ละคร มือเหนือเมฆ

ดู 5,067 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันพุธ วันพฤหัส
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 7 มิถุนายน 2560
เวลาออกอากาศ 20:00 - 22:30 น.
  
กำกับโดย โอริเวอร์ บีเวอร์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์โดย อรชร, บทโทรทัศน์โดย พิง ลำพระเพลิง
นำแสดงโดย
ชนะพล สัตยา ... จอม
กวิตา รอดเกิด ... บุญตา
รพีภัทร เอกพันธ์กุล ... เฉียด
ณัฐชา นวลแจ่ม ... พรพรรณ
ธันน์ ธนากร ... บวร
ป่านทอทอง บุญทอง ... จำปา
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร ... เจ้าสัว
สุรวุฑ ไหมกัน ... เถ้าแก่บ้วน
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ ... เสี่ยเฮง
สามารถ พยัคฆ์อรุณ ... ลุงแบน/เปี๊ยก ซัมมิท
รัฐวิชญ์ สหายา ... จ่าจ้อย
ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ ... โหน่ง
กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ ... สิชล
ชาลี เลิศโภคานนท์ ... เต้ย
ศรุต ขันวิไล ... เตี้ย
สุธิตา เกตานนท์ ... แจ่ม
พิเชษฐ์ ศรีราชา ... เจิม
โอริเวอร์ บีเวอร์ ... สารวัตรอัศวิน
หลุยส์ เชิญยิ้ม ... จ่าฉ่ำ
กษาปณ์ จำปาดิบ ... เวิ้ง นาครเกษม
พวง เชิญยิ้ม ... หลวงพี่พักตร์
รัฐศิลป์ นลินธนาพัฒน์ ... สุธรรม
พัสสน ศรินทุ ... สารวัตรคำรณ
วีระชัย หัตถโกวิท ... จ่าประทีป
ผู้สร้าง บริษัท ไนน์ บีเวอร์ ฟิล์ม จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ มือเหนือเมฆ

ปีพุทธศักราช 2499 จอม (ชนะพล สัตยา) เฉียด (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) บวร (ธันน์ ธนากร) กำลังใกล้จะจบจากเทคนิคช่างกล แต่บังเอิญว่าทั้งสามดันไปแอบดูการทำข้อตกลงของสามก๊กใหญ่ในพระนครยุคนั้น อันมีแก๊งค์ของ เจ้าสัว (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) เถ้าแก่บ้วน (สุรวุฑ ไหมกัน) เสี่ยเฮง (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) การตกลงในครั้งนั้นไม่เป็นผล ขณะที่สามแก๊งค์เข้าต่อยตีถล่มกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บวรหนีรอดไปกับเถ้าแก่บ้วนผู้เป็นพ่อ ส่วน จอมกับเฉียดถูกจับสอบสวนโดยเจ้าสัว เหตุการณ์ในครั้งนั้น เจ้าสัวประทับใจกับการมีใจเป็นนักเลงของจอม ทำให้เจ้าสัวยอมปล่อยจอมกับเฉียดไป บอกว่าถ้าจอมออกจากโรงเรียนให้มาทำงานกับตน

จอม เฉียด บวร ใช้ชีวิตนักเรียนหัวไม้ จอมสนิทกับ ลุงแบนหรือเปี๊ยก ซัมมิท (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) คนขายยาปาหี่ข้างถนน กับ บุญตา (กวิตา รอดเกิด) หลานสาว บุญตาแอบชอบจอม แต่จอมไม่สนใจเพราะชอบอยู่กับ พรพรรณ (ณัฐชา นวลแจ่ม) นักเรียนพาณิชย์ปีสุดท้าย ผู้หลงใหลอยู่กับแสงสีและชื่อเสียงเงินทอง พรพรรณไม่สนใจจอมนัก เพราะจอมมีฐานะไม่ค่อยดี เธอกลับไปสนใจบวรซึ่งเป็นลูกเถ้าแก่บ้วน

วันหนึ่งขณะที่ ลุงแบน กับ บุญตา กำลังเล่นปาหี่ขายยาอยู่ข้างถนน รถของเจ้าสัวก็มายางแตกอยู่ไม่ไกลนัก ระหว่างรอเปลี่ยนยาง เจ้าสัวก็มายืนดูปาหี่ลุงแบน เจ้าสัวจำได้ว่าลุงแบนคือ เปี๊ยก ซัมมิท นักเลงรุ่นเก่าที่เคยมีคดีปล้นทองคำแท่งแล้วคดีก็เงียบหายไป พร้อมกับทองแท่งจำนวนหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าทองเหล่านั้นจมหายไปกับสายน้ำพร้อมกับ เวิ้ง นาครเกษม (กษาปณ์ จำปาดิบ) สหายร่วมปล้นของลุงแบนหรือไม่

ปาหี่ถึงช่วงปล่อยงู เกิดอุบัติเหตุงูหลุดงูพิษพุ่งเข้าหาเจ้าสัว แต่ว่าจอมช่วยจับงูเอาไว้ได้ เป็นอีกครั้งที่ เจ้าสัวชวนจอมไปทำงานด้วย ไม่มีใครรู้ว่างูที่หลุดเป็น เพราะความตั้งใจของลุงแบน เพราะมีเรื่องราวกันมาก่อนกับเจ้าสัว เจ้าสัวมองลุงแบนอย่างดูถูก แล้วก็นั่งรถหรูของตนเองจากไป

เมื่อวัดอินทรวิหารมีงานประจำปี จอมเกณฑ์เพื่อนๆ รับงานจาก หลวงพี่พักตร์ (พวง เชิญยิ้ม) ดูแลความปลอดภัยร่วมกับ จ่าจ้อย (รัฐวิชญ์ สหายา) และทำซุ้มร้านค้าในวันสุกดิบ พวก สุธรรม (รัฐศิลป์ นลินธนาพัฒน์) ลูกชายป่าไม้อำเภอตัวแสบพาพวกมาไถเงินแม่ค้าหาบเร่ จอมไม่พอใจ จึงมีการเดิมพันเป็นบุญตาโดยการต่อยกับสุธรรมที่มวยงานวัด แต่สุธรรมคิดวิธีโกงโดยการป้ายยาไว้ที่หมัด แต่ยังไม่ทันจะหมดยกชกก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นในงานวัด แต่สุดท้ายสุธรรมกับพวกสู้จอมไม่ได้ จึงต้องคืนเงินทั้งหมด จอมนำเงินที่ได้คืนมาส่วนหนึ่งไปบริจาควัด

จอม เฉียด บวร ยังคงคบหาเป็นเพื่อนนักเรียนกันอยู่ แล้วอยู่ๆ วันหนึ่ง ก็มีการยกพวกตีกันของสองโรงเรียนช่าง ซึ่งจอมไม่อยากมีเรื่องด้วยเลย จอม เฉียด บวรอยู่ในวงล้อม แล้วก็พยายามช่วยเหลือกัน บวรขโมยปืนพ่อมาในการเอาตัวรอด แต่จ่าจ้อยก็มาระงับเหตุได้ในที่สุด เหตุการณ์ในครั้งนั้น เกิดการตีกันอย่างหนักแต่สุดท้ายปืนที่บวรเอามา ก็ไม่รู้ว่ามาอยู่กับจอมได้อย่างไร

จอมถูกให้ออกจากโรงเรียน ทั้ง แจ่ม (สุธิตา เกตานนท์) เเละ เจิม (พิเชษฐ์ ศรีราชา) ยังไม่มีใครรู้ว่าจอมโดนไล่ออกจากโรงเรียนเเล้วเพราะจอมยังคงเเต่งชุดนักเรียนช่างกลออกจากบ้านที่เป็นร้านตัดผมไปด้วยอยู่ทุกวัน มีเพียงลุงเเบนเท่านั้น ที่รู้ว่าจอมไม่ได้เป็นนักเรียนเเล้ว

การขับเคี่ยวของแก๊งค์เถ้าแก่บ้วน เสี่ยเฮง เจ้าสัว รุนเเรงขึ้น จนถึงขั้นยิงกันกลางเมืองจนเป็นข่าวใหญ่โต ทำให้ทางกรมตำรวจต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ลุงแบนมีเรื่องไปรู้มาว่า เหตุรุนเเรงที่เกิดขึ้น จนทำให้สามก๊กกระเพื่อม เป็นเพราะเจ้าสัว เขี่ยเรื่องทั้งหมด เนื่องจากโรงฝิ่นกำลังจะกลายเป็นของผิดกฏหมายในอีกปีสองปีข้างหน้า โรงฝิ่นอันเป็นภาษีบาปต่อเนื่องมาจากสนธิสัญญาเบาริ่งกำลังจะถูกยกเลิกทั้งหมด เจ้าสัวจึงต้องดิ้นรนทุกอย่างเพื่อจะฮุบทั้งน้ำมัน และข้าว อันเป็นอู่เงินอู่ทองในพระนครนอกจากค้าฝิ่นมาเป็นของตน ก่อนที่จะหมดอำนาจลง

เกิดเรื่องขึ้นกับร้านตัดผม แม่จอมถูกทำร้าย ทำให้จอมต้องตัดสินใจมาทำงานกับเจ้าสัวเพราะต้องการสืบให้ได้ว่าใครเป็นคนที่ฆ่าแม่ เจ้าสัวรับปากว่าจะช่วยจอม แต่เขาต้องให้จอมทำงานให้สักชิ้นหนึ่งก่อน เพื่อดูฝีไม้ลายมือในโลกของอาชญากร เจ้าสัวลองให้จอมไปทวงหนี้ชิ้นหนึ่ง โดยให้ สิชล (กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ) ตามไปดูด้วยแต่ไม่ให้ช่วย จอมใช้ทักษะการขู่ และรู้ทันลูกหนี้ การทวงครั้งนั้น จึงไม่ต้องมีใครเจ็บตัว แถมได้เงินกลับมาด้วย เสี่ยเฮงสั่งให้ เต้ย (ชาลี เลิศโภคานนท์) จัดการส่งคนไปตบสั่งสอนจอมสักหน่อย เต้ยสั่งให้เฉียดไปจัดการเฉียดไม่รู้จะทำยังไงระหว่างเพื่อนกับงาน

จอมมีงานคุ้มครองเพิ่มขึ้น คนของเขาถูกส่งไปทำงานที่ต่างๆ ได้ทั้งเงินและข้อมูล แต่จอมไม่เคยทิ้งงานดูแลวัด และแบ่งเงินให้ลูกน้องอย่างยุติธรรม จอมดูแลครอบครัวอย่างดี พรพรรณเห็นจอมสนใจงานมากกว่าเธอ เธอจึงไปเป็นนักร้องที่ห้องอาหาร หลังถูกรุกรานจากเต้ย กับ เตี้ย (ศรุต ขันวิไล) จอมยอมตกลงเพราะเห็นแก่เฉียดกับบวร และยังไม่อยาก เปิดศึกทีเดียวสองด้านพร้อมกัน จอมกำลังคิดว่า ถ้าอยากชนะก๊กทั้งสอง ควรจะต้อง ดึงก๊กใดก๊กหนึ่งมาเป็นพวก เขานำแผนนี้มาปรึกษากับเจ้าสัว เจ้าสัวเริ่มรู้สึกว่า จอมนี่ ไม่ธรรมดา เพียงแต่ว่าตอนนี้จอมยังมีประโยชน์ต่อตนอยู่เท่านั้น ทางด้าน เฉียด ห้าวขึ้นเรื่อยๆ จากการเดินตามเต้ยทำให้เฉียด บุกเดี่ยวเข้าไปยิงคู่แข่งทางการค้าของเสี่ยเฮงดับกลางสี่แยก ตอนนี้เฉียดกับจอมต่างรู้แล้วว่า ตนถือเจ้านายคนละฝั่ง

จอมมีเหตุให้ต้องไปเก็บค่าคุ้มครองบนโรงน้ำชาด้วยตัวเอง แล้วเขาก็ได้เจอกับ จำปา (ป่านทอทอง บุญทอง) ที่ขายตัวอยู่ จอมสัญญาว่าจะไม่บอกเฉียดว่าจำปาทำงานอะไร แต่อยากขอร้องให้จำปาเลิกจากงานที่ทำอยู่ หลังจากจอมออกจากโรงน้ำชามา คลาดกันกับบวรที่ข้ามเขตมาเที่ยวโรงน้ำชา จำปา จำเป็นต้องขึ้นงานกับบวรเป็นครั้งสุดท้าย โดยที่เธอรู้ว่า บวรกับเฉียดเป็นเพื่อนกัน

ข้าวจำนวนมากโดนขนไปจากท่าข้าวทรงวาดมีหลักฐานชี้ว่ากลุ่มที่ดำเนินงานเป็นพวกเสี่ยเฮง เช่นเดียวกันกับที่น้ำมันเถื่อนจำนวนมากของเสี่ยเฮงหายไปจากเรือประมงระหว่างการขนถ่ายนอกน่านน้ำทะเลไทย มีหลักฐานว่าก๊กที่เอาน้ำมันไปคือพวกเจ้าสัว ขณะเดียวกันฝิ่นล็อตใหญ่ก็หายไปโดยมีหลักฐานว่าพวกที่เอาไปคือเถ้าแก่บ้วน สงครามกรุ่นขึ้นอีกครั้งจนทางการต้องส่งผู้กำกับการตำรวจมือดีลงมาดูแลไม่ให้มีการรบกันกลางเมืองเกิดขึ้น ข่าวทั้งหมดทางหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ในสายตาของลุงแบน คนเร่ขายยาโดยตลอด เขาสืบจนรับรู้มาจาก โหน่ง (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) พวกจับกังที่จอมได้ใจไปเต็มๆ เพราะการเป็นนักเลงติดดินของจอม ว่าเบื้องลึกจริงๆ แล้วครั้งแรกสุดที่ข้าวหายไป เกิดจากจอมต้องการเขี่ยให้มังกรสามตัวฟาดฟันกัน ลุงแบนพยายามตักเตือนจอมอยู่กลายๆ แต่จอมมีเป้าหมายใหญ่มากกว่านั้น เขากำลังคิดว่า ถ้าเขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยตัวเองเสียงปืนจากทุกๆ ก๊กน่าจะสงบลงได้ ลุงแบนบอกว่า แกเคยลองมาแล้ว เสียงปืนไม่อาจถูกกลบได้ด้วยเสียงปืน

เรื่องราวความรักระหว่างจอมกับพรพรรณยังคงพัฒนาไปท่ามกลางความขัดแย้ง อย่างไรพรพรรณก็ไม่ยอมรับความรู้สึกดีๆ จากจอม แม้ว่าเธอจะเห็นใจเขาก็ตาม เช่นเดียวกับบุญตาที่ยังคงแอบชอบจอมอยู่ คือรักเขาอยู่ข้างเดียว ส่วนบวร สิ่งหนึ่งซึ่งเขาไม่เคยบอกกับจำปา ก็คือว่า เขาหลงรักจำปาแบบเป็นความสัมพันธ์แบบแปลกๆ บวรรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลว จึงอยากดึงให้จำปาตกต่ำเป็นคนเลวเพื่อ จำปาจะไปไหนไม่ได้ และจะได้เหมาะกับคนอย่างเขา แต่ในหัวใจของจำปาตอนนี้ก็มีเพียงเฉียดคนเดียวเท่านั้นเอง

พระนครยามนี้เดือดเป็นไฟ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทำตัวราวกับเป็นอัศวินดำ ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ย ตัดสินปัญหาด้วยอาวุธปืน ไม่ต่างอะไรจากก๊กที่สี่ที่ได้รับไฟเขียวมาจากทางการ จอมกับ เฉียด รู้ตัวดีว่า ถ้าเขาอยากจะขึ้นมาใหญ่ ก็ต้องเร่งทำซะตอนนี้ เพราะเจ้าสัวโดนจับ และเสี่ยเฮงก็หนีออกประเทศเพื่อนบ้านไป เฉียดโดนวางแผนให้เข้าใจผิดกับเต้ยที่เป็นมือขวาของเสี่ยเฮง เฉียดได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาข้างกายของเสี่ยเฮงตามลำพังและเป็นไปตามแผน ตอนนี้เฉียดจึงกลายเป็นรองหัวหน้าเพียงคนเดียว รับอำนาจต่างๆ มาจากเสี่ยเฮง กลายเป็นคู่มือที่เสี่ยเฮงไว้ใจ

สิชลเองก็คอยจับตาดูจอม เพราะไม่ไว้ใจจอมเลย แต่เจ้าสัวคอยให้ตองเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของจอมและไปไหนมาไหนกับจอมตลอด นาทีนี้ เป็นยุคทองของ เฉียด บวร และจอม ที่เกือบขึ้นมาใหญ่แล้วถืออำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีเพียงลูกพี่ ทั้งสามก๊ก ที่กำลังเริ่มอ่อนแอเพราะโดนตำรวจจับ และไม่ค่อยกล้าที่จะออกมาสู้แสงสว่างภายนอก ปล่อยให้ทั้งเฉียด บวร จอมที่กำลังห้าวไม่กลัวลูกปืนจากทางตำรวจออกมาดำเนินกิจการแทนซะเป็นส่วนใหญ่ โดยส่งตัวเลขมาให้ดูเป็นระยะๆ

การแต่งเนื้อแต่งตัวของจอมดูหรูหราขึ้น เขายังคงมาดูกิจการค้าขายยาข้างถนนเล่นกลปล่อยงูปาหี่อยู่ สภาพที่จอมมาดูลุงแบน ไม่ต่างจากวันที่เจ้าสัวมาดูลุงแบน จอมพยายามชวนลุงแบนไปอยู่ด้วยเพราะอยากดูแล แต่ลุงแบนไม่พูดด้วย ลุงแบนบอกว่า สำหรับเขา จอมคนที่เคยเป็นเด็กที่มีความคิดดีนั้น ได้ตายจากเขาไปแล้ว จอมยังคงยืนยันว่าเขายังเหมือนเดิม แต่เมื่อจอมเห็นภาพสะท้อนตัวเองในกระจกที่นั่งให้เด็กขัดรองเท้าให้ เขาก็รู้แล้วว่าเขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

จอมอยู่เบื้องหลังการขนยาล็อตใหญ่ โดยที่เฉียดซุ่มดูอยู่ ทั้งสามต่างเผชิญหน้ากัน ไม่ต่างอะไรกับเมื่อครั้งเป็นเด็กที่มาแอบดู ก๊กใหญ่สามก๊กที่ผิดใจกันเมื่อครั้งโน้น แต่ก่อนที่จะขนยาสำเร็จ ตำรวจก็ยกพวกมาทลายซะก่อน ทำให้ทั้งสามเพื่อน กระจัดกระจายกลับไปเขตของตน คนที่บอบช้ำทางกายมากที่สุดคือเจ้าสัวที่โดนหักหลัง และโดนตำรวจจับตัวไปในที่สุด

เวิ้ง นาครเกษม ออกมาจากคุกหลังจากเขาติดมาเท่าอายุของบุญตา ตลอดเวลาที่ผ่านมา เวิ้งอาฆาตมาตลอด เวิ้ง เข้าใจว่า เปี๊ยก ซัมมิท หักหลังเขา เมื่อเวิ้งออกมาได้โดยที่มีแผนที่อีกครึ่งติดตัวมาด้วย เวิ้งยังไม่ได้เบาะเเสของ ลุงแบน หรือเปี๊ยก ซัมมิทเลย

พรพรรณขณะนี้เริ่มมีใจโอนเอียงมาทางจอม เพราะจอมราศีดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับบุญตา เพราะจอมให้การช่วยเหลือให้บุญตากับลุงแบนอยู่ในที่ปลอดภัย บุญตาพยายามถามถึงแม่กับพ่อตนว่าเป็นใคร แต่ลุงแบนก็บ่ายเบี่ยงที่จะพูดถึงมาโดยตลอด

ลุงแบนอ่านตามสถานการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ที่ผลักให้ทุกคนไปอยู่จุดนั้น เฉียดนาทีนี้ที่หลงใหลในอำนาจ เขารู้แล้วว่า ลุงแบนคือ เปี๊ยก ซัมมิท เฉียดเลยบอกเวิ้ง เรื่องแผนที่อีกครึ่ง และลุงแบน โดนจับตัวเพื่อให้นำทางไปหาสมบัติเพราะลุงแบนมีแผนที่อีกครึ่งหนึ่งอยู่ เช่นกัน บวรด้วยความแค้นจึงจับตัวพรพรรณเข้าป่าไปด้วย จอมด้วยความเป็นห่วงลุงแบนจึงวางแผนตามไปโดยที่ไม่รู้ว่าบุญตาได้แอบตามไปด้วย

แล้วก็ถึงวันที่สามเพื่อน ขึ้นมาใหญ่ โดยที่ไม่ต้องอยู่ใต้เงาของใครอีกแล้ว ที่เคยบอกว่าจะกลบเสียงปืนด้วยเสียงปืนทำไมไม่เห็นเป็นจริง ต้องรอให้เหลือปืนกระบอกสุดท้าย พระนครจึงจะสงบเงียบไร้เสียงปืนได้