SIAMZONE.COM

เพิ่งไปชมมา Imax Ratchayothin ภาพ 3 มิติสวยมาก โดยเฉพาะฉากที่กัปตันเคิร์กพุ่งเข้าประตูหลบเศษวัตถุ และฉากไล่ล่าตาข่านในลอนดอน ขนาดเป็นไอแมกซ์ดิจิตอลนะเนี่ยยังภาพสวยขนาดนี้ ไอแมกซ์แท้จะขนาดไหน
ส่วนเนื้อเรื่องดูdeep ดี ให้อะไรมากกว่า
ตัวร้ายแสดงเก่ง
เพอร์เฟคครับเรื่องนี้

สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง

#สปอย

ความหมายของคำว่าเพื่อนและครอบครัว มันอยู่ที่ทุกคนอยู่ด้วยกัน ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

USS Enterprise ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานลำหนึ่ง แต่สถานะของมันถูกเปรียบเปรยเหมือนบ้าน เหมือนตัวละครตัวหนึ่ง เวลาที่ยานลำนี้ได้รับความเสียหาย เราจะรู้สึกไม่ต่างจากตัวละครตัวหนึ่งที่กำลังได้รับบาดเจ็บ

ความยาวนานของซีรี่ย์ชุด Star Trek ทำให้มีใครหลายคน ลุ่มหลง จนเรียกตัวเองว่า เทรกเกอร์ เทรกกี้ การชุบชีวิตขึ้นมาใหม่โดยผู้กำกับี่มาแรงที่สุดใน ยุคนี้ อย่าง J.J. Abrams หลังจากภาคแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม การกลับมาครั้งนี้ ความคาดหวังมัน 2x และคุณจะไม่มีทางพบคำว่า ผิดหวัง ในหนังเรื่องนี้

ไม่ใช่ฉากแอ๊คชั่น ที่ทำให้คุณประทับใจที่สุด แต่เป็นฉากง่ายๆ ที่จงใจบีบน้ำตาคนดูอย่างเห็นได้ชัด ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช ความจำเจ แต่คือการเล่าใหม่ในสไตล์ที่ดูแล้วทันสมัย ไม่เฉย ไม่เฉิ่ม และไม่ใช่แค่ผมคนเดียวแน่ๆที่ร้องไห้

ฉากแรกที่เสียน้ำตาให้ คือ ฉากที่สูญเสียกัปตันคนเดิมอย่าง Pike มนุษย์เรารู้สึกสับสนมากแค่ไหน เมื่อรู็ว่าในกี่วินาทีข้างหน้า จะต้องสิ้นลมหายใจ สิ่งใดรออยู่ข้างหน้า หลังโลกใบนี้ Spock พาร่างของ Pike ออกมาจากจุดอันตราย น้ำตาของ Pike ไหลลงอาบน้ำ สป๊อค สัมผัสกับใบหน้านั้น เค้าร่วมรับรู้ประสบการณ์ วินาที ที่ความตายรออยู่ข้างหน้า

Kirk วิ่งเข้ามาหา Pike เค้าพบกับร่างไร้วิญญาณของ Pike ผู้ซึ่งชี้ทางให้เค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Starfleet ในอีกฐานะ Pike ไม่ใช่แค่ชายสูงวัยคนหนึ่งที่เค้ารู้จัก แต่คนที่ต้องกำพร้าพ่อไปตั้งแต่เดกๆ Pike คือ พ่อคนหนึ่งของเค้า น้ำตา Kirk ไหลลงอาบแก้ม เค้าลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

ฉากที่สอง คือ ฉากช่วงท้าย ผมเชื่อว่าทุกคนคงพอเดาได้ว่า ท้ายสุดตัวละครจะต้องเจอกับอะไร แต่มันไม่ใช่เรื่องของ คนดู อยู่เหนือคนทำหนัง แต่มันเป็นเรื่องของการ เดินตามหนัง แล้วร่วมรับรู้ไปกับชะตากรรมของตัวะคร

ยานได้รับความเสียหายอย่างหนัก กำลังดิ่งลงโหม่งกับพื้อนโลก Spock ได้รับหน้าที่เป็นกับตันยานแทน Kirk เนื่องจากเขาไม่สามารถดำรงหน้าที่นี้ได้ Kirk วิ่งเข้าไปยังห้องเก็บพลังงานเพื่อทำให้ยานฟื้นตัวอีกครั้ง Scotty พยายามห้ามเพราะในห้องนั้นเต็มไปด้วยรังสีอันตราย ที่จะฆ่าเค้าได้ ในเวลาไม่กี่นาที นี้เป็นความผิดพลาดที่ Kirk ต้องรับผิดชอบ เค้าฉกเข้าไปยังใบหน้าของชายที่เป็นเพื่อน เค้าวางร่างที่หลับใหลของ Scotty ไว้บนเก้าอี้ เค้าเดินเข้าไปยังห้องนั้น ไม่ใช่เพื่อปลิดชีพตัวเอง แต่เป็นการช่วยเหลือคนบนยาน ครอบครัวเดียวที่เค้าเหลืออยู่ และเค้าก็ทำสำเร็จ คนบนยาน ปลอดภัย

Scotty ลืมตาขึ้นเค้าเรียกให้ Spock ลงมาหาเดี๋ยวนี้ก่อนจะสายเกินไป Spock วิ่งออกมาจากห้องควบคุมยาน เค้ามองเห็นร่างของ Kirk อยู่ในห้องนั้น มันถูกล็อคไว้เนื่องจากรังสีที่อันตรายยังไม่จางหายไป ทังคู่มองตากัน สนทนากัน ทำไม Kirk ถึงต้องช่วยชีวิต Spock ไว้จากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด เพราะคำว่าเพื่อน ทั้งคู่เอื้อมมือไปสัมผัสกัน กระจกบานนั้น กั้นขวางไว้ วินาทีนั้น สป๊อคไม่อาจรับรู้ได้เลยว่า Kirk รู้สึกยังไง ความว่างเปล่าใช่ไหม ที่รออยู่หลังลมหายใจที่กำลังหมดไป ชาววัลแคนโดยปกติแล้วต้องเก็บกักอารมณ์ไว้ไม่ให้อยู่เหนือความคิด แต่เค้าเองไม่ใช่ชาววัลแคนโดยเนื้อแท้ แล้วน้ำตาของ Spock ก็กลั้นไว้ไม่อยู่ วันที่เค้าสูญเสียดาวบ้านเกิดไป วันที่ต้องสุญเสียแม่ที่เป็นมนุษย์ไป เค้าเลือกที่จะไม่เจ็บปวดใจ แต่ทำไมครังนี้ เค้าทำไม่ได้ มือของ Spock และ Kirk ประทับลงบนกระจกบานนั้น ก่อนที่ Kirk จะจากไป

นี้เป็นฉากที่ผมจะไม่มีวันลืม มันเป็นฉากที่เรียบงาย แต่ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ คนดูรู้ ได้เป็นอย่างดี มันไม่มีควมรู้สึกว่าถูกยัดเยียด แต่มันดูเป็นธรรมชาติ ทว่าไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่น้ำตาไหล หลายคนในโรงดูมีอาการหนักกว่าผม เมื่อเราร้องไห้สิ่งที่ตามมาคือ น้ำมูก และการสูดน้ำมูกอาจรบกวนการดูหนังของคนข้างๆได้ หากคุณยังไม่ได้ดู แต่อ่านมาถึงตอนนี้ ยังไม่ไปดู คุณก็ใจร้ายเต็ททีแล้วล่ะ

ถ้าคุณใจแข็งไม่พอ พกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา ไปด้วยก็จะเป็นการดีมากเสื้อคุณจะไม่เปียกเหมือนผม

10/10

ถ้าไม่ใช่เรื่องหนักหนา คุณควรดูในรูปแบบ 3D นะ แต่ก็อย่างว่าแหละการดูหนัง 3D พร้อมกับการอ่านซับมันไม่ใช่อะไรที่เข้าคู่กันเท่าไหร่

Score และ Soundtrack หนังเรื่องนี้ ผมชอบมากโดยเฉพาะช่วงที่เรียกว่า London Calling มันฟังดู วังเวง เปลี่ยวเหงา อ้างว้าง ชอบกล

สนุกมากค่ะ ภาพอลังการมาก มีทั้งซึ้งทั้งประทับใจ ตัวร้ายดูมีมิติดีค่ะ เก่งด้วย
ปล. อ่านตอนที่ spock พูดไม่ทัน T^T

นี่คือภาพยนตร์ที่ผมเล็งไว้ว่าดีกว่า Iron Man III ...

การดำเนินเรื่องไวดี ไม่มีเอื่อย จะมีฉากคุยกับดราม่านิดหน่อย เพิ่มมิติให้ตัวละครและบทไม่กลวง... แต่ฉากคุยกับดราม่าที่ว่า ผมค่อนข้างชอบนะ บทสนทนาแบบนี้ดูแล้วสนุก หนังทำออกมาได้ดี.. ไม่ใช่แค่ฆ่าเวลาให้หนังนับวินาทีจบๆไป....

เนื้อเรื่องก็ธรรมดา ดีในระดับทั่วๆไป แต่ค่อนข้างเก็บรายละเอียดได้ดี ช่วงต้นเรื่องยันเกือบท้ายๆ หนังเก็บได้เนี๊ยบและสม่ำเสมอ.. แต่ติดตอนท้ายๆ ผมกลับรู้สึกว่าหนังมันรีบทำให้จบๆไปซะยังไงไม่รู้... และรู้สึกไม่สุด..

งานด้าน Graphic ก็ตามนั้นแล เห็นๆกันอยู่ว่าของจริงมันเป็นยังไง.... แต่รายละเอียดด้านฉาก การจำลอง บลาๆ ผมให้ความเนี๊ยบที่ 96% มีบางฉากที่ยังเก็บไม่หมด(เท่าที่เห็นนะ..)

บทตัวละครถือว่าโอเค แต่ละตัวทำให้สนุกไปกับหนัง ส่วนตัวผมชอบ Spock กับ Khan ซึ่ง Spock ผมชอบมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยความที่มีการอ่านคิดแบบที่ผมชอบ..(บทพูดตอนทะเลาะกับ Nyota Uhura และอธิบายความรู้สึก ฉากนี้คือฉากสนทนาที่ผมชอบที่สุดในเรื่อง..) ส่วน Khan ผมชอบ Character ตัวละคร มันมีความลุ่มลึกในตัวสูง... แต่ตอนท้ายๆ ผมกลับรู้สึกว่า ความเป็น Khan ค่อยๆหายไป...

Action ก็สนุกดี ดูเพลินได้ทั้งเรื่อง แค่ไม่พีคแบบสุดๆ...

ฉากที่ชอบที่สุด คงเป็นฉากที่ James T. Kirk และ Khan ลอบเข้ายาน Admiral Marcus โดยให้ Scotty เปิดประตูให้นั่นแล...

โดยรวมเป็นหนังสนุก ดูเพลิน แต่ไม่ใช่สุดยอด แค่ภาพระดับนี้ก็คุ้มสุดๆแล้ว... ที่บอกว่าเล็งไว้ว่าดีกว่า Iron Man III ผมให้อารมณ์โดยรวมที่นั่งดูทั้งหมด Iron Man III ชนะไปนิดเดียว เหตุผลที่ให้ชนะ ฉาก Action Iron Man III มีความสวยงามและเท่กว่า....(แน่ละ ตัวละคร Iron Man ใส่จินตนาการและขีดจำกัดด้าน Action ได้มากกว่า Star Trek Into Darkness อยู่แล้ว...) ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมกลับไม่รุ้สึกผิดหวังกับ Star Trek Into Darkness เท่าไรนัก...

ผมให้ 8.0/10 Like & Recommend

สนุกตามแบบฉบับ STARTREK เนื้อหาไม่น่าเบื่อแต่เดาได้
ชอบฉากยานอวกาศไล่ยิงกัน ภาพและเสียงกระหึ่มสมจริงดีนะ
ส่วนตัวให้ 8/10

จัดว่าดี

เนื้อเรื่องถือว่าดีครับ ภาคนี้แต่ละคนมีบทเท่าๆกัน ไม่เด่นไปกว่ากันมากนัก โดยเฉพาะกับตันเคิร์ก และ สป๊อค แสดงให้เห็นว่าสองนี้คนเกิดมาพื่อเป็นคู่หูกันจริงๆ โดยรวมทำได้ดีเลยครับ แตเสียดายตัวเนื้อเรืองตอนท้ายเดาง่ายไปนิดนึง ส่วนตัวให้ 8.5/10 แต่ถ้าโดยรวมให้ 9/10 ครับ

ฮา หมอ ที่สุดเลย

555555555+

สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!
เราเห็นตัวอย่างหนังตอนไปดูไอรอนแมน เลยหาดูภาคแรก ว่ามันส์แล้ว
ภาคนี้มันส์กว่าหลายขุม สุดยอดเลย!!!!!!!!!
มีฉากที่ทำให้น้ำตาคลอด้วย (คนไปดูน่าจะรู้ว่าฉากไหน ^^)
ชอบมาก สนุกมาก มันส์มากค่ะ xDDDD

ลุ้นอย่างมันส์เลยครับ เป็นหนังภาคต่อที่ทำออกมาได้ดีอีกหนึ่งเรื่อง
มีฉากทำซึ้งพลอยน้ำตาจะไหลนิดๆหน่อยๆด้วยครับ ^^