วิจารณ์ The Fast and the Furious: Tokyo Drift
-
แวนค๊าพ (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 26 มิ.ย. 49 21:05
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น หนุกๆแต่พี่วินแกดันโผล่มาตอนท้ายเรื่อง
เซ็ง.ๆๆๆๆๆ
มันส์สะไจจิงคับ ดริฟขั้นสุดยอดเลย -
TD (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 26 มิ.ย. 49 15:56
DK ขับ Nissan 350 Z
ฮาน ขับ Dodg Viper -
กอล์ฟ โรเตอร์ (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 26 มิ.ย. 49 14:55
น่ารักมาก Keiko เด็กที่อยู่ในกลุ่มพระเอกอะ รถที่ฮานขันมันคือ Rx 7 ไม่ใช่ลัมโบนะ
-
ฮาฮา (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 26 มิ.ย. 49 13:56
ชอบผู้หญิงที่ยื่นกระดาษให้ ฮานอ่ะ ที่ตอนฮานดริฟโชว์อ่ะ น่ารักมากมาก ขอบอก
-
nick (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 25 มิ.ย. 49 16:00
ชอบเพลงมากเท่ดีและชอบตอนดริฟท์มากมันทั้งเรื่อง
-
Aojo (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 25 มิ.ย. 49 11:31
หนังหนุกดี เร้าใจ ชอบเพลงประกอบ ชอบฮานด้วยเท่ห์ ใครอยากจะไปดู แนะนำให้ดูโลด สนุก ล้ำ สุดๆ
-
hanfanclub (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 24 มิ.ย. 49 00:46
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น love han so much
ทำไมคนดีต้องตายเร็ว
ฮานนี่ถือเป็นผู้ช่วยพระเอกขนานแท้
ดูเรื่อง initial d ยังไม่มันเท่าเรื่องนี้เลยค่ะ
จับจุดการดริฟท์ได้เพราะ ทวิงค์กี้ สอนให้ตอน 30 วิ
หนังเรื่องนี้เท่มากๆ
ทั้งเนื้อหา ภาพ และนักแสดง
อาจจะไม่สมจริงในบางเรื่อง แต่รับได้ค่ะ
เพราะดริฟท์ทั้งเรื่องจริงๆ
ไม่มีว่างเว้น
ให้ 5 ดาว เต็มๆ
รักหมดใจ ให้หมดเลยจ้า -
Chai (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 23 มิ.ย. 49 04:37
เด็กผู้ที่หญิง ที่อยู่ในกลุ่มพระเอก ที่เป็นญี่ชื่อ ชื่อ Keiko Kitagawa
-
Satomi (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 22 มิ.ย. 49 23:04
ไม่ค่อยสมจริงเท่าไร่ครับ ถือว่าเอามันส์เข้าว่า มีฉากที่ไม่เหมือนจริงเพียบ เนื่องจากตัวผมเองเล่นรถอยู่แล้วด้วย อย่างเช่น รถคันแรกของพระเอก ที่แข่งกะ ดอร์จ สีแดง จุดที่ไม่สมจริงคือ 1 คือ เกียร์ที่ใช้เป็นเกียร์ออโต้ เพราะเกียร์ชนิดนี้ ไม่เหมาะกับการเอามาแข่ง เพราะมีการตอบสนองช้า ระยะเวลาต่อระหว่างเกียร์ จะใช้เวลามากกว่า และที่สำคัญ ยางที่ใช้กับรถคันแรกนี้ เป็นยาง สลิ๊ก ซึ่งใช้ในสนามแข่งขันเท่านั้น เพราะยางชนิดนี้ หน้ายางกว้าง เนื้อยางนุ่ม ไม่มีดอกยาก และต้องทำการเบิร์นยางก่อนใช้ ยางชนิดนี้จะเกาะถนนมากๆเพราะไม่มีดอกยาง เพราะดอกยางมีหน้าที่สำคัญคือการรีดน้ำ (แต่ในสนามแข่งไม่มีน้ำ) แต่ไม่สามารถใช้ได้ในท้องถนนที่มีทั้ง กรวด ทราย น้ำ และพระเอกเอาไปแข่งในทางที่เต็มไปด้วยทราย และรถที่พระเอกใช้มีกำลังไม่น่าจะน้อยกว่า300แรงม้า ตามความเป็นจริงแล้ว รถไม่มีทางออกตัวไปอย่างตรงๆแน่ๆยิ่งเป็นรถขับหลังด้วยแล้ว ขวางถนนตั้งแต่ออกตัว ส่วน350z(Z33) ก็ไม่มีทางดริฟท์ขึ้นทางจอดรถได้ขนาดนั้นเพราะด้วยพื้นฐานรองรถเรื่องV6 3500CC SET เทอร์โบ น้ำหนักก็จะกดลงด้านหน้ามากเกินและการจะดริฟท์ขึ้นด้านบน ต้องใช้ความเร็วในการเทคตัว เพื่อขึ้นก็ต้องการมากกว่านี้ ส่วนซากซิลเวีย(S15) แต่เครื่อง RB26DET แถมฝาบนนิสโม่ แถมเสียดาย RX-7(FD-3S)สีส้ม ไวด์บออดี้ของวิลไซท์ พังสนิด ส่วน มัสแตงค์(วางเครื่องRB) ตามจริงแล้วก็ทำได้นะ แต่ต้องแปลงขายึดแท่นเครื่องใหม่ ช่วงล่างไม่ดีจริง ตกเขาไปนานแล้ว แล้วผมขอเตือนนะครับ ถ้าไม่ฝีมือจริงอย่าลองดริฟท์นะครับ ผมเอง ดริฟท์มาเกือบ3ปีแล้ว ยังมีพลาดบ้างเลย แต่ยังดีที่การฝึกช่วยควบคุมรถได้ ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยละก็......มีพัง
ส่วน ใครจะดริฟท์ ต้องรู้กำลังรถตัวเองด้วยนะครับ ที่สำคัญในการดริฟท์ อยู่ที่ทอร์ค(แรงบิด)นะครับ ไม่ใช่แรงม้า และต้องเข้าใจระบบขับเคลื่อนนะครับขับหน้าหรือขับหลังหรือขับ4 ไม่ใช่อะไรก็สักแต่ว่าดริฟท์เหมือนกัน ส่วนดริฟท์คิงเมืองไทยตอนนี้ ก็ต้อง คุณ กิกี๊ ที่ขับซิลเวีย S15 ของ HKSครับ ใครเคยเห็นแล้วฝีมือใช่เล่นเลย.........
ว่าแต่ ทำไมตอนทาคาชิ ตามล่าฮาน ตอนออกจากที่จอดทราย+กรวดพียบ เป็นจริงหมุนไปแล้ว เลนขวาโล่งๆ ทำไมต้องขับดริฟท์สลับฟันปลาด้วยทั้งที่ทางตรงแบบนั้นขับตรงๆเร็วกว่าเยอะ .........
ถ้าใครอยากรู้จักมากกว่านี้ลองไปดูหลังซีคอนก็แล้วกันครับ......... -
........ (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 22 มิ.ย. 49 20:39
ขนาดไม่ชอบเรื่องรถ ไปดู ยัง มันสุดยอด ลุ้นตลอดเรื่อง
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
วันนี้ในอดีต
เฟรนด์ชิพ เธอกับฉันเข้าฉายปี 2008 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, อภิญญา สกุลเจริญสุข, เจตริน วรรธนะสิน
Begin Againเข้าฉายปี 2014 แสดง Keira Knightley, Mark Ruffalo, Adam Levine
Asylumเข้าฉายปี 2008 แสดง Mark Rolston, Carolina Garcia, Sarah Roemer
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
Septet : The Story Of Hong Kong
เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์บนรอยต่อของเกาะฮ่องกงตั้งแต่ยุคปี 1950 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันไล่มาตั้งแต่
The Practice - จากก...อ่านต่อ»