บรรยากาศงานเปิดตัว บิลลี่เสี่ยว ของชายชื่อ บิลลี่ โอแกน

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2546 ณ ตึก จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กับอัลบั้ม บิลลี่เสี่ยว ของ บิลลี่ โอแกน ศิลปินหมายเลข 1 จากค่ายน้องใหม่ อา - กูเรคคอร์ด สังกัด มอร์ มิวสิค ดูแลโดย ป้อม - อัสนี โชติกุล โดยในงานนี้มีแนวคิดหลักเกี่ยวกับ บะหมี่เกี๊ยว ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวของอัลบั้ม บิลลี่เสี่ยว โดยทางทีมงานได้แจกห่อบะหมี่หลากหลายสีสันด้านในมีซีดีเพลงของบิลลี่ และอาหารที่ใช้ต้อนรับผู้สื่อข่าวก็เป็นบะหมี่เกี๊ยว และยังได้พิธีกรลูกอิสานอย่าง ธงไชย ประสงค์สันติ มาเป็นพิธีกรสัมภาษณ์บิลลี่อีกด้วย

ในงานนี้ บิลลี่ ร้องเพลงทั้งหมด 4 เพลง คือ ชายสี่หมี่เกี๊ยว เฮ็ดบ่ คนง่ายๆ และ นามสกุลหลายใจ หลังจากนั้น บิลลี่เปิดใจถึงการหันมาทำเพลงลูกทุ่งว่า

"ในอัลบั้มชุดที่แล้ว บิลลี่พิงค์ ซึ่งเป็นเทปใต้ดินแนวเพลงเป็นแบบฝรั่ง ก็ได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศอเมริกา ซึ่งที่ไปเล่นก็ได้เจอคนไทยที่เป็นชาวอิสานที่ไปทำงานที่นั่น เค้าก็ไปดูคอนเสิร์ตที่ผมเล่นกัน หลังจากที่เล่นเพลงในอัลบั้มเสร็จแล้วเนี่ย คนไทยที่ไปฟังเค้าก็ขอเพลงลูกทุ่งให้ผมร้อง ตอนนั้นผมก็ร้องแต่เป็นเพลงของคนอื่น ก็เลยคิดอยากมีเพลงลูกทุ่งแบบอัลบั้มเต็มที่เป็นของตัวเองบ้าง แล้วก็เลยเริ่มเขียนเพลงเลย

ตอนที่อยู่ที่นั่นเขียนได้ 2 เพลง คือ เพลง เฮ้ดบ่ และ บิลลี่ลำเพลิน โดยเริ่มเขียนเนื้อเพลงไว้ก่อน พอกลับมาเมืองไทยก็ตั้งใจที่จะทำเพลงลูกทุ่งทั้งอัลบั้ม ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับรายการเพลงลูกทุ่ง หมอลำ ทุกอย่างเลยที่เกี่ยวกับลูกทุ่ง โดยในอัลบั้มนี้ได้ พี่เป้ สีน้ำ มาช่วยเขียนเพลง นามสกุลคนหลายใจ ในเพลงพูดถึงความเหลื่อมล้ำต่ำสูงของนามสกุลของคนในสังคมไทย และ พี่ต้อย พี่โจ๊ก ก็มาช่วยเขียนเพลง หัวอกเดียวกัน ผมก็เอามาปรับเนื้อหานิดหน่อยให้เข้ากับตัวผมเอง แต่แนวความคิดหลักก็ยังคงเดิม

ผมก็เป็นเหมือนจิ้งจกที่เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ เป็นนักดนตรีที่เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ ลองทำดนตรีดูหลายๆ แบบทั้งร็อกแอนด์โรล เฮฟวี่ ก็ยังมีขาดอยู่ก็คือเพลงแนวไทยๆ อย่างลูกทุ่ง"

คิดว่าการทำเพลงมีอะไรเปลี่ยนไปหรือเปล่า

"เจริญมากครับ ถ้าแง่ของดนตรีในห้องอัดเดี๋ยวนี้ทำงานกันง่ายขึ้น มีเทคโนโลยีที่ช่วยได้เยอะ ผสมผสานกันไปสำหรับงานในห้องอัดเดี๋ยวนี้เป็นดิจิตอล ทันสมัยกว่าเมื่อก่อนเยอะ คือมันช่วยให้นักดนตรีทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งในชุดนี้ผมใช้การบันทึกเสียงสด ให้นักดนตรีเล่นแล้วก็บันทึกเสียง ไม่ได้ใช้โปรแกรม"

ชื่ออัลบั้ม บิลลี่เสี่ยว ใครเป็นคนตั้ง

"ผมเป็นคนตั้งเองครับ ที่ตั้งบิลลี่เสี่ยว เพราะสามารถสื่อความหมายว่าเป็นเพลงลูกทุ่งได้ 100% โดยรวมแล้วผมคิดว่ามันมีความหมายที่เป็นศิริมงคล คือเสี่ยวในภาษาอิสานหมายถึงเพื่อนที่รักสนิทกัน ผมว่าความหมายมันดี แล้วมันก็สื่อว่าเป็นลูกทุ่งเลยใช้ชื่อนี้"

งานเพลงลูกทุ่งของบิลลี่ต่างจากงานเพลงลูกทุ่งทั่วไปอย่างไร

"ต่างครับ คนร้องก็เป็นคนกรุงเทพฯ ที่พยายามจะนำเสนอเพลงลูกทุ่งในสิ่งที่คิดหรือในสิ่งที่ได้ยินมา ผมก็ไม่ใช่นักร้องลูกทุ่ง ผมเป็นนักร้องสตริง ข้อแตกต่างก็อาจจะเป็นที่เพลงที่ผมเขียนเพลงเองทั้งหมดแล้วก็ตั้งใจทำงาน และในเรื่องของการอัดเสียง ซึ่งจะแตกต่างกับการใช้เครื่องบันทึก"

ที่ปรึกษาในการร้องและข้อมูลในการแต่งเพลง

"เราก็ได้จากชีวิตคนทั่วๆ ไปอย่างเพลงชายสี่หมี่เกี๊ยว ก็ไปนั่งคุยกับคนขาย เราคุยกันสนิทเขาก็เริ่มเล่าเรื่องชีวิตว่ารักใครชอบใคร ก็ได้ข้อมูลในการเขียนมา ก็ส่วนใหญ่เพลงลูกทุ่งก็จะได้จากชีวิตของคนทั่วไป เราก็เอามาเขียนให้มันสละสลวย"

เพลงไข่เค็มมีใครมาช่วยร้อง

"ผมเอาลูกสาวมาช่วยร้องเป็นคอรัสครับ เพลงนี้เป็นเพลงแนวเร้กเก้ แต่ไม่ใช่ลูกผมคนเดียวที่มาช่วยร้อง ลูกของโปรดิวเซอร์ มือกลอง ก็เอาลูกมาร้องกัน นนนี่มาช่วยร้องเป็นชุดที่ 2 แล้ว เขาจะมาร้องทุกชุดจนกว่าเขาจะไม่มา"

ทำตัวเข้ากับลูกทุ่งเพราะชอบหรือเปล่า

"ก็มีส่วนครับ แล้วผมก็ชอบด้วยส่วนตัว แล้วผมว่าตอนนี้กระแสลูกทุ่งมันมาแล้วดนตรีลูกทุ่งนี่มันเป็นอะไรที่เราทำเองได้ ไม่ต้องไปเลียนแบบใครมา ฝรั่งฟังแล้วยังเลียนแบบไม่ได้เลย อย่างที่บอกผมทำเพลงลูกทุ่ง ผมได้อะไรเยอะมาก"

ไปทำงานอิสระแล้วทำไมถึงกลับเข้ามาอยู่ในสังกัด

"ก็คนละแบบ เวลาทำใต้ดินก็จะเป็นคนละความรู้สึก แต่ผมก็แฮปปี้ด้วย อย่างชุดที่แล้วขาย 3,000 แผ่น จริงๆ ไม่ถึงด้วยจกไป 300 กว่า คิดว่าชุดที่แล้วผมไปเรียนวิธีการต่างๆ มากกว่า ตั้งแต่การผลิต เรียนรู้กระบวนการทำเพลงใต้ดินทั้งหมด เรียนรู้จากคนเยอะแยะ พองานชุดนี้ทำเป็นลูกทุ่งออกมาก็ยังไม่ได้คิดว่าจะลงกับที่ไหนยังไม่ได้คุย พอดีไปเจอพี่ป้อมเขาก็ถามทำไมไม่มาอยู่กับพี่ เราก็เห็นดีเลยมาอยู่กับพี่ป้อม งานในระบบบริษัทมันง่ายขึ้นสำหรับศิลปิน เพราะเขามีอะไรที่เป็นระบบมันช่วยให้เรามีเวลาว่างมากขึ้น สบายกว่าตอนที่เราทำคนเดียว เป็นคนละแบบกัน"