ละคร บ่วงบรรจถรณ์

ดู 4,800 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 3
เริ่มออกอากาศ 30 ตุลาคม 2560
เวลาออกอากาศ 20:20 - 22:50 น.
  
กำกับโดย อรรถพร ธีมากร
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ กีรตี ชนา, บทโทรทัศน์ ชลนภัสส์ จันทรังษี, จีรนุช ณ น่าน
นำแสดงโดย
มาริโอ้ เมาเร่อ ... หลาวเปิง
ดาวิกา โฮร์เน่ ... แพรนวล
ปรมะ อิ่มอโนทัย ... เขตต์
ซาร่า เล็กจ์ ... เจ้านางเรืองระยับ
ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ ... ซานแปง
กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ... เจ้านางตองริ้ว
น้ำเงิน บุญหนัก ... เจ้านางตองริ้ว (วัยชรา)
เจสัน ยัง ... อูซอ
พนารัตน์ บุนนาค ... เจ้านางแหลง
ภาสกร บุญวรเมธี ... พันตรีประกิต
พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ ... กิ่งแก้ว
ศิระ แพทย์รัตน์ ... ภาค
ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ... แหลมทอง
ปานเลขา ว่านม่วง ... ปราณี
ดวงใจ หทัยกาญจน์ ... คำแดง
พิศมัย วิไลศักดิ์ ... คำเอ้ย
สุรศักดิ์ ชัยอรรถ ... ครูบุญสิงห์
ขวัญฤดี กลมกล่อม ... ปอสา
โกสินทร์ ราชกรม ... นายต่วน
ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ... นายต่วน (วัยชรา)
ทิตชญา ภูดิทกุลกานต์ ... นาตยา
วรนันท์ จันทรัศมี ... ศิรินุช
วิศววิท วงษ์วรรณลภย์ ... ธีรภพ
สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร ... สุนัย
จักรกฤษณ์ กนกพจนานนท์ ... อองเฮียน
กฤศณัฐฐิกา จูไต๋ ... ทองเพ็ง
พฤษภา อุดมศิริกุล ... จันสม
กมลชนก ปานเครือ ... บัวเขม
ผู้สร้าง บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ บ่วงบรรจถรณ์

แพรนวล (ดาวิกา โฮร์เน่) ได้รับมรดกเป็นบ้านที่เชียงรายตามพินัยกรรมที่ นายต่วน (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) พ่อของเธอทำขึ้นก่อนเสียชีวิต พ่อของเธอแยกทางกับปราณี (ปานเลขา ว่านม่วง) แม่ของแพรนวล มาตั้งแต่ยังเด็ก เธอโตมากับแม่และแทบไม่ได้ข่าวของพ่อเลย แม้แต่อาการป่วย เพราะตอนนั้นเธอกำลังเรียนอยู่ที่อเมริกา และระหว่างนั้น แพรนวลได้พบรักกับ เขตต์ (ปรมะ อิ่มอโนทัย) เธอตอบตกลงเมื่อเขาขอแต่งงาน แต่เมื่อกลับมาเมืองไทย เขาก็เริ่มนอกใจเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อความอดทนหมดลงเธอจึงตัดสินใจเดินทางไปยังบ้านที่เชียงราย โดยขอให้แม่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ให้เขตต์รู้

ที่บ้านที่เชียงราย แพรนวลได้พบกับ นางคำแดง (ดวงใจ หทัยกาญจน์) คนเก่าแก่ของพ่อ และ แหลมทอง (ด.ช.ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) หลานชายวัยสิบสองปี และ คำเอ้ย (พิศมัย วิไลศักดิ์) แม่ของคำแดงเป็นชาวไทยใหญ่ ที่เคยช่วยพ่อของแพรนวลค้าขายกับเมืองเวียงขินสมัยสงครามโลกเมื่อราว 50 กว่าปีก่อน และคำแดงพาคำเอ้ยไปฝากไว้ที่โรงพยาบาลเพราะอาการหลงๆ ลืมๆ แพรนวลได้กุญแจทุกดอกของเรือนใหญ่หลังนี้ รวมทั้งกุญแจห้องเก็บของที่ถูกปิดตายไว้หลายปี

เธอพบเตียงพร้อมเสาเตียงทั้งสี่มุม ความสวยของลายแกะสลักฝีมือประณีตของเตียงนอน ทำให้แพรนวลย้ายเตียงเก่านี้ขึ้นไปแทนเตียงเดิมในห้องนอน ด้วยอายุร่วมร้อยปีของเตียงทำให้คำแดงขอให้แพรนวลไหว้ขอเจ้าของเก่า เมื่อล้มตัวลงนอนเป็นครั้งแรกเธอก็ฝันว่าเธออยู่ในเมืองเวียงขิน เป็นฝันที่เสมือนจริงมากจนน่าประหลาดใจ ในความฝันแรกของแพรนวลบนเตียงโบราณ เธอปรากฏตัวขึ้นที่หอคำเมืองเวียงขิน พบเห็นหญิงสาวสูงศักดิ์หน้าตาสะสวยกำลังร่ำไห้ ก่อนจะมีชายหนุ่มเข้ามาปลอบประโลม

ชายหนุ่มมองเห็นแพรนวลและเข้ามาซักถามด้วยความสงสัยว่าเธอเป็นใคร ยังไม่ทันได้ตอบคำถามใดๆ ก็มีเสียงเรียกชื่อเขา ก่อนที่เขาจะผละจากไป รู้แต่เพียงว่าเขาชื่อ หลาวเปิง (มาริโอ้ เมาเร่อ) แพรนวลตื่นขึ้นมาเสียก่อนเมื่อคำแดงมาปลุก คำแดงบอกว่าคนเดียวที่รู้ประวัติของเตียง คือแม่คำเอ้ยของนาง ผู้เลอะเลือนความทรงจำไปหมดสิ้นแล้ว เตียงโบราณนำแพรนวลกลับไปยังเวียงขินอีกครั้งและได้พบกับหลาวเปิง เมื่อแพรนวลบอกเล่าถึงการที่เธอเข้านอนและตื่นมาที่นี่ เขาก็มีท่าทีไม่เชื่อ สอบถามกันไปมาจนแพรนวลรู้ว่าเธอกำลังอยู่ในปี พ.ศ.2487 ยุคที่ทหารไทยกองมณฑลพายัพเข้ายึดเวียงขิน

หลาวเปิงนำพาแพรนวลไปพบกับ เจ้านางตองริ้ว (กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล) น้องสาวของเขา ซึ่งเป็นธิดาแห่งเจ้าฟ้าเมืองอโนทยาน หญิงคนเดียวกับที่แพรนวลเคยเห็นเมื่อการมาเยือนครั้งแรก ตองริ้วกำลังทุกข์ใจที่ถูกบังคับให้แต่งงาน หลาวเปิงไม่อาจนับศักดิ์เป็นพี่ชายของตองริ้ว เพราะแม่ของเขาเป็นเพียงหนึ่งในสนมของเจ้าฟ้าอโนทยาน แม่ยกเขาให้เป็นลูกบุญธรรมของ เจ้าเมืองบุญ ซึ่งเป็นรัชทายาทที่จะได้เป็นกษัตริย์เวียงขิน ต่อจากเจ้าฟ้าเฒ่า เจ้ารัตนชาติ เขาบอกกับตองริ้วว่าแพรนวลเป็นญาติของ ครูบุญสิงห์ (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) คนไทยที่มาเป็นศึกษาธิการสอนภาษาไทยให้ชาวเวียงขิน และเป็นคนที่ชาวเมืองให้ความเคารพนับถือมาก

ตองริ้วไม่อยากแต่งงานจึงหนีมาหาหลาวเปิง หลาวเปิงจึงฝากแพรนวลให้พักอยู่ด้วยในห้องนอนของเขา ซึ่งแพรนวลต้องตื่นตะลึงเมื่อพบเตียงสี่เสา ซึ่งเป็นเตียงเดียวกันกับเตียงในห้องนอนของเธอ แพรนวลแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเธอไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือความจริง เธอมาสู่อดีตอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน คำแดงในเวลาปัจจุบัน พบร่างแพรนวลนอนตัวเย็นอยู่บนเตียง เย็นเหมือนคนเสียชีวิต ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่น จึงไปเรียกแหลมทองมาช่วยกันปลุก แพรนวลจึงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง นางคำแดงตกใจมาก เมื่อรู้ว่าผ้าที่ห่มตัวแพรนวลอยู่นั้นเป็นผ้าที่ใช้คลุมพระพุทธรูปเวลาอัญเชิญพระจากโรงหล่อไปยังวัด มีความเชื่อว่าหากใช้คลุมหน้าคนตาย ก็จะทำให้คนตายระลึกชาติได้ คำแดงจึงรีบสั่งให้แหลมทองไปขอน้ำมนต์ที่วัดมาให้แพรนวล

การกลับมาครั้งนี้ทำให้แพรนวลได้คำตอบว่า เธอจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อมีคนทางนี้ปลุกร่างของเธอให้ตื่น และคนๆ นั้นอาจจะเป็นแหลมทอง ที่ตลาดในเชียงราย ร้านขายของเก่าจากเวียงขิน แพรนวลได้พบกับชุดของเจ้านางแห่งเวียงขินมีรอยขาดเป็นทางยาว ซึ่งคนขายเล่าว่าเป็นชุดที่ใช้ใส่ในวันทำพิธีแต่งงาน แต่เจ้าสาวถูกชิงตัวกลางงานทำให้ชุดขาด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ของเวียงขิน ผู้ชายที่แย่งตัวเธอนั้นคนหนึ่งตายแต่อีกคนรอดไปได้ แพรนวลขอซื้อชุดนั้นทันทีเพราะจำได้ว่าเป็นชุดเดียวกับที่ตองริ้วมอบให้เธอในคืนที่เธอไปเยือนอดีต

แพรนวลซื้อนาฬิกาข้อมือให้เป็นของขวัญวันเกิดแหลมทอง แลกกับสัญญาที่เขาจะต้องเป็นคนเข้าไปปลุกเธอจากเตียง และเรื่องนี้จะต้องถูกเก็บไว้เป็นความลับระหว่างเธอกับแหลมทองเท่านั้น เด็กชายแม้ไม่เข้าใจแต่ก็รับปากแต่โดยดี แพรนวลซ่อมแซมชุดให้พอใส่ได้แล้วสวมมันเข้านอน พร้อมผ้าขนหนูผืนเดิมและดอกลั่นทม อีกสองสิ่งที่เธอเชื่อว่าเป็นสื่อนำพาเธอกลับไปในอดีตกาล แต่การนอนครั้งนั้นก็ล้มเหลวเมื่อแหลมทองขึ้นมาปลุกว่าเขตต์โทรมา แพรนวลสั่งให้ยกหูโทรศัพท์ออกเพื่อตัดการติดต่อจากเขตต์

แพรนวลกลับมาอดีตอีกครั้ง และรู้ว่าตองริ้วจะต้องเข้าพิธีแต่งงานในอีกเก้าวันข้างหน้า คำบอกเล่าของเจ้าของร้านทำให้แพรนวลกังวลใจ ว่าใครคือคนที่ตายในวันพิธี และจะเกี่ยวกับหลาวเปิงหรือไม่ ตองริ้วเล่าเรื่องความรักของเธอให้แพรนวลฟัง เธอรักกับ ซานแปง (ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) เพื่อนชายที่เติบโตมาด้วยกัน แต่กำลังจะถูกจับแต่งงานกับ อูซอ (เจสัน ยัง) หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-ปะเด็ง นายทหารผู้มีอำนาจมาก เธอคิดจะแต่งงานกับซานแปงก่อนที่อูซอจะตามตัวเจอ ในวันแต่งงานหลาวเปิงจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เธอขอให้แพรนวลเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้

นอกจากเรื่องความรักแล้ว แพรนวลยังรู้อีกด้วยว่าเตียงในห้องนอนหลาวเปิงเป็นของแม่เจ้าเมืองบุญ ราชบุตรของเจ้ารัตนชาติเป็นผู้มอบให้แม่กับพ่อของหลาวเปิงเป็นของขวัญแต่งงาน ตองริ้วยังเล่าถึงอาถรรพ์ของเตียงที่หลายคนเคยประสบ ซึ่งก็คือหากใครนอนบนเตียงก็จะหลับฝันและย้อนไปสู่อดีตกาล แม้แต่ เจ้านางเรืองระยับ (ซาร่า เล็กจ์) คู่หมั้นของหลาวเปิงก็เคยเจอกับเรื่องนี้เช่นกัน เจ้านางเรืองระยับเป็นลูกสาวของชายาองค์หนึ่งของ เจ้าร้อยจอม ถูกส่งไปเรียนอังกฤษตั้งแต่แรกรุ่น แต่ก่อนไปเจ้าเมืองบุญก็ขอเธอจากเจ้าร้อยจอมให้หมั้นกับหลาวเปิง

ต่อมาเจ้าเมืองบุญก็ถูกลอบปลงพระชนม์ เมื่อเจ้านางเรืองระยับกลับมาถึงเวียงขินอีกครั้ง เธอก็ยังยืนยันว่าเป็นคู่หมั้นของหลาวเปิง แม้หลาวเปิงจะไม่ยอมรับก็ตาม หลาวเปิงเล่าว่าเขาเคยฝันถึงผู้หญิงคนอื่น และผู้หญิงคนนั้นก็คือแพรนวล หลาวเปิงพาแพรนวลไปที่โรงผลิตเครื่องเรือนของเขากับซานแปง และได้พบกับเจ้านางเรืองระยับที่แสดงตัวเต็มที่ว่าเป็นคนรักของหลาวเปิง ที่บ้านของนายบุญสิงห์ แพรนวลได้พบกับคำเอ้ยในวัยร่วมสามสิบและคำแดงในวัยเด็กน้อย แต่ไม่พบบุญสิงห์ ทางฝ่ายหลาวเปิงรู้จากคำเอ้ย ว่านางไม่เคยพบแพรนวลมาก่อน ทำให้หลาวเปิงรู้ว่าแพรนวลโกหกเรื่องที่ว่าเธอหนีมาจากบ้านบุญสิงห์

เมื่อกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง แพรนวลก็ขอให้แหลมทองพาเธอไปเยี่ยมคำเอ้ยที่โรงพยาบาล แพรนวลพยายามถามเรื่องของเวียงขินแต่คำเอ้ยก็ยืนยันว่าไม่เคยไป ก่อนจะร้องห่มร้องไห้แล้วบอกว่าหลาวเปิงบอกกับนางว่าเขาไม่ได้รักเจ้านางเรืองระยับ รักแต่แพรนวลเพียงคนเดียว พูดจบก็มีท่าทางหวาดกลัวร้องไห้ จนพยาบาลต้องพาตัวแพรนวลออกไป ในการเยือนอดีตครั้งต่อมา อูซอพาลูกน้องบุกเข้ามาถึงห้องนอนของหลาวเปิงหวังปลิดชีพ แต่กลับพบแพรนวลอยู่ในห้องตามลำพัง

เสียงหลาวเปิงตะโกนบอกว่าคนของหอคำจับตัวคนของอูซอได้ให้ระวังตัวอย่าออกมาจากห้อง ส่วนตัวเขาจะพาคนร้ายไปขังที่ค่าย อูซอใช้ปืนจี้แพรนวลถามว่าตองริ้วอยู่ที่ไหน หลาวเปิงตอบกลับมาว่าพักอยู่อย่างปลอดภัยกับเจ้านางเรืองระยับที่หอ ทางด้านแหลมทองก็กำลังปลุกแพรนวลในเวลาแห่งอนาคต ทางด้านอูซอบุกไปที่หอในของเจ้านางจามรีแต่ถูกจับตัวได้เสียก่อน และถูกสอบปากคำ เขตต์พยายามติดต่อแพรนวลแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อรู้ว่าเธออยู่เชียงรายเขาจึงตัดสินใจลาออกจากงานย้ายไปทำงานโรงแรมหรูที่เชียงราย แต่แม้จะตามมาจนถึงบ้านก็ยังไม่พบแพรนวล พบแต่จดหมายลาที่แพรนวลทิ้งไว้

นางคำเอ้ยอาการดีขึ้นมาก เมื่อแพรนวลไปพบและแนะนำว่าเธอชื่อแพรนวล คำเอ้ยจำชื่อนั้นได้และทักตอบว่าชื่อของแพรนวลเหมือนกับคนรักของหลาวเปิง ไม่ใช่เหมือนแค่ชื่อ หน้าตาก็เหมือนราวกับเป็นคนๆเดียวกัน แพรนวลคิดว่าแม่อาจจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเตียงนี้จึงโทรไปถาม ได้ความว่า กิ่งแก้ว (พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์) ภรรยาคนแรกของพ่อตายบนเตียงนี้ มีบันทึกของพ่อที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ให้แพรนวลลองค้นหาบันทึกดู แพรนวลสั่งให้แหลมทองมาช่วยค้นหาสมุดบันทึก แต่กลับพบข่าวเก่าเกี่ยวกับการทำลายหอคำแห่งเมืองเวียงขินเมื่อสิบกว่าปีก่อน

ก่อนเข้านอนเย็นนั้นแหลมทองก็พบสมุดบันทึกที่มีลายมือเขียนบันทึกไว้เพียงหน้าเดียว พร้อมรูปถ่ายของกิ่งแก้ว ในบันทึกเขียนถึงเรื่องการย้อนอดีตไปสู่หอคำแห่งเวียงขิน และมีข้อกำชับว่าต้องอยู่ในอดีตไม่เกินเจ็ดวันเจ็ดคืนในความฝัน หากนานกว่านั้นจะไม่มีวันตื่นจากความฝันได้อีก ก่อนเข้านอนอีกครั้ง เขตต์ก็เข้ามาในบ้าน ขอให้แพรนวลให้อภัย จนแพรนวลยอมให้ค้างคืนที่เรือนด้วย ก่อนจะแอบส่งกุญแจห้องให้แหลมทอง พร้อมกำชับว่าให้มาไขปลุกเธอในตอนเช้าและห้ามให้กุญแจนี้กับเขตต์เป็นอันขาด คืนนั้นแพรนวลย้อนเวลากลับไปพบกับการเตรียมงานแต่งงานของตองริ้วกับซานแปง และรู้ว่ายายของซานแปง ก็คือ กิ่งแก้ว ผู้ที่เคยย้อนเวลามาเช่นเดียวกับเธอ

แพรนวลพบจดหมายในกรอบรูปของกิ่งแก้ว เธอแอบเก็บเอาไว้ ในเวลาเดียวกันอูซอก็ยังหายตัวอยู่ ทหารของเขาก็ปิดปากเงียบ การตามล่าตัวอูซอดำเนินไปพร้อมๆ กับการเตรียมงานแต่งงานของตองริ้ว หลาวเปิงมีแผนจะปล่อยตัวทหารของอูซอให้เป็นอิสระ เพื่อไปบอกนายของพวกมันว่าเขาต้องการนัดพบเจรจาด้วยที่ประตูป่าแดง ก่อนเวลานัดเขาสารภาพรักกับแพรนวล แพรนวลเองก็รักเขา เธอตัดสินใจบอกเรื่องการแต่งงานกับเขตต์ให้เขารับรู้ หลาวเปิงไม่มีท่าทีรังเกียจแต่อย่างใด

แพรนวลอ่านจดหมายของกิ่งแก้วที่แอบเก็บมา จดหมายเล่าเรื่องที่มาที่ไปของเธอและการข้ามเวลามาถึงเวียงขิน โดยมีลูกติดท้องมาด้วยคือ ปอสา (ขวัญฤดี กลมกล่อม) และเรื่องไม้สลักเหนือหัวเตียงที่ทำให้เกิดอาถรรพ์ของเตียง เมื่อไม่มีใครปลุกเธอในเวลาปัจจุบัน ทุกคนจึงคิดว่าเธอตาย ร่างกายของเธอถูก นายต่วน (โกสินทร์ ราชกรม) ผู้เป็นสามี ซึ่งก็คือพ่อของแพรนวลทำพิธีเผาตามประเพณี ส่วนร่างที่ติดอยู่ในอดีตก็ล้มป่วยด้วยโรคไข้มาลาเรีย กิ่งแก้วเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นหวังให้เจ้ารัตนชาติหรือเจ้าเมืองบุญได้อ่าน แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยได้อ่าน จนตายจากภพนี้กันไปหมดสิ้นแล้ว

เขตต์พยายามจะไปปลุกแพรนวลโดยมีแหลมทองพยายามขัดขวางสุดฤทธิ์ เสียงเรียกของเขตต์กับแหลมทองทำให้แพรนวลต้องกลับมายังเวลาปัจจุบัน แพรนวลรีบไปหาคำเอ้ยและถามเรื่องคนที่ถูกยิงในงานแต่งงานของตองริ้ว คำเอ้ยเล่าว่าคนที่ตายคือ ซานแปง ขณะเดียวกันในอดีตเวลาหลาวเปิงไปพบกับอูซอ อูซอกล่าวว่าหากเขาไม่ได้ตองริ้วคืนก็ขอให้ได้แพรนวล หลาวเปิงไม่ยอมตกลง เมื่อกลับมาที่ห้องไม่พบแพรนวล พบแต่จดหมายของกิ่งแก้วที่อยู่ใต้หมอน หลังอ่านจดหมายนั้นเขาก็รู้เรื่องการข้ามเวลาของกิ่งแก้วและแพรนวล เมื่อแพรนวลกลับมาอีกครั้งเขาจึงขอร้องให้เธออยู่กับเขาในกาลอดีต อย่าได้กลับไปอีกเลย

หลาวเปิงพาแพรนวลไปดูที่ดินที่เขาตั้งใจจะปลูกบ้านของตัวเอง เขาตัดสินใจขอแพรนวลแต่งงาน แพรนวลขอเวลาเคลียร์เรื่องเขตต์ก่อนถึงจะให้คำตอบ อูซอเคยรักเจ้านางเรืองระยับหากแต่นางหักหน้าเขาบอกว่ารักหลาวเปิง มาถึงตอนนี้อูซอคิดจะใช้เจ้านางเรืองระยับเป็นเครื่องมือ จึงส่งคนดักเอาตัวมาและบอกแผนการว่า ในวันแต่งงานเขาจะเข้าชิงตัวแพรนวล ขอให้เจ้านางยอมร่วมมือด้วย เพราะแผนนี้เป็นประโยชน์กับเจ้านาง ทั้งช่วยตองริ้วและกำจัดศัตรูหัวใจ

เจ้านางเรืองระยับเอาข่าวมาบอกกับทุกคนว่า อูซอพาทหารของเขากลับพุกามไปหมดแล้ว และฝากปิ่นปักผมมาให้ตองริ้ว เป็นปิ่นอันเดียวกับที่แพรนวลเห็นในร้านขายของเก่าที่เชียงราย หลาวเปิงกับซานแปงวางแผนว่าจะใช้ตัวปลอมสวมบทบาทเป็นเขาและตองริ้วในพิธีแต่งงานเพื่อให้ปลอดภัยจากการถูกชิงตัว ซานแปงกับตองริ้วจะออกเดินทางไปอังกฤษ หลาวเปิงขอให้แพรนวลร่วมเดินทางไปด้วย นั่นหมายถึงว่าแพรนวลจะกลับไปยังกาลปัจจุบันอีกไม่ได้

เขตต์ใช้กำลังพยายามปลุกปล้ำแพรนวล แพรนวลดิ้นรนขัดขืนและตัดสินใจบอกว่าเธอไม่ได้รักเขาแล้ว เธอมีคนรักใหม่ที่เธอพบในฝัน เขาอยู่ในอดีต เขตต์ไม่เชื่อเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ แต่เมื่อนำไปเล่าให้หมอภาคฟัง หมอกลับสนใจเรื่องนี้ วันงานพิธีมาถึง ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนของหลาวเปิง แต่เจ้านางเรืองระยับกลับหายตัวไป หลาวเปิงเข้าใจว่าเธอกลับไปที่หอคำหลังจากรู้ว่าเขาขอแพรนวลแต่งงาน แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เรืองระยับกำลังทำตามแผนของอูซอ จนกระทั่ง ทองเพ็ง (กฤศณัฐฐิกา จูไต๋) เข้ามาเล่าความจริง หลาวเปิงจึงรู้ว่าเรืองระยับคิดคดไปเข้าข้างอูซอ

หลาวเปิงสั่งให้ทองเพ็งใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวเพราะรู้แล้วว่าอูซอรู้แผนสลับตัวสลับชุด แต่เพราะรูปร่างที่อวบท้วมทำให้สวมไม่ได้ หลาวเปิงตัดสินใจขอให้แพรนวลสวมชุดขาวของตองริ้วแทน และเหตุการณ์ก็ดำเนินไปตามคำบอกเล่าที่แพรนวลรู้มาก่อนหน้านี้แล้ว เสียงปืนดังขึ้น เธอพลัดกับหลาวเปิงและถูกผู้ชายหลายคนจับตัวไว้ สติสัมปชัญญะกำลังจะหมดลง ฟื้นขึ้นมาอีกทีที่หอคำก็พบว่าหลาวเปิงยังมีชีวิตอยู่ กระสุนเพียงแค่ถากไหล่เขาไปเท่านั้น ส่วนเจ้านางเรืองระยับจะหนีไปอังกฤษพร้อมตองริ้วและซานแปง ทันใดนั้นเธอก็ถูกปลุกให้ตื่นกลับสู่กาลปัจจุบัน

แพรนวลตื่นมาพบกับแม่ที่เดินทางมาหาพร้อมภาคและเขตต์ ทุกคนเชื่อว่าแพรนวลมีอาการทางจิต แพรนวลไปพบกับ อาจารย์อัปสร ลูกสาวของครูบุญสิงห์ที่เธอพบเจอในอดีตและเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง ครูอัปสรรู้เรื่องที่มาของเตียงว่าหลาวเปิงเป็นคนขายเตียงให้นายต่วน และให้นายต่วนนำเตียงนี้กลับมาเชียงราย เพื่อว่าวันหนึ่งเขาจะมาขอคืน ก่อนที่เขาจะไปอยู่กับเจ้าฟ้าเมืองป๋อนเพื่อเข้าร่วมขบวนกอบกู้อิสรภาพ ในกาลปัจจุบัน แพรนวลทะเลาะกับเขตต์ที่เข้าใจว่าเธอมีชู้ คืนนั้นไฟดับ มือของเขตต์ปัดไปโดนตะเกียงที่หัวเตียงล้ม ไฟไหม้เตียง

ในอีกภพเวลาหนึ่งหลาวเปิงเหมือนได้ยินเสียงของแพรนวลกับผู้ชายทะเลาะกัน เหมือนเขาจะข้ามเวลามาได้ ในขณะที่เขตต์กำลังวิ่งหาสายยางมาฉีดน้ำดับไฟ แพรนวลได้พบกับหลาวเปิงที่นอนอยู่บนเตียงร่ำร้องหาเธอ ในที่สุดแพรนวลก็ตัดสินใจทิ้งร่างลงบนเตียงที่ถูกไฟโหมไหม้ พอดีกับที่เขตต์มาเห็นเข้าก่อนที่เขาจะหมดสติไป ไฟลามไหม้เรือนทั้งหลังจนวอดวาย แต่เขตต์ถูกช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เขตต์มารักษาตัวที่กรุงเทพฯ ด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้แพรนวลต้องตาย จนกระทั่งวันหนึ่งแหลมทองมาพบเขาพร้อมห่อของ มีของสองชิ้นในห่อนั้น ชิ้นหนึ่งคือ สร้อยนาฬิกา ที่แพรนวลสวมติดตัวตลอดเวลาจนวันตาย อีกชิ้นคือ ปิ่นปักผม ของสองสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ความตายในครั้งนี้แพรนวลไม่โกรธเกลียดเขาเลยแม้แต่น้อย

หลังการทำบุญครบรอบหนึ่งปีแห่งการจากไปของแพรนวล เขตต์ได้ต้อนรับ เจ้านางตองริ้วในวัยเจ็ดสิบเศษ (น้ำเงิน บุญหนัก) ที่โรงแรมของเขา เจ้านางเล่าถึงความตายของทหารอูซอที่เข้ามาชิงตัวแพรนวล และเจ้านางเรืองระยับที่สุดท้ายไปไม่ทันเรือ ถูกอูซอบังคับให้ขึ้นแพแต่ถูกกระแสน้ำวนจมลงเสียชีวิตทั้งคู่ ก่อนจากกันเจ้านางได้เล่าถึงหลาวเปิงพี่ชายและแพรนวลหญิงสาวคนรัก พร้อมทั้งให้ดูรูปภาพที่ถ่ายไว้ก่อนวันงานแต่งงาน เขตต์ตกใจมากเมื่อเห็นแพรนวลในภาพนั้น ทำให้เขาคิดขึ้นมาได้ว่า สิ่งที่แพรนวลเล่าว่าเธอสามารถข้ามเวลาไปในอดีตและปัจจุบันได้เป็นความจริง แพรนวลคงต้องการให้ภาพถ่ายนี้หลงเหลืออยู่เพื่อเป็นหนทางหนึ่งที่จะบอกให้เขารู้ เขตต์รู้แล้วว่าแพรนวลได้พบความรัก ความรักที่เธอยอมแลกด้วยกาลเวลาและชีวิตของเธอ