วิจารณ์ Resident Evil: Retribution

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 13 ก.ย. 55 19:38

    สนุ.....

    ยังไม่ทันที่ กดี จะตามมา

    จบจ้อย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 13 ก.ย. 55 17:20

    ส่วนตัวแล้ว เรื่องนี้สนุกพอสมควร ไม่ได้แคร์เรื่องบทสักเท่าไหร่ ที่ติดตามเพราะว่าเป็นตัวยงของหนังเรื่องนี้ สุดท้ายเรื่องไม่รู้ว่าจะมีภาคต่อรึเปล่า แต่อยากให้มีนะ อีกอย่างหนังสั้นไปหน่อย แบบเดียวก็จบและ

  • เมื่อ 13 ก.ย. 55 12:41

    หลังจากที่ iPhone 5 เปิดตัว ผีชีวะ 5 ก็เปิดตัวแล้ววันนี้เช่นกัน นิยามของหนัง Resident Evil: Retribution คือ ยิงกันแหลกลาญ กระสุนหมดเหรอ? ก็เติมอีกสิ เหมือนกับหนังชุดนี้ที่ยังคงไม่หมดกระสุนง่ายๆ ขยันเข็นสร้างกันมาได้อีกเรื่อยๆ ที่น่าสังเกตคือ ตอนจบของแต่ละภาค มักจะจบแบบเปิดเรื่องไปสู่จุดที่มักจะเริ่มเรื่องราวให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกเรื่่อยๆ ภาคนี้ก็เช่นกัน

    แม้ว่าสโคบจะเป็นระดับโลก ขยายพื้นที่ออกไปไม่ว่าจะเป็น โตเกียว นิวยอร์ก มอสโคว์ แต่แท้จริงแล้ว อลิซก็พบว่า นี่เป็นเพียงห้องจำลองที่เดอะ ควีน แห่งอัมเบรลล่า คอร์ปอเรชั่นสร้างขึ้นมาเท่านั้น รวมทั้งอดีตของเธอด้วย ที่ถูกออกแบบมาหลายๆแบบไม่ซ้ำกัน ทางเดียวที่จะรอดออกไปคือต้องหนี และไม่ได้หนีคนเดียวต้องพ่วงลูกสาวหนีไปด้วย แสดงโดยน้อง อาร์ยาน่า เอ็นจิเนียร์ จากเรื่อง Orphan เด็กนรก และงานนี้ต้องมีตัวช่วย เวสเกอร์คู่ปรับของอลิซจากภาคที่แล้วยังไม่ตาย กลายมาเป็นตัวช่วยและเป็นพันธมิตรกับอลิซในภาคนี้ เค้าได้ส่งทีมระดับเก่งกาจมาช่วยให้เธอหนีรอดออกไปจากที่นี่ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลบางอย่างคงไม่ช่วยฟรีๆ โดยมีทั้ง ลีออน เคนเนดี้ และ แบร์รี่ เบอร์ตัน ตัวละครจากในเกมที่หลายคนชื่นชอบมาเป็นจุดขายหลักของทีม�

    ในขณะที่ เอด้า หว่อง ก็มาร่วมบู๊กับอลิซด้วยอีกแรง ซอมบี้ขากรรไกรขนาดใหญ่ ที่พุ่งออกมาจากปาก จากภาคที่แล้วยังมันคงกลับมาเป็นคู่ต่อสู้ รวมทั้งซอมบี้ Las Plagas ที่ฉลาด มีสติปัญญาดี สามารถยิงปืนขับรถได้ก็เป็นคู่ปรับที่รับมือยากขึ้น ขณะเดียวกัน จิล วาเลนไทน์ ที่อยู่คนละฝั่งกับอลิซ เพราะถูกแมลง Scarab Device ควบคุมอยู่นั้น แม้จะต้องมาเป็นคู่ต่อกรรายสำคัญกับอลิซในภาคนี้ ก็ยังไม่ยากที่จะรับมือเท่ากับ เรน ที่แสดงโดย มิเชล รอซริเกรซ รายนี้นี่กลับมาอีกครั้ง เพราะแฟนๆเรียกร้องหรือเปล่า เธอเป็นศัตรูตัวฉกาจที่รับมือยาก ทำให้อลิซกับทีมต้องเจอศึกหนัก

    Retribution ยังคงเหมือนกับ Afterlife ภาคที่แล้ว ที่ขอเน้นไซไฟยิงกันไม่ยั้งแบบทะลุจอ ความเป็นหนังแอ็คชั่นปนสยองแบบภาคแรกๆได้ถูกทิ้งไปหมดสิ้นแล้ว หนังเน้นขายสไตล์ต่อสู้ของนักบู๊หญิงแบบภาพสโลว์ เท่ห์ๆ เรียกว่าโชว์ของ เป็นหนังที่ดูเอามันส์ โดยไม่ต้องไปคิดถึงบท เพราะไม่มีอะไรแปลกใหม่ เรื่องราวดำเนินไปแบบที่แฟนหนังชุดนี้สามารถคาดเดากันได้ ถ้าภาคต่อไป พอล ดับเบิลยู เอส แอนเดอร์สันได้กำกับอีก ก็คงออกมาสไตล์นี้แหละ ว่าแต่จะจบมั้ยน่ะเหรอ? อันนี้คิดว่าก็คงจะรู้กันอยู่แล้วล่ะนะ ตราบที่หนังยังขายได้ ซอมบี้ก็ไม่มีวันหมดไปจากโลกนี้หรอก 555 อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ชมด้วยตัวเอง เพราะนี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 33 วิจารณ์ หน้าที่ 4 [ก่อนหน้า] 1 2 3 4 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • 1920 London1920 Londonเข้าฉายปี 2016 แสดง Sharman Joshi, Meera Chopra, Vishal Karwal

เกร็ดภาพยนตร์

  • Love & Mercy - ไบรอัน วิลสัน คือนักร้องนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ในยุค 60 เทียบเท่ากับวงชั้นแถวหน้าของโลกอย่าง เดอะ บีเทิลส์ เขาแต่งเพลงให้วง เดอะ บีช บอยส์ โดยมีอัลบั้มหนึ่งที่ชื่อว่า Pet Sounds ซึ่งถูกกล่าวขวัญว่าเป็นอัลบั้มเพลงที่ดีที่สุดตลอดกาล อ่านต่อ»
  • Barely Lethal - โทบี เซบาสเตียน นักแสดงบท แคช และ โซฟี เทอร์เนอร์ ผู้รับบท ฮีตเธอร์ ต่างก็แสดงละครชุดทางโทรทัศน์เรื่อง Game Of Thrones (2011) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Ava Ava เรื่องราวของ เอวา (เจสสิกา แชสเทน) คือมือสังหารอันดับต้นๆ ของวงการ แต่หลังจากที่เธอทำภารกิจระดับชาติผิดพลาด เธอจึงกลายเ...อ่านต่อ»