... กรรณิการ์
วนิษฐา วัชโรบล ... รสลิน
เบญจณัฏฐ์ อักษรนันทน์ ... กานดา
อรวรรยา โตสมบัติ ... ภคมล/มิว
ทิพย์รัตน์ อมาตยกุล
ลลิตา จึงวัฒนกิจ
มนสิชา บุญยสิทธิโสภณ
ผู้สร้าง บริษัท ป๊าสั่ง ย่าสอน จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ เรือนพะยอม

เพราะในอดีตชาติมิอาจครองรักกันได้ จึงหมายเกิดมาคู่กันในชาตินี้ เพื่อสร้างสานตำนานรักกับหญิงสาวผู้มีนามว่า "แม่พะยอม" ใน "เรือนพะยอม" เรือนซึ่งเป็นที่มาของความลึกลับ ปริศนา ความอาฆาตความริษยาและความรักอันมั่นคง

รสิกา (คามิลล่า กิตติวัฒน์) ตัดสินใจลา รสลิน (วนิษฐา วัชโรบล) ผู้เป็นแม่เพื่อยุติปัญหาที่ ชัยพ่อเลี้ยงพยายามเข้าหาเธอ แม้ผู้เป็นแม่จะขอร้องอย่างไรก็ไม่เป็นผล รสิกาเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กหญิงวัยห้าขวบ กมลรัตน์ (ณัฐชา นวลแจ่ม) เพื่อนสนิทของเธอเตือนว่าเรือนพะยอมอันเป็นสถานที่ๆ รสิกาจะไปทำงานนั้นมีแต่ความน่ากลัว ทุกคนที่นั่นล้วนแต่มีจิตใจโหดเหี้ยม พี่เลี้ยงแต่ละคนอยู่ได้ไม่ถึงเดือน ก็ต้องลาออกไป แต่มิอาจเปลี่ยนความตั้งใจของรสิกาได้

เรื่องที่รสิกาได้รู้จากเพื่อนรักก็คือ คนในเรือนพะยอมเป็นศัตรูกับตระกูลโชติรสของกมลรัตน์ สาเหตุมาจากการที่ วิยะดา (ปัทฐิมาภรณ์ ภาระกุล) ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยมี ดรล (วาทิต โสภา) คนรักของเธอเป็นคนขับ ต่อมาไม่นานวิยะดาก็เสียชีวิตลง แพทย์ชันสูตรศพแล้วลงความเห็นว่าวิยะดาป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ทุกคนในบ้านโชติรสยืนยันว่าวิยะดาไม่มีประวัติป่วยเป็นโรคหัวใจมาก่อน เงื่อนงำที่แก้ไม่ตกคือมีคนเห็น จารุวรรณ (อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์) อดีตพยาบาลซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของเด็กหญิงที่รสิกาจะต้องไปสอนหนังสือเข้าออกห้องพักของวิยะดาในโรงพยาบาลก่อนที่วิยะดาจะเสียชีวิต การตายอย่างมีเงื่อนงำทำให้คนสองตระกูลไม่ถูกกันอย่างรุนแรง เหตุนี้รสิกาจึงไม่อาจเปิดเผยว่าเธอมีเพื่อนรักอยู่เชียงใหม่ แถมยังเป็นคนในตระกูลโชติรสด้วย เช่นเดียวกับที่กมลรัตน์ก็ไม่สามารถบอกคนในบ้านของเธอว่ารสิกาไปทำงานที่เรือนพะยอม แม้กระทั่ง ภานุวัต (ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) ญาติผู้พี่ของเธอที่แอบปลื้มรสิกาทันทีที่ได้เห็นหน้า

ที่เรือนพะยอม รสิกาได้พบกับ วฤกษ์ พนาเวท (ธาวิน เยาวพลกุล) หนุ่มใหญ่หน้าเย็น ท่าทางเด็ดเดี่ยว ใครๆ ในเรือนพะยอมต่างก็กลัวกันหมด ทุกคนมองว่าเป็นเพราะเคร่งเครียดจากงานในไร่ แต่ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง วฤกษ์ต้อนรับรสิกาอย่างเย็นชา แต่ในใจนั้นกลับดีใจที่ได้เห็นหน้าหญิงสาว ราวกับได้พบหญิงสาวที่เขารอคอยมาหลายชาติ รสิกาก็เช่นเดียวกัน การมาของรสิกาทำให้จารุวรรณ น้าของ ภคมลหรือมิว (อรวรรยา โตสมบัติ) ไม่พอใจ แต่เธอก็มั่นใจว่ารสิกาคงอยู่ได้ไม่นานก็ต้องจากไป เพราะทนฤทธิ์เดชของมิวไม่ได้ จารุวรรณเสี้ยมสอนมิวว่าครูทุกคนจะแย่งความรักจากลุงวฤกษ์ไปจากมิว ทำให้มิวตั้งป้อมไม่ยอมรับครูพี่เลี้ยงทุกคน แต่ผิดคาด รสิกา ผู้ซึ่งจบการศึกษาด้านศึกษาศาสตร์มากลับปราบมิวได้สำเร็จและทำให้มิวติดครูรสิกาแจ ทำให้วฤกษ์ดีใจ ถึงกับพาเข้าพบ คุณย่ามะลิ (คนางค์ ดำรงหัด) ทันทีที่คุณย่าเห็นก็ทักว่า รสิกาคือคุณพะยอม ถึงกับเอารูปมาดูเปรียบเทียบก็เห็นว่ามีความละม้ายกันมาก

รสิกาอยู่ที่เรือนพะยอมอย่างลำบากใจ เพราะจารุวรรณคอยกลั่นแกล้งสารพัด แม้จะมีดรล ญาติผู้น้องของวฤกษ์คอยช่วยเหลือ จนกระทั่งวฤกษ์แอบหึงเล็กๆ อย่างที่หนุ่มใหญ่อย่างวฤกษ์ไม่เคยเป็นมาก่อน ยังจะมี นเรนทร์ (ธีร์ วณิชนันทธาดา) ลูกผู้ว่าราชการจังหวัดแถมยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เทียวมาจีบรสิกาอยู่เป็นประจำ แต่แรงกดดันจากการกลั่นแกล้งของจารุวรรณกับความเย็นชาของวฤกษ์ก็ไม่ทำให้รสิกามุ่งมั่นจะอยู่ที่นี่ เธอรู้สึกผูกพันกับต้นพะยอมที่วฤกษ์หวงนักหวงหนาและเริ่มรู้สึกว่าเธอเคยอยู่ที่นี่มาก่อน

ยามค่ำคืนรสิกามักนอนไม่หลับ เธอมักจะได้ยินคนลากวัตถุหนักๆ ผ่านหน้าห้องไปทุกคืน พยายามค้นหาว่าใครมาทำอะไรอยู่ในบริเวณนี้แต่ก็ไม่พบสาเหตุ นอกจากนี้เธอยังถูกผีหญิงผมยาว ใบหน้าขาวไม่มีปากไม่มีตา คอยหลอกหลอนแต่ด้วยความที่เธอเป็นคนจิตแข็ง ผีจึงหลอกรสิกาไม่ได้ อำนาจที่ไม่อาจเอาชนะดวงจิตแข็งกล้าของรสิกาได้ ทำให้วิญญาณใช้วิธีเข้ามาในความฝันแล้วพาเธอย้อนกลับไปสู่อดีตอันขมขื่นที่เกิดขึ้นภายในเรือนพะยอมแห่งนี้

รสิกาได้เห็นรอยอดีตราวสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เกิดขึ้นในเรือนพะยอม ประมุขของบ้านคือ ท่านพระยาสุนทรพนาเวท (อนุสรณ์ เดชะปัญญา) กับ คุณหญิงมุก (ดวงตา ตุงคะมณี) มีบุตรชายสองคนคือ พฤกษ์ พนาเวท (ธาวิน เยาวพลกุล) กับคุณดรล ล้วนแต่เป็นนักเรียนนอก คุณพฤกษ์นั้นหน้าตาละม้ายกับวฤกษ์ไม่ผิดเพี้ยน คุณหญิงมุกมอง จันทร์ (ณัฐชา นวลแจ่ม) หญิงงามที่มีศักดิ์ตระกูลเสมอกันไว้เป็นคู่หมายให้พฤกษ์ บุตรชายคนโต แต่พฤกษ์ไม่ยอมรับ เพราะใจเขาสมัครรักใคร่กับ พะยอม (คามิลล่า กิตติวัฒน์) ญาติห่างๆ ผู้มีศักดิ์สูงกว่าบ่าวไพร่เพียงนิดเดียว ค่าที่เป็นญาติห่างๆ ทำให้พะยอมถูกนับญาติให้ร่วมสำรับเดียวกันกับหลานๆ แต่ความรักของคุณพฤกษ์กับพะยอมมีอุปสรรคยิ่งนัก ไม่เพียงแต่ฐานะความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเท่านั้น แต่ยังมี จิต (กรรณาภรณ์ พวงทอง) พี่สาวของพะยอมที่แอบรักคุณพฤกษ์ด้วยเช่นกัน กลายเป็นรักสามเศร้าที่ทำให้พะยอมลำบากใจ เพราะทั้งคุณพฤกษ์และแม่จิตต่างก็เป็นคนที่พะยอมให้ความเคารพรัก แต่คุณพฤกษ์ประกาศแน่ชัดว่าจะแต่งงานกับพะยอมคนเดียวเท่านั้น ทำให้แม่จิตคิดแค้นและหาทางทำร้ายพะยอม

รสิกาพยายามเลียบเคียงถามคุณย่ากับ ปาริชาติ (ดวงตา ตุงคะมณี) มารดาของดรล เกี่ยวกับความเป็นมาของบุคคลต่างๆ ในเรือนพะยอมในอดีต คุณย่ากับคุณปาริชาติแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้สาเหตุ นับวันคุณย่าก็เมตตารสิกาเพิ่มมากขึ้น หนำซ้ำมิวก็ไม่อยู่ในคำสั่งของจารุวรรณเหมือนเคย จารุวรรณจึงหาทางกระชากหน้ากากของรสิกาออกมาได้สำเร็จ คือการเปิดเผยเรื่องที่รสิกาสนิทสนมกับบ้านโชติรส เหตุนี้เองทำให้วฤกษ์โกรธที่รสิกาปิดบัง แต่เขาก็พ่ายแพ้หัวใจของตน เมื่อรสิกาพูดตรงว่าเธอมิอาจตัดเพื่อนดีๆ อย่างกมลรัตน์ไปได้ ที่สำคัญก็คือ ดรลหลีกทางให้วฤกษ์จีบรสิกา ส่วนเขาเริ่มให้ความสนิทสนมกับกมลรัตน์ แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไร ติดที่กมลรัตน์เป็นน้องสาวของวิยะดา แม้ดรลจะเปิดเผยให้ทราบว่าวิยะดาไม่ได้รักตน แต่รักวฤกษ์มากกว่าก็ตาม ที่วิยะดายอมแต่งงานกับตนก็เพราะต้องการเข้ามาอยู่ในเรือนพะยอม หมายจะได้ใกล้ชิดวฤกษ์เท่านั้น

ความดำมืดเกี่ยวกับอดีตอันขมขื่นของเรือนพะยอมเริ่มคลี่คลาย รสิกาถูกวิญญาณร้ายย้อนไปสู่อดีตเพื่อให้รู้เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น รสิกาได้เห็นภาพแม่จิตกับแม่พะยอมมีปากเสียงกันเรื่องคุณพฤกษ์ แต่ตกลงกันไม่ได้ ในที่สุดแม่จิตตัดสินใจใช้หินทุบหัวแม่พะยอมที่บริเวณดงสมุนไพรแล้วลากมาทิ้งที่สระบัว รสิกาถูกดึงเข้าสู่ดวงจิตของพะยอมทำให้เธอได้รับรู้ว่าพะยอมไม่ได้โกรธพี่สาวแต่อย่างใด หากให้อโหสิกรรมทุกอย่าง จิตดวงสุดท้ายไม่อาฆาตมาดร้ายทำให้วิญญาณของพะยอมไปเกิดในชาติภพที่ดี หลังจากทิ้งศพพะยอมลงในสระบัวแล้ว แม่จิตก็แสร้งทำเป็นร้องไห้ ลงไปงมศพพะยอม จนบ่าวไพร่พากันช่วยงม แต่ผู้ที่งมศพของพะยอมได้คือคุณพฤกษ์ เขาร้องไห้คร่ำครวญ เมื่อสำรวจที่นิ้วก้อยของพะยอมก็พบว่าแหวนก้อยที่เขาให้เธอนั้นหายไป คุณพฤกษ์ยิ่งเสียใจเพราะเข้าใจว่าพะยอมน้อยใจที่เขาจะแต่งงานกับแม่จันทร์ จึงถอดแหวนแทนใจเขาไปเสียก่อนฆ่าตัวตาย ทั้งที่ความจริงนั้นท่านพระยาผู้เป็นพ่อ ตอบตกลงที่จะให้พฤกษ์แต่งงานกับพะยอมแล้ว จากนั้นไม่นานพฤกษ์ก็สั่งให้คนถมสระบัวแล้วปลูกต้นพะยอมขึ้นข้างๆ หลังพฤกษ์ตาย ต้นพะยอมสูงใหญ่ และออกดอกทั้งปีเป็นที่เล่าลือกันไปทั่ว

รสิกาเศร้าใจกับการตายของพะยอมเป็นที่สุด แต่ลึกๆ แล้วเธอกลับคิดว่าเธอคือแม่พะยอมที่ตายไป ยิ่งคุณย่าก็เรียกเธอว่าแม่พะยอมแทนที่จะเรียกชื่อจริง แม้เธอจะไม่อยากฝันถึงเรื่องราวในอดีต แต่ก็ห้ามไม่ได้ กลางคืนก็ยังเห็นวิญญาณของผีสาว ซึ่งเธอรู้ในเวลาต่อมาว่าคือแม่จิตที่ยังสถิตรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ แม่จิตพารสิกาเข้าไปสู่อดีตถึงวาระสุดท้ายของทุกคน พฤกษ์ป่วยตายด้วยความตรอมใจ ส่วนจิตผอมแห้ง ไม่กินอาหาร คร่ำครวญถึงแม่พะยอมที่ตายด้วยความสำนึกผิด และตายไปอย่างน่าเวทนา

ร้อยปีผ่านไป พฤกษ์มาเกิดเป็นวฤกษ์ เขาหวงแหนต้นพะยอมต้นนั้นมาก ห้ามใครเข้าใกล้จารุวรรณผู้ไม่เคยใส่ใจเรื่องราวในอดีตแต่หวังอย่างเดียวคือทรัพย์สมบัติและรูปโฉมของวฤกษ์เริ่มวางแผนสกัดทุกวิถีทางมิให้วฤกษ์กับรสิกาลงเอยกันได้ คุณปาริชาติพาทุกคนไปทำบุญกับพระวัดป่าที่วัดแห่งหนึ่ง หลวงพ่อเห็นวฤกษ์ก็เห็นอดีตกรรมในชาติก่อน ท่านหยิบก้านพะยอมเหี่ยวแห้งส่งให้วฤกษ์พร้อมกล่าวปริศนาธรรมว่าทุกอย่างเป็นอนิจจัง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นแต่อย่างใด

วฤกษ์มาลารสิกาไปทำธุระที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาสามวัน วิญญาณแม่จิตนำพารสิกาไปดูอดีตที่ก่อนวาระสุดท้ายของพะยอมนั้น เธอได้ถอดแหวนแทนใจที่พฤกษ์ให้ตนนั้นซ่อนไว้ที่ช่องรอยแตกของวงกบเหนือประตู ในวันนั้นรสิกาตากฝนเพราะแม่จิตเข้าสิงนำไปสู่อดีตแต่วฤกษ์กลับมาทัน จึงช่วยไว้ได้ รสิกามีอาการป่วยหนัก จารุวรรณได้ที บอกกับวฤกษ์ว่าจะช่วยดูแลรสิกาให้ ระหว่างนั้นวฤกษ์มีธุระสำคัญจะต้องเดินทางไปพิษณุโลกกับดรล จึงฝากให้จารุวรรณช่วยดูแลรสิกา จารุวรรณรับปาก ในค่ำคืนนั้นจารุวรรณฉีดยาสลบเข้าที่สายน้ำเกลือทำให้รสิกาหลับใหลไม่ได้สติ จารุวรรณกำลังจะฉีดสารอย่างหนึ่งที่จะพุ่งเข้าทำลายหัวใจ และผู้ตายจะมีอาการป่วยตายเหมือนกับที่เธอเคยทำกับวิยะดา แต่ขณะที่กำลังจะฉีดนั้น มิวได้เข้ามาปัดเข็มฉีดยาตกลงพื้น เข็มแตก จารุวรรณไม่มีเข็มสำรอง จึงเปลี่ยนแผนใหม่ โดยการลากร่างของรสิกาไปที่ต้นพะยอม เหตุการณ์เหมือนย้อนไปเมื่อร้อยปีก่อนที่แม่จิตลากศพของแม่พะยอมจากดงสมุนไพรไปที่สระบัว แต่จารุวรรณต้องออกแรงมากเป็นพิเศษ ร่างของรสิกาหนักอึ้ง รสิกาเริ่มรู้สึกตัว เธอลืมตาและได้เห็นร่างของวิยะดากับแม่จิตนั่งทับร่างของเธออยู่

ขณะที่จารุวรรณบ้าคลั่ง ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักเหมือนในอดีตเมื่อร้อยปีก่อน วฤกษ์กับดรลเกิดสังหรณ์ใจจึงรีบขับรถกลับมาที่เรือนพะยอม ดรลให้ปาริชาติไปดูรสิกาก็พบว่าทั่งรสิกากับจารุวรรณหายไป จึงเรียกทุกคนให้ตื่นขึ้นและตามหาทั้งสองคน จารุวรรณกำลังผูกเชือกกับกิ่งพะยอมทำทีว่ารสิกาผูกคอตาย ฝนตกอย่างหนัก ฟ้าได้ผ่าร่างของจารุวรรณเสียชีวิตในบริเวณนั้น แต่ร่างของรสิกาไม่เป็นอะไรเพราะมีแม่จิตกับวิยะดาคอยป้องกันไว้ให้

วฤกษ์เสียใจและสัญญาว่าจะไม่ทิ้งรสิกาไปไหนอีกแล้ว ทั้งสองตัดสินใจแต่งงานกัน แต่วฤกษ์ก็ยังแคลงใจเรื่องแหวนที่คุณพฤกษ์เคยสวมไว้ที่นิ้วก้อย และให้แม่พะยอมไว้ตามที่คุณย่าเคยให้ฟัง รสิกาจึงบอกความฝันที่แม่จิตนำพาไปให้ตนเห็นที่ซ่อนของแหวนก้อยวงนั้น วฤกษ์สวมแหวนก้อยของคุณพฤกษ์แทนแหวนหมั้นให้รสิกา ตัดสินใจขุดตอพะยอมที่ถูกฟ้าผ่าทิ้งแล้วปลูกต้นพะยอมขึ้นใหม่ ต่างทำบุญอโหสิกรรมให้แม่จิตไปรับใช้กรรมตามที่เคยเป็นมา ไม่ได้ถูกจองจำไว้ด้วยความรักและความแค้นเหมือนที่ผ่านมา

วฤกษ์นำดอกไม้ไปกราบขอขมา กรรณิการ์ (ภัสสร บุณยเกียรติ) มารดาของวิยะดา และดรลก็เริ่มปลูกต้นรักกับกมลรัตน์ จากนั้นบ้านโชติรสกับเรือนพะยอมก็กลับมาเป็นมิตรกันอีกครั้งหนึ่ง