SIAMZONE.COM

เป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นถึงนิยามของคำว่า " Alone " อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดครับ รู้สึกเห็นใจพระเอกมากที่โดนโศกนาฏกรรมซัดใส่เป็นชุด แถมตอนจบก็จบแบบเศร้านิดๆอีก อยากรู้มากเลยครับ ว่าเล่นจบแบบพระเอกตายอย่างนี้ จะสร้างภาคต่อยังไง คิดแล้วปวดหัวแทนเลยครับ

หนังดีเรื่องหนึ่ง ชอบมาก ว่าจะซื้อ DVD เก็บไว้ ชอบแนวนี้ ต้องคิดตามอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ได้อะไรเยอะมาก.... แต่หากคนไม่ชอบแนวนี้ก็คงผิดคาดเป็นธรรมดา

ไม่สนุกเลย ผิดหวังนิดๆ

หนังออกจะน่าเบื่อ กับเนื้อเรื่องที่พยายามจะให้เราเข้าใจ
แต่ดูแล้วงงมาก ๆ แถมการแสดงที่จะมากความสามารถเกินไป
ทำให้ดูได้แบบ งง ตึบ และมันก็จบแบบเงียบ ๆ
เฮ้อ เซ็ง ครับ ผิดหวังมาก 2 / 10

คิดว่าจะได้เข้าไปดูฉาก action ซะอีก แต่เมื่อเข้าไปแล้วเจอ ฉากพูดกันทั้งเรื่องเลยทีเดียว มียิงกันแค่ไม่กี่แม็กเท่านั้นเอง พวกตาลีบัน ก็แค่คนสองสามคนที่วิ่งอยู่ แต่เนื้อเรื่องได้เสนอเรื่องราวทางการเมืองที่หนักแน่นมาก หากผู้ใดไม่ชอบเรื่องราวทางการเมืองแล้วนั่นต้องขอบอกเลยว่า อย่าไปดูเลย จะเบื่อและพาลไปว่าหนังเขาป่าวๆ

ชอบแนวคิดที่ได้จากเรื่องนี้ในหลายๆข้อ อยู่เหมือนกัน ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อนัก เมื่อดูแล้วก็ทำให้ได้คิดว่า ถ้าหากเราเจอกับคำถามที่ว่า "คุณอยากชนะสงครามไหม" "และหากต้องแลกด้วยทุกอย่างหละ" คุณจะตอบว่าอย่างไร...

Lions For Lambs : ปมซ่อนเร้นโลกสะพรึง

ในที่สุดหนังที่หน้าหนังชวนดูสุดๆก็มาถึงตอนสิ้นสุดการรอคอยเสียที
ประเด็นหนักหน่วง ดารานำขั้นสุดยอด และฝีมือการกำกับ Robert Redford
แต่เมื่อดูจบ ถ้าเอาตามรู้สึกจริงๆเลย ก้ยอมรับว่าหนังดีจริง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นดีมากดังที่คาด

หนังนั้นเล่าโดยผ่าน 3 เหตุการณ์ เหตุการณ์แรก วุฒิสมาชิก กับ นักข่าว
เหตุการณ์ที่ 2 นักเรียน กับ ดร.ครูสอน และเหตุการณ์สุดท้าย
เพื่อนร่วมรบ 2 คน ที่กำลังติดอยู่ในสงคราม
หนังจะตัดเหตุการณ์ 3 อันนี้ตัดไปตัดมาอย่างเหมาะสม แต่เท่าที่ดูในด้านของ วุฒิสมาชิกและนักข่าว
ดูจะเจ๋งที่สุด ทั้งในด้านแง่คิด การเปรียบเทียบ คำพูดแทะโลมให้สำนึก อีกมากมาย
แถมยังพ่วงกับฉากสงครามให้มีน้ำหนักและดูน่าเชื่อถือมากๆในฉากสงคราม
จึงทำให้หนังภาพรวมออกมาน่าประทับใจ แต่หนังก็ไม่ได้ขาดความสมดุลจึงทำตอนอีกตอนออกมา
เพื่อเป็นตัวปรับสมดุลให้หนังไม่เอนไปทางข้างใดข้างหนึงเกินไป แต่ตอนนี้เป็นการที่คนธรรมดาทั่วไปมีทัศนคติกับการเมือง
และเรื่องสงครามนี้อย่างไร

ดารานำทั้ง 3 คน Tom Cruise รับบท วุฒิสมาชิก Meryl Streep รับบทนักข่าว และ Robert Redford รับบทศาสตาจารย์
ทั้ง 3 ทำหน้าที่การแสดงได้หน้าประทับใจ โดยเฉพาะ Tom Cruise ที่เรื่องนี้น่าประทับใจในการแสดง
ได้มีโอกาสใช้ฝีไม้ลายมือ หลังจากที่โลดแล่นในหนังตลาดมานานแสนนาน
ส่วนอีก 2 รุ่นใหญ่ไม่ต้องพูดถึง เจ๋งทั้งคู่อยู่แล้ว

หนังมาพร้อมกับเนื้อหาหนักอึ้ง การแสดงประชันคารมเป้นเลิศ แน่นอนใครไม่ชอบหรือโปรดปรานดารานำเท่าไร
หลับแน่นอน ฟันธง และใครหวังว่าฉากสงครามจะตูมตามเร้าใจก็ลืมไปได้เลย
เพราะนี้คือหนังที่แฝงการเมือง และการกล่าวว่าอย่างเจ็บแสบ

กลับมาที่ฉาก ของ Tom Cruise และ Meryl Streep ที่ต้องประชันบทบาทกัน ขอบอกว่า Tom Cruise แจ๋วมากๆ
เล่นดีทุกครั้งที่มีฉากสองคนนี้ จะต้องมีการปะทะคารมเด็ดๆตลอด และนี้ก็น่าจะเป้นกำไรสำหรับคนที่คลั่งไคล้หนังคุณภาพและการแสดงแน่ๆ

เนื้อเรื่อง แจ๋ว เฉียบคม และ แลดที่นำสถานการณ์ในชีวิตประจำวันผสมกับเหตุการณ์ต่างๆจนได้ความขัดแย้งมากมาย
แถมฉากสนทนาคำพูดต่างๆก็บาดใจและนำไปเปรียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันได้ดี
เอฟเฟกต์ ฉากระเบิดในช่วงท้ายเห็นได้ชัดว่า ไม่ได้ลงทุนมากมายนัก แต่โลเกชั่น และการถ่ายทำนั้นเจ๋งมาก
โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่ฉากต่างๆสื่ออารมณ์ออกมาดังกับเป็นอีกตัวละครที่บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ
การแสดง ดารานำ 3 คน ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจครับ
หวังว่าน่าจะมีชื่อหลุดไปชิงรางวัลกับเขาบ้างโดยเฉพาะ Cruise
ความบันเทิง ตามฟอร์มครับ ถ้าไม่ใช่แฟนหนังหรือแฟนนักแสดง เตรียมตัวเซ็ง
คุณภาพ ถือว่าเป้นหนังดราม่าการเมืองที่มีประเด็นและข้อขัดแย้งมากมายที่ทำออกมาได้ดีพอสมควรครับ

มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 9/10
เอฟเฟกต์ 7/10
การแสดง 9.5/10
ความบันเทิง 6.5/10
คุณภาพ 9/10
คะแนนรวม 41/50 ให้เกรด A- ครับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้ B+ ครับ
หนังทำได้ดี มีข้อคิดและประเด็นต่างๆนำไปคิดและเปรียบเทียบได้ดี หนังสั้นไปนิดแน่นอนว่าหนังมันดูยากเลยทำให้สั้น
แต่พอสั้นแล้วหนังก็กระฉับแต่ภาพรวมก็ยังไม่อาจทำให้ผมสะพรึงกับเรื่องนี้ได้เต็มอิ่มเท่าไร

หลับอ่ะ.........==' ถ้าไม่ขอบเรื่องการเมืองก็อย่าไปดูเลย.....คุยกันทั้งเรื่อง เนื้อหาหนักมากกกกกกกกก

เป็นหนังที่ดี(ด้านการเมืองของสหรัฐ) เนื้อเรื่องคุยกันเป็นส่วนใหญ่ ดาราแสดงที่มีชื้อเสียง ทุกอย่างก็โอเคไม่เสียดายเงินหรอกครับ