SIAMZONE.COM

Chronicle หนังที่ถ่ายทอดผ่านกล้อง แฮนด์เฮลด์ ว่าด้วยเรื่องราวที่่มีคนสามคนได้รับพลังวิเศษและใช้มันในชีวิตประจำวัน ถือว่าทำออกมาได้ดีถ้าเทียบกับทุนสร้างเพียง 12 ล้านดอลลาร์

สำหรับเอฟเฟคต์ถึงจะไม่เนียนมากแต่ก็แทบจะไม่มีปัญหาเลย ประกอบกับหนังใช้มุมกล้องแฮนด์เฮลด์ ทำให้เพิ่มระดับความน่าเชื่อถือได้อย่างลงตัว(CG ไม่ชัดบวกมุมกล้องแบบคุณภาพกล้องวิดีโอ) ถ้าถ่ายทำออกในแบบมุมกล้องหนังทั่วไป มาตรฐานคงลดฮวบอย่างแน่นอน

เนื้อเรื่องว่าด้วย แอนดรูว์ เด็กนักเรียนที่มีปัญหาหลายๆด้าน ทั้งด้านเพื่อนที่โรงเรียน โดนคนแถวบ้านแกล้ง แม้กระทั้งพ่อของเขาเองที่มีเรื่องทะเลาะกันตลอดเวลา จนเขาสรุปว่า ความอ่อนแอ คือสิ่งที่เขาเป็นในตอนนี้ตามลำดับของผู้ล่า

จนกระทั้งแอนดรูว์ได้รับพลังวิเศษมา เขาตัดสินใจใช้พลังกับคนอื่น เริ่มจากการแก้ลงกันเล็กๆ จนถึงการทำร้ายขั้นเอาชีวิต เพราะคิดว่าการทำร้ายคือการล่าอย่างนึง เหมือนกับที่เราฆ่ามด แมลงโดยไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ

Chronicle จึงเป็นหนังที่ไม่มีความมันส์อะไรมาก แถมบางฉากสำหรับคนยังไม่ชินมุมกล้องแนวนี้ก็อาจมึนเล็กน้อย แต่ก็ถือว่ากล้องนิ่งพอสมควรถ้าเทียบกับเรื่องอื่นแนวนี้เหมือนกัน
9/10

"ฉันรักนาย แอนดรูว"
9.3/10

ความว้าวุ่นของเด็กวัยรุ่น

ในปี 2008 คนดูทั่วโลกได้เห็นหนังสัตว์ประหลาดบุกโลกอย่าง Cloverfield ซึ่งสร้างความกดดันอย่างมหาศาลด้วยการใช้มุมกลอ้งแบบHand-Held ในการเล่าเรื่อง ซึ่งสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี และสำหรับผมแล้ว Cloverfield คืออีกหนึ่งหนังในดวงใจ

สำหรับปี 2012 นี้ มีหนังอีกเรื่องที่มีลักษณะคล้ายๆกันออกมาให้ชมใน Chronicle ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ ปกติมุมกล้อง Hand-Held มักจะใช้ในหนังสัตว์ประหลาด หรือไม่ก็หนังเขย่าขวัญ แต่กลับเรื่องนี้ตีตราว่าเป็นหนัง Anti Hero เมื่อได้เหฌนตัวอย่าง โปสเตอร์ เรื่องย่อ ยอมรับว่าผมอยากดูมาก เพราะสารเคมีบางอย่างในหนังตรงกับที่ผมต้องการ

หากใครที่ต้องการดูหนังระเบิดภูเขา เผากระท่อม แนะนำให้ไปหาหนังของผู้กำกับ Michael Bay มาดูครับ รับรองไม่ผิดหวัง แต่ใครต้องการหาอะไรที่มากกว่าแค่ความสนุกแล้ว อย่าพลาด Chronicle เป็นอันขาด

เอาเข้าจริงๆแล้ว หนังเนื้อเรื่องไฮสคูล เด็กวัยรุ่นพบพลังวิเศษอะไรทำนองนั้นไม่ได้แปลกใหม่แม้แต่น้อยในปัจจุบัน แต่หนังเรื่องนี้สร้างเซอร์ไพร์สเป็นอย่างมาก หนังมาพร้อมความกดดันมหาศาล ในการใส่ประเด็นต่างๆเข้ามารุมเร้า ทั้งครอบครัว เพื่อน ความรัก ความเหงา ความแปลกแยก แตกต่าง และเชื่อเถอะ มันน่ากลัวกว่าหนังผีซะอีก เพราะเราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าตัวละคร Andrew Detmer จะไปในทิศทางไหน เค้าทำอะไรได้บ้าง ?

สำหรับมุมกล้องเรื่องนี้นั้น เจ๋งมากครับ หนังคิดหาเหตุผลที่ทำให้เราได้มองเห็นตัวละครต่างๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งหนังบางเรื่องทำไม่ได้ เพราะต้องมีตัวละครถือกล้องไว้แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้(เค้ามีพลังพิเศษนี่นะ) ทางด้านของสเปเชียล นั้น ทำออกมาได้ดีทีเดียว แม้ทุนสร้างจะไม่เท่าไหร่แต่ทำดีกว่าหนังฟอร์มยักษ์บางเรื่องซะอีก

เป็นการเปิดตัวของผู้กำกับ Josh Trank ในผลงานขายไอเดียเจ๋งๆได้อย่าง สมบูรณ์

รักหนังเรื่องนี้มากครับ ตื่นเ้ต้นดีจริงๆ

9.5/10

*นักแสดงนำทั้งสาม แสดงออกมาได้ดีมากครับ ดูไหลลื่น ช่วยสร้างความสมจริงให้กับเรื่องนี้เยอะทีเดียว

*อาจเป็นเพราะผมเป็นเด็ก ม.ปลาย ด้วยมั้งที่ทำให้อินกับหนังอะไรทำนองนี้ มันเคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้วครั้งนึงตอนดู Kick-Ass

เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเท่าไหร่ น่ะ ครับ
ดูตลอดทั้งเรื่อง มันน่าเบื่อตรงที่ เราต้องดูผ่านกล้อง(ในเรื่องตลอด)
ถ้าลดตรงนี้ไปจะน่าดูกว่านี้
แนะนำ ดูแผ่้นโอเคกว่ามาก เรื่องนี้

แนะนำอย่างแรง สำหรับคนที่ชอบอะไรที่กดดัน ดูสมจริง
แปลกนะ ดูจบแล้วยังรู้สึกหลอนๆ อยู่เลย ทั้งที่ไม่ใช่หนังผี
ใครเลิกงานไปดูได้เลย ไม่มีง่วงแน่ๆ ดูแล้วนึกถึง District 9 เหมือนกัน
เพี่ยงแต่ตอนไคล์แม็ก chronicle ดูไปกลั้นฉี่ไป ส่วน District 9 ดูไปกลั้นน้ำตาไป ^^

ตอนแรกคิดว่าจะเวียนหัวซะแล้ว แต่พอดูไปได้สักพัก เราไม่มีปัญหากับภาพเหวี่ยงเลย ซีจี-วิชวล ทำออกมาดูดี เราชอบมากตอนที่เรื่องราวเข้มข้นและเคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ

เป็น แฮนเฮล เรื่องแรกที่ดูแล้วไม่เวียนหัว

สนุกมาก ชอบหนังแนวนี้พลิ๊กล๊อกเอาตัวเอกมาเป็นตัวร้าย เอาธรรมดามาเป็นตัวเอก เนื้อเรื่องก็ตื่นเต้นดีมากๆ
รอ ออกแผ่นซื้อเก็บแน่นอน

ดูแล้ว เดาพล็อตเรื่องง่าย แต่ชอบฉากต่อสู้นะคะ มันส์ดี โดยรวม ๆ ก็โออยู่นะคะ
8.5 เต็ม 10 ค่ะ

CG ไม่เนียนเท่าไหร่ ดูแล้วขัดๆ ตอนใช้หลังกับสิ่งของเช่น ลูกเบสบอล ก้อนหิน หรือ บิน นี่ขัดจริงๆ(สำหรับผมนะ) ผมว่าต้องแบบ Jumper อะ นั่นเนียนจริง
เนื้อเรื่องตามแบบเรียลลิตี้ โอเค มันให้ความรู้ว่า "เห้ย!! จริง !!"
มุมกล้องจะให้เรียลลิตี้จริงๆ ต้องแบบ Troll Hunter เลยถึงจะเรียลลิตี้
แต่แบบนี้มันกึ่งๆ มีไปดึงภาพกล้องชาวบ้านมาด้วยซะงั้น แบบฉากทีก็ลักไก่เล่นมุมกล้อง
ผมว่าพล๊อตเรื่องออกมาเจ๋งมากๆ แปลกใหม่ดีเหมือนกัน มันทำให้เราคิดได้ว่า จะทำอะไรกับพลังที่เราได้ ?? และมันเพิ่มขึ้นไม่หยุด !!
ผมให้ 7.8/10 ครับ
ปล.ผมดูระบบ Digital ภาพกับเสียงชัดเป๊ะ แต่ถ้าดูแบบฟิล์ม คะแนนก็คงน้อยกว่านี้เยอะ

Chronicle เป็นหนังที่มีเนื้อหาที่เรียกได้ว่าน่าสนใจและน่าดูมากๆสำหรับช่วง
เวลานี้ซึ่งจริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้ขายแอ๊คชั่นไซไฟระเบิดตูมตามอลังการ
แต่แท้จริงแล้วขายเนื้อในและข้อคิดดีๆต่างหากซึ่งใครที่ไปดูเรื่องนี้แล้วหวัง
มันจะตูมตามทั้งเรื่องก็คงได้ผิดหวังกลับมาแน่นอนถึงแม้ชื่อเรื่องภาษาไทยมัน
จะหลุดประเด็นไปแล้วก็ตาม = =
Chronicle เป็นเรื่องที่เล่าถึงวัยรุ่น 3คนที่บังเอิญเหลือเกินไปเจอพลังแปลกประ
หลาดในหลุมๆหนึ่งเมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองมีพลังพิเศษที่มนุษย์ทั่วๆ
ไปไม่ควรจะมีโดยตัวหนังนั้นเล่าผ่านกล้องของแอนดรูว์หนึ่งในวัยรุ่นผู้มีพลังพิเศษ
ซึ่งตัวหนังนั้นจริงๆแล้วจะเล่าถึงความบ้าและความไม่ยั้งคิดของวัยรุ่นที่จะมี
ผลตามมาอย่างเศร้าโศกโดยหนังค่อยๆเป็นค่อยๆไปและค่อยๆเพิ่มความตื่นเต้น
ขึ้นเรื่อยๆจนท้ายๆเรื่องคุณจะรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นทุกวินาทีเรียกได้ว่าเป็น
เนื้อเรื่องที่น่าสนใจเอามากๆมาพูดถึงข้อดีกันก่อน อย่างแรกคือการเล่าเรื่อง
ที่ทำให้คนดูรู้สึกอยากติดตามและรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น กดดันที่เพิ่้มขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนั้นการแสดงของแอนดรูว์เรียกได้ว่าจิตได้ใจมาก และในเรื่องนี้
ยังมีความสมเหตุสมผลอยู่พอสมควรไม่ใช่เละเทะๆแบบหนังทั่วๆไป
นอกจากนั้นกล้องนั้นเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่นิ่งที่สุดถ้าคุณดูหนังอย่าง Cloverfield
นี้แทบจะอ๊วกคาโรงเลยแต่เรื่องนี้ถ่ายออกมาได้ไม่ค่อยจะรู้สึกอะไรเท่าไร
มาพูดถึงข้อด้อยกันบ้าง อย่างแรกเลยคือหนังใช้การเล่าเรื่องแบบผ่านชีวิต
แต่ละวันๆของวัยรุ่นซึ่งอาจจะทำให้เบื่อได้ในบางช่วง นอกจากนั้นความสมเหตุ
สมผลในบางเรื่อง(ซึ่งดันใหญ่ซะด้วย)ยังไม่ถูกกล่าวถึง เช่นในหลุมมันคืออะไร ?
เป็นต้น นอกจากนั้นส่วนตัวแล้วผมว่าฉากจบมันยังธรรมดามากเกินไปและ
ไม่สมควรที่จะจบแบบนั้นเลย สรุปคือเรื่องนี้ถ้าคุณจะไปดูหาความมันส์ล่ะก็
แนะนำให้เปลี่ยนเรื่องดีกว่าครับเพราะอาจจะเสียอารมณ์ได้ แต่ถ้าคุณอยากดู
หนังที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจๆ แปลกใหม่เหมาะกับสังคมวัยรุ่นโลกเราตอนนี้
ก็ไปดูได้เลยครับ