ละคร มายานางฟ้า

ดู 4,052 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง True4U
เริ่มออกอากาศ 6 ตุลาคม 2557
เวลาออกอากาศ 20:15 - 21:15 น.
  
กำกับโดย รอน บรรจงสร้าง
นำแสดงโดย
พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ... รามิล ตันธนะวิไกร
บุญยิสา จันทราราชัย ... อลิสา วิริยะพัทธ/อลิส
อนุสรณ์ มณีเทศ ... ไรวัต พาพบสุข
นาตาลี เจียรวนนท์ ... อาภา ตันธนะวิไกร
กาญจ์คนึง เนตรสีทอง ... ฤดีมาศ เพิ่มแสงทรัพย์/ดีดี้
ธนพล มหธร ... อนนท์ ขุมเพชรพลอย
เธียยเกศ ไอสุรางฆ์ ... พิมพี่ พิมประภา
สุเชาว์ พงษ์วิไล ... เจ้าสัววิวัฒน์ สิริชูโต

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ มายานางฟ้า

บรรยากาศงานแถลงข่าวเปิดตัวบรรณาธิการบริหารคนใหม่ของนิตยสารควีน นิตยสารแฟชั่นอันดับหนึ่งของเมืองไทย อาภา ตันธนะวิไกร (นาตาลี เจียรวนนท์) อดีตบรรณาธิการบริหาร และเจ้าของฉายา นางสิงห์แห่งวงการแฟชั่น กล่าวถึงบรรณาธิการบริหารคนใหม่อย่างชื่นชมและเปิดตัว ไรวัต พาพบสุข (อนุสรณ์ มณีเทศ) บรรณาธิการบริหารคนใหม่ของนิตยสารควีน ไรวัตมองไปรอบๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่าโชคชะตาจะนำพาอดีตเด็กกำพร้าอย่างเขาให้มาถึงจุดนี้ ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของ อลิสา วิริยะพัทธ (บุญยิสา จันทราราชัย) หรือ อลิส อดีตคนรักของไรวัต อลิสใส่ชุดดำที่ถือปืนบุกเข้ามาในงาน แล้วเล็งไปที่ไรวัต

ความทรงจำในอดีตถาโถมเข้ามาในวันที่ทั้งคู่ต่างพบกันเป็นครั้งแรก ณ สนามเด็กเล่นแห่งหนึ่ง อลิสา อายุ 6 ขวบ ได้มาพบเจอกับไรวัต เด็กกำพร้าวัย 12 ขวบโดยบังเอิญ อลิสาได้พาไรวัตมาที่บ้านของเธอ บ้านของอลิสาเป็นร้านทำรองเท้าเล็กๆ โดยรองเท้าทุกคู่จะผ่านฝีมือการตัดเย็บอันประณีตของ เดช วิริยะพัทธ พ่อของอลิสา อลิสาจึงเติบโตขึ้นมาด้วยความรักของพ่อและศิลปะการทำรองเท้า เดชให้ความรักและเอ็นดูกับไรวัตเหมือนลูกแท้ๆ เพราะสงสารที่ไรวัตไม่มีพ่อแม่จึงตัดสินใจรับอุปการะไรวัตจากบ้านเด็กกำพร้า ไรวัตจึงได้ย้ายมาที่บ้านของเดช เขากลายเป็นทั้งพี่และเพื่อนเล่นของอลิสา จนกระทั่งมิตรภาพก่อเกิดเป็นความรัก ไรวัตจบจากคณะวารสารศาสตร์ และทำงานเป็นคอลัมนิสต์ให้ตามนิตยสารต่างๆ แต่ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ ส่วนอลิสาพอเรียนจบก็ตัดสินใจจะทำแบรนด์รองเท้าของเธอเอง โดยใช้ชื่อแบรนด์ Alice ซึ่งเป็นชื่อของเธอเอง

ฤดีมาศ เพิ่มแสงทรัพย์ หรือ ดีดี้ (กาญจ์คนึง เนตรสีทอง) เพื่อนสนิทของอลิสาที่ตอนนี้เปิดร้านขายของออนไลน์ ขายทุกอย่างที่กำลังเป็นที่นิยม รวมทั้งรองเท้าแบรนด์ Alice ด้วย ดีดี้คอยกระเซ้าเย้าแหย่เชิงหมั่นไส้แกมอิจฉาอลิสากับไรวัตอยู่เสมอ เพราะดีดี้เองก็ฝันว่าวันหนึ่งเธอจะได้เจอกับเนื้อคู่ของเธออย่างที่หมอดูบอกไว้ ดีดี้มีความฝันจะได้พบรัก ส่วนอลิสมีความฝันที่จะได้เห็นรองเท้า แบรนด์ Alice ของตัวเองวางขายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เหมือนแบรนด์หรูจากต่างประเทศ เย็นวันหนึ่งไรวัตขออลิสาแต่งงาน และมอบคำมั่นสัญญาว่าจะรักและดูแลอลิสาด้วยชีวิต อลิสาตอบตกลงเพราะเธอรักไรวัตมาก และเชื่อว่าไรวัตจะดูแลเธอได้ดี อลิสากับไรวัตวางแผนจะแต่งงานกันอีก 1 ปี อลิสาตั้งใจพัฒนาแบรนด์รองเท้า ส่วนไรวัตตั้งใจจะหางานประจำทำเพื่อความมั่นคงในชีวิต

นิตยสารควีนจัดการประกวดนักออกแบบรองเท้า เพื่อค้นหาหาดีไซเนอร์หน้าใหม่ อลิสาตื่นเต้นมากเพราะคิดว่านี่คือโอกาสครั้งสำคัญของเธอ อลิสาตั้งใจออกแบบรองเท้าอย่างสุดฝีมือ และเธอก็ทำได้สำเร็จ อลิสาผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขัน ในรอบสุดท้ายนอกจากอลิสาจะต้องตัดเย็บรองเท้าจริงเพื่อให้นางแบบใส่เดินโชว์ต่อหน้าคณะกรรมการแล้ว เธอยังต้องคิดหัวข้อเพื่อถ่ายแฟชั่นอีกด้วย อลิสาตัดสินใจติดต่อช่างภาพนิรนามคนหนึ่งที่เธอเคยเห็นผลงานของเขาผ่านทาง อินสตาแกรม "Kismet" คือชื่อของช่างภาพคนนั้น เธอไม่เคยเห็นหน้าช่างภาพเพราะเขาไม่เคยลงรูปตัวเอง เช่นเดียวกับ อลิสาที่ใช้ชื่อ "Aliza" และไม่เคยลงรูปตัวเธอเองเช่นกัน ทั้งสองคนตกลงนัดพบกันเพื่อพูดคุยเรื่องการถ่ายแบบ แต่อลิสาไม่รู้เลยว่าช่างภาพนิรนามคนนั้นคือ รามิล ตันธนะวิไกร (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) ชายหนุ่มสุดโรคจิตที่เธอและดีดี้บังเอิญได้เจอที่สวนสาธารณะ แต่สุดท้ายทั้งหมดก็เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน ดีดี้หลงเสน่ห์รามิลตั้งแต่แรกเห็น แถมยังคิดเข้าข้างตัวเองอีกว่า รามิลคือเนื้อคู่ของเธอที่หมอดูทักไว้ อลิสาตั้งใจจะยกเลิกการจ้างรามิลมาถ่ายแฟชั่นให้ แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ต่อฝีมือการถ่ายรูปของรามิล ทั้งคู่จึงได้ร่วมงานกัน

รามิลมีผู้ช่วยช่างภาพประจำตัวคือ อนนท์ ขุมเพชรพลอย (ธนพล มหธร) ทายาทกิจการร้านเพชรชื่อดังที่ไม่ค่อยยอมแสดงตัวตนแสนรวยให้ใครรู้ อนนท์เป็นทั้งผู้ช่วยและเป็นทั้งเพื่อนสนิทที่สุดของรามิล รู้ความลับทุกอย่างของรามิล โดยเฉพาะเรื่องสาวๆ เพราะรามิลก็ถือได้ว่าเจ้าชู้ตัวพ่อ เพราะเหตุผลที่รามิลต้องทิ้งงานที่อเมริกาและบินกลับมาไทยอย่างกะทันหัน เพราะต้องการชิ่งจากหญิงสาวคนหนึ่งที่ตามติดรามิลประดุจภรรยา ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่นไปด้วยดี แต่อาการป่วยของเดชที่พยายามปิดบังทุกคนไว้ก็แสดงอาการทรุดหนัก ไรวัตเป็นคนพาเดชไปโรงพยาบาล และได้รู้ว่าเดชกำลังป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่สาม หมอแนะนำให้เดชผ่าตัดเพื่อรักษาอาการป่วย แต่เดชไม่มีเงินพอที่จะรักษาโรคร้ายนี้ได้ จากการป่วยของเดชทำให้ไรวัตได้รู้อีกว่าเดชได้เอาโฉนด บ้านไปจำนองไว้นานแล้ว ด้วยความรักความกตัญญูต่อเดช ไรวัตตัดสินใจรับงานที่นิตยสารควีนเพื่อหาเงินมารักษาเดช วินาทีนั้นไรวัตไม่รู้เลยว่านี่คือการตัดสินใจที่ทำให้ชีวิตของอลิสาจมดิ่งสู่หายนะไปตลอดกาล

ไรวัตได้เจอกับอาภาครั้งแรก ในขณะที่รถของอาภาเสียอยู่กลางทางและกำลังจะมีงานด่วนอีกครึ่งชั่วโมง อาภากราดเกรี้ยวเสมอเมื่อเจอเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงพอใจ แต่เมื่อไรวัตเสนอตัวเข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ เขาดูสุขุม เยือกเย็น แต่ในขณะเดียวกันก็อ่อนโยนมากพอที่จะทำให้เธอสงบ อาภาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ไรวัตจับอาภาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขา และพาเธอไปส่งที่ออฟฟิศ อาภายื่นนามบัตรของเธอให้เขา พร้อมยื่นข้อเสนอให้เธอได้ตอบแทนเขา หรืออีกนัยหนึ่งเผื่อเธอจะได้เจอหน้าเขาอีก แต่ไรวัตไม่รับน้ำใจของเธอเพราะที่เขาทำไปไม่ได้หวังอะไรตอบแทน เมื่ออาภาเห็นใบสมัครงานของไรวัตที่เคยส่งมาที่บริษัทเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอก็ดีใจมากจัดการติดต่อให้ไรวัตมาทำงานที่นิตยสารของเธอทันที ตอนแรกไรวัตปฏิเสธแต่เมื่อมีเรื่องของเดชเข้ามาไรวัตจึงกลับมาหาอาภาอีกครั้ง เพื่อรับงานในตำแหน่งที่อาภามอบให้ พร้อมทั้งทำเรื่องเบิกเงินเดือนล่วงหน้า เพื่อไปสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลของเดช อาภารับไรวัตเข้าทำงานในฐานะรองบรรณาธิการบริหาร ทุกคนในบริษัทมองปราดเดียวก็รู้ว่าไรวัตจะกลายเป็นขนมหวานชิ้นใหม่ของอาภา ตอนแรกอาภาเองก็คิดเช่นนั้น ทว่าความหยิ่งในศักดิ์ศรีที่แฝงด้วยท่าทีอันอบอุ่นของไรวัต ทำให้เธอเริ่มคิดได้ว่าการครอบครองเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมิใช่น้อย

อาภาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไรวัตเป็นของเธอ ทั้งเสนอเงิน เสนอตำแหน่ง เช่นเดียวกับที่เธอปฏิบัติกับนายแบบหิวเงินคนอื่น แต่ไรวัตกลับปฏิเสธเธออย่างนุ่มนวลทว่าเจ็บแสบว่า เงินซื้อเขาไม่ได้ อาภาเจ็บใจแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอยากครอบครองไรวัตมากขึ้น คนอย่างอาภามีครบทุกสิ่ง ทั้งชื่อเสียง เงินทอง การศึกษา หน้าที่การงาน แต่สิ่งเดียวที่เธอโหยหาคือคนรัก ในอดีตอาภาเคยคิดถึงแต่คู่นอน หนึ่งในนั้นคือ ดอม อัศวนัย นายแบบหนุ่มคู่ขายามเหงาของอาภา ดอมรักอาภาอย่างใจจริงและหวังว่าวันหนึ่งอาภาจะตกลงปลงใจคบกับเขาอย่างจริงจังและเปิดเผย แต่อาภาไม่เคยคิดแบบนั้น สำหรับเธอการแต่งงานคือพันธะอันน่าเหนื่อยหน่ายและจอมปลอม เพื่อนรุ่นเดียวกับเธอต่างก็แต่งงานมีลูกเยอะแยะไป แต่ไม่มีใครมีความสุขสักคน เธอเสียอีกที่มีชีวิตที่เพื่อนๆ อิจฉา อาภาเคยผ่านการขอแต่งงานจากหนุ่มใหญ่ที่มีหน้ามีตามานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีใครสามารถทำให้นางสิงห์อย่างเธอสงบยอมได้สักคน น่าแปลกที่ไรวัตกลับทำให้เธออบอุ่นมั่นคงทางจิตใจ และเริ่มคิดถึงการแต่งงานขึ้นมา ดูก็รู้ว่าเขาไม่สนใจเธอสักนิด แต่อาภาก็ไม่หมดหวังเพราะไรวัตบอกกับทุกคนว่าเขาไม่มีคนรัก

ไรวัตเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เข้าทำงานที่ควีน ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและอลิสาเริ่มสั่นคลอนไปด้วย อลิสาไม่เข้าใจว่าทำไมไรวัตจึงรับงานที่ควีน เพราะทำให้อลิสาทำผิดกฎระเบียบในการแข่งขัน ข้อที่ว่าห้ามรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับพนักงานในบริษัท อลิสาหวังจะได้ยินคำอธิบายเรื่องราวทั้งหมด แต่ไรวัตก็ไม่เคยบอกแถมยังต้องโกหกทุกคนว่าไม่ได้เป็นแฟนกับอลิสา เพราะเดชไม่ต้องการให้อลิสารู้ว่าเขาป่วย ทั้งเดชและไรวัตรู้สึกผิดที่ต้องปิดบังอลิสา จึงได้แต่หวังว่าสุดท้ายอลิสาจะยอมเข้าใจ ยิ่งทำงานด้วยกัน รามิลก็ยิ่งประทับใจที่อลิสาจริงจังกับความฝันที่อยากจะเป็นนักออกแบบรองเท้าชื่อดัง รามิลเหวอๆ ที่ได้รู้ว่าแฟชั่นรองเท้าที่เขาถ่ายอยู่นี้ อลิสาจะนำไปประกวดนิตยสารควีนที่มีอาภาพี่สาวจอมเฮี้ยบของเขาเป็นบรรณาธิการบริหารอยู่นั่นเอง แถมป่านนี้อาภาคงคิดว่าเขายังอยู่ที่นิวยอร์ก รามิลเก็บเรื่องที่เขาเป็นน้องชายของอาภาไว้เป็นความลับ โดยที่ไม่ได้บอกอลิสากับฤดีมาศ

อาภาคัดเลือกรูปแบบจากนักออกแบบรองเท้ารอบสุดท้าย เธอสะดุดตากับภาพที่อลิสาส่งมา แบบรองเท้านั้นน่าสนใจ แต่อาภาจำได้แม่นยำว่านี่คือฝีมือถ่ายภาพของรามิลน้องชายของเธอเอง แป้ง เลขาคนเก่งของอาภา และชาย ชายหนุ่มใจหญิงบรรณาธิการแฟชั่นต่างกระซิบกระซาบเม้าท์เรื่องการเข้ามาทำงานของไรวัต เพราะมั่นใจว่าไรวัตคงใช้ทางด่วนทางลัดถึงได้ตำแหน่งรองบรรณาธิการบริหารไปหน้าตาเฉย แถมงานนี้ดอมคงจะตกกระป๋องแล้ว ดอมแอบรู้ว่าไรวัตและอลิสามีความสัมพันธ์กัน แต่อาภากลับไม่เชื่อ ก่อนวันแข่งขันอลิสาพบเดชนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่ที่บ้าน อลิสาได้รู้ความจริงเรื่องพ่อไม่สบาย เธอคิดจะถอนตัวจากการแข่งขันเพราะไม่อยากทิ้งเดชไว้คนเดียว แต่เดชขอให้อลิสาทำฝันของตัวเองให้สำเร็จ อลิสาบอกกับเดชว่าเธอจะชนะการประกวดให้ได้เพื่อเอาเงินรางวัลมารักษาพ่อ

ในที่สุดอลิสาก็ชนะการแข่งขันการประกวดออกแบบรองเท้า อย่างที่ตั้งใจ สื่อต่างๆ ออกข่าวแสดงความยินดีอย่างครึกโครม อลิสากลายเป็นที่รู้จักของทุกคนในทันที รวมทั้งเจ้าสัววิวัฒน์ สิริชูโต (สุเชาว์ พงษ์วิไล) เจ้าของกิจการเครื่องลายครามส่งออกที่ใช้เวลาร่วมสิบปีในการตามหาตัวเดช เพื่อสะสางเรื่องราวในอดีตที่ค้างคาใจเจ้าสัวมานาน เจ้าสัวสั่งให้ ทนง ทนายความคนสนิทสืบประวัติของอสิสา เพราะเจ้าสัวมั่นใจว่าอลิสาคือลูกสาวของเดชแน่นอน แบรนด์ Alice ดังเป็นพลุแตกในชั่วข้ามคืน รองเท้าถูกสั่งจองหลายสิบคู่ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย จนกระทั่งความลับที่ไรวัตปกปิดไว้ถูกเปิดเผยว่าแท้จริงแล้ว ไรวัตกับอลิสาเป็นแฟนกัน อาภาโกรธมากที่ไรวัตโกหกเธอ อาภาคิดว่าไรวัตเข้ามาทำงานและทำดีกับเธอเพื่อหวังให้อลิสาชนะการประกวด ซึ่งการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่อาภายอมรับไม่ได้ และนอกจากเรื่องของไรวัต อาภายังมั่นใจอีกด้วยว่ารามิล น้องชายของเธอเป็นคนถ่ายแฟชั่นให้อลิสา

อาภาเปิดแถลงข่าวตัดสิทธิ์การชนะการประกวดการแข่งขันของอลิสา เพราะเธอทำผิดกฎกติกาการแข่งขัน เหมือนโลกทั้งใบถล่มใส่อลิสา นอกจากชื่อเสียงที่พังพินาท อลิสายังต้องคืนเงินรางวัลให้กับนิตยสาร แถมยังต้องเสียค่าปรับที่ทำผิดกฎในการประกวดอีกด้วย ชื่อเสียงของอลิสาย่อยยับลงต่อหน้า ก็ยังไม่เสียใจเท่าความหวังที่จะให้เดชเข้ารับการผ่าตัดต้องเลื่อนออก ไปทั้งๆ ที่อาการของเดชก็ทรุดหนัก อลิสเหมือนคนหมดสิ้นหนทาง ไร้ที่พึ่งใดๆ เพราะหลังจากวันที่อาภาแถลงข่าวเรื่องการตัดสิทธิ์รางวัล อลิสาก็ติดต่อไรวัตไม่ได้ เขาไม่รับสายเธอ และไรวัตไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย อลิสาเริ่มสังหรณ์ใจว่าไรวัตอาจจะกำลังเปลี่ยนไป และความสัมพันธ์ของเธอกับเขากำลังมาถึงจุดจบ อย่างไรก็ตามอลิสายังไม่ปักษ์ใจเชื่อ เพราะไรวัตไม่เคยทำให้เธอเสียใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วสิ่งที่อลิสากลัวก็เกิดขึ้น เมื่อวันที่เดชอาการทรุดหนักเป็นตายเท่ากัน เธอก็ได้เห็นข่าวการแต่งงานสายฟ้าแล่บของไรวัตกับอาภา และเหมือนสวรรค์จงใจกลั่นแกล้งอลิสา เมื่อหมอมาแจ้งข่าวร้ายว่าเดชเสียชีวิตแล้ว อลิสาล้มทั้งยืนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเธอสูญเสียคนที่เธอรักที่สุดในชีวิตไปพร้อมๆ กัน

วงสังคมต่างพูดถึงเรื่องอาภาแต่งงานกันเจ้าบ่าวรุ่นน้องอย่างสนุกปาก แต่อาภาไม่สนใจ ทางด้านไรวัตก็ดูยินยอมพร้อมใจเป็นอย่างดี อลิสาเจ็บปวดที่ไรวัตลืมเรื่องงานแต่งงานที่วาดฝันไว้กับเธอเสียหมดสิ้น ฤดีมาศเจ็บใจแทนอลิสาที่ไรวัตไปเกาะคนที่รวยกว่า อลิสาเสียใจมากที่สุดในชีวิต เนื่องจากเธอต้องสูญเสียบุคคลที่เธอรักหมดหัวใจไปสองคน นั่นคือพ่อและไรวัต ต่างกันที่คนหนึ่งจากเป็น แต่อีกคนจากตาย ท่ามกลางความโศกเศร้านั้น นอกจากฤดีมาศที่คอยอยู่เคียงข้างเธอ ก็เห็นจะมีแต่รามิลและอนนท์ที่วนเวียนมาหาเพื่อให้กำลังใจ อลิสาได้เห็นรามิลในมุมมองใหม่ เธอรู้สึกดีกับรามิลมากขึ้นแต่ยังไม่พร้อมจะเปิดรับใครเข้ามาในหัวใจอยู่ดี ในงานศพของเดช อลิสาได้เจอกับเจ้าสัววิวัฒน์เขาเสียใจกับการจากไปของเดช เพราะเดชคือชายผู้มีบุญคุญของเจ้าสัว

หลังงานเผาศพของเดช อลิสาซึมเศร้าถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย แต่เจ้าสัวมาช่วยชีวิตไว้ทันและพูดให้อลิสาได้คิด เจ้าสัวสอนอลิสาว่า คนที่ยอมแพ้คือคนที่ตายไปแล้ว พร้อมรื้อฟื้นความหลังให้ฟังว่า สมัยหนุ่มๆ เดชกับเจ้าสัวเคยเป็นเพื่อนกันที่ร้านทำรองเท้า จนวันหนึ่งแม่ของเจ้าสัวป่วยหนัก เจ้าสัวจึงขอเบิกค่าแรงล่วงหน้าพร้อมลาหยุดเพื่อกลับไปเยี่ยมแม่ แต่เจ้าของร้านไม่ยอมทะเลาะกันจนสุดท้ายเจ้าสัวโดนไล่ออกแถมค่าแรงก็ไม่ได้ เจ้าสัวไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว เดชเลยให้เงินค่าแรงทั้งหมดที่ได้กับเจ้าสัวเพื่อให้เจ้าสัวได้เดินทางกลับไปหาแม่ ภรรยาของเดชก็ยังให้กับข้าวมาเพื่อทานระหว่างเดินทาง และสิ่งที่ประทับใจเจ้าสัวไม่เคยลืมคือ ลูกสาวตัวน้อยของเดชที่เห็นพ่อแม่ของเธอให้ของต่างๆ กับเจ้าสัว เธอจึงมอบตุ๊กตากระต่ายตัวโปรดของเธอให้กับเจ้าสัวไปด้วย เจ้าสัวไม่เคยลืมบุญคุณของเดชเลย เพราะหากวันนั้นไม่มีเดช วันนี้ก็คงไม่มีเจ้าสัว เจ้าสัวพยายามตามหาเดชเพื่อตอบแทนบุญคุณแต่ไม่เคยเจอ จนกระทั่งทราบข่าวว่าเดชจากไป เจ้าสัวรู้สึกผิดเพราะหากเขาเจอเดชเร็วกว่านี้ เขาอาจช่วยเรื่องการเงินของเดชได้ เจ้าสัวเห็นว่าอลิสาลำบากจึงต้องการอุปการะอลิสา และรับปากจะสนับสนุนแบรนด์รองเท้า Alice แต่อลิสาปฏิเสธความหวังดีของเจ้าสัว

ทนงยื่นข้อเสนอให้อลิสาแต่งงานกับเจ้าสัวในนาม เพื่อช่วยชีวิตเจ้าสัวจากการลอบฆ่าของ คุณหญิงอรอุมา สิริชูโต ภรรยาผู้คิดไม่ซื่อของเจ้าสัว และเพื่อป้องกันไม่ให้คุณหญิงอรอุมามีสิทธิอย่างชอบธรรมในกองมรดกนับพันล้าน เจ้าสัวเองก็ไม่เห็นด้วยเพราะไม่อยากให้อลิสาเอาชีวิตเข้ามาเกี่ยวพันในครอบครัวอันยุ่งเหยิงของเขา อีกทั้งไม่ต้องการให้อลิสาโดนสังคมตำหนิที่แต่งงานกับคนคราวพ่อ อลิสาปฏิเสธการแต่งงานเพราะเธอไม่ได้รักเจ้าสัวและเธอไม่ต้องการให้ใครดูถูกเธอว่าเป็นคนเห็นแก่เงิน ในขณะเดียวกันดอมก็รู้ตัวว่าตนเองกำลังจะตกกระป๋อง จึงเอาอกเอาใจอาภาทุกอย่าง ดอมรู้ว่าอาภาเกลียดชังอลิสาจึงยกพวกมาทำร้ายอลิสา เพราะหวังจะเอาหน้ากับอาภา อลิสาโดนดอมและพวกดูถูกเหยียดหยามและทำร้ายร่างกายปางตาย อลิสาพยายามร้องขอชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล ดอมพยายามจะย่ำยีเธอ อลิสาต่อสู้จนแทบหมดสติ ความทรงจำสุดท้ายของอลิสาคือเธอเห็นไรวัตตามเข้ามา อลิสาเข้าใจได้เพียงอย่างเดียวว่าไรวัตเป็นคนบงการทั้งหมด แต่ความจริงแล้วไรวัตเข้ามาช่วยอลิสา จนเกิดเรื่องชกต่อยกับดอม เมื่ออาภารู้ข่าวเธอตบดอมสั่งสอนอย่างรุนแรง แม้อาภาจะไม่ใช่คนดีงามอะไรและเธอยอมรับว่าเธอเกลียดชังอลิสา แต่เธอไม่มีทางใช้วิธีเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานแบบที่ดอมทำ ดอมมองไรวัตอย่างอาฆาตแค้น ดอมเชื่อว่าไรวัตทำให้อาภาเปลี่ยนไป และวันหนึ่งอาภาจะต้องเสียใจเพราะไรวัต

เมื่ออลิสาสลบไป ไรวัตอยู่ดูแลอลิสาทั้งคืน เป็นเวลาหลายเดือนที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอแบบนี้ แม้ว่าแท้จริงแล้ว ไรวัตจะอยากกอดอลิสาทั้งยามฝันและยามตื่น แต่เขาก็ไม่สามรถทำได้ ทันใดนั้นฤดีมาศส่งเสียงดังเข้ามาด้วยความตกใจ ไรวัตรีบออกไปก่อนที่ฤดีมาศจะเห็น เมื่ออลิสาตื่นขึ้นมาโดยมีฤดีมาศอยู่เคียงข้าง เธอทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น อลิสาร้องไห้จนน้ำตาแทบกลายเป็นสายเลือด อลิสาเริ่มตาสว่าง เธอคิดได้ไรวัตไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยรักอีกต่อไป ความรักของเธอที่มีต่อไรวัตมอดไหม้ไปด้วยเพลิงแค้น อลิสาสาบานต่อหน้าภาพถ่ายพ่อว่าเธอจะไม่มีวันเป็นคนเดิมอีกต่อไป หากความรักที่เธอเคยมีให้ไรวัตมากแค่ไหน ความแค้นของเธอก็จะสะท้อนกลับไปหาเขาเท่าทวีคูณ

กลางดึกคืนนั้นในขณะที่ฝนตกหนัก อลิสาพาร่างบอบช้ำเยี่ยงสุนัขจนตรอกและหัวใจแหลกสลายมาหาเจ้าสัวถึงบ้าน เธอยอมแต่งงานกับเจ้าสัวอย่างไร้ความหวั่นเกรงใดๆ ตอนนี้หัวใจของอลิสามันตายด้านไปแล้ว เจ้าสัวมองอลิสาอย่างเห็นใจ เขายืนยันหนักแน่นว่านี่คือการแต่งงานเพียงในนาม และเขาจะปฏิบัติกับอลิสาเหมือนลูกสาว เจ้าสัวมอบหมายให้ ยี่สุ่น คนเก่าแก่ของบ้านเป็นคนดูแลอลิสา และขอให้ยี่สุ่นรับปากว่าจะเก็บเรื่องราวทุกอย่างเป็นความลับ อลิสาขอร้องเจ้าสัวอย่างเดียวว่า เธอต้องการทำลายไรวัตและต้องการแย่งความสุขทุกอย่างของไรวัตมาเป็นของเธอ เจ้าสัวชุบชีวิตใหม่ให้อลิสา เขาจับเธอแปลงโฉมเสียใหม่ให้มีบุคลิกที่มาดมั่นปราดเปรียว ต่างจากหญิงสาวจนตรอกที่เดินเข้ามาในบ้านเจ้าสัวคืนนั้น เจ้าสัวสอนให้อลิสาเป็นนักสู้ อลิสารับปากกับเจ้าสัวว่าไรวัตจะเป็นคนสุดท้ายที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวด ในขณะเดียวกันเจ้าสัวก็รู้สึกเมตตาอลิสาเหมือนลูกสาว

ข่าวหน้าหนึ่งของทุกฉบับต่างลงข่าวการแต่งงานครั้งใหม่ของเจ้าสัวกับสาวปริศนาอายุคราวลูก ที่ได้รับฉายาไปเรียบร้อยแล้วว่า ซินเดอเรลล่า แม้ในเนื้อข่าวจะเต็มไปด้วยความยินดี แต่วงสังคมต่างก็ลงความเห็นว่านี่ไม่ใช่การแต่งงานด้วยความรักอย่างแน่นอน เพราะเจ้าสัวคือชายพิการที่ไม่สามารถให้ความสุขทางร่างกายให้กับสตรีผู้ใดได้ นั่นหมายความว่าผู้หญิงคนนั้นต้องแต่งงานด้วยเงิน! ในขณะเดียวกันอาภากำลังหัวเสียเพราะทางโรงแรมชื่อดังปฏิเสธไม่ให้อาภาใช้ห้องหรูเป็นสถานที่จัดงานประจำปีของนิตยสารควีน พร้อมทั้งคืนเงินมัดจำทั้งหมด อาภาเกรี้ยวกราดและสืบจนรู้ว่าเมียใหม่ของเจ้าสัวเป็นคนแย่งห้องหรูนั้นไป แต่อย่างไรก็ตามอาภาก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากเจ้าสัวเป็นผู้สนับสนุนของนิตยสาร

หลังการแต่งงานชีวิตไรวัตเต็มไปด้วยความทรมาน เขาไม่ได้อยากแต่งงานกับอาภา เขารักอลิสายิ่งกว่าชีวิต แต่ที่เขาต้องทำไปทั้งหมดก็เพื่อช่วยครอบครัวอลิสา ไรวัตรู้ว่าเดชเอาที่ไปจำนองกับพ่อของอาภา จึงทำการตกลงว่าจะใช้หนี้แทนอลิสาเอง เพราะตอนนี้อลิสาไม่เหลืออะไรแล้วนอกจากบ้านหลังนั้น อาภาตกลงโดยมีข้อแม้ว่าไรวัตจะต้องแต่งงานกับเธอ ไรวัตรับปากอย่างเสียมิได้ เขาทำสัญญากับอาภาว่าเขาจะหย่าทันทีเมื่อหาเงินมาคืนอาภาครบ อย่างไรก็ตามความเป็นสุภาพบุรุษทำให้ไรวัตสัญญากับอาภาว่าตราบใดที่เขายังแต่งงานกับอาภา เขาจะทำหน้าของสามีและดูแลอาภาให้ดีที่สุด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะรักเธอ การแต่งงานใหม่ของเจ้าสัวไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตของอาภากับไรวัตเท่านั้น แต่ยังสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรงให้กับคุณหญิงอรอุมาและพิมมี่ ลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัว

คุณหญิงอรอุมาและพิมมี่เดินทางกลับจากนิวยอร์กเพราะรู้เรื่องการแต่งงานใหม่ของเจ้าสัว แต่แท้จริงแล้วพิมมี่ตั้งใจบินกลับมาเมืองไทยเพื่อตามหาตัวอดีตคนรักของเธอที่สลัดทิ้งเธออย่างไม่ใยดี ซึ่งชายคนนั้นก็คือรามิล พิมมี่ได้เจอกับอลิสาก็แสดงอาการไม่พอใจทันที เพราะเธอถือว่านังผู้หญิงคนนี้ กำลังจะทำให้แม่ของเธอกลายเป็นอดีตภรรยาของเจ้าสัวในไม่ช้า ท่ามกลางความแค้นคุณหญิงอรอุมานึกย้อนไปว่าเธอเคยรักเจ้าสัวหรือไม่ แน่นอนเธอเคยรักชายผู้นี้เท่าชีวิต เธอยังจำได้ดีถึงวันที่เขาขอเธอแต่งงาน เจ้าสัวสาบานว่าเธอจะเป็นเมียเดียวในชีวิต แต่หลังจากนั้นเขากลับมีหญิงสาววนเวียนเข้ามาในชีวิตมิได้ขาด ทุกคนคิดว่าความหึงหวงของอรอุมาทำให้เธอขาดสติถึงขั้นทำร้ายร่างกายเจ้าสัวจนร่างกายพิการ แต่ความจริงแล้วคนที่ทำร้ายเจ้าสัวกลับเป็นภวันอดีตคนรักของคุณหญิงอรอุมา ภวันรักอรอุมามากเท่าไรเขาก็ยิ่งโกรธแค้นเจ้าสัวมากขึ้นเท่านั้น เจ้าสัวไม่กล้าเอาความกับอรอุมา เนื่องจากรู้ว่าตัวเขาเองก็มีส่วนผิด แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ความสัมพันธ์ของเธอกับเจ้าสัวก็หมางเมินกันไป แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกล้าแต่งเมียใหม่ มีหรือที่คุณหญิงอรอุรมาอย่างเธอจะยอม เธอจะขอต่อสู้กับเมียใหม่ของเจ้าสัวอย่างถึงที่สุด ทะเบียนสมรสของเธออย่าหวังว่าใครจะมายื้อแย่งไปได้

เมื่องานแต่งงานของเจ้าสัวมาถึง ทุกคนเฝ้ารอการเปิดตัวของเจ้าสาวปริศนาหรืออีกนัยหนึ่งคือผู้หญิงหิวเงิน แต่แล้วอาภากับไรวัตก็ต้องช็อกสุดๆ เมื่อเจ้าสาวคนนั้นคืออลิสา ไรวัตสับสน เขาไม่เชื่อว่าอลิสาจะแต่งงานกับผู้ชายคราวพ่อด้วยความรัก อาภาเห็นอาการของไรวัตแล้วหึงหวงที่ไรวัตยังคงมีเยื่อใยให้กับอลิสา ในงานแต่งงานอลิสาถือโอกาสเปิดตัวรองเท้า Alice และได้รับความสนใจอย่างมาก อลิสากลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน ความงดงาม ความมาดมั่น และการเป็นเจ้าของแบรนด์รองเท้ายิ่งตอกย้ำฉายาซินเดอเรลล่าของเธออย่างแท้จริง หลังการแต่งงานของเจ้าสัวกับอลิสา ไรวัตครุ่นคิดถึงเรื่องอลิสาจนไม่อาจเก็บอาการต่อหน้าอาภาไว้ได้ เขาพยายามไปดักพบอลิสาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอลิสาถึงได้ยอมแต่งงานกับเจ้าสัวเพื่อเงิน อลิสาตอกไรวัตกลับอย่างเจ็บแสบว่าไรวัตไม่มีสิทธิ์มาต่อว่าอะไรเธอทั้งนั้น เพราะไรวัตเองก็แต่งงานกับอาภาเพื่อเงินเช่นกัน อาภาเครียดเรื่องไรวัตจึงมาระบายกับรามิล รามิลยิ่งฟังยิ่งเกลียดอลิสา เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างหน้าด้านเหลือทนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่มีเมียแล้ว นอกจากต้องเป็นที่ปรึกษาให้พี่สาวแล้ว รามิลยังรับมือกับพิมมี่ที่เกาะเขาเยี่ยงปลิง สลัดยังไงก็ไม่หลุด รามิลคาดว่าเมื่อพิมมี่กลับมาอยู่ที่เมืองไทยเธอจะกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ แต่พิมมี่กลับเฝ้าวนเวียนอยู่แต่กับเขา ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ซึ่งเป็นสิ่งที่หนุ่มรักอิสระอย่างรามิลอึดอัดอย่างยิ่ง อาภาระแวงไรวัตว่าคบหากับอลิสา พร้อมทั้งทวงคำสัญญาของไรวัตที่ว่าจะเป็นสามีที่ดีของตน ไรวัตบอกตนไม่ได้ผิดสัญญา อาภาขู่ว่าอย่าให้รู้ก็แล้วกัน

รองเท้าแบรนด์ Alice โด่งดัง มีร้านเป็นของตนเองที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เหมือนที่อลิสาเคยฝันไว้ นิตยสารแฟชั่นทุกเล่ม ต่างลงข่าวรองเท้า Alice ยกเว้นนิตยสารควีน อลิสาแค้นคิดว่าเป็นเพราะเรื่องส่วนตัวของเธอกับไรวัต อลิสามุ่งมั่นว่าจะทำทุกอย่างให้ได้ลงนิตยสารฉบับนี้ อลิสาจัดงานเปิดตัวรองเท้าอย่างยิ่งใหญ่ เชิญนางแบบมามากมาย พิมมี่เสนอตัวเป็นหนึ่งในนางแบบ ก่อนที่งานเปิดตัวจะเริ่มพิมมี่สลับกล่องรองเท้าของอลิสากับรองเท้าที่ทำจากวัสดุไร้คุณภาพ อาภาเดินมาดูรองเท้าของอลิสาแล้วมองอย่างดูถูก อลิสาต่อว่ากับอาภาว่าคิดถึงแต่เรื่องส่วนตัวมากกว่าผลงาน อาภาเตือนอลิสาให้สำนึกว่าคนซื้อรองเท้า Alice เพราะอะไรไม่ใช่เพราะฝีมือการดีไซน์ แต่เป็นเพราะข่าวฉาวของอลิสา อลิสาอึ้ง อาภาบอกถึงตนจะเกลียดอลิสาเรื่องไรวัต แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน ตนมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่เอาความรู้สึกมาปะปน อลิสายืนยันว่าตนจะพิสูจน์ให้อาภาเห็นว่าวันหนึ่งรองเท้าของตนจะต้องได้ลงนิตยสาร อาภาบอกแล้วจะคอยดู อลิสาพยายามสืบสวนว่าใครเป็นคนทำลายรองเท้า ในกล้องวงจรปิดเห็นว่าไรวัตเข้ามาในห้องเก็บรองเท้า อาภาซักถามไรวัตว่าเป็นคนทำลายอลิสาใช่หรือไม่ ไรวัตบอกว่าเปล่า อาภาซักว่าไรวัตจะเข้าไปห้องนั้นทำไม ไรวัตตอบไม่ได้ว่าตนต้องการมาหาอลิสา

ภวันค์วางแผนจะฆ่าเจ้าสัวที่สตูดิโอรองเท้าของอลิสา แต่ไรวัตมาหาอลิสาเพราะต้องการปรับความเข้าใจ ไรวัตเห็นเหตุการณ์แล้วจะเข้ามาช่วย อลิสาเข้าใจผิดคิดว่าไรวัตร่วมมือกับคุณหญิงอรอุมาฆ่าเจ้าสัว อลิสายิ่งแค้นไรวัตมากยิ่งขึ้น เมื่อเจ้าสัวตาย พิมมี่เปิดเผยกับรามิลว่าตนเองเป็นลูกสาวของเจ้าสัวกับคุณหญิงอรอุมา รามิลอึ้ง เพราะตนคิดมาตลอดว่าพิมมี่เป็นผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า ในงานศพเจ้าสัวอลิสากำลังจะเคารพศพเจ้าสัวด้วยความโศกเศร้า แต่คุณหญิงอรอุมากลับเฉดหัวอลิสาออกไปจากงาน พร้อมทั้งประจานต่อหน้าทุกคนว่าอลิสาวางแผนฆาตกรรมเจ้าสัว อลิสาตบคุณหญิงกลับเพราะทนไม่ได้ที่คุณหญิงใส่ร้ายตน จังหวะเดียวกับรามิลพาพิมมี่มาร่วมงานศพเจ้าสัวพอดี รามิลช็อกมากที่ได้รู้จากคุณหญิงอรอุมาว่าอลิสาเป็นผู้หญิงแสนเลว แต่งงานกับเจ้าสัวเพื่อสมบัติ แถมยังสวมเขาเจ้าสัวด้วยการเป็นชู้กับไรวัต พิมมี่รู้ข้อมูลจากคุณหญิงอรอุมาก็ยิ่งเกลียดชังอลิสามากขึ้น พิมมี่เกาะติดรามิลแจ พร้อมประกาศไปทั่วว่าเป็นแฟนกับรามิล คุณหญิงอรอุมาออกตัวจะจัดงานแต่งงานให้รามิลกับพิมมี่ เนื่องจากตนก็รู้จักพ่อแม่ของรามิลเป็นอย่างดี รามิลเครียดเพราะเขาไม่ได้รักพิมมี่ ตำรวจสอบสวนการตายของเจ้าสัว และมีหลักฐานว่าไรวัตอยู่ในที่เกิดเหตุในวันที่เจ้าสัวตาย อลิสาคิดว่าไรวัตมีส่วนในการตายของเจ้าสัว จึงผลุนผลันออกไปทันที

อาภาจัดปาร์ตี้ฉลองที่ไรวัตขึ้นมาเป็นบรรณาธิการบริหารแทนเธอ ท่ามกลางบรรยากาศรื่นเริงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข อลิสาถือปืนเข้ามาในชุดดำ พร้อมทั้งประกาศว่าจะแฉความชั่วของไรวัตทั้งหมด รามิลลากตัวอลิสาออกมาจากงาน รามิลตบอลิสาแล้วบอกให้หายคลั่ง และเลิกทำลายครอบครัวคนอื่นเสียที อลิสาร้องไห้อย่างเจ็บปวดว่าไรวัตต่างหากที่ต้องหยุดทำลายชีวิตตน อลิสาบอกตนจะไม่ยอมหยุดทำลายชีวิตของไรวัต รามิลเห็นว่าอลิสาไม่มีท่าทีจะหยุดจึงตัดสินใจอุ้มอลิสาขึ้นรถตัวเองไป อลิสาร้องไห้จนเหนื่อยและสลบไป เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่ทะเลห่างไกลแห่งหนึ่ง อลิสาตกใจและจะหนีกลับแต่รามิลยื้อเอาไว้พร้อมท้าทายอลิสาว่าควรจะสงบใจซะบ้าง แท้จริงแล้วที่รามิลมาที่ทะเลเพราะต้องการหาที่พักสงบๆ ให้กับตัวเองมากกว่า เพราะตั้งแต่กลับมาเมืองไทย เขาเหนื่อยเหลือเกินกับเรื่องชีวิตคู่ของอาภา แถมยังต้องรับมือกับพิมมี่ รามิลขังอลิสาไว้ เพื่อไม่ให้ไปวุ่นวายชีวิตครอบครัวของไรวัตและอาภา แต่อลิสาหนีออกไปได้ รามิลตามหาจนได้รับอุบัติเหตุ รามิลบาดเจ็บ อลิสาทนเห็นรามิลตายต่อหน้าไม่ได้จึงช่วยเหลือและอยู่ปฐมพยาบาล เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกัน รามิลแอบมองอลิสาที่แปรสภาพเป็นหญิงชาวบ้าน เก็บผักหาปลาเพื่อทำอาหาร รามิลเริ่มมองอลิสาในมุมใหม่

รามิลรู้ว่าวันนี้คือวันเกิดของอลิสา รามิลกับอลิสาตกลงกันว่าวันนี้จะลืมเรื่องความแค้นไปชั่วคราวและร่วมมือกับชาวบ้านจัดงานวันเกิดให้ อลิสาซาบซึ้งใจและเปิดใจเล่าเรื่องความเจ็บปวดของตนให้รามิลฟัง รามิลเริ่มมองเห็นว่าอลิสาเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารมากกว่าเป็นนางมารร้าย จึงเริ่มรู้สึกดีกับอลิสามากขึ้น ในขณะเดียวกัน อลิสาก็โล่งใจที่รามิลยอมรับฟัง รามิลเปิดใจกับอลิสาว่าเขากับอาภาผูกพันธ์กันมาก เพราะพ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก อาภาจึงดูแลรามิลเหมือนแม่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่รามิลจะเป็นห่วงอาภามาก อลิสาเริ่มเข้าใจมุมมองของรามิลและรู้สึกดีกับรามิลมากขึ้น ไรวัตเป็นห่วงอลิสาที่หายไปพร้อมรามิล จึงขอร้องให้ฤดีมาศไปตาม ในขณะเดียวกันอาภาก็เป็นห่วงรามิลจึงขอให้อนนท์ไปตามรามิล เมื่อฤดีมาศออกตามหาอลิสา แล้วได้เจอกันอนนท์บนรถทัวร์ ด้วยความปากไว ทำให้ทั้งคู่ได้เปิดฉากทะเลาะกันตลอดการเดินทาง โดยทั้งสองเข้าข้างเพื่อนของตน แต่ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งสนุก จึงกลายเป็นความรักโดยที่ไม่รู้ตัว

รามิลหายดีแล้วตั้งใจจะพาอลิสากลับ รามิลขอให้อลิสารับปากว่าจะไม่ทำร้ายครอบครัวอาภากับไรวัตอีก อลิสาไม่รับปากเพราะยังคงแค้นอยู่ รามิลจะจูบอลิสา อลิสาบอกถึงตนตกเป็นของรามิลก็ไม่ได้รับประกันว่าตนจะไม่ยุ่งกับไรวัต รามิลจูบอลิสาและมีความสัมพันธ์กับเธอด้วยอารมณ์โกรธและพิศวาสในคราเดียวกัน อลิสากลับมาบ้านเจ้าสัวด้วยความเจ็บปวดที่ตนเป็นฝ่ายโดนกระทำอีกครั้ง พิมมี่รู้เรื่องที่อลิสาหายตัวไปพร้อมรามิลจึงด่าอลิสาว่าร่าน แย่งรามิลไปทั้งที่รามิลกำลังจะแต่งงานกับเธอ คุณหญิงอรอุมาตามมาประณามว่าเจ้าสัวต้องตายเพราะอลิสา แล้วจะทำร้ายร่างกายอลิสา ทั้งสองคนตบตีกันจนยี่สุ่นต้องเข้ามาห้าม รามิลเริ่มรู้ใจตัวเองว่ารักอลิสา เขาสารภาพกับอนนท์อย่างไม่ปิดบัง อนนท์เตือนให้รามิลทำตามใจตัวเอง รามิลประกาศตัดขาดกับพิมมี่ ทำให้พิมมี่โกรธตามไปอาละวาดกับอลิสา แต่โดนอลิสาด่าและตบกลับจนพิมมี่หน้าบวม อลิสาก็ไม่ยอมใกล้ชิดรามิลอีกเพราะคิดว่าปัญหาในชีวิตของเธอเองก็มากพอแล้ว

อลิสากลับมาที่บ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่กับพ่อ เธอคิดถึงชีวิตเก่าๆ อันแสนสงบ อลิสาดีไซน์รองเท้า Alice คอลเลคชั่นใหม่ด้วยหัวใจทั้งหมด รามิลมาพบอลิสาด้วยความรู้สึกผิด เขาสารภาพว่าวันที่เขาลักพาตัวอลิสาไปที่ทะเล มันไม่ใช่ความโกรธอย่างเดียว แต่คือความพิศวาสที่เขามีต่ออลิสา อลิสาสับสนเพราะเธอยังรู้สึกถึงวันคืนที่ได้อยู่กับรามิลเช่นกัน อลิสาขอร้องไม่ให้รามิลมาพบเธออีก เพราะตอนนี้เธออยากมุ่งมั่นกับการดีไซน์รองเท้ามากกว่าสิ่งอื่นใด อลิสาออกแบบและตัดเย็บรองเท้าจนสำเร็จและส่งไปให้อาภาพิจารณา ทางด้านไรวัตก็ทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินมาไถ่ตัวเองจนใกล้ครบ วันหนึ่งไรวัตคิดถึงอลิสาจึงกลับมาที่บ้านของเดช ทั้งสองแปลกใจที่ได้เจอกันที่นี่ ไรวัตเปิดเผยความในใจว่าตนกลับมาที่นี่อยู่เสมอเพราะความทรงจำมากมายเกี่ยวกับผู้หญิงที่ตนรักอยู่ที่นี่ อลิสาอึ้ง ไรวัตยอมรับว่าตนยังรักอลิสา ตลอดเวลาที่ไรวัตแต่งงานกับอาภา ไรวัตไม่เคยลืมอลิสาได้เลยแม้แต่วันเดียว ไรวัตยังคอยห่วง คอยเฝ้ามองความเป็นไปของอลิสาอยู่ตลอด อลิสาเกือบใจอ่อน แต่ความเจ็บปวดบอกเธอว่าอย่าไว้ใจใครง่ายเกินไป อลิสายืนกรานให้ไรวัตพิสูจน์ความจริงใจ เธอนัดให้ไรวัตไปพบที่สนามเด็กเล่นที่เธอกับไรวัตเจอกันครั้งแรกในวัยเด็กในอีก 1 อาทิตย์ข้างหน้า หากไรวัตมาหาเธอพร้อมใบหย่า อลิสาก็จะเชื่อว่าไรวัตรักเธอจริงๆ และอาจจะเริ่มนับหนึ่งใหม่กับไรวัต ไรวัตรับปาก

ในขณะเดียวกันอาภารู้ว่าตนเองท้องและกำลังจะบอกข่าวดีกับไรวัต แต่ทันทีที่เจอกันไรวัตกลับเอาเงินทั้งหมดมาไถ่ตัวเองจากอาภาพร้อมทั้งขอหย่า อาภาเกรี้ยวกราดที่แม้ตนทำดีกับไรวัตเท่าไรไรวัตก็ไม่เคยลืมอลิสาได้เลย ไรวัตยอมรับว่าตนไม่เคยรักอาภา คนที่ตนอยากสร้างครอบครัวด้วยมีอยู่คนเดียวคืออลิสาเท่านั้น ด้วยทิฐิอาภาจึงฉีกสัญญาที่เคยทำกับไรวัตทิ้ง และตกลงที่จะหย่าโดยที่ไม่บอกไรวัตเรื่องท้อง ไรวัตนัดอาภาไปเซ็นใบหย่า เขาตั้งใจจะไปพบอลิสาหลังจากเซ็นเอกสารเรื่องหย่าเสร็จ ไรวัตทั้งดีใจทั้งโล่งใจที่ตนเองกำลังจะได้รับอิสรภาพ ก่อนจะเซ็นใบหย่า อาภาปะทะคารมกับไรวัตอย่างเผ็ดร้อน จนอาภาเครียดและเจ็บท้องรุนแรง ไรวัตตกใจรีบพาอาภาไปที่โรงพยาบาล อาภาสลบอยู่ไม่ได้สติ รามิลรีบตามมาด้วยความเป็นห่วง หมอแจ้งให้ไรวัตกับรามิลทราบว่าอาภาท้อง ไรวัตอึ้ง หมอเตือนให้ไรวัตดูแลเรื่องสภาพจิตใจของอาภาอย่าให้ได้รับความกระทบกระเทือนไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงต่อการแท้ง รามิลโทษไรวัตที่ทำให้อาภาเครียด ไรวัตขอโทษรามิลและรับปากว่าตนจะเป็นพ่อที่ดีของลูกและสามีที่ดีของอาภา เพราะไรวัตไม่ต้องการให้ลูกต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเหมือนตน รามิลมองไรวัตอย่างเห็นใจ พร้อมรับปากว่าจะดูแลอลิสาเอง ไรวัตไม่ต้องเป็นห่วง อลิสามารอไรวติที่สนามเด็กเล่นจนมืด แต่ไรวัตไม่มาตามสัญญา อลิสาแอบไปดูที่หน้าบ้านอาภา เห็นว่าไรวัตกำลังประคองกอดและดูแลอาภาอย่างดี อลิสาเพิ่งรู้ว่าทั้งสองกำลังจะมีลูกด้วยกัน รามิลเห็นอลิสาแอบมองอยู่ จึงตอกย้ำว่าไรวัตกับอาภากำลังมีความสุขส่วนอลิสาคือส่วนเกิน อลิสาเจ็บใจที่ตนเองโง่ยอมให้ไรวัตหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไรวัตพยายามตัดใจจากอลิสา เขาพยายามทำตัวเป็นพ่อและสามีที่ดีเพื่อลูก

อาภาตอบไม่ถูกว่าเธอมีความสุขหรือไม่ เพราะอาภารู้ดีว่าไรวัตอยู่เพื่อลูกไม่ใช่ความรัก ทางด้านอาลิสาก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับเรื่องความรักและเรื่องมรดก เธอเตรียมหนีความวุ่นวายและไปเรียนต่อด้านการออกแบบรองเท้าที่ประ เทศอิตาลี โดยใช้เงินที่เจ้าสัวมอบให้เธอในวันแต่งงาน อลิสาตามทนงมาพบและบอกให้ทนงทำสัญญาขึ้น 1 ฉบับ ที่ระบุว่าอลิสาจะขอยกทุกอย่างที่เจ้าสัวยกให้เธอให้กับพิมมี่ ทนงรับปากว่าจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้ ภวันเห็นก็คิดว่าเจ้าสัวจะยกมรดกทั้งหมดให้อลิสา ภวันไปคุยกับอรอุมาโกรธแค้นแทนอาภา แล้วเสนอตัวจะจัดการอลิสาให้ แต่อรอุมากลับบอกว่าไม่มีเจ้าสัวแล้วเธอก็คงจะไปจากที่นี่ เธอไม่เคยคิดจะเอาเงินจากเจ้าสัว ภวันสารภาพรักกับอรอุมาพร้อมสัญญาจะดูแลอรอุมาและพิมมี่ให้ดีกว่าที่เจ้าสัวเคยดูแล อรอุมาบอกภวันว่าความรักของเรามันจบไปนานแล้ว และเธอมอบหัวใจให้เจ้าสัว สิ่งเดียวที่เธอต้องการก็คือความรักของเจ้าสัว เมื่อเจ้าสัวไม่อยู่ เธอก็เหมือนคนตายทั้งเป็น ภวันทั้งโกรธทั้งเสียใจเพราะหลงคิดมาตลอดว่าถ้าไม่มีเจ้าสัว อรอุมาจะกลับมาหาตน ภวันหลุดปากว่าเป็นคนทำร้ายเจ้าสัวจนพิการและฆ่าเจ้าสัวด้วย อรอุมาช็อกและเสียใจมากที่ภวันทำแบบนี้ อรอุมาเรียกตำรวจมาจับภวันไป ภวันบอกที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่ออรอุมา ข่าวการจับตัวคนฆ่าเจ้าสัวดังไปทั่ว คุณหญิงอรอุมาหลุดจากคำครหาที่คิดฆ่าสามีตัวเอง และเธอยืนยันว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับภวันอย่างที่เจ้าสัวเข้าใจ

คืนก่อนวันเปิดพินัยกรรม อลิสากำลังเก็บของเพื่อที่จะเดินทางไปอิตาลี อาภามาพบอลิสาแล้วเอานิตยสารควีนฉบับที่ยังไม่วางขาย ด้านในมีข่าวของรองเท้า Alice พร้อมคำชมดีเลิศมาให้ อลิสาดีใจที่ตนทำสำเร็จแล้ว อลิสาแสดงความยินดีเรื่องที่อาภาท้อง อาภาแสดงสปิริตให้เห็นว่าแม้อาภากับอลิสาจะมีปัญหากันเพราะไรวัต แต่อาภานับถืออลิสาในฐานะดีไซเนอร์อย่างใจจริง นอกจากนี้อาภายังรู้เรื่องที่อลิสาจะไปเรียนต่อ อาภารับปากจะช่วยแนะนำอาจารย์ที่อิตาลีให้ อลิสามองอาภาด้วยความซึ้งใจ วันเปิดพินัยกรรม เจ้าสัวยกสมบัติให้อลิสากับพิมมี่คนละครึ่ง ทนงเปิดเอกสารอีกฉบับที่อลิสาทำไว้โดยในเอกสารระบุว่าทรัยพ์สินที่อลิสาได้จากเจ้าสัวจะตกเป็นของพิมมี่ พิมมี่ร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิดเพราะคิดว่าอลิสาอยากได้สมบัติของเจ้าสัวมาโดยตลอด

อาภาคิดทบทวนทุกอย่างและมั่นใจว่าเธอคงไม่สามารถมาแทนที่อลิสาได้ อาภาตัดสินใจปล่อยไรวัตไป เพราะเมื่อลูกไม่อยู่ ไรวัตก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรอีก ไรวัตกลับไปขอเริ่มต้นใหม่กับอลิสา แต่อลิสาปฏิเสธเพราะหลังจากผ่านเหตุการณ์เลวร้าย อลิสารู้สึกว่าชีวิตเธอมาไกลเกินว่าจะกลับไปคบกับไรวัต และที่ผ่านมาอลิสาต้องเจ็บปวดจากการที่ไรวัตเป็นคนไม่พูด ไม่เคยอธิบาย จนเรื่องวุ่นวายแบบนี้ ไรวัตเจ็บปวดที่โดนอลิสาปฏิเสธ อาภายืนอยู่เคียงข้างไรวัต อาภาถามไรวัตด้วยความห่วงใยว่าเหนื่อยไหมที่ทำเพื่ออลิสา ไรวัตอึ้ง อาภาบอกตนเข้าใจดีเพราะมันคงเป็นความรู้สึกเดียวกับตนทำเพื่อไรวัตมาตลอด ไรวัตเริ่มมองเห็นว่าอาภาอยู่เคียงข้างและทำเพื่อตนด้วยหัวใจที่แท้จริงมาโดยตลอด อาภาปรับความเข้าใจกับไรวัต ทั้งสองตัดสินใจจะเริ่มต้นสร้างครอบครัวด้วยกันใหม่ รามิลกำลังรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน อลิสาตามไปสารภาพรักรามิล พร้อมถามว่าเขาสนใจที่จะเปลี่ยนแผนจากไปอเมริกาไปอิตาลีกับเธอหรือไม่ รามิลตอบรับด้วยความยินดีเพราะการได้อยู่กับอลิสาคือสิ่งที่เขามีความสุขมากที่สุด