วิจารณ์ 12 Years a Slave
-
Watchmen_Since_1985 (เลขที่ 296622) เมื่อ 27 ม.ค. 57 16:36
"I don?t want to survive, I want to live?
จริงๆคือไม่ได้อยากดุหนังเรื่องนี้เท่าไหร่ รู้ว่ามันดี และโกยรางวัลมากมาย ซึ่งตัวผมชอบดูหนังรางวัลอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงนี้เจอมรสุมชีวิตหนักๆ หนักมากๆ จึงเปลี่ยนไปดูแนวหนังโทนสว่างๆ เชื่อสิถ้าชีวิตคุณเจอแต่เรื่องแย่ๆคุณก็ไม่อยากจะดูหนังดราม่าหนักๆหรอก คุณจะโหยหาหนังที่มันโลกสวย ใสๆไปจนถึงโกหก หลอกลวง จอมปลอม แต่ยังไงก็ยังไม่อยากพลาดเรื่องนี้แม้จะคาดเดาไว้แล้วว่าเมื่อดูจบต้องหดหู่มากแน่ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆนะ คือความรู้สึกมันอึดอัดมาก
Steve McQueen ผู้กำกับรายนี้ผมเคยดูเรื่องก่อนหน้าเพียงเรื่องเดียวคือ Shame และผมชอบมันมากทีเดียว เพราะหนังมันไม่เบามือเลย คือไม่สนหรือแคร์คนดูเลยว่าจะรู้สึกยังไง ครั้งนี้ใน 12 Years a Slave ยิ่งไปกันใหญ่ คือมันหนักมาก หนักอึ้งเลย ไม่มีช่วงไหนของหนังที่ทำให้เราผ่อนคลายตลอดทั้งความยาว 134 นาที ยิ่งหนังสร้างจากเรื่องจริง มันยิ่งทำให้ถูกดูดเข้าไปร่วมในชะตากรรมนั้นๆกับตัวละคร
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหนังที่ดี แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีจุดพลาดซะทีเดียว มันยังมีบางสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันหล่นหายไป หรือไม่ค่อยเมคเซ้น แต่หากมองในความเป็นจริงทุกวันนี้ เราหวังว่าจะขอให้มีใครสักคนเป็นฮีโร่ลุกขึ้นมาต่อต้าน ยื่นมือมาเพื่อช่วยเหลือเรา แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่เลย มีเพียงแต่ตัวเราเท่านั้นที่ต้องเอาชีวิตให้รอดจากเหตุการณ์ร้ายๆ เพราะนี่คือชีวิตจริงๆ ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตทั้งชีวิตไปเสี่ยง Solomon Northup ศูนย์กลางของเรื่องไม่ได้พยายามทำตัวเป็นฮีโร่ เป็นวีรบุรุษเขาแค่ใช้ชีวิตไปตามเท่าที่มันจะเอื้ออำนวย แม้ในตอนท้ายเขาจะรอดพ้นจากช่วงเวลาที่แสนลำบากไปได้ แต่คนอื่นๆที่เหลือ ยังคงก้มหน้าทำกรรม ไม่สิมันไม่ใช่กรรม หากแต่เป็นการละเมิดในสอทธิมนุษยธรรมอย่างรุนแรง เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาแค่เกิดมามีสีผิวไม่เหมือนกันกับเราๆเท่านั้น
เป็นเรื่องปกติที่มนุษยเรามักจะชอบดูถูก รังแก ข่มเหงคนที่ด้อยกว่าเสมอ ผู้ชายทำร้ายผู้หญิง คนขาวทำร้ายคนดำ เด็กถูกรังแกจากผู้ใหญ่ เพศที่สามถูกสังคมรังเกียจ คนติดยาถูกตีตรา คนไร้การศึกษาถูกตีค่าว่าไม่มีความสามารถเพียงพอจะตัดสินใจในการบางสิ่ง ไม่รู้ว่าทำไมแต่ดูเหมือนลึกๆแล้ว มนุษย์อย่างเราๆจะชอบเหลือเกิน
นี่เป็นอีกหนึ่งหนังที่ดีมากๆในรอบปี ที่ควรค่าแก่การรับชม
#นักแสดงทุกคนที่อยู่ในหนังเรื่องนี้เยี่ยมมาก โดยเฉพาะ Michael Fassbender คือพี่แก หลุด มากจริงๆ เป็นตัวละครดาวร้ายอีกตัวที่น่าจดจำ
#Score หนังมันทำให้เวลาดูรู้สึกหดหู่ไปอีกราวๆสิบเท่า เลยล่ะ -
jude (เลขที่ 45057) เมื่อ 20 ม.ค. 57 10:43
สงสาร และหดหู่
ทั้งเรื่องมีแต่ความรันทด ของ ทาส จนทำให้รู้สึกว่า มนุษย์ด้วยกัน ทำกับมนุษย์อีกคนนึงถึงขนาดนี้เลยเหรอ แถมยังเจออุปสรรค ทั้งคนทรยศ โดนจับได้ จนทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยตัวเอกของเรื่องให้เขาพ้นจากสภาพนี้ ซะที
ให้คะแนน 9 เต็ม 10 ไม่ควรพลาดครับ -
ดร้าด้า|`เรียล32 (เลขที่ 259348) เมื่อ 16 ม.ค. 57 18:07
เป็นหนังที่เรียกว่า เป็นหนังที่ดี มากกว่าเป็นหนังที่สนุก
หนังเรื่องนี้ทำให้รู้สึกหดหู่ ยิ้มไม่ออก แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน
ให้ 9/10 สำหรับเนื้อเรื่อง นักแสดง เอฟเฟ็กต์ต่างๆ
เป็นหนังที่ดีมากๆค่ะ -
doulus (เลขที่ 345861) เมื่อ 10 ม.ค. 57 10:58
เป็นหนังที่หาเพื่อนไปดูยากมาก อาจเป็นเพราะมันเป็นหนังแนวดราม่า เลยไม่ค่อยมีคนไปดูเท่าไรซึ่งถ้าใครเอาความบันเทิงจากเรื่องนี้บอกได้เลบยว่าไม่มี แต่ถ้าคุณอยากเห็นความจริงในอีกซีกโลกนึงเรื่องนี้ตอบสนองได้อย่างเต็มที่
ในส่วนของบท คงไม่สามารถบอกได้ว่ามันดีหรือไม่ดี เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้อิงมากจากเรื่องจริง ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่าดีหรือเปล่า แต่มันก็สอนหลายๆ อย่าง เช่นเรื่องกฏหมาย บางที่กฏหมายไม่ได้ถูกต้องตามศีลธรรมและจริยธรรมเสมอไป ถูกกฏหมายแต่ผิดศีลธรรม ผิดกฏหมายแต่ถูกศีลธรรม
อย่างที่สองที่เห็นได้ชัดจากตัวเดินเรื่องคือ ความหวังที่เขามีอยู่เสมอและการปรับตัวและรู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรถึงจะอยู่รอด อีกอย่างที่แบบสุดๆ คือความเลวของมนุษย์มันเยอะมากกกกกก
ต้องบอกก่อนว่า เราจะเลือกดูหนังจากบทมากกว่าฉากหรือเอฟเฟกซ์ ดังนั้นเรื่องที่เกี่ยวกับบทเลยเยอะหน่อย
ในส่วนของเอฟเฟกซ์ ต้องยอมรับว่าสุดยอด แน่นอนล่ะที่นี้เขาทำฉากและเอฟเฟกซ์ได้สมจริงมาก เห็นแล้วยังแบบต้องรีบดื่มน้ำอ่ะ ไม่หวั่นเหมือนจริงมาก
ตอนที่เห็นโปสเตอร์ของหนังก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป็นรูปคนวิ่ง ที่แรกคิดว่าเป็นภาพยนตร์แนวสู้เพื่อความฝันอะไรประมาณนั้น แต่พอมาดูหนังแล้วเลยเข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องเป็นรูปคนวิ่ง เพราะมันสื่อถึงการต่อสู้ที่ไม่ได้ต่อสู้ที่จะปลุกความหวังของตัวเองขึ้นมาเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้กับสถานการณ์รอบข้างและเรียกร้องสิทธิ์ของความเป็นคน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าภาพของนักวิ่งน่าจะสื่อออกมาได้ดีที่สุด
บางคนวิ่งเพื่อความฝันที่ยิ่งใหญ่ของตัวเอง แต่บางคนวิ่งเพื่อคนอื่น
(ไม่ได้เป็นการต่อว่าคนที่ทำตามความฝันของตัวเอง แต่จะบอกว่าคนที่วิ่งเพื่อคนอื่น หัวใจของพวกเขาใหญ่จริงๆ )
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
วันนี้ในอดีต
เฟรนด์ชิพ เธอกับฉันเข้าฉายปี 2008 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, อภิญญา สกุลเจริญสุข, เจตริน วรรธนะสิน
Begin Againเข้าฉายปี 2014 แสดง Keira Knightley, Mark Ruffalo, Adam Levine
Asylumเข้าฉายปี 2008 แสดง Mark Rolston, Carolina Garcia, Sarah Roemer
เกร็ดภาพยนตร์
- Everest - เรื่องราวในภาพยนตร์อ้างอิงจากหนังสือเกี่ยวกับภัยพิบัติที่ยอดเขาเอเวอเรสต์เมื่อปี 1996 หลายเล่ม หนึ่งในนั้นคือหนังสือเรื่อง Into Thin Air เขียนโดย จอน ครากอาวร์ ที่ในภาพยนตร์แสดงโดย ไมเคิล เคลลี และยังอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย อ่านต่อ»
- The Tribe - นักแสดงทุกคนในเรื่องเป็นคนหูหนวก อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Septet : The Story Of Hong Kong
เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์บนรอยต่อของเกาะฮ่องกงตั้งแต่ยุคปี 1950 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันไล่มาตั้งแต่
The Practice - จากก...อ่านต่อ»