วิจารณ์ Hostage
-
TheKn[i]ght (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 19 พ.ค. 48 14:32
ดูแล้วก็ยังถือว่าไม่เสียดายตังอาจจะผิดหวังนิดๆ กับคำโฆษณาที่ว่า สุดยอดภาพยนตร์แอ๊คชั่นแห่งปีไปซะหน่อยก็เถอะ
-
Modtanoy (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 18 พ.ค. 48 12:26
หนังสือ Hostage ที่แต่งโดย โรเบิร์ต เครส ประทับใจผู้กำกับ ฟลอเรนท์ เอมิลิโอ ซีรี จนถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ผูกเรื่องราว ถ่ายทำและตัดต่อ ในแบบที่เพิ่มความตึงเครียดเข้าไปทีละชั้นๆ ค่อยๆ สอดแทรกความขัดแย้งที่มีการผสมผสานกันระหว่างความลึกลับ ซับซ้อน ตื่นเต้นระทึก ดราม่า จิตวิทยา และฉากบู๊ระห่ำ พร้อมด้วยการหักมุม
เรื่องราววนเวียนอยู่กับบ้านหนึ่งหลัง ภายในช่วงเวลาหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน ได้เพิ่มความซับซ้อนแทนที่จะคลี่คลาย ตลอดทั้งเรื่อง บรูซ วิลลิส หนีไม่พ้นเหตุการณ์ตัวประกัน ปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปัญหาทางอารมณ์ หัวใจของตัวละคร ทุกอย่างที่เราเห็นตั้งแต่ต้นจนจบ คือการไถ่โทษและการรู้จักตัวเอง โดยต่อสู้กับอดีตที่ตามหลอกหลอนที่อาจเรียกสั้นๆ ว่า "ตราบาป"
บทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมกับดาราระดับโลกที่เป็นแม่เหล็กในภาพยนตร์ประเภทนี้ เหมือนจับเอา บรูซ วิลลิส มารับบทแนวถนัดของเขา ถึงแม้จะดูจำเจ แต่คราวนี้ก็มีการหักมุมใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและสะใจ เพราะตัวละคร เจฟ แทลลี่ย์ คือตัวกลางที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับสถานการณ์ ในกรณีที่ผู้บงการได้กลายมาเป็นผู้ถูกบงการ
ตัวละครวัยรุ่น 3 คนในเรื่อง ได้แก่ มาร์ส (เบน ฟอสเตอร์) เดนนิส (โจนาธาน ทัคเกอร์) และ เควิน (มาร์แชล ออลแมน) ก็สะท้อนวัยรุ่นยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเด็กหนุ่มอเมริกันที่โหยหาอยากจะมีฝันของอเมริกันชนในแบบตัวเอง แต่ละคนก็พยายามพิสูจน์ความเป็นผู้ใหญ่ ตัดสินใจหุนหันพลันแล่นโดยมีผลลัพธ์อันโหดร้ายตามมา
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในภาพยนตร์เรื่องนี้คือตัวละครมีหลายชั้นและหลายหน้าอยู่ในตัว เราเห็นด้านที่ดีของ วอลเตอร์ สมิธ (เควิน พอลแล็ค) และได้เห็นด้านที่ไม่ดีด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่าเกี่ยวกับการไถ่บาปของตัวละครตัวนี้ เช่นเดียวกับตัวละครของ บรูซ วิลลิส
แม้แต่บ้านสวยๆ ที่เห็นในตอนแรกของเรื่อง ก็จะค่อยๆ แสดงให้เห็นถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่คล้ายกับกับดักมากกว่าจะเป็นบ้าน มันคือศิลปะของความหวาดระแวงที่ย้อนกลับมาเล่นงานเจ้าของบ้านกับครอบครัว ผู้ที่มีหน้าที่ต้องช่วยเข้าไปในบ้านเพื่อช่วยตัวประกันก็ช่วยไม่ได้ และตัวประกันก็หนีออกมาไม่ได้ ทุกคนติดกับ คนดูก็ติดกับ เราทั้งหมดติดกับทั้งในและนอกบ้านไปพร้อมๆ กัน
การเล่นกับตัวประกัน ทั้งหมดของเรื่องก็คือการเล่นกับความเสี่ยง ตัวประกันสร้างเรื่องขึ้นมา ตัวประกันถูกใช้เป็นตัวดำเนินเรื่องที่กดดัน และตัวประกันก็ช่วยคลี่คลายในที่สุด เราชอบตรงที่ตัวละครเอกเสี่ยงตายช่วยตัวประกันมาตั้งมากมาย และสุดท้ายสิ่งที่เขาพยายามช่วยมาตลอดชีวิตการทำงาน คือกลับมาช่วยครอบครัวของเขาเป็นการตอบแทน
โดยภาพรวมก็ถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สอบผ่าน แม้ว่าจะพยายามทำให้เรื่องราวซับซ้อนเพียงใด แต่ตอนท้ายเรื่องก็จบในแบบที่ทุกคนเดาได้ว่า ท้ายสุดพระเอกก็ต้องเป็นพระเอก และอย่าลืมสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ไว้ล่ะว่า "ความมั่นใจบางทีก็เป็นดาบสองคม!" -
ADK (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 18 พ.ค. 48 00:59
มันส์มากครับ ลุ้นทุกตอน ดูแล้วไม่เสียดายตังส์เลยครับ ผมดูรอบพิเศษก่อนฉายจริง เลยบอกเพื่อนๆไปดูได้เลยครับ คุ้มอยู่ๆ
-
ซี (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 16 พ.ค. 48 11:32
โดยรวมดี..
แต่บางตอนนั้น..วิลลิส ถูกโขมยซีนโดยเด็กน้อยฟันกระต่าย... -
หนุ่ม (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 15 พ.ค. 48 11:39
โดยรวมก็ดีนะ...ซาว์ให้อารมณ์ เนื้อหาของหนังไม่ซับ
ซ้อน ตัวละครเล่นดีมาก เต็ม 10 ให้ประมาณ 8.5 -
ทีเด็ด (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 10 พ.ค. 48 15:51
ดูโดยรวมก็ถือว่า . . . ผ่าน
-
BUCK (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 9 พ.ค. 48 14:57
IT IS A SERIE OF DIE HARD + PSYCO.
MOVIE IS O.K !! -
คอหนัง (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 4 พ.ค. 48 15:23
บรู๊ซ วิลลิส ยังคงหนีไม่พ้นกับบทเดิมแต่ก็อย่างว่า บรู๊ซอาจจะเหมาะกับบทแบบนี้ เนื้อเรื่องงั้นๆ หนังอเมริกันหนีไม่พ้นแนวนี้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
Fast & Furious 5เข้าฉายปี 2011 แสดง Vin Diesel, Paul Walker, Dwayne Johnson
Be With Youเข้าฉายปี 2005 แสดง Yuko Takeuchi, Shido Nakamura, Akashi Takei
องค์บาก 3เข้าฉายปี 2010 แสดง จาพนม ยีรัมย์, พริมรตา เดชอุดม, ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
เกร็ดภาพยนตร์
- Kidnapping Freddy Heineken - ขวดเบียร์ไฮเนเก้นสีเขียวที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ถูกต้องกับความเป็นจริง เพราะในช่วงเวลานั้นขวดเบียร์ไฮเนเก้นที่ขายทั่วไปในเนเธอร์แลนด์บรรจุอยู่ในขวดสีน้ำตาล อ่านต่อ»
- Southpaw - เดิมทีภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวภาคต่ออย่างไม่เป็นทางการของ 8 Mile (2002) โดยจะให้ เอมิเนม กลับมารับบทเดิม แต่ภายหลังก็มีการพัฒนาบทภาพยนตร์ไปเรื่อยๆ จนความตั้งใจดั้งเดิมล้มไป อ่านต่อ»