ละคร เรือนชฎานาง
ดู 1,777 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 8 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 23 ตุลาคม 2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:00 - 19:00 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ชัชวาล ศาสวัตกลูน | |||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ภาคินัย, บทโทรทัศน์ Montage Team | |||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท มอนทาจ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เรือนชฎานาง
ตระกูลศุภนาฎที่นำโดย จรัล (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่ที่สืบทอดนาฏศิลป์ชั้นครูมาอย่างยาวนานและยังสืบทอด ชฎานาง เครื่องหัวโบราณอันมีค่า ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของผู้สืบทอดเรือนคนต่อไป จรัลมีลูกสาวอยู่ 3 คนคือ ชฎาพร (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ชฎาพลอย (หนึ่งธิดา โสภณ) และ ชฎาเพชร (ณัฐชา ชูมักเคอร์) โดยทั้งสามนั้นเป็นลูกต่างแม่กัน ทำให้เรือนชฎานางปัจจุบันนั้นถึงแม้ภายนอกจะดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม แต่ภายในนั้นมีเรื่องวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน เพราะภรรยาทั้งสามของจรัล ไม่ว่าจะเป็น สินี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) คณา (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) และ ประไพ (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) ต่างต้องการชิงดีชิงเด่นเพื่อให้ลูกสาวของตัวเองได้เป็นผู้สืบทอดคนต่อไป แม้ว่าจรัลจะเลือกชฎาพรที่เป็นลูกคนโตที่เพียบพร้อมให้สืบทอดต่อจากเขาแล้วก็ตาม
ในความเพียบพร้อมที่คนนอกเห็นนั้นชฎาพรก็มีจุดอ่อนนั่นก็คือเธอมีความสัมพันธ์แบบลับๆ กับ ธรรม์ (วงศกร ปรมัตถากร) เด็กกำพร้าที่จรัลเก็บมาเลี้ยงและเป็นมือระนาดเอกประจำเรือนชฎานาง ถึงแม้ว่าจรัลจะเอ็นดูธรรม์แต่ก็ไม่คิดว่าธรรม์คู่ควรกับชฎาพร เพราะเงื่อนไขของการเป็นผู้สืบทอดเรือนชฎานางนั้นจะต้องหมั้นหมายกับ ราเมศ (พาทิศ พิสิฐกุล) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ รัชพล (อัมรินทร์ นิติพน) ที่เป็นเพื่อนตายของจรัลและยังเป็นนักการเมืองใหญ่อีกด้วย ความรักที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ของชฎาพรกลับถูกเปิดเผย ทำให้จรัลและสินีผิดหวังมาก แต่ชฎาพรที่เห็นแก่ความรักก็ไม่ยอมแพ้และตัดสินใจจะหนีไปกับธรรม์ ในวันที่ชฎาพรและธรรม์นัดกันหนีก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อชฎาพรไปหาธรรม์ตามที่นัดเอาไว้แต่ก็ไม่เจอธรรม์ ชฎาพรไม่รู้เลยว่าธรรม์ได้ถูกลูกน้องของรัชพลจับตัวไปถ่วงน้ำ ทำให้ชฎาพรเข้าใจผิดคิดว่าธรรม์หนีไปคนเดียวหรือไม่ก็ตายไปแล้วและท้ายที่สุดก็ยอมตกลงหมั้นหมายกับราเมศตามหน้าที่ของผู้สืบทอดเรือนชฎานางจะต้องทำ
2 ปีต่อมา ธรรม์กลับมาที่เรือนชฎานางอีกครั้งในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในเรือนชฎานางเพื่อผลักดันโครงการไปแสดงในต่างประเทศ ทุกคนในเรือนชฎานางต่างตกใจ โดยเฉพาะชฎาพรที่คิดว่าธรรม์เสียชีวิตไปแล้ว แต่หลังจากธรรม์กลับมาได้ไม่นานสินีก็เสียชีวิตในลักษณะแปลกประหลาด ทำให้ชฎาพลอยสงสัยว่าธรรม์เป็นฆาตกร เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนพบศพสินีคนแรกแล้ว ยังมีแรงจูงใจที่สินีเคยขวางไม่ให้เขารักกับชฎาพรอีกด้วย แต่การตายของสินีนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ไม่นานนักชฎาพรก็เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชน แต่คราวนี้การตายของเธอกลับทำให้ชฎาพลอยได้ค้นพบความจริงว่าชฎานางอันเก่าแก่ที่ใครต่อใครเคยลือว่ามีอาถรรพ์นั้นกลับเป็นเรื่องจริง เมื่อวิญญาณของชฎาพรปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอและขอร้องให้เธอช่วยสืบหาตัวฆาตกร เพราะหากเธอไม่สามารถหาฆาตกรตัวจริงได้ วิญญาณของชฎาพรจะต้องถูกกักขังอยู่ในชฎานางแทนผีนางรำที่สิงอยู่ไปตลอดกาล ชฎาพลอยสัญญากับชฎาพรว่าจะตามหาฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังการตายของชฎาพรมาให้ได้ คนแรกที่ชฎาพลอยสงสัยนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากธรรม์ที่นัดเจอกับชฎาพรในวันที่เกิดเหตุพอดี แต่ยิ่งสืบไปกลับยิ่งรู้ว่าธรรม์เองก็พยายามตามหาฆาตกรอยู่เหมือนกันและยิ่งพวกเขาใกล้ความจริงมากเท่าไรก็ยิ่งเจอกับอันตรายมากขึ้น เหมือนกับว่าคนร้ายไม่อยากให้พวกเธอเข้าใกล้ความจริง
การช่วยกันสืบหาความจริงนั้นทำให้ชฎาพลอยกลับมาใกล้ชิดกับธรรม์อีกครั้งและเริ่มรู้สึกหวั่นไหว แต่ชฎาพลอยก็ต้องยับยั้งชั่งใจเอาไว้เพราะตัวเธอก็มี ปูน (ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์) ทีชัดเจนกับเธอว่าชอบและหวังจะเป็นแฟนเธอให้ได้ อีกทั้งการตายของชฎาพรทำให้เธอต้องขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดแทนและถูกจับให้ต้องหมั้นหมายกับราเมศ แต่แล้วระหว่างทางการสืบหาคนที่น่าจะเป็นฆาตกรของชฎาพรนั้น เธอก็ค้นพบความชั่วที่ซ่อนไว้ของรัชพลและราเมศว่าทั้งสองคนนั้นจริงๆ แล้วเป็นพ่อค้ายาตัวใหญ่ของจังหวัด โดยได้รับการช่วยเหลือจาก พัดชา (สิรีภรณ์ ยุกตะทัต) เพื่อนสนิทของชฎาพรที่เป็นเลขาของราเมศ แต่ยิ่งชฎาพลอยสืบหาฆาตกรตัวจริงมากเท่าไร ความลับที่ถูกซ่อนไว้ในเรือนชฎานางก็ยิ่งปรากฎอย่างที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทำให้เธอรู้ว่าคนรอบตัวเธอนั้นล้วนแล้วแต่มีมุมมืดที่เธอไม่รู้มาก่อน และฆาตกรตัวจริงนั้นอาจจะอยู่ใกล้ตัวเธอมากกว่าที่คิดก็เป็นได้
ในความเพียบพร้อมที่คนนอกเห็นนั้นชฎาพรก็มีจุดอ่อนนั่นก็คือเธอมีความสัมพันธ์แบบลับๆ กับ ธรรม์ (วงศกร ปรมัตถากร) เด็กกำพร้าที่จรัลเก็บมาเลี้ยงและเป็นมือระนาดเอกประจำเรือนชฎานาง ถึงแม้ว่าจรัลจะเอ็นดูธรรม์แต่ก็ไม่คิดว่าธรรม์คู่ควรกับชฎาพร เพราะเงื่อนไขของการเป็นผู้สืบทอดเรือนชฎานางนั้นจะต้องหมั้นหมายกับ ราเมศ (พาทิศ พิสิฐกุล) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ รัชพล (อัมรินทร์ นิติพน) ที่เป็นเพื่อนตายของจรัลและยังเป็นนักการเมืองใหญ่อีกด้วย ความรักที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ของชฎาพรกลับถูกเปิดเผย ทำให้จรัลและสินีผิดหวังมาก แต่ชฎาพรที่เห็นแก่ความรักก็ไม่ยอมแพ้และตัดสินใจจะหนีไปกับธรรม์ ในวันที่ชฎาพรและธรรม์นัดกันหนีก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อชฎาพรไปหาธรรม์ตามที่นัดเอาไว้แต่ก็ไม่เจอธรรม์ ชฎาพรไม่รู้เลยว่าธรรม์ได้ถูกลูกน้องของรัชพลจับตัวไปถ่วงน้ำ ทำให้ชฎาพรเข้าใจผิดคิดว่าธรรม์หนีไปคนเดียวหรือไม่ก็ตายไปแล้วและท้ายที่สุดก็ยอมตกลงหมั้นหมายกับราเมศตามหน้าที่ของผู้สืบทอดเรือนชฎานางจะต้องทำ
2 ปีต่อมา ธรรม์กลับมาที่เรือนชฎานางอีกครั้งในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในเรือนชฎานางเพื่อผลักดันโครงการไปแสดงในต่างประเทศ ทุกคนในเรือนชฎานางต่างตกใจ โดยเฉพาะชฎาพรที่คิดว่าธรรม์เสียชีวิตไปแล้ว แต่หลังจากธรรม์กลับมาได้ไม่นานสินีก็เสียชีวิตในลักษณะแปลกประหลาด ทำให้ชฎาพลอยสงสัยว่าธรรม์เป็นฆาตกร เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนพบศพสินีคนแรกแล้ว ยังมีแรงจูงใจที่สินีเคยขวางไม่ให้เขารักกับชฎาพรอีกด้วย แต่การตายของสินีนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ไม่นานนักชฎาพรก็เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชน แต่คราวนี้การตายของเธอกลับทำให้ชฎาพลอยได้ค้นพบความจริงว่าชฎานางอันเก่าแก่ที่ใครต่อใครเคยลือว่ามีอาถรรพ์นั้นกลับเป็นเรื่องจริง เมื่อวิญญาณของชฎาพรปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอและขอร้องให้เธอช่วยสืบหาตัวฆาตกร เพราะหากเธอไม่สามารถหาฆาตกรตัวจริงได้ วิญญาณของชฎาพรจะต้องถูกกักขังอยู่ในชฎานางแทนผีนางรำที่สิงอยู่ไปตลอดกาล ชฎาพลอยสัญญากับชฎาพรว่าจะตามหาฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังการตายของชฎาพรมาให้ได้ คนแรกที่ชฎาพลอยสงสัยนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากธรรม์ที่นัดเจอกับชฎาพรในวันที่เกิดเหตุพอดี แต่ยิ่งสืบไปกลับยิ่งรู้ว่าธรรม์เองก็พยายามตามหาฆาตกรอยู่เหมือนกันและยิ่งพวกเขาใกล้ความจริงมากเท่าไรก็ยิ่งเจอกับอันตรายมากขึ้น เหมือนกับว่าคนร้ายไม่อยากให้พวกเธอเข้าใกล้ความจริง
การช่วยกันสืบหาความจริงนั้นทำให้ชฎาพลอยกลับมาใกล้ชิดกับธรรม์อีกครั้งและเริ่มรู้สึกหวั่นไหว แต่ชฎาพลอยก็ต้องยับยั้งชั่งใจเอาไว้เพราะตัวเธอก็มี ปูน (ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์) ทีชัดเจนกับเธอว่าชอบและหวังจะเป็นแฟนเธอให้ได้ อีกทั้งการตายของชฎาพรทำให้เธอต้องขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดแทนและถูกจับให้ต้องหมั้นหมายกับราเมศ แต่แล้วระหว่างทางการสืบหาคนที่น่าจะเป็นฆาตกรของชฎาพรนั้น เธอก็ค้นพบความชั่วที่ซ่อนไว้ของรัชพลและราเมศว่าทั้งสองคนนั้นจริงๆ แล้วเป็นพ่อค้ายาตัวใหญ่ของจังหวัด โดยได้รับการช่วยเหลือจาก พัดชา (สิรีภรณ์ ยุกตะทัต) เพื่อนสนิทของชฎาพรที่เป็นเลขาของราเมศ แต่ยิ่งชฎาพลอยสืบหาฆาตกรตัวจริงมากเท่าไร ความลับที่ถูกซ่อนไว้ในเรือนชฎานางก็ยิ่งปรากฎอย่างที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทำให้เธอรู้ว่าคนรอบตัวเธอนั้นล้วนแล้วแต่มีมุมมืดที่เธอไม่รู้มาก่อน และฆาตกรตัวจริงนั้นอาจจะอยู่ใกล้ตัวเธอมากกว่าที่คิดก็เป็นได้