วิจารณ์ Super 8
-
Torn'Sey (เลขที่ 167664) เมื่อ 9 มิ.ย. 54 22:32
สนุกนะ ดูได้ทั้งครอบครับ ให้ 10 อิอิ
-
ansn (เลขที่ 118337) เมื่อ 9 มิ.ย. 54 21:33
ตื่นเต้นแบบน้อยมากกกกกกกกก
ชอบภาพสวย แต่สงสัยว่าหมาหายไปอยู่ไหน -
ป่่านคุง (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 9 มิ.ย. 54 21:04
ขึ้นชื่อว่า เจเจ อัมบรา กับ สตีเว่น สตีลเบิร์ด โคตรผู้กำกับที่เนรมิตหนังอะไรออกมาแล้วซื้อตั๋วไปดูแล้วคุ้มแน่นอน และสำหรับหนังล่าสุดของเขาที่อดีตเคยกล่าวขานกันว่า มันอาจจะภาคต่อของเป็นหนังเวียนหัวชวนอ้วกอย่าง Cloverfield ก็ได้ แต่เอาจริงๆ อยากบอกว่าไม่เกี่ยวกันเลยครับ ช่วงเวลาก็คนละเวลากันด้วย เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าว่าหนังของป๋าเจเจกับอาเฮียสติลเบิร์ดจะเป็นยังไงบ้าง
หมายเหตุ : จะมีสปอยนิดนึงเพื่อเข้าใจในตัวหนัง แต่ไม่เสียอรรถรสในการไปดูครับ
เนื้อเรื่อง
หนังกล่าวถึงกลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งในชั้นประถมปลายในโอไฮโอ ที่รักในการถ่ายหนัง ใฝ่ฝันว่าหนังถ่ายเองของพวกเขาจะชนะการประกวด แต่แล้วในขณะที่กำลังถ่ายหนังกันอยู่ จู่ๆ มีรถกระบะวิ่งเข้ามาพุ่งชนขบวนรถไฟ ทำให้รถไฟวินาศสันตะโร และมีอะไรบางอย่างหลุดออกมา และสิ่งที่ว่านี้ ก็ทำให้เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เช่น ของหาย หมาหาย และรวมไปถึงมีคนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ความกังวลของชาวบ้านมีมากขึ้นเมื่อมีกลุ่มทหารติดอาวุธเต็มอัตราศึกเข้ามาในเมือง โดยที่ไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรเลย และแน่นอนว่ากลุ่มเด็กเหล่านี้ก็ได้เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์นี้โดยที่เลี่ยงไม่ได้
ความยาวของหนัง - ประมาณ 2 ชั่วโมง
เงื่อนไขของตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาทั้งในยูทูปและในเกม พอทอล 2
- รถไฟขบวนนั้นมาจาก Area 51
- มีแผนที่ที่บอกเส้นทางขนส่งของรถไฟ
- รถไฟขบวนนั้นเป็นของกองทัพอากาศ
- กลุ่มทหารที่เข้ามานั้น "รู้อะไรบางอย่าง"
- ตัวอะไรในนั้น มีขนาดใหญ่มาก และมีเรี่ยวแรงมหาศาล (แต่บอกได้ว่ามันไม่ได้ใหญ่เท่ากับตัวในหนัง Clover Field หรอกครับ)
วิจารณ์
ปกติแล้วหนังแนวสัตว์ประหลาดนั้นมักจะเป็นการถ่ายทอดมุมมองของทหารซะเป็นส่วนใหญ่ ที่มีแหวกแนวหน่อยก็ตรงเรื่อง Clover Field ที่ถ่ายทอดมุมมองคนธรรมดา แต่สำหรับเรื่องนี้ถ่ายทอดในมุมมองของเด็กๆ ประถมปลาย ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในหนังแนวนี้นัก คำถามที่หลายคนคุยๆ กันก็คือ มันมีกลิ่นอายเหมือน E.T รึเปล่า จะบอกว่าไม่ใช่ครับ ไม่เหมือนเลย ถึงช่วงหนึ่งจะเหมือนก็ตาม เอาง่ายๆ ตัวสัตว์ประหลาดที่ว่านี้เด็กตัวเอกของเรื่องไม่ได้เอามันมาเลี้ยงละกันครับ
การดำเนินเรื่องของหนังนั้นบอกได้เลยว่าทำเหมือน Cloverfield อยู่บ้าง คือ การที่กลุ่มคนธรรมดานั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แม้แต่ช่วงแรกๆ ของหนังก็ยังไม่ยอมเผยให้เห็นสัตว์ประหลาดด้วย ทำให้เราต้องคาดเดากันต่างๆ นาๆ ว่ามันจะมีหน้าตายังไงและมีรูปร่างยังไง แต่ไม่ต้องห่วง คุณจะได้เห็นมันแน่ๆ ครับ
เนื้อเรื่องจะเริ่มจากกลุ่มเด็กที่รักการถ่ายหนัง พวกเขาได้เอากล้อง Super 8 เอามาถ่ายทำกันเพื่อที่จะส่งหนังตัวเองประกวด โดยเนื้อเรื่องของหนังพวกเขานั้นจะมีซอมบี้มาเกี่ยวข้อง ในเนื้อหานั้นถ่ายทอดมุมมองของกลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งที่มีใจรักในสิ่งเดียวกันและมีความใฝ่ฝัน แต่สิ่งที่ว่านี้ ผู้ใหญ่กลับไม่ค่อยให้ความสำคัญนัก มองว่ามันเป็นการเล่นของเด็กเท่านั้นเอง (ตอนผมเด็กๆ ก็โดนว่ามาแบบนี้) แต่ในหนังก็ไมได้เจาะประเด็นนี้เท่าไหร่นัก เพราะเน้นไปที่เรื่องสัตว์ประหลาดมากกว่า
ตัวเอกของเรื่องนั้นมีพ่อเป็นปลัด ซึ่งเป็นคนที่คนในเมืองต่างทั้งนับถือและเกลียดชัง แต่ไม่ต้องห่วงว่าลูกมีพ่อเป็นตำรวจแบบนี้จะออกแนวหยิ่งๆ ตรงกันข้าม ตัวเอกเรื่องนี้นิ่งเงียบไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่กลับมัดใจนางเอกของเรื่องได้ซะงั้น (แว่บแรกที่เห็นผมคิดเล่นๆ ว่าจะจับไอ้ตัวเอกมาแต่งหญิงด้วย เพราะตาสวยมาก) แต่จะบอกว่าตัวเอกของเรื่องนั้นค่อนข้างฉลาดและมีสติ และมีความใสซื่อรวมอยู่ด้วย ซึ่งในชีวิตจริงนั้นคุณอาจต้องสงสัยว่า เด็กแบบนี้เนี่ยนะจะกลายเป็นพระเอก ?
และด้วยการที่มีพ่อเป็นปลัด ทำให้เขากับพ่อไม่ค่อยจะได้คุยด้วยกันหรืออยู่ร่วมกันเท่าไหร่นัก เพราะพ่อของเขาต้องทำงาน และเป็นคนที่ทำงานดีมากด้วย เขาเป็นคนที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเมืองของเขา เอาง่ายๆ ก็คือ เอาการเอางานนั่นแหละ
ส่วนนางเอกของเรื่องนั้นในเทลเลอร์ไม่ได้บอกอะไร แต่แอบสปอยนิดนึงว่า พ่อของเธอกับพ่อของตัวเอกไม่ถูกกัน ทำไมไม่ถูกกันลองไปดูในโรงเอง และด้วยการที่ไม่ถูกกันนั้นทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมา (นิดนึงในหนัง) บทแบบนี้จะทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวาและมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น และสื่อให้เห็นว่า "คนเราทุกคนมักเผชิญปัญหาและความขัดแย้งหลายๆ อย่างในครั้งเดียวกัน ซึ่งก็อยู่ที่ว่าเราจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคนี้ไปได้ไหม"
ส่วนของแก๊งเด็กเพื่อนของพระเอกนั้นก็จะมีหลากหลายนิสัยกันออกไป อย่างเช่นคนที่ใส่แว่น เป็นคนที่หน่อมแน้มและขี้กลัว (แต่ดันเจือกได้เป็นพระเอกหนังที่พวกเขาถ่ายกัน) คนอ้วนๆ ที่เป็นคนริเริ่มการถ่ายหนัง เขาอยากเป็นผู้กำกับ ส่วนอีกคนนั้นเป็นคนชอบเรื่องระเบิด เรื่องประทัด และเรื่องอาวุธ และด้วยความสามารถของเด็กๆ เหล่านั้นทำให้เกิดการร่วมมือร่วมใจกันที่จะทำงานกันเป็นทีม ถึงแม้ว่าแต่ละคนอาจจะชื่นชอบในสิ่งที่ตนเองหลงรักจนไม่เอาการเอางานบ้าง (ก็เด็กนิ) แต่บทและเรื่องราวที่ปรากฎนั้นจะทำให้ผู้ใหญ่อย่างพวกเราที่เข้าไปดูจะรำลึกถึงตอนที่เรายังเป็นเด็กและมาเล่นกัน แต่ถ้าคนดูเป็นเด็ก ก็อาจจะเริ่มรักเพื่อนและอยากจะเล่นหรือทำอะไรสักอย่างเหมือนในหนังเมื่อดูจบ
การดำเนินเรื่องนั้นช่วงแรกๆ จะธรรมดาไปบ้าง (ก็ก่อนที่รถไฟจะมามันไม่มีอะไรเลยนิ) ตรงนี้อยากแนะนำให้จับตาดูเรื่องราวให้ดีๆ แล้วพอหนังดำเนินไปสักพักคุณจะเริ่มปะติปะต่อเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสำหรับคนที่ดูแล้วสัปหงก ผมคงแนะนำให้คุณดูอย่างน้อย 2 รอบเพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูหนังของคุณครับ แต่หลังจากที่รถไฟถล่มวินาศสันตะโรแล้ว เรื่องราวจะเริ่มเข้มข้นขึ้น แต่ก็จะตัดอารมณ์ไปที่กลุ่มเด็กด้วย เพราะแน่นอนว่าเด็กๆ พวกเขาก็แค่อยากถ่ายหนังกัน ก็ไม่ค่อยซีเรียสเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวเท่าไหร่นัก
การควบคุมของเหล่าทหารที่เข้ามาในเมืองเพื่อที่จะพยายาม "ปิดข่าว" และ "ไล่จับสัตว์ประหลาด" นั้นทำเอาได้ซีเรียสเอาเรื่อง ซึ่งในความเป็นจริงก็รู้ๆ กันอยู่ว่าพวกนี้มักจะทำอะไรแล้วไม่ยอมบอกกันหรอก ใครรู้สักคนนี้ได้ตายยกบ้าน เรื่องราวตรงนี้จะถ่ายทอดมุมมอง "ความเห็นแก่ตัว" ของมนุษย์ให้เราเห็น เชื่อสิ ไอ้พวกคลิบผ่าศพเอเลี่ยนอะไรที่ปรากฎเป็นข่าวให้เราเห็น คุณเชื่อเหรอว่าเอเลี่ยนเหล่านั้นจะยินยอมให้มนุษย์โลกอย่างพวกเราผ่าร่างพวกเขา ? ไม่มีทางหรอกครับ แต่แน่นอนว่าความลับย่อมไม่มีในโลก จะบอกว่าในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้ใหญ่เท่านั้นที่พยายามสืบเรื่องราว แต่เด็กๆ ในเรื่องนั้นกลับอาจรู้เรื่องราวมากกว่าเสียอีก
แต่ถึงแม้ว่าจะใช้เด็กเป็นตัวละครในการเดินเรื่องที่ทำให้เกิดความแปลกใหม่และเอาใจช่วยก็ตาม ผลของเรื่องนี้ช่วงแรกๆ จะไม่ได้ผลกับกลุ่มคนที่เป็นเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กไทยหัวเกรียนที่เป็นพวก "ดูจบแล้วก็จบ" และ "ดูเฉพาะฉากตูมตาม" พวกนี้ช่วงแรกจะไม่มีใครดูหรือนั่งดูเลยครับ ผลที่ตามมาก็คือจะไม่สามารถรับรู้สาระของหนังได้ทั้งหมด รู้แค่ว่า สัตว์ประหลาดบุกแค่นั้น ตรงส่วนนี้ถ้าใครต้องการที่จะพาเด็กไปดู ควรแนะนำเรื่องราวให้ก่อน ซึ่งถ้าออกมาเป็นแผ่นแล้วคุณอาจต้องดูก่อน แล้วเปิดให้เด็กดู แล้วต้องมาอธิบายให้ฟังเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงกลางเรื่องถึงจะปล่อยให้พวกเขาดูเองครับ
ภาพในหนังนั้นทำออกมาได้สะใจและลุ้นระทึกมาก แต่อยากบอกว่าส่วนใหญ่ของหนังโดยเฉพาะฉากสำคัญเป็นตอนกลางคืน ผมอยากเตือนพวกที่ซื้อแผ่นกอปหรือไปดูหนังซูมตามเวบเถื่อนว่า คุณจะไม่สามารถดูได้อย่างสนุกแน่นอน เพราะแม้แต่ฉากที่สัตว์ประหลาดโผล่ออกมา มันก็ยังเป็นฉากมืด คนที่ดูในโรงจะเห็น แต่คนที่ฉวยโอกาสแอบดูของแอบถ่าย คุณจะมองเห็นมันลำบากและทำให้คุณหมดสนุกทันที "อยากดูหนังสนุกๆ ควรไปดูในโรงนะครับ"
เสียงของหนังเรื่องนี้ทำกระหึ่มสะใจ พื้นในโรงสั่นเอาเรื่อง ฉากตู้มตามนี่ดังกันแบบระทึกใจกันเลยทีเดียว แต่เนื่องจากหนังเรื่องนี้กลุ่มเด็กแสดง ผมคาดเดาได้ว่าสำหรับเสียงไทยนั้นเสียงพากษ์ของเด็กอาจไม่เวิร์คเท่าไหร่ คนไหนอยากดูเสียงไทยต้องทำใจนิดนึง
หนังเรื่องนี้สมบูรณ์ในตัวของมันหากคุณได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่ไม่เสียสมาธิและไม่เผลอหลับ ซึ่งจะแตกต่างจากเรื่อง Cloverfield ที่ดูจบแล้วอารมณ์ค้าง และผมมั่นใจว่าหนัง Super 8 นั้นจะเป็นหนังในตำนานที่อยู่ในดวงใจของคนรักหนังไม่ต่างจากเรื่อง E.T แน่นอนครับ
อ้อ ใครดูจบแล้วอย่าเพิ่งลุกนะครับ เพราะตอนจบของหนังจะมีหนังที่พวกเด็กๆ ถ่ายเข้าประกวดมาให้ดูกันด้วย (ตอนผมดูในโรง ชื่อคนทำหนังโผล่ปั้บ ลุกออกไปปั้บ เหลือนั่งกันในโรง 2 คน รวมผมด้วย อยากบอกว่าเสียดายมากสำหรับคนที่ลุกไปก่อน เพราะหนังที่เด็กๆ ถ่ายไม่ได้สั้นๆ นะครับ ยาวเหมือนกัน ผมนั่งดูแล้วคิดได้เลยว่า แจ่มวะ)
จุดเด่นของหนัง
- ดำเนินเรื่องสมบูรณ์ ปะติปะต่อเรื่องราวได้ดีมาก
- การถ่ายทอดมุมมองของเด็กทำให้เกิดความแปลกใหม่ในการดู และจะทำให้คุณเอาใจช่วยพวกเขา
- เรื่องราวมีมากกว่าสัตว์ประหลาดบุก และผสมผสานได้อย่างลงตัว
- ฉากระเบิด ฉากถล่มทลาย ฉากวินาศสันตะโร ทำออกมาได้สะใจและยาวต่อเนื่องดีมาก ทำให้ค่อนข้างคุ้มค่าเมื่อเอามาดูซํ้า
- เมื่อฉากเริ่มเข้าสู่องค์ที่ 2 จะเริ่มลุ้นกันจนไม่อยากลุกไปไหน บางฉากคุณจะหายใจแทบไม่ทัน
ข้อเสีย
- ช่วงแรกๆ เนือยๆ ไปนิด จะทำให้คนที่ไม่ค่อยดูหนังและเด็กๆ ไม่ค่อยสนใจ รวมไปถึงออกแนวน่าเบื่อด้วยถ้าเอามาดูซํ้าหลายรอบ
- ตอนจบของหนังน่าจะมีเรื่องราวต่อยอดให้เราดูอีกหน่อย เพราะหนังทำให้เราผูกพันธ์กับตัวละครไปแล้วนั่นเอง
คะแนน - 9.3 / 10.00
ปล. ยํ้าเตือนว่า ถ้าต้องการดูหนังเรื่องนี้ให้สนุกและอิ่มหละก็ ควรไปดูในโรง ได้โปรด เลิกสนับสนุนพวกขโมยของชาวบ้านเอามาขายหรือแจกจ่ายเถอะ เห็นใจคนที่ทำหนังบ้าง
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
วันนี้ในอดีต
เฟรนด์ชิพ เธอกับฉันเข้าฉายปี 2008 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, อภิญญา สกุลเจริญสุข, เจตริน วรรธนะสิน
Begin Againเข้าฉายปี 2014 แสดง Keira Knightley, Mark Ruffalo, Adam Levine
Asylumเข้าฉายปี 2008 แสดง Mark Rolston, Carolina Garcia, Sarah Roemer
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
She Dies Tomorrow
ภายหลังจากการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เอมี (เคต ลีน ชิล) เกิดภาวะหลอนประสาท และเชื่อว่าตัวเองกำลังจะตายในวันรุ่งขึ้น...อ่านต่อ»