ละคร สะใภ้ไร้เงา

ดู 3,285 ครั้ง / แชร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 3 กุมภาพันธ์ 2559
เวลาออกอากาศ 18:35 - 19:45 น.
  
กำกับโดย นิรันดร์ ธรรมปรีชา
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ ปิยพร วายุภาพ, บทโทรทัศน์ อรุณแก้ว
นำแสดงโดย
เขตต์ ฐานทัพ ... ไตร
ณัฐชา นวลแจ่ม ... มัจฉา
กรเศก โคร์นิน ... สุดที่รัก
ปทิตตา อัธยาตมวิทยา ... ตวิษา
กัญญกร พินิจ ... เอื้อมพร
เจจินตัย อันติมานนท์ ... พฤกษ์
ปุญญพัฒน์ ถนอมกุล ... ลดา
ดารัณ ฐิตะกวิน ... คุณหญิงตรีทิพย์
ตฤณ เศรษฐโชค ... คุณอดิสร
ไพโรจน์ สังวริบุตร ... พ่อเพิ่ม
ปิยะดา เพ็ญจินดา ... แม่วรรณา
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา ... ยายทอง
ธีระภพ ทรงวาจา ... ข่อย
พีรวัชร์ เหราบัตย์ ... ยมทูตแอนดี้
โอริเวอร์ บีเวอร์ ... เสี่ยแสน
ราตรี วิทวัส ... สร้อย
หมวย ชวนชื่น ... พิศ
กรุณา มอริส ... น้อย
เล็ก ไอศูรย์ ... สมภพ
แวร์ โซว ... คุณหญิงมิ่งศรี
น้ำเงิน บุญหนัก ... ป้าแจง
วิชัย จงประสิทธิ์พร ... หนึ่ง
ผู้สร้าง บริษัท นวประทานพร จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ สะใภ้ไร้เงา

มัจฉา (ณัฐชา นวลแจ่ม) ว่าที่เจ้าสาวพันล้านและครอบครัว พ่อเพิ่ม (ไพโรจน์ สังวริบุตร) แม่วรรณา (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ยายทอง (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) และ ข่อย (ธีระภพ ทรงวาจา) น้องชายสุดแสบกำลังเดินทางจากโคกอีกเห็นมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อเข้าพิธีมงคลสมรสกับนักธุรกิจหนุ่ม ไตร (เขตต์ ฐานทัพ) แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ระหว่างเดินทางเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้ทุกคนในครอบครัวดับอนาถตายคาที่

มัจฉาฟื้นขึ้นอีกครั้งพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้องแต่งตัวกับ ลดา (ปุญญพัฒน์ ถนอมกุล) เพื่อนรักที่อยู่เคียงข้าง ร่วมทุกข์ ร่วมสุข และคอยดูแลเธอเสมอมา และกำลังจะเข้าพิธีหมั้น ทันทีที่ส่องกระจกเธอก็พบว่าในกระจกปราศจากซึ่งเงาของเธอ เพราะในตอนนี้เธอกลายเป็นเพียงวิญญาณซะแล้ว มัจฉาร้องไห้เสียใจที่รู้ว่าความตายกำลังจะพรากเธอไปจากไตรว่าที่สามีอันเป็นที่รัก เธอขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เธอได้เข้าพิธีแต่งงาน และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นในที่สุดมัจฉาก็เข้าพิธีสมรสสมใจปรารถนา ครอบครัวของเธอยังเข้าร่วมพิธีด้วย มัจฉาสับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือว่าทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝัน ความจริงแล้วคือเธอยังไม่ตาย งานแต่งของมัจฉาดำเนินไปด้วยความไม่พอใจของ คุณหญิงตรีทิพย์ (ดารัณ ฐิตะกวิน) แม่ของไตรที่ไม่ได้ต้องการสะใภ้อย่างมัจฉา แม้ว่า คุณอดิศร (ตฤณ เศรษฐโชค) พ่อของไตรจะพยายามพูดอย่างไรคุณหญิงก็ไม่ยอม ไตรเฝ้ารอมัจฉาอย่างใจจดใจจ่อโดยที่ พฤกษ์ (เจจินตัย อันติมานนท์) เพื่อนสนิทจอมเจ้าชู้ ไม่เข้าใจสักนิดว่าไตรจะหาบ่วงคล้องคอด้วยการแต่งงานทำไม อยู่เป็นโสด รักสนุกไม่ผูกพัน ดีกว่าเยอะ หากไตรตบไหล่เพื่อนบอกว่า ถ้าพฤกษ์ได้พบกับรักแท้ วันหนึ่งพฤกษ์จะเข้าใจ พฤกษ์ส่ายหน้า รักแท้ไม่มีจริง ในคืนส่งตัวเจ้าสาว มัจฉา พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยเองเริ่มรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองได้ตายไปแล้ว มัจฉาได้พบกับ ยมทูตแอนดี้ (พีรวัชร์ เหราบัตย์) และได้สารภาพกับมัจฉาว่าเกิดความผิดพลาดด้านระบบคอมพิวเตอร์ของนรก ทำให้นำตัววิญญาณมาผิด จึงได้พยายามที่จะให้มัจฉาได้เข้าพิธีแต่งงานตามความตั้งใจ มัจฉาโวยวายที่ตัวเองยังไม่ถึงที่ตาย แต่กลับต้องมาโดนพรากจากสามีอันเป็นที่รัก จึงขอให้ยมทูตแอนดี้รับผิดชอบกับความผิดในครั้งนี้

หลังงานแต่งงานมัจฉาขอร้องไตรให้ครอบครัวของเธอได้เข้าไปพักในคฤหาสน์หรูของไตร แต่คุณหญิงตรีทิพย์กลับไม่ยินยอมให้ครอบครัวของมัจฉาเข้าไปอยู่ร่วมบ้านด้วยแม้แต่ตัวมัจฉาเอง เมื่อแม่ไม่ต้องการให้มัจฉาและครอบครัวมาอยู่ในคฤหาสน์ฐากูลเรืองวิริยา ไตรก็บอกว่าเขาต้องไปอยู่ข้างนอกกับมัจฉา คุณหญิงตรีทิพย์รีบห้าม ด้วยเพราะรัก หวง ห่วงไตรที่เธอเลี้ยงมาอย่างดี เรื่องจึงลงเอยด้วยการให้ เพิ่ม วรรณา ยายทอง และข่อย เข้าไปอยู่ในเรือนหลังเล็กของคฤหาสน์ แม้ว่าบรรดาครอบครัวหรรษาจะไม่ยินดีนักทุกคนยินยอมอยู่ในบ้านเล็กในเรือนใหญ่ด้วยความไม่เต็มใจ คนรับใช้ในคฤหาสน์ ทั้ง ป้าแจง (น้ำเงิน บุญหนัก) แม่ครัว และ ไอ้หนึ่ง (วิชัย จงประสิทธิ์พร) คนขับรถ ต่างงุนงงที่เห็นหมาหอนตลอดเวลา ตั้งแต่ครอบครัวนี้มาอยู่ที่นี่ ชีวิตสมรสของไตรและมัจฉาเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการ เพราะตรีทิพย์ทนรับสภาพที่มีมัจฉาอยู่ร่วมบ้านไม่ได้ จึงหาทางกลั่นแกล้งมัจฉา โดยมี พิศ (หมวย ชวนชื่น) และ น้อย (กรุณา มอริส) คนรับใช้คู่บารมีคอยช่วยหาเรื่องมัจฉา ทั้งให้ซักผ้า กวาดบ้าน ตัดหญ้า จ่ายตลาด ทำกับข้าว ด้วยความเป็นคนจิตใจดี และรักสามีมากมัจฉาจึงยอมทำทุกอย่าง โดยหวังว่าความดีจะชนะใจแม่สามี พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อย ทนไม่ได้ขอประกาศศึกกับคุณหญิงตรีทิพย์ คุณหญิงตรีทิพย์พยายามบอกกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เรื่องผีที่หลอกเธอมีหน้าตาเหมือนกับครอบครัวของมัจฉา แต่ไตรเข้าใจผิดคิดว่าแม่ของตัวเองกำลังใส่ร้ายครอบครัวของมัจฉา จึงต่อว่าแม่ ไตรไม่พอใจนอกจากแม่จะหาเรื่องรังแกมัจฉา แล้วยังมากล่าวหาว่ามัจฉาและครอบครัวเป็นผีอีก จึงประกาศกร้าวว่า หากมัจฉาและครอบครัวถูกกลั่นแกล้งอีก เขาจะย้ายไปอยู่ข้างนอกกับมัจฉาและครอบครัว ด้านมัจฉารู้ดีว่าเรื่องที่คุณหญิงตรีทิพย์เล่าเป็นความจริง จึงเรียกพ่อ แม่ ยาย และน้องมาเอ็ด พร้อมทั้งสั่งห้ามหลอกใครอีก เพราะเธอไม่อยากให้ไตรรู้เรื่องที่เธอและครอบครัวเป็นผี

เวลาเดียวกันนั้น ณ บ้านโคกอีเห็น หมู่บ้านเล็กๆ ทางภาคอีสาน สุดที่รัก (กรเศก โคร์นิน) เจ้าของโรงสีข้าวที่รวยที่สุดในตำบล ผู้เป็นแฟนคลับของมัจฉา ได้ข่าวจากทางตำรวจว่ามัจฉาและครอบครัวประสบอุบัติเหตุ ซากรถคว่ำอยู่ข้างถนน ทำเอาสุดที่รักที่หลงรักมัจฉาอย่างบ้าคลั่งทนไม่ได้ ต้องรีบหาทางติดต่อมัจฉาและครอบครัวด่วน ทันทีที่โทรศัพท์มาสุดที่รักก็พบว่าทุกคนยังอยู่ดีมีสุข จนกระทั่งข่อยรายงานสุดที่รักให้ได้รู้ว่ามัจฉาแต่งงานมาอยู่ครอบครัวนี้ด้วยความลำบาก เพราะถูกตรีทิพย์กลั่นแกล้งตลอด ทำเอาสุดที่รักทนไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อปกป้องยอดดวงใจของเขาด้วยชีวิต ขณะเดียวกัน ตวิษา (ปทิตตา อัธยาตมวิทยา) น้องสาวของไตร เดินทางกลับจากต่างประเทศได้พบกับสุดที่รัก ขณะที่เขาเดินทางมาหามัจฉา และได้ขับรถชนรถของตวิษาเข้าให้ ด้วยความเป็นผู้ดีประจำหมู่บ้านสุดที่รักโวยวายจะเอาเรื่องตวิษาให้ได้ ขณะที่สาวเจ้าก็ไม่ยอมเช่นกัน โชคดีที่ไตรมาห้ามทัน ทำให้สุดที่รักได้รู้ว่าผู้หญิงบ้านนี้ร้ายกาจกันทุกคน แล้วมัจฉาจะอยู่อย่างมีความสุขได้ยังไง สุดที่รักจึงสัญญากับตัวเองว่าจะต้องหาทางทำให้มัจฉาหย่าขาดกับไตรแล้วกลับไปเป็นเจ้าสาวของเขาให้ได้ ความวุ่นวายไม่หยุดคืบคลานเข้ามา ตัวช่วยของคุณหญิงตรีทิพย์ก็ปรากฏตัวขึ้น เอื้อมพร (กัญญกร พินิจ) เพื่อนสนิทของตวิษาที่ได้พบกับไตรก็เกิดประทับใจในตัวพี่ชายของเพื่อนรัก ตรีทิพย์และตวิษาเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะทำให้ไตรและมัจฉามีปัญหากัน จึงขอให้เอื้อมพรช่วยร่วมมือในการกำจัดมัจฉาออกจากสกุลฐากูรเรืองวิริยาให้ได้

แผนการดำเนินไปไม่ใช่เพียงแค่มัจฉาเท่านั้นที่เริ่มน้อยใจในตัวของสามี ด้านไตรเองก็เป็นเช่นกัน โดยตัวต้นเหตุก็คือสุดที่รัก ซึ่งย้ายมาปักหลักเช่าคอนโดฯ อยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อพามัจฉากลับบ้านนั้น คอยมาหามัจฉาที่คฤหาสน์ของไตร สุดที่รักเห็นว่ามัจฉาถูกครอบครัวสามีแกล้งจริงอย่างที่ข่อยบอก จึงแตะมือกับสมาชิกในครอบครัวของมัจฉา ทำเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้าให้ตรีทิพย์และตวิษาต้องโมโหไม่เว้นแต่ละวัน ไตรไม่พอใจที่กลับมาจากทำงานทุกครั้ง เป็นต้องเห็นสุดที่รักช่วยมัจฉาทำงานบ้าน ทำกับข้าว อีกทั้งหลายครั้งที่สุดที่รักชอบพูดจากระแนะกระแหน ว่าเขาเป็นลูกแหง่กลัวแม่ ปล่อยให้แม่โขกสับมัจฉา ครั้งหนึ่งไตรได้ยินพ่อเพิ่มพูดว่า "สุดที่รักน่าจะเป็นลูกเขย" ทำให้ไตรรู้สึกเป็นส่วนเกินของครอบครัวมัจฉา ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งคู่ทะเลาะ จนกระทั่งบานปลายมีปากเสียงกัน ยมทูตแอนดี้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวร้าย นรกได้ตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว และพบว่ายมทูตแอนดี้ไม่ได้ทำงานผิดพลาด ครอบครัวของมัจฉาชะตาถึงฆาตแล้วจริงๆ ยมทูตแอนดี้เตรียมตัวมารับวิญญาณของมัจฉาและครอบครัว มัจฉาหาทางบอกไตรให้รู้เป็นนัยๆ ว่า เธอและเขาจะต้องพรากจากกันตลอดไป ไตรเข้าใจผิดคิดว่า มัจฉาจะทิ้งเขาแล้วไปอยู่กับสุดที่รักซึ่งเหมาะสมกว่า ไตรจึงยิ่งกลุ้มใจมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งผลดีให้เอื้อมพรเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น ด้วยการทำทีเป็นที่ปรึกษาให้ไตรระบายความกลัดกลุ้ม จนพานกลับบ้านดึกทำให้มัจฉาเป็นห่วง รวมทั้งเสียใจทุกครั้งที่เห็นว่าคนที่มาส่งไตรทุกคืนคือเอื้อมพร ข่อยทนไม่ไหวที่ต้องเห็นพี่สาวน้ำตาเช็ดหัวเข่า จึงฟ้องสุดที่รักว่าเอื้อมพรจะแย่งไตรไปจากมัจฉา สุดที่รักได้ยินก็กระโดดดีใจสุดเหวี่ยงที่รู้ว่าไตรกับมัจฉาจะเลิกกัน สุดที่รักรับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้

สุดที่รักไปต่อว่าตวิษาว่าร่วมมือกับเอื้อมพรในการแย่งไตรกับมัจฉา สุดที่รักต่อว่า "ตวิษาว่าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง นอกจากทำให้ผัวเมียชาวบ้านเขาเลิกกัน ทั้งๆ ที่พ่อแม่ส่งไปเรียนถึงต่างประเทศ" ตวิษาโกรธจัด เธอยังมีความรู้สึกน้อยใจรวมอยู่ด้วย น้อยใจที่เขาไม่เคยเห็นเธอมีดีในสายตา ต่างจากลูกชายลูกท่านหลานเธอทั้งหลายที่ต่างชมว่าเธอคือผู้หญิงสมบูรณ์แบบ เรื่องไม่คาดฝันครั้งใหญ่ขึ้นในวงการนรก เมื่อมัจฉาได้ตั้งท้องลูกของไตร ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อยมทูตรายงานกับทางนรกถึงปัญหาหนักที่ตามมา และแล้วมัจฉาก็ได้รับการต่อเวลาให้มีร่างมนุษย์ต่อไปตราบจนกว่าจะคลอดลูก ด้านตรีทิพย์ที่ถึงแม้จะเกลียดชังมัจฉาแค่ไหน แต่เมื่อรู้ว่ามัจฉากำลังอุ้มท้องหลานของเธอ ตรีทิพย์ก็เริ่มใจอ่อนและยอมดูแลมัจฉาอยู่ห่างๆ อย่างไว้ท่า ขณะที่เอื้อมพรเล็งเห็นว่าตรีทิพย์กำลังเอนเอียงไปทางมัจฉา จึงได้วางแผนรวบหัวรวบหางไตร เพื่อเรียกร้องสิทธิ์การเป็นภรรยาของไตรอีกคน แล้วแผนการของเอื้อมพรก็สำเร็จจนได้ เพิ่มรู้เรื่องไตรมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเอื้อมพรโกรธจนตัวสั่น แต่ก็ติดตรงที่แม่วรรณาเมียรักเคยขอให้อย่าไปยุ่งเรื่องของลูก พอเพิ่มหันไปเห็นเมียรักยืนตัวสั่นก็ตกใจ มัจฉาเห็นแก่ไตรที่ตกที่นั่งลำบากเลยตัดสินใจพาครอบครัวของตัวเองกลับบ้านโคกอีเห็น การกลับมาของครอบครัวมัจฉา สร้างความงุนงงสงสัยให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะ เสี่ยแสน (โอริเวอร์ บีเวอร์) และ สร้อย (ราตรี วิทวัส) พ่อกับแม่ของสุดที่รัก ที่ได้ยินชาวบ้านนินทามัจฉาและครอบครัวว่ามีอะไรผิดปกติหลายอย่าง อีกทั้งหมอผีประจำหมู่บ้านยังยืนยันว่าครอบครัวนี้คืออดัมแฟมมิลี่อย่างแน่นอน เสี่ยแสนและสร้อยเตือนสุดที่รักไม่ให้ยุ่งกับครอบครัวมัจฉา สุดที่รักก็ยังยืนกรานว่ามัจฉาไม่ใช่ผีอย่างที่ใครนินทา ทำเอาสองสามีภรรยาที่รักลูกชายอย่างสุดที่รักยิ่งดวงใจต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่า ความจริงแล้วครอบครัวของมัจฉาเป็นผีจริง ตามที่ชาวบ้านพูดหรือเปล่า

ไตรที่เห็นภรรยาสุดที่รักหนีกลับบ้านนอกก็น้อยใจคิดว่ามัจฉาหมดรักเขาจริงๆ เลยเอาแต่ดื่มเหล้า ส่วนเอื้อมพรก็ย้ายข้าวของมาอยู่ในคฤหาสน์ฐากูรเรืองวิริยาในฐานะภรรยาคนใหม่ นิสัยชอบดูถูกคนและจิกหัวคนรับใช้อย่างกับทาสของเอื้อมพรทำให้พิศ น้อย และคนรับใช้ในคฤหาสน์ฐากูรเรืองวิริยาไม่ชอบเอื้อมพร ทุกคนต่างนึกถึงตอนที่มัจฉาอยู่ คุณหญิงตรีทิพย์ก็ชักเริ่มอยากจะอัปเปหิเอื้อมพรไปจากคฤหาสน์ เพราะเอื้อมพรมีนิสัยฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย แต่ที่คุณหญิงตรีทิพย์ไม่ชอบอย่างแรงก็คือเอื้อมพรพูดต่อว่ากฎประหยัดต่างๆ ในคฤหาสน์ ว่าคนคิดประสาทบ้างเอย สมองแร้งทึ้งบ้างเอย ต้องเป็นพวกชอบข่มเหงลูกและสามี ฯลฯ โดยหารู้ไม่ว่าคนที่ตั้งกฎก็คือคุณหญิงตรีทิพย์นั่นเอง เวลานี้คุณหญิงตรีทิพย์เริ่มคิดถึงมัจฉา ภาพที่มัจฉาคอยช่วยทำงานบ้าน ทำกับข้าวค่อยๆ ผุดมาเปรียบเทียบกับเอื้อมพรที่วันๆ ตื่นมาก็บ่ายคล้อย แต่งหน้ากว่าจะเสร็จก็เย็น งานการก็ไม่ทำเอาแต่เที่ยว กลับบ้านเที่ยงคืน ยามนี้คุณหญิงตรีทิพย์เลยคิดถึงมัจฉา โดยเฉพาะหลานตัวน้อยๆ ที่อยู่ในท้องของมัจฉา คุณอดิศรรู้เรื่องคุณหญิงตรีทิพย์เริ่มไม่โปรดเอื้อมพรก็หัวเราะสะใจเป็นการใหญ่ ทว่าพอมาเห็นสภาพของไตรที่เมาหัวราน้ำกลับมาบ้านแทบทุกวันก็ทนเห็นสภาพของลูกชายไม่ไหว ขอให้ไตรนึกถึงคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับมัจฉาในวันแต่งงาน และเมื่อคนสองคนได้สัญญาจะแก่ตายไปด้วยกัน คำเตือนของพ่อทำให้ไตรตัดสินใจจะเดินทางไปบ้านโคกอีเห็น เสี่ยแสนและสร้อยเห็นว่าสุดที่รักและไตรกำลังตกอยู่ในวังวนของครอบครัวผี เลยหาทางแฉครอบครัวมัจฉาทุกคนด้วยสารพัดวิธี ทั้งหาหมอผีไทย เขมร มอญ ฝรั่งมาทำพิธีปราบ แต่ทุกครั้งกลับเจออิทธิฤทธิ์ของอดัมแฟมมิลี่ จนพากันหนีเตลิดเปิดเปิง ภาพของไตรที่หอบหิ้วกระเป๋ามาที่บ้านของมัจฉาเป็นภาพที่มัจฉาคิดว่าฝันไป แต่อ้อมกอดของไตรที่โผเข้ามากอดเธอพร้อมทั้งพูดขอโอกาส มัจฉาจึงรู้ว่าเธอไม่ได้ฝันไป ด้วยใจที่รักมั่น กอปรกับรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ได้อีกไม่นาน ทำให้มัจฉาพร้อมจะให้อภัยไตรทุกอย่าง ไตรกับมัจฉาปรับความเข้าใจในกันและกัน ไตรยอมเปิดเผยความรู้สึกตั้งแต่หึงมัจฉาที่มีสุดที่รักซึ่งเหมาะสมกว่าอยู่เคียงข้าง หรือแม้แต่การปรับตัวเข้าไม่ได้กับวิถีชีวิตอีสานของครอบครัวมัจฉา ซึ่งมัจฉาบอกกับไตรว่าคิดมาก เธอกับสุดที่รักเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็กและจะเป็นตลอดไป เพราะเธอได้มอบใจให้กับไตรไปจนหมดแล้ว

ภาพไตรกับมัจฉาที่กอดหวานแหววหัวใจของสุดที่รักถึงกับแหลกสลาย ร้องห่มร้องไห้กลับบ้าน สภาพข้าวปลาไม่ยอมกิน น้ำไม่ยอมอาบ เอาแต่นั่งซึม บางครั้งก็ร้องไห้ ยิ่งทำให้เสี่ยแสนและสร้อยร้อนใจคิดว่าหากมัจฉายังอยู่ลูกชายสุดที่รักของพวกเขาคงจะยิ่งอาการหนัก ทั้งสองคนจึงตัดสินใจจะหาแผนขั้นพิฆาตครอบครัวผีหรรษานี่เสีย เอื้อมพรทนไม่ได้ชวนตวิษาตามล่าสามีที่โคกอีเห็น โดยขอพักกับไตรทั้งที่ใจอยากจะไปพักในโรงแรมหรูใจจะขาด แต่ด้วยความบ้าผู้ชายที่มีมากกว่า ด้วยความอยากอยู่ใกล้ไตรเอื้อมพรเลยขออยู่ที่บ้านของครอบครัวมัจฉา ไตรรู้สึกอึดอัดกับการที่เอื้อมพรตามราวีมัจฉาไม่หยุดหย่อน มัจฉาเห็นว่าเอื้อมพรรักไตรมากก็ทำดีกับเอื้อมพรเพราะคิดว่าต่อไปเอื้อมพรจะต้องเป็นคนดูแลไตร และอาจจะรวมถึงลูกของเธออีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเอื้อมพรก็ยังรังเกียจมัจฉาอยู่ดี รวมทั้งคิดว่ามัจฉาแสร้งทำเป็นนางเอก มาทำเป็นเมียหลวงปรองดองกับเธอ ขณะที่ตวิษามาอยู่บ้านนอกคอกนาก็ออกอาการรังเกียจสารพัด แต่ยิ่งเกลียดอะไรก็ต้องเจออยู่เรื่อย โดยเฉพาะสุดที่รัก หนุ่มบ้านนอกที่ตวิษารังเกียจยิ่งกว่าอะไรดี อย่างคืนแรกที่ตวิษากับเอื้อมพรมาอยู่ที่บ้านมัจฉา จู่ๆ ไฟที่บ้านของมัจฉาขาด เพราะทั้งเอื้อมพรและตวิษาขนเครื่องใช้ไฟฟฟ้าสารพัดมาใช้เกินกำลังไฟ ตวิษาที่กลัวความมืดนอนไม่ได้ขอให้เอื้อมพรช่วยทำให้ไฟฟ้าใช้ได้ แต่เอื้อมพรรำคาญบอกไม่ได้จบไฟฟ้า ก่อนจะนอนหลับหน้าตาเฉยไม่สนใจตวิษาที่เริ่มจะตาแดงๆ เพราะเธอเป็นโรคกลัวความมืด เสียงร้องไห้ของตวิษา ทำให้สุดที่รักมาหาสาเหตุไฟดับเห็นเข้าพอดี เลยเวทนาจุดกองไฟ เป่าแคน ร้องเพลงหมอลำ เผื่อคลายความกลัวให้ตวิษา ซึ่งก็ได้ผลแม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงหมอลำ แต่คืนนั้นตวิษาก็หลับไปพร้อมเสียงเพลงอันไพเราะของสุดที่รัก หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเป็นไงทุกครั้งที่ตวิษาเจอเรื่องแย่ๆ ก็จะเป็นสุดที่รักซะเองที่เป็นพระเอกมาคอยช่วยตวิษาเสมอ ความมีน้ำใจและความอบอุ่นของสุดที่รักก็ค่อยๆ แทรกซึมเข้าลงสู่รากลึกของหัวใจตวิษา ขณะที่สุดที่รักก็รู้สึกเอ็นดูความไม่เอาไหนของตวิษา จนทำเอาทั้งคู่เกิดหวั่นไหวกันอย่างไม่รู้ตัว

ในที่สุดเสี่ยแสนกับสร้อยก็คิดแผนการขั้นสุดท้ายในการพิฆาตครอบครัวมัจฉา นั่นก็คือหันไปพึ่งหลวงตาบุญให้ช่วยกำจัดครอบครัวมัจฉา เพื่อที่สุดที่รักลูกชายของพวกเขาจะได้ปลอดภัย เสี่ยแสนและสร้อยนิมนต์หลวงตาบุญไปยังบ้านของมัจฉา และแล้วท่านก็สัมผัสได้ว่าทุกคนเป็นวิญญาณจริงดังที่ชาวบ้านพูดกัน แต่แล้วยมบาลแอนดี้ก็ปรากฏตัวขึ้นและได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้หลวงตาบุญฟัง หลวงตาบุญได้เทศน์เรื่องบุญกรรมของครอบครัวมัจฉา รวมถึงให้ทุกคนทำใจถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและรับความจริงให้ได้ แต่แล้วจังหวะนั้นเองไตรก็เข้ามาได้ยินเรื่องราวทั้งหมดว่า ความจริงแล้วมัจฉาได้ตายไปนานแล้วและเขามีภรรยาเป็นผี ไตรหาว่าทุกคนกุเรื่องขึ้นเพื่อกล่าวหามัจฉาและครอบครัว จนถึงกับแจ้งความจับเสี่ยแสนและสร้อย มัจฉาสารภาพกับไตรทั้งน้ำตาถึงเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่เธอประสบอุบัติเหตุในเช้าวันแต่งงาน จนกระทั่งเธอได้ใช้ชีวิตคู่กับไตร หากแต่ไตรที่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ทำใจไม่ได้ จึงได้หนีไป ขณะที่เอื้อมพรได้รู้ความจริงก็กลัวมัจฉามาก จึงได้สารภาพความจริงว่าไม่ได้มีอะไรกับไตร แต่เพราะเธออยากได้ไตรเป็นสามีจึงได้จัดฉากขึ้น ก่อนจะโยนความผิดให้คุณหญิงตรีทิพย์กับตวิษาว่าเป็นคนบังคับให้เธอมาแย่งไตรไปจากมัจฉา ตวิษาได้ยินอย่างนั้นก็ต่อว่าเอื้อมพรที่โกหก หากเวลานี้เอื้อมพรกลัวถูกผีหักคอมากกว่า เลยเผยธาตุแท้บอกความจริงเรื่องที่หากไม่ใช่เพราะตระกูลฐากูลเรืองวิริยาคือตระกูลมหาเศรษฐี เธอก็ไม่อยากเป็นสะใภ้กับคนในตระกูลนี้ ตวิษาประกาศตัดเพื่อนกับเอื้อมพร เอื้อมพรหาได้แยแส หมดประโยชน์ เธอก็ไม่สนใจ เก็บกระเป๋าสุดหรูกลับกรุงเทพฯ ทันที ตวิษาไม่รู้จะอยู่ยังไงคนเดียว ทั้งกลัวผี ทั้งหลงกลับไม่ถูก เสี่ยแสนกับสร้อยสงสารเลยชวนให้มาพักอยู่ด้วยกัน โดยพรุ่งนี้เช้าเสี่ยแสนจะให้สุดที่รักขับรถไปส่งที่กรุงเทพฯ แต่สุดที่รักโวยวายไม่ยอมเพราะโกรธที่ตวิษาร่วมมือกับแม่ บังคับให้เอื้อมพรมาแย่งไตรไปจากมัจฉา จนตวิษาน้อยใจร้องไห้ออกมา ตวิษาเอาแต่ว่าตัวเองทั้งน้ำตาว่าทำไมต้องเสียน้ำตาให้กับคนบ้านนอก ที่ปากคมยิ่งกว่ากรรไกร หลงตัวเองว่าหล่อ อีกทั้งยังไม่เคยเห็นเธอดีในสายตา และแล้วคำพูดหนึ่งก็หลุดออกมาจากปากตวิษา "เพราะเธอรักเขา"

รุ่งเช้าตวิษาต้องแปลกใจที่พบว่าคนขับรถที่จะพาเธอไปกรุงเทพฯ คือยอดชายนายสุดที่รัก ตวิษาทำท่าไม่ยอมขึ้นรถ แต่กลับถูกสุดที่รักแบกยัดใส่ไปในรถ ระหว่างการเดินทางคนทั้งสองไม่ยอมพูดอะไรกันเลย กระทั่งถึงหน้าคฤหาสน์ของตวิษา สุดที่รักบอกว่าเขาพร้อมจะให้อภัยตวิษากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากตวิษาจะต้องยอมปรับเปลี่ยนนิสัยด้วยการหางานทำ เลิกทำตัวฟุ่มเฟือย ไม่ใช้ของมียี่ห้อ ที่สำคัญต้องหัดซักชุดชั้นในเอง โดยต้องโทรศัพท์มารายงานความประพฤติกับเขาทุกวัน คำพูดของสุดที่รักทำเอาตวิษาแทบจะกรี๊ด ว่าสุดที่รักเป็นใครกันถึงกล้ามาตั้งข้อแม้กับเธอ สุดที่รักเลยสวนกลับด้วยท่าทียียวนว่ายากมากที่ผู้ดีสุดหล่อแห่งบ้านโคกอีเห็นอย่างเขาจะให้อภัยใครง่ายๆ เพราะฉะนั้นนับว่าเป็นบุญของตวิษาเป็นอย่างมากที่ได้รับเกียรตินี้ ตวิษาเป็นเดือดเป็นแค้นมากกับการที่มีผู้ชายบ้านนอกมาออกคำสั่งให้เธอทำนั่นทำนี่ แต่สุดท้ายตวิษาก็ยอมทำตามกฎที่สุดที่รักตั้ง แถมยังยอมโทรศัพท์ไปรายงานความประพฤติให้อีตาบ้านนอกที่มอบหัวใจฟังทุกวัน ด้านมัจฉาที่ท้องแก่ก็พยายามออกตามหาไตร แต่ก็ไม่พบ พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยต่างสงสารมัจฉาเป็นอย่างมาก ยายทองบอกให้มัจฉาตัดใจจากไตรเสีย เพราะได้อยู่กันคนละโลกแล้ว มัจฉาควรดูแลลูกในท้องให้ดีที่สุด หลังจากความจริงเรื่องครอบครัวของมัจฉาเป็นผี ชาวบ้านทั่วโคกอีเห็นก็ไม่กล้าเดินผ่านบ้านของมัจฉาอีกเลย ร้านค้าก็ปิดตั้งแต่หัวค่ำ มีเพียงสุดที่รักที่มาเยี่ยมเยียนมัจฉาและครอบครัวไม่เคยขาด ทำเอาเสี่ยแสนและสร้อยต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่บ่อยครั้ง ด้วยกลัวว่ามัจฉาและครอบครัวจะพาลูกชายโทนของพวกเขาไปอยู่ด้วย ไตรแอบหลบไปอยู่ที่บ้านพักในต่างจังหวัด เพื่อขอทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมักจะมีคุณอดิศร คุณตรีทิพย์ และตวิษาหมั่นมาเยี่ยม

ไตรเห็นความเปลี่ยนไปในตัวของน้องสาวที่ดีขึ้น ซึ่งคุณอดิศรแอบกระซิบบอกว่าเป็นเพราะสุดที่รัก ซึ่งทีแรกคุณหญิงตรีทิพย์ออกแรงขวางเต็มแรงเกิด ทว่าพอรู้ว่าเสี่ยแสนและสร้อยรวยชนิดต้องเอาเงินใส่กระสอบปุ๋ยไปฝากธนาคารทุกครั้ง เลยไฟเขียวผ่านตลอด แถมเร่งวันให้แต่งงานกันเร็วๆ ด้วยซ้ำ หากแต่ตวิษาไม่ยอม โดยอ้างว่าเธอไม่เชื่อในความรักว่ามีอยู่จริง เพราะผู้ชายมักจะให้คำสัญญาว่า จะรักคนรักของตัวเองไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายหากเมียตัวเองรูปร่างเปลี่ยน หรือพอตายไปได้ไม่กี่ปีผู้ชายก็เปลี่ยนใจมีคนอื่นลืมถ้อยคำสัตย์สาบานจนหมด คำบอกเล่าของคุณอดิศรแทงใจดำของไตรเข้าอย่างจัง จนเขาหวนนึกถึงวันแรกที่คุกเข่าขอมัจฉาแต่งงานไปจนถึงวันแต่งงานที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักมัจฉา ไม่ว่าต่อไปในอนาคตเธอจะเป็นอะไรก็ตาม ในที่สุดถึงกำหนดคลอดลูก มัจฉาได้คลอดลูกสาวหน้าตาน่ารักให้แก่ไตร และแล้วยมทูตแอนดี้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เพื่อทวงสัญญาเรื่องที่เขาจะต้องพาวิญญาณของมัจฉาและครอบครัวไปเสียที มัจฉาเสียใจมากที่เธอจะไม่มีโอกาสได้พบไตรอีกแล้ว แต่แล้วจังหวะนั้นเองไตรก็กลับมาทันเวลาก่อนที่ร่างของมัจฉาจะหายไป ไตรและมัจฉาร่ำลากันทั้งน้ำตา โดยที่ไตรขอโทษที่หนีไป ทั้งที่ความจริงแล้วเขาควรจะอยู่ดูแลมัจฉาในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะจากกัน มัจฉาฝากลูกสาวไว้กับไตร ก่อนที่ร่างของเธอ รวมถึงพ่อเพิ่ม วรรณา ยายทอง และข่อยจะสลายไป ขณะที่สุดที่รักและตวิษาได้เห็นก็รู้สึกผิดกับมัจฉาและไตรมากๆ ที่เธอและเขาคอยขัดขวางความรักของเธอและไตรมาตลอด ทั้งคู่กลายมาทำดีต่อกันมากขึ้นและพัฒนามาเป็นความรักเล็กๆ โดยไม่รู้ตัว

20 ปีต่อมา มินตรา ลูกสาวของไตร เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวน่ารักเธอได้รับปริญญาท่ามกลางความภาคภูมิใจของไตร อดิศร ตรีทิพย์ รวมถึง ตวิษา และสุดที่รัก ที่ขณะนี้ได้เป็นสามีภรรยาและมีลูกน่ารักๆ ถึง 3 คน ในงานรับปริญญาของมินตรา ไตรได้พบกับหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับมินตรา เธอมีใบหน้าคล้ายกับมัจฉาไม่ผิดเพี้ยน เธอคือ มัจฉา เพื่อนต่างคณะของมินตรา ที่ร่วมรับปริญญาในวันนี้ด้วย ทันทีที่ไตรและมัจฉาได้พบกันก็รู้สึกประทับใจกันในทันที แม้วัยของทั้งคู่จะต่างกันราวพ่อกับลูก หากแต่ด้วยเงื่อนไขของความรักที่ทั้งคู่มีให้กันมาก่อนเก่า ทำให้ชายวัยกลางคนเช่นไตรได้กลับมามีความรักอีกครั้ง และรักครั้งนี้จะเป็นรักที่ยั่งยืนตราบนานเท่านาน