1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

เมื่อการเดินทางพาไปพบคนที่ใช่ รักของเรา The Moment

เมื่อการเดินทางพาไปพบคนที่ใช่ รักของเรา The Moment

"รักของเรา The Moment" ภาพยนตร์รักอบอุ่น เรื่องราวของหนุ่มสาวที่เดินทางไปยังเมืองใหญ่ในฝันเพื่อทำสิ่งที่มุ่งหวัง แต่กลับได้พบกับใครบางคนซึ่งเปลี่ยนแปลงเป้าหมายของพวกเขา ร้อยเรียงเป็นความรักของ 3 คู่ จาก 3 เมืองใหญ่ อย่างลอนดอน นำแสดงโดย "เต้ย - จรินทร์พร จุนเกียรติ" ประกบคู่กับ "โทนี่ รากแก่น" กรุงโซล นำแสดงโดย "กันต์ กันตถาวร" และนักแสดงจากเกาหลี "แทโอ ยู" (Teo Yoo) ส่วนนิวยอร์ก นำแสดงโดย "พีช - พชร จิราธิวัฒน์" จับคู่กับ "เก้า - สุภัสสรา ธนชาต" เป็นผลงานการกำกับของ "จุ๊ก - ลัดดาวัลย์ รัตนดิลกชัย" และ "ปี๊ด - ปัญจพงศ์ คงคาน้อย" โดยมีการจัดงานแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 ณ ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ผู้กำกับและนักแสดงต่างร่วมพูดคุยถึงภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างหมดเปลือก นอกจากนี้ยังมีการแสดงเพลงประกอบภาพยนตร์อันไพเราะในเพลง "Only Reason" ขับร้องโดย "พาย - กัญญภัค วุธรา" และเพลง "ฝืน" จากเสียงใสๆ ของสาว เก้า ร่วมร้องกับ "โบ๊ท - คนาวิน เชื้อแถว" จากวง "สมเกียรติ"

พีช ที่รับบทเป็น ต้น แง้มว่ามีส่วนสร้างสรรค์ตัวละครนี้ขึ้นมาด้วย "ดีครับ เป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่ผมคิดมากครับ ผมไม่เคยได้ลงมาทำในพาร์ตของทีมโปรดักชันเยอะขนาดนี้มาก่อน คือเราอยู่ในพาร์ตที่ได้ช่วยกันครีเอตตัวละครในเรื่องกัน ซึ่งจะมีเวลาให้เราทำงานที่ดี ทำให้รู้สึกว่าเฮ้ยเราเป็นตัวละครได้อย่างแฮปปี้ เพราะว่าตัวละครนี้กับพีชแค่ดูทีเซอร์ไม่เหมือนกันเลย ในชีวิตจริงกับตัวละครต่างกันโดยสิ้นเชิง คือถ้าตัวจริงของผมเป็นคนพูดมาก เสียงดังอะไรอย่างนี้ แต่ว่าในตัวละครนี้พูดน้อย ตัวละครคิดเยอะ เป็นตัวละครที่แบบจริงจังซีเรียสตลอดเวลา พอเตรียมตัวมีเวลาให้ทำเยอะมันทำให้เราอิน ผมรู้สึกว่ามันแปลกดีคือเป็นเรื่องแรกๆ ที่ผมเล่นแล้วตอนที่อยู่กับเก้า เราลืมบรรยากาศรอบๆ เราลืมกล้องที่อยู่ด้านหน้า" ส่วน เก้า เผยถึงบทบาทในเรื่องนี้ว่า "เก้าก็เล่นเป็นเจี๊ยบค่ะ ซึ่งในเรื่องเนี่ยเจี๊ยบก็มาตามหาแฟนเหมือนกัน เราก็ไปอยู่ในห้องของแฟนของต้น ซึ่งเขา (ต้น) ก็งงว่าแฟนของเขามีกิ๊กเหรอ ทำไมถึงมากิ๊กกับแฟนเรา"

เต้ย เอ่ยว่าตัวละครที่ได้รับมีความเข้มข้นมาก "แพรวเป็นผู้หญิงกู๊ดเกิร์ลค่ะ เป็นคนมีเหตุมีผล ความเชื่อมโยงของ 3 เรื่องนี้ก็คือแพรวเป็นพี่สาวของต้น แล้วก็มีแฟนอยู่แล้วก็คือกานต์ก็คือพี่กันต์ ก็เหมือนตัดสินใจไปเรียนต่อ การไปเรียนต่อครั้งนี้มันทำให้ไปเจอแฟนเก่า มันเป็นเมืองความฝันของเราด้วย แล้วพอเราได้ไปเจอแฟนเก่าซึ่งเรายังรู้สึกกับเขาอยู่เลย เป็นคนที่เรารู้สึกอยู่ ความดราม่ามันเลยเกิดขึ้นกับศีลธรรมบางอย่าง ซึ่งเรามีแฟนอยู่แล้วกับคนที่เราก็รู้สึกเหมือนกัน" หนุ่ม โทนี่ เปรยว่ายากตรงที่ต้องมาเล่นเป็นแฟนเก่ากัน "มันยากตรงนี้แหละ เพราะว่าการที่เล่นให้ตัวเราเองเชื่อหรือว่าคนดูเชื่อว่าเราเคยเป็นแฟนกันมา มันต้องมีความรู้สึกมากประมาณหนึ่ง เพราะฉะนั้นเรามีการเวิร์กชอปประมาณ 30 ชั่วโมงได้ คือตอนพักก็ต้องเดินจับมือกันไปนู่นนี่ทำเหมือนเป็นแฟนกันจริงๆ"

กันต์ เล่าถึงบทบาทในเรื่องว่า "คาแรกเตอร์ก็คือผมเป็นแฟนกับเต้ยอยู่แล้ว เต้ยไปอังกฤษเราก็เลยรู้สึกว่าในเมื่อเราเป็นผู้ชาย การที่จะคบกันเป็นคู่รักกัน เราต้องทำให้อีกฝ่ายหนึ่งมั่นใจแล้วก็รู้สึกว่าเราดูแลเขาได้จริงๆ ก็เลยเดินทางไปแสวงหาความสำเร็จที่เกาหลีไปทำงานที่เอเจนซีโฆษณาที่หนึ่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือกลายเป็นว่าเราไม่สามารถเข้ากับใครได้เลยในเรื่องของการทำงาน ในเรื่องของวัฒนธรรม ในเรื่องของการพูดการจาและความคิดความอ่านทุกอย่าง จนมาเจอกับแทโอ ซึ่งเขาจะเป็นซีเนียร์ เราเห็นว่าสิ่งที่เราพรีเซนต์ไปในห้องประชุมเป็นคนเดียวที่เห็นเลยว่ามันก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกันนะ ก็เลยชวนเราไปร่วมทีมในการทำโปรเจกต์หนึ่งขึ้นมา นั่นคือสาเหตุทำให้เราได้สนิทกันและรู้จักกันมากขึ้น"

แทโอ แง้มถึงบทบาทที่ได้รับว่า "ผมรับบทเป็นคิมครับ เป็นผู้จัดการฝ่ายครีเอทีฟ แล้วก็ได้มาทำความรู้จักกับกานต์ ก็คือชอบการนำเสนองานของเขาที่คิดออกนอกกรอบ ในขณะเดียวกันตัวคิมก็เป็นคนคิดออกนอกกรอบเหมือนกัน ก็เลยมีความรู้สึกว่าเวลาเจอกันก็รู้สึกมีอะไรที่เหมือนกัน จากนั้นก็ได้เริ่มทำงานด้วยกันแล้วก็เริ่มใกล้ชิดกัน" นักแสดงจากเกาหลีเปิดใจถึงการมาร่วมงานครั้งนี้ว่า "ก็เป็นครั้งแรกสำหรับผมที่ได้มาเล่นเป็นชายรักชาย แต่ผมไม่ได้มองเป็นความยาก ผมพยายามจะไม่คาดหวัง เพราะไม่อย่างนั้นจะต้องทำตามความคาดหวังให้ได้ ผมเลยพยายามที่จะเปิดกว้าง แล้วก็ทำตามความรู้สึกในตอนนั้นครับ อย่างในตัวละครของกานต์ ก็ดูว่าอะไรที่มีเสน่ห์ในตัวเขาและรู้สึกไปตามโมเมนต์ตรงนั้น แล้วผู้กำกับค่อนข้างละเอียดและชัดเจนมากครับ อย่างในเรื่องอารมณ์ว่าต้องการอารมณ์แบบไหน ผมก็เลยรู้สึกว่าปลอดภัยที่จะทำตามคำแนะนำของผู้กำกับ"

ผู้กำกับสาวบอกถึงความแตกต่างของภาพยนตร์รักเรื่องนี้กับเรื่องอื่นๆ ว่า "เราเป็นหนังที่เล่าเรื่องโมเมนต์ พูดในประเด็นคนที่ใช่ เราไม่ได้พูดเรื่องประเด็นอีกคนหนึ่งที่เป็นเรื่องผิดถูก แต่เป็นความละเอียดอ่อนว่าเมื่อใดมีความรักเกิดขึ้นตอนนั้นมันสวยเสมอ เรื่องนี้จะทำให้เรารู้สึกถึงสิ่งนั้นได้เลย" สำหรับความยากในการมากำกับเรื่องราวของชายรักชาย จุ๊ก เผยว่า "อันที่หนึ่งคือเราต้องการให้ความรู้สึกและความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นจากมิตรภาพแล้วค่อยๆ ไปสู่สิ่งอื่น โดยที่ไม่ได้มองเลยว่าสิ่งอื่นนั้นน่ะเป็นเรื่องของผู้ชายกับผู้ชายหรือผู้หญิงกับผู้ชาย ทำให้เวลาเรามองมันเราไม่ได้มองว่านี่เป็นหนังผู้ชายกับผู้ชาย อันนี้เป็นอันยากอันที่หนึ่งนะคะ อันที่สองก็คือว่าเรื่องนี้ทั้งเรื่องมันเป็นชาเลนจ์เราด้วย เขาทำงานด้วยกัน ความรักเกิดจากการทำงาน ความรู้สึกนี้จะแสดงออกได้ยังไงโดยไม่มีการพูดคำว่ารัก แต่เรากลับรู้สึกได้ว่ามันเกิดขึ้น"

ทิ้งท้ายด้วย กันต์ ที่ชวนมาหาคำตอบของความรักในภาพยนตร์เรื่องนี้ "ถือว่าเป็นตัวแทนนักแสดงและทีมงานทุกคนนะครับ หนังเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับวงการภาพยนตร์ไทย ที่น่าจะประณีตที่สุดเรื่องหนึ่งของวงการเลยก็ว่าได้สำหรับผมนะครับ และสิ่งที่คุณจะได้หนังเรื่องนี้มันจะถามคุณกลับไปว่าแล้วคุณล่ะ คือหนังเรื่องนี้ 3 เรื่องคุณได้ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องความรัก ณ ขณะหนึ่งของคนที่เป็นแฟนกัน ของคนที่เป็นแฟนเก่ากัน ของคนที่มีความลับต่อกันและคนที่เป็นเพศที่สาม ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่แล้วมันจะกลับไปถามคุณว่า แล้วคุณล่ะจริงๆ แล้วคุณซื่อสัตย์กับความรู้สึกของคุณ ณ โมเมนต์นั้นหรือยัง ผมอยากให้คุณลองไปดูครับ และถ้าคุณได้คำถามนี้แล้วเป็นโจทย์ ก่อนที่คุณจะเข้าไปดูคุณจะกลับมาแล้วตอบตัวเองได้ว่าสุดท้ายคุณเชื่อในความรักจริงๆ หรือเปล่า และความรักในความหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกันแต่สำหรับคุณคืออะไร ฝากด้วยครับ รักของเรา The Moment ครับ"

ติดตามชมความรักจากการเดินทางที่นำไปพบกับใครอีกคน ในภาพยนตร์ "รักของเรา The Moment" กำหนดเข้าฉายวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60
  • รูปภาพ 61
  • รูปภาพ 62
  • รูปภาพ 63
  • รูปภาพ 64
  • รูปภาพ 65
  • รูปภาพ 66
  • รูปภาพ 67
  • รูปภาพ 68
  • รูปภาพ 69
  • รูปภาพ 70

วันนี้ในอดีต

  • King Kong
    เข้าฉายปี 2005
    แสดง Naomi Watts, Jack Black, Adrien Brody
  • Eragon
    เข้าฉายปี 2006
    แสดง Ed Speleers, Sienna Guillory, Jeremy Irons
  • Hoot
    เข้าฉายปี 2006
    แสดง Luke Wilson, Logan Lerman, Brie Larson

เกร็ดภาพยนตร์

  • Steve Jobs - เดิมที เดวิด ฟินเชอร์ รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ถูกถอดออกเพราะ เดวิด ต้องการค่าจ้าง 10,000,000 เหรียญสหรัฐ และต้องการมีอำนาจควบคุมกระบวนการสร้างสรรค์ภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบ ขณะนั้น เดวิด อยากให้ คริสเตียน เบล เข้ามารับบท สตีฟ จ็อบส์ แต่หลังจาก แดนนี บอยล์ เข้ามารับหน้าที่กำกับแทน ได้ทาบทาม ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ มารับบทนำ แต่ ลีโอนาร์โด ปฏิเสธไป หลังจากนั้น คริสเตียน ก็ได้รับข้อเสนอให้แสดงบทนี้อีกครั้ง ซึ่งเขาก็ปฏิเสธเช่นกัน ในที่สุดจึงได้ตัว ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์ เข้ามารับบท สตีฟ จ็อบส์ อ่านต่อ»
  • 45 Years - ชาร์ลอตต์ แรมพลิง นักแสดงบท เคต และ ทอม คอร์ตเทเนย์ ผู้รับบท จีออฟ เคยปรากฎตัวร่วมกันใน Night Train to Lisbon (2013) มาก่อน อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวในช่วงปี 1967 ของเด็กชายกำพร้าคนหนึ่ง (จาห์ซีร์ คาดีม บรูโน) ที่อาศัยอยู่กับคุณยายผู้เป็นที่รัก (อ็อกเทเวีย สเ...อ่านต่อ»