ละคร หอ.หึ หึ

ดู 3,539 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 3
เริ่มออกอากาศ 22 มีนาคม 2554
เวลาออกอากาศ 18:30 - 20:00 น.
  
กำกับโดย ชานนท์ สมฤทธิ์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ บัณฑิต ฤทธิกล, บทโทรทัศน์ ชานนท์ สมฤทธิ์
นำแสดงโดย
วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ ... ชายธง
อิศริยา สายสนั่น ... ลัดดา
ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง ... น้ำมนต์
จอมขวัญ ลีละพงศ์ประสุต ... สาวิตรี
อาภาพร นครสวรรค์ ... อ.ถมยา
สมชาย ศักดิกุล ... ประสม
เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์ ... บริบูรณ์
สุรินทร คารวุตม์ ... คำพูน
ธงธง มกจ๊ก ... โหงพราย
ปาจรีย์ ณ นคร ... ผีนางรำ
โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว ... ผีป๋องซ่า
จักรพันธ์ จันโอ ... ยินดี
โซเฟีย ลา ... อ.โซฟี
ปณิตา พัฒนาหิรัญ ... ผีพยาบาล
ผู้สร้าง เมคเกอร์ เค

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ หอ.หึ หึ

หอ.หึ หึ เป็นเรื่องราวชีวิตวุ่นๆ ของนายน้ำมนต์ (ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง) เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ชอบเรื่องผีๆ แต่กลัวผีจนขี้ขึ้นสมอง และสนใจทางไสยศาสตร์ เขาสอบเอ็นทรานซ์ไม่ติดจึงเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนในต่างจังหวัด พร้อมกับกลุ่มเพื่อนใหม่ ชีวิตของทุกคนได้เริ่มต้นผูกพันกันมากขึ้นเมื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นน้องใหม่ของรั้วมหาวิทยาลัย และต้องใช้ชีวิตเป็นเด็กหอ โดยไม่รู้ว่าเรื่องราวชวนสยองขวัญจนขนหัวลุกกำลังจะเกิดขึ้นใน "หอ. หึหึ"

วันแรกของการเริ่มต้นชีวิตในมหาลัยฯ น้ำมนต์ ได้เจอกับสาวิตรี (จอมขวัญ ลีละพงศ์ประสุต) เด็กสาวหน้าตาน่ารัก และจิตใจดีที่กลายมาเป็นคู่กัดกันตั้งแต่งานต้อนรับน้องใหม่ ที่ต่างคนก็ไม่ยอมลงให้กัน แต่ใจจริงแล้วน้ำมนต์แอบชอบสาวิตรีตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็น จึงแสดงออกตรงกันข้าม ด้วยการพูดจาเหน็บแนมเป็นคู่กัดกันตลอด ทุกคนได้มาอยู่หอพักเดียวกันในมหาลัยฯ และได้มาเจอกับชายธง (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์) รุ่นพี่ปี 7 ที่เรียนไม่จบเสียทีจนเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างลัดดา (อิศริยา สายสนั่น) หญิงสาวที่ชอบใส่แว่นกรอบหนา แต่งตัวเชยเฉิ่ม ที่สำคัญเป็นคนซุ่มซ่ามไร้ที่ติ ที่หลงรักชายธงมาตั้งแต่ปี 1 และกลับมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย เพื่อได้มาใกล้ชิดกับชายธง

น้ำมนต์ต้องพักอยู่ห้องเดียวกับคำพูน (สุรินทร คารวุตม์) เด็กบ้านนอกยากจน ซึ่งกลัวผีเป็นชีวิตจิตใจแต่มีญาณพิเศษสัมผัสที่หกมองเห็นผีได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนสาวิตรีก็มีเพื่อนคู่หูอีกสองคนคือ แอนกับจอย ที่ได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนบริบูรณ์ (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์) ลูกคนรวยเอาแต่ใจชอบดูถูก และรังแกคนอื่นเสมอต้องอยู่ห้องเดียวกับยินดี (จักรพันธ์ จันโอ) ที่จะคอยดูแลบริบูรณ์ทุกอย่าง เนื่องจากพ่อของบริบูรณ์เป็นคนออกค่าเล่าเรียนพร้อมค่าจ้างให้มาดูแลบริบูรณ์ ยินดีจึงจำเป็นต้องเป็นลูกไล่ให้บริบูรณ์เสมอ

เรื่องราวกุ๊กกิ๊กน่ารักกำลังจะไปด้วยดี ถ้าไม่มีนายประสม (สมชาย ศักดิกุล) ชายวัยกลางคนที่มารับหน้าที่เป็นภารโรงประจำมหาลัยฯ ดูภายนอกแล้วนายประสมเป็นคนมีบุคลิกดี สุภาพ ขยันขันแข็งน่าไว้วางใจ แต่พิลึกที่ชอบแอบกินหมากจนปากแดง ครั้นพอตกดึกกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน แอบปิดห้องทำพิธีเรียกผีออกมาและมีคาถาอาคมบังคับเหล่าผีร้าย เพื่อให้ ยอมรับใช้ตามคำสั่ง จำนวนผีที่ออกมามากมายหลายสิบตน มีทั้ง ผีนางรำ ผีพยาบาล ผีทหาร ผีป๋องซ่าส์ ผีแม่ม่าย ผีปอบ ผีพรายน้ำ ผีเกย์ ผีประเภทสอง ผีเจ้าคุณปู่ ผีเด็ก ผีรุ่นพี่ ผีนางไม้ ผีขนุน ผีน่ารัก ผีดูดเลือด ผีกระสือ ผีกระหัง ผีหัวขาด ผีตายโหง ผีตาโบ๋ ผีทะเล ผีคุณหมอ ผีผู้ป่วย ซึ่งมีมากที่สุดฯลฯ สร้างความพอใจให้กับประสมอย่างมากเพราะความหลากหลายของผีคงทำให้งานสำเร็จด้วยดี เพราะมันมีจุดประสงค์ที่ต้องการให้เหล่าผีนี้ป่วนนักศึกษาและอาจารย์ให้ทุกคนอยู่ไม่ได้ และต้องออกจากมหาวิทยาลัยกันไปในที่สุด ภารกิจนี้นายประสมได้รับว่าจ้างจากนายทุนคนหนึ่งที่ต้องการให้มหา วิทยาลัยขายที่เพื่อมาทำศูนย์การค้า

ตั้งแต่นั้นเหล่าผีก็ออกทำงาน อาละวาดตามคำสั่งของประสม โดยมีผีโหงพรายที่ประสมเสกขึ้นเพื่อคอยควบคุมผีทุกตัวให้ทำไม่ดี และถ้าผีตนไหนไม่ทำตามคำสั่งของมัน มันจะสะกดวิญญาณไม่ให้ไปผุดไปเกิด แต่ถ้างานสำเร็จแล้วจะทำพิธีส่งไปเกิดเป็นรางวัล ซึ่งก็มีผีที่รู้ดีรู้ชั่วอยู่สี่ตน คือ ผีนางรำ ผีพยาบาล ผีทหารอากาศขาดรัก และผีป๋องซ่าส์ ที่ไม่อยากทำตามคำสั่งของนายประสมเพราะมันเป็นเรื่องที่ผิด และจะเป็นกรรมให้ผุดเกิดในภพที่ไม่ดี แต่ก็ขัดขืนไม่ได้เพราะด้วยอำนาจมหามนต์ที่เหนือกว่าสะกดจนอยู่หมัด

เมื่อเรื่องราวไปถึงท่านอธิการบดีกับอาจารย์ถมยา ซึ่งเป็นอาจารย์หญิงวัยใกล้เกษียณเป็นคนที่มีศีลธรรมแต่ ขี้บ่น รักษาแบบแผนแนวปฏิบัติ เวลาเจอผีก็มักจะต้องสั่งสอนผีกันก่อน ทำให้ลูกศิษย์เป็นห่วงว่าผีจะหักคอเสียก่อนจึงต้องเตือนสติพาหนีประจำ รวมทั้งอาจารย์โซฟี อาจารย์สอนภาษาไทยที่พูดไทยไม่ชัดเอาซะเลย ต่างก็พากันให้ช่วยแก้ไขสถานการณ์ จนกระทั่งอาจารย์ลัดดาที่เกิดจำขึ้นมาได้ว่าเคยเห็นประสมปีนขึ้นไปเหมือนจะเอาผ้ายันต์สะกดวิญญาณออกจากบานประตู แต่คำพูนบอกว่าเป็นของปลอมเพราะคำพูนมีสัมผัสที่หกเห็นผีเดินผ่านเข้าผ่านออกสบายใจ อธิการบดีจึงเรียกให้ประสมเข้าพบที่ห้องเพื่อต่อว่าทำไมต้องเอาผ้ายันต์ออกไป ประสมไม่ตอบแต่กลับพ่นน้ำหมากเข้าใส่หน้าอธิการเพื่อสะกดให้อยู่ใต้อำนาจ ตั้งแต่นาทีนั้นอธิการก็กลายเป็นสมุนของประสมทันที

น้ำมนต์เริ่มสงสัยประสมและคอยแอบดูพฤติกรรม จนกระทั่งวันหยุดทุกคนกลับบ้านแต่น้ำมนต์กับเพื่อนย้อนกลับมาแอบดูประสม และเป็นจริงอย่างที่น้ำมนต์คิดคือประสมกำลังสะกดคำสั่งให้อธิการไล่นักศึกษาออกให้หมด แต่อธิการไม่ยอม ประสมจึงเรียกผีทหารให้มาหลอกเพราะอธิการจะกลัวผีในเครื่องแบบมาก อาจารย์และนักศึกษาที่ทนความกลัวไม่ไหวต่างขอลาพักชั่วคราว ต่างเก็บข้าวของหิ้วกระเป๋าจากไป อาจารย์หลายคนก็ถอดใจไม่อยากสอน นักศึกษาบางคนไม่อยากเรียนและลาออกจากมหาวิทยาลัย เป็นครั้งแรกที่ทุกคนสามัคคีและพร้อมใจกันคิดหาทางออก แต่ชายธงกับลัดดากลับถูกลูกน้องของเสน่ห์จับถ่วงน้ำจนเกือบตาย แต่ในขณะเดียวกันกายทิพย์ของชายธงและลัดดาก็หลุดออกจากร่างและคิดว่าตนเองตายแล้วทั้งคู่ ทั้งสองระเหเร่ร่อนจนไปเจอน้ำมนต์กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่กำลังทำพิธีเรียก ผีนางรำ ผีพยาบาล ผีทหารอากาศ ผีรุ่นพี่ป๋องซ๋าส์ พยายามช่วยกันเพื่อให้กายทิพย์ของชายธงกับลัดดากลับเข้าร่างก่อนที่จะเอาเครื่องช่วยหายใจออกก็จะตายทันที

แต่แล้วทุกคนก็เกือบช็อคเมื่อทั้งคู่ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์แต่ต่างก็ตกใจเพราะคิดว่าเห็นผีวิ่งหนีกันใหญ่ จนทั้งลัดดาและชายธงพิสูจน์ให้เห็นว่ายังมีชีวิตอยู่ทุกคนจึงดีใจยกใหญ่ ประสมหลังจากถูกเปิดเผยตนเองแล้วก็หนีหลบไปอยู่ห้องลับที่เคยเป็นบังเกอร์หลบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการฝึกฌานและอาคมให้เก่งกล้ายิ่งขึ้น ระหว่างนั้นน้ำมนต์ได้ไปหาสัปเหร่อคงขี้เมาที่จริงๆ แกเป็นหมอผีมือ ฉมั่งแต่แอบซุกตัวอยู่ที่วัดมาหลายปี โดยสัปเหร่อคงแนะนำให้เอาความดีชนะความชั่ว ให้น้ำมนต์รักษาศีลแปดอย่างเคร่งครัดครบสามอาทิตย์และแผ่ส่วนกุศลให้กับเหล่าผีทั้งหลายด้วยใจบริสุทธิ์ทุกวันๆ เพื่อช่วยเหลือเหล่าผีให้มีกำลังบุญต่อต้านความชั่วร้ายของประสม น้ำมนต์จึงกลับมาทำตามที่ท่านแนะนำด้วยการนุ่งขาวห่มขาวและพยายามรักษาศีลอย่างเคร่งครัด

จนกระทั่งน้ำมนต์ได้หาวิธีคลายมนต์สะกดให้ผีดิบหยุดนิ่งด้วยคาถาของพระอาจารย์องค์เดิม และเขาก็ทำได้สำเร็จ และแล้วความสงบสุขของมหาวิทยาลัยก็กลับคืนมาอีกครั้ง นักศึกษาต่างกลับมาเรียนตามปกติ รวมทั้งน้ำมนต์กับกลุ่มเพื่อนด้วยที่กลับมารักและสามัคคีแน่นแฟ้นจนเป็นกลุ่มเพื่อนที่สนิทมากกลุ่มหนึ่ง และทำให้บริบูรณ์ยอมรับในตัวของยินดีเป็นเพื่อนเสมอกันไม่ได้ให้เป็นลูกไล่อีก ส่วนน้ำมนต์กับสาวิตรีก็เริ่มปลูกต้นรักกันใหม่ รวมทั้งชายธงกับ ลัดดาที่ผูกพันกันมากยิ่งขึ้น

ท่านอธิการบดีได้จัดเลี้ยงใหญ่เพื่อขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันปราบผีและกำจัดคนชั่วได้สำเร็จ ซึ่งคืนนั้นคำพูนทิ้งท้ายบอกเพื่อนๆ ว่า เขาเห็นเพื่อนผีๆ มาร่วมแสดงความยินดีกับทุกคนด้วยเพื่ออำลาไปผุดไปเกิดกันเสียที แต่ทุกคนก็ขนหัวลุกฮือฮาวงแตกกันอีกครั้ง ต่างบอกว่าไปที่ชอบๆ เถิดไม่ต้องมาลาก็ได้จ๊ะพี่ผี หึ หึ