เต๋อ นวพล ภูมิใจเสนอภาพยนตร์วัยรุ่นไทย Mary Is Happy

จากตัวอักษร 140 ตัวอักษรที่อยู่ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยมธรรมดาผ่านเว็บทวิตเตอร์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ "เต๋อ - นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์" ผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์เรื่องดัง อาทิ "รถไฟฟ้า มาหานะเธอ" "Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ" "รัก 7 ปี ดี 7 หน" เข้าไปแต่งแต้มความคิดของตัวเองอยู่เสมอ จากความชอบส่วนตัวบวกกับการมองมนุษย์ในมุมที่ไม่ค่อยมีใครเห็น จึงจับเอาเรื่องราวของวัยรุ่นไทยคนหนึ่งจากทวิตเตอร์มาสร้างเป็นภาพยนตร์ "Mary Is Happy, Mary Is Happy."

เต๋อ ที่เพิ่งคว้ารางวัลภาพยนตร์เอเชียนยอดเยี่ยม ในสาย NETPAC หรือ Network for the Promotion of Asian Cinema ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลภาพยนตร์ม้าทองคำไทเป (Taipei Golden Horse Film Festival) ที่ไต้หวัน จากภาพยนตร์เรื่อง Mary Is Happy, Mary Is Happy. มาหมาดๆ ขอรวมตัวนักแสดงมาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กัน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงภาพยนตร์ ลิโด้

เต๋อ เล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ "ก็จริงๆ แล้วเป็นคนชอบเล่นทวิตเตอร์ ถ้าใครติดตามก็จะพอเห็นรู้สึกว่าชอบ จังหวะของการที่เราอ่านทวิตเตอร์กับการที่เราโพสต์ทวิตเตอร์ มันแบบเล็กๆ สั้นๆ ดี ก็เลยรู้สึกว่าน่าสนใจถ้าเกิดว่าเอามาทำเป็นหนังแล้วมันก็ค่อนข้างวัยรุ่น แล้วผมรู้สึกว่าเวลาเราอ่านทวิตเตอร์ใคร รู้สึกเหมือนกับเราอ่านไดอารีเขา ก็เลยรู้สึกว่าทามไลน์ทวิตเตอร์ที่เราเลือกมาใช้น่าจะมีสตอรี มีเรื่องราวให้เอามาสร้างเป็นหนังได้ เป็นทวิตเตอร์ แอกเคานต์จริงของน้องผู้หญิงคนไทยที่ชื่อ แมรี่ มาโลนี่"

ส่วนที่มาที่ไปของชื่อภาพยนตร์ ผู้กำกับนักเขียนบทหนุ่มบอกว่า "จริงๆ ชื่อภาพยนตร์ต้องดูในหนังว่าเป็นยังไง แต่ว่าโดยรวมแล้วคือชื่อภาพยนตร์หรือว่าตัวเนื้อเรื่องก็สร้างมาจากทวิตเตอร์ทั้ง 410 อันที่เราอ่าน มันไม่ใช่แค่เอาของเขามาตีความเฉยๆ แต่เราเอามาประกอบให้เป็นเรื่อง ซึ่งเรื่องทั้งหมดหรือว่าธีมหนังก็เกิดมาจากที่เราอ่านกว่า 400 อัน" เต๋อ ยังเกริ่นถึงเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ถ้าพูดง่ายๆ คือ 410 เหตุการณ์ที่ตัวละครต้องเจอในตอนสุดท้ายก่อนเรียนจบ 410 เหตุการณ์ก็มาจาก 410 ทวิตที่คนดูจะได้เจอไปพร้อมๆ กัน"

ฟากของนักแสดงนำ ประเดิมด้วยนักแสดงหน้าใหม่อย่าง "จูน - พัชชา พูนพิริยะ" น้องสาวของ "บาส - นัฐวุฒิ พูนพิริยะ" ผู้กำกับหน้าใหม่ของค่ายจีทีเอชที่เคยกำกับและเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง "เคาท์ดาวน์" มาแล้ว เล่าถึงตัวละครที่ชื่อ แมรี่ ว่า "แมรี่เป็นเด็กมัธยมปลายที่กำลังจบออกจากโรงเรียนค่ะ แล้วนิสัยส่วนตัวก็จะเป็นแนวคิดมาก สงสัยนู่นนี่นั่นโน่นกับชีวิต ทำไมอย่างนั้นทำไมอย่างนี้ จริงๆ นิสัยเหมือนหนูเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปละเนอะ ที่จะเป็นแนวทำไมอย่างนั้นทำไมอย่างนี้" พร้อมทั้งเล่าถึงการทำงานว่า "สนุกมากเลยค่ะ คือไม่เหมือนไปทำงาน เราไปเราก็เจอพี่เต๋อ เจอทีมงานทุกคนเฟรนด์ลี แล้วแบบตลก เหมือนเราไปแล้ว เราก็ได้ไปเล่น ได้ไปทำอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำค่ะ"

นักแสดงนำอีกคนของเรื่อง "เมย์ - ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย" ที่เคยผ่านงานแสดงมาแล้วจาก "ตั้งวง" อธิบายถึงบทบาทที่ได้รับว่า "ในหนังก็ได้รับบทเป็นซูริค่ะ ซูริก็เป็นคนคอยปะติดปะต่อเรื่องราวของแมรี่ให้ดูมีอะไรมากขึ้น คือแมรี่จะเป็นคนแบบโน้นดีไหม แบบนี้ดีไหม เหมือนเราก็เป็นคนที่คอยช่วยตัดสินใจ" ส่วนการทำงานกับนักแสดงป้ายแดงอย่าง จูน นั้น เมย์ เล่าว่า "จูนน่ารักค่ะ คือตอนแรกพี่เต๋อเขาจะเป็นห่วงว่าเข้ากันได้ไหม แต่ว่าน้องเขาเป็นคนน่ารัก แล้วด้วยความที่เป็นคนคล้ายกันมั้งคะ อยู่ในกองเล่นแกล้งคนอื่นก็เลยจะเข้ากันได้ง่าย" ด้านนักเขียนคนดัง "คุ่น - ปราบดา หยุ่น" ขอวางปากกามาร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย "ก็สนุกดี มันสั้นดีนะครับ เราก็แค่อยากมาแจม คิดว่าเท่าที่อ่านบทคร่าวๆ จะเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ คืออยากเล่นอะไรบ้าๆ บอๆ ไม่อยากซีเรียส ไม่อยากเป็นนักแสดง ก็เลยคิดว่าลองดูก็คงสนุกดี"

ชายหนุ่มอีกคนของเรื่อง "มอร์ - วสุพล เกรียงประภากิจ" จากวง "เท็น ทู ทเวลฟ์" ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือในการแสดงภาพยนตร์เรื่อง "Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น" เผยถึงบทบาทของตัวเองในภาพยนตร์ว่า "ชื่อเอ็มครับ เอ็มเป็นเพื่อนต่างโรงเรียนของจูนครับ เอ็มเป็นคนไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบัน จะมาก็มา จะไปก็ไป เป็นตัวละครที่เซอร์มากสำหรับเรานะ คือมันเป็นเราในเวอร์ชันที่นิ่งมาก เอ็มจะเป็นคนไม่พูดสิ่งที่เอ็มรู้สึก" เมื่อต้องมาประกบกับน้องๆ วัยรุ่น เจ้าตัวต้องปรับลดอายุขนาดไหน "โอ๊ย สนุกมาก จำได้ว่าเล่นเทกแรกกับน้องจูน คือเขาเล่นสายจริงมาก เราก็อยู่ในสายจริงนะ ในเรื่อง เขาเล่นสายจริงในขนาดที่ว่าประโยคแรกที่เขาพูดกับเราคือ เธอช่วยเดินไปตรงนั้นหน่อยดิ แล้วเรารู้สึกแบบ เฮ้ย พี่เต๋อบอกให้เดินไปตรงนั้นหน่อย ทั้งๆ ที่มันแอ็กชันไปแล้วแต่เราไม่รู้ คือเขาพูดกับเราปกติมาก เล่นจริงมากไม่รู้สึกถึงการแสดงเลย"

งานนี้ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง "น้อย วงพรู" หรือ "กฤษดา สุโกศล แคลปป์" มาร่วมแสดงด้วย อะไรในภาพยนตร์อิสระเรื่องนี้ที่สามารถดึงดูดให้เขาตอบตกลง ซึ่ง น้อย เผยความน่าสนใจของภาพยนตร์ว่า "นักแสดงพวกเราก็อยากมีส่วนร่วมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ทิศทางใหม่ๆ ภาพยนตร์แนวนี้นานๆ ทีจะเกิดขึ้น แล้วสำหรับการเป็นนักแสดง ก็ไม่อยากพลาดโอกาสแบบนี้ ไม่ว่าบทจะใหญ่หรือเล็ก จะลึกหรือว่าจะเป็นยังไงก็ได้แต่ว่าแค่อยากมีส่วนร่วมด้วยนะฮะ" น้อย พูดถึงการร่วมงานกับ เต๋อ ว่า "เขาค่อนข้างมีดีเทลมากนะฮะ อยากให้น้อยพูดประมาณนี้เลยฮะ แสดงประมาณนี้เลย เขาค่อนข้างเป๊ะมาก ซึ่งก็ทำให้โจทย์ของเราง่ายขึ้น กดดันนิดหน่อยเพราะสคริปต์เขาค่อนข้างจะมาวันนั้น เขาก็จะเขียนสคริปต์ทันที ซึ่งสำหรับผม ภาษาไทยก็ไม่ค่อยแข็งร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ต้องรีบจำแล้วก็ต้องรีบแสดง ผมก็มีความกดดันตรงนั้น แต่ก็มันก็เฟรชดี ทำให้เราต้องอิมโพรไวซ์มาอีกรูปแบบหนึ่ง"

เต๋อ อยากให้ทุกคนมาลองสัมผัสภาพยนตร์เรื่องนี้กัน "ผมว่าน่าจะได้ฟีลของวัยรุ่นไทยแบบเต็มๆ แล้วก็อย่างหนึ่งคืออย่างน้อยๆ คุณจะได้มาเอ็กซ์พีเรียนซ์ในหนังที่สร้างจากทวิตเตอร์ ซึ่งค่อนข้างเป็นภาษาใหม่ของภาพยนตร์ แต่ว่าไม่ได้ดูยาก เพราะว่ามีเนื้อเรื่องชัดเจนมากๆ จริงๆ ก็ลองมาดูกันฮะ อย่างที่ว่าชอบไม่ชอบนี้แล้วแต่ อยากให้ลองมาดูกันว่ามาลองของแปลก โดยเฉพาะน้องๆ วัยรุ่นลองมาสนุกกัน เอาเข้าจริงมันเป็นหนังที่น้องๆ ไม่ได้รู้เรื่องย่อเลยด้วยซ้ำ แต่ผมว่านั่นคือคีย์ของหนังประมาณหนึ่ง ลองเข้ามาเจอกับหนังที่คุณไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร แต่ว่าคิดว่ามันน่าสนุกแน่"

ร่วมพิสูจน์ภาพยนตร์แนวทางใหม่ Mary Is Happy, Mary Is Happy. พร้อมฉายแล้ว 28 พฤศจิกายน 2556 ที่ โรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ อาร์ซีเอ, ลิโด้, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เชียงใหม่, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ขอนแก่น และ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก