1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

เพลย์กราวด์ เปิดสนามเด็กเล่นอีกครั้งในบ้านใหญ่หลังใหม่

เพลย์กราวด์ เปิดสนามเด็กเล่นอีกครั้งในบ้านใหญ่หลังใหม่

ห่างหายกันไปพักใหญ่ให้แฟนๆ ได้คิดถึง สำหรับวงดนตรีที่มีเพลงดังอย่าง "โซลเมต" "ปล่อยวาง" และ "มุม" ในที่สุด วง "เพลย์กราวด์" (Playground) ก็ได้ฤกษ์กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คือ สมาชิกจากเดิมที่มี 5 คน ตอนนี้มีเพียง 4 คน ได้แก่ "ติ๊ก - กฤษติกร พรสาธิต" (ร้องนำ) "ตุ้ย - วัชระ ชัยพันธุ์" (กีตาร์) "ตุลย์ - ตุลย์ เหมือนสร้อย" (กีตาร์) และ "เก้ง - ปรัชญา คำเมือง" (เบส) อีกทั้งยังย้ายบ้านมาอยู่ที่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อีกด้วย

พวกเขากลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มชุดที่ 3 โดยครั้งนี้ใช้ชื่อว่า "Playboy & Girl" ส่วนแนวเพลงยังคงแนวบริตป๊อปที่เป็นแนวถนัดของพวกเขา มาดูกันว่าการทำงานอัลบั้มชุดใหม่ในบ้านหลังใหม่นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

ที่มาของชื่ออัลบั้ม

ติ๊ก "ตอนแรกคิดไว้ว่าอัลบั้มที่ 3 อยากจะใช้ชื่อว่า ทรีดี คือ สามมิติ ครับ ส่วนอีกชื่อคือ ซีทรู เพราะคนจะคิดว่าซีทรูคือชุดที่วาบหวิว ก็อยากจะให้คนฟังได้เห็นตัวตนของพวกเรา เพราะเราไม่ใช่คนหล่อ เลยอยากจะให้เห็นไปถึงหัวใจครับ แต่ก็คิดว่าตอนนั้นยังไม่ดีนะ แล้วก็เลยคิดใหม่ พอดีได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่องนึง คือเรื่อง The Chorus เป็นหนังฝรั่งเศสที่พูดถึงวงดนตรีร้องประสานเสียงของเด็กๆ และเพลงก็น่ารัก ผมก็เลยคิดต่อว่าถ้ามีเด็กๆ ก็เป็น บอย แอนด์ เกิร์ล แล้วเพลย์กราวด์ มาเป็นเพลย์บอย ก็เลยกลายเป็น เพลย์บอย แอนด์ เกิร์ล ครับ"

อัลบั้มชุดนี้ แตกต่างจากชุดที่ผ่านมาอย่างไร

ติ๊ก "ที่ผ่านมาคนจะมองว่าเพลย์กราวด์มักจะมีเพลงที่ดูหมองเศร้า เหงาหงอย แอบรัก อัลบั้มนี้เราอยากให้มีความรู้สึกรีแล็กซ์ เหมือนพวกเราที่ตอนนี้รู้สึกรีแล็กซ์ เราทำมาหลายอัลบั้มแล้ว อยากให้มีความสดใสร่าเริง อยากให้คนฟังมีความสุข มีเสียงเด็กด้วย จะทำให้อารมณ์ดีครับ"

อัลบั้มนี้มีวง สิงห์เหนือเสือใต้ มาช่วยทำด้วย เป็นอย่างไรบ้าง

เก้ง "อัลบั้มนี้เราเป็นโปรดิวเซอร์กันเองครับ อยากลองอะไรก็ลองหมดครับ ที่มีฟีเจอริ่งก็มี สิงห์เหนือเสือใต้ กับ พี่เต้ง สไปด้ามังกี้ (เต้ง - เมธี ขวัญบุญจัน) ที่พวกเราขื่นชอบ พวกเราอยากลองทำฮิปฮอปดู มันน่าสนุกดี แต่ด้วยความที่พวกเราไม่ใช่คนคร่ำหวอดในวงการฮิปฮอป ก็ต้องไปหาคนมาช่วยครับ และเพื่อนำเสนอให้แปลกอีก เราก็ลองนำเครื่องดนตรีกู่เจิ้งมาประกอบด้วย โดยได้ท่านอาจารย์ หลี่หยาง (Li Yang) เลยกลายเป็นเพลงฮิปฮอปที่มีดนตรีจีนมาผสมด้วยครับ ในเพลงฤดูฝนเป็นใจ ซึ่งเป็นเพลงที่เกี่ยวกับความโรแมนติกของฤดูฝนครับ"

เนื้อหาโดยรวมในอัลบั้มนี้จะพูดถึงเรื่องอะไร

ติ๊ก "ในอัลบั้มนี้ หลักๆ ก็จะพูดถึงเรื่องความรักครับ เป็นความรักในมุมที่แพ้ความต้องการของตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่ จริงๆ ใน 10 เพลงที่เราเรียงกันจะเป็นเรื่องราวเดียวกัน ถ้าคนฟังได้ฟังรวดเดียวนะครับ แต่ถ้าฟังแยกก็จะเป็นเพลงๆ ไป"

อยากให้พูดถึงเพลงเปิดตัวอย่างเพลง เจ้าชู้

ติ๊ก "ความเจ้าชู้ คนมักจะมองว่าเป็นสิ่งไม่ดี เพลงนี้ผมได้แรงบันดาลใจมาจากคู่รักคู่หนึ่ง ที่เค้าเจอกันตอนที่ยังมีแฟนกันอยู่ทั้งคู่ แล้ววันหนึ่งเค้าก็เลิกกับแฟน แล้วมาคบกัน คนอาจจะมองว่าร้ายกาจ แต่พวกเค้าทั้งสองคนพอได้มาคบกัน ถึงรู้ว่าเป็นเหมือนโซลเมตกันและทั้งคู่ก็มีความสุขมากเลย ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาที่เรามีแฟน เราจะจีบอีกคนนึงได้หรือเปล่า คนๆ นี้เค้าอาจจะเป็นโซลเมตของเราก็ได้ คนนี้อาจจะเป็นคนที่ฟ้าส่งมาก็ได้ คนที่คบอยู่อาจจะเป็นคนที่ได้แค่พบเจอแล้วต้องจากกันก็ได้นะ ก็เลยนำเสนออีกมุมหนึ่งครับ"

มาร่วมงานกับแกรมมี่ครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง

เก้ง "พวกเราโชคดีครับ เพราะที่นี่เค้าไว้ใจให้พวกเราเป็นโปรดิวเซอร์กันเอง ในส่วนของงานเพลงพวกเราเป็นคนตัดสินใจกันเอง และในส่วนอื่นๆ อย่างเรื่องที่พวกเราไม่รู้ เช่น เรื่องโปรโมต เรื่องเสื้อผ้า ก็จะมีคนมาช่วยดูแลให้ครับ"

หน้าปกอัลบั้มน่ารักมาก ใครออกแบบให้

ติ๊ก "เพื่อนผมครับ เค้าออกแบบให้ อัลบั้มนี้เราต้องการสื่อในเรื่องของฟ้าฝน เรื่องพรหมลิขิตซะเยอะ เหมือนเป็นวันที่เมฆเปลี่ยนรูปร่างเป็นกระต่าย กลายเป็นคนเจ้าชู้ เป็นเพลย์บอย และยังหลับตาพริ้มด้วย และเราต้องการให้มันใสขึ้น อารมณ์สดใสร่าเริงขึ้นด้วยครับ"

ความคาดหวังกับอัลบั้มชุดนี้

ติ๊ก "ผมรู้สึกว่าตอนนี้วงการดนตรีแย่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนก็น่าจะรู้ และตัวเราเองนี่แหละที่สัมผัสได้ง่ายมาก เรื่องยอดขายเราก็ไม่ได้หวัง เรื่องความดังก็ไม่ได้หวัง ด้วยวิถีการทำงานของพวกเรา พวกเราหวังให้เพื่อนๆ ที่ตามฟังเพลงของพวกเราตั้งแต่เป็นนักเรียนจนตอนนี้เรียนจบแล้ว ได้กลับมาเจอกันบ้าง และเมื่อเรามาอยู่ค่ายใหญ่ก็หวังว่าบางคนที่อาจยังไม่รู้จักเรา จะได้มาเจอพวกเราด้วยครับ และหวังว่าจะได้เล่นดนตรีไปนานๆ ครับ พวกเราไม่ต้องร่ำรวยก็ได้ ขอให้ตื่นมาแล้วได้ทำเพลงก็พอครับ"

มองวงการเพลงตอนนี้อย่างไรบ้าง

ติ๊ก "ผมว่าตอนนี้ เนื่องด้วยในวงการตอนนี้หาเงินไม่ค่อยได้ ผมรู้สึกว่าคงไม่มีนักธุรกิจที่เค้าหวังจะมาทำเงิน มาฉวยโอกาสตรงนี้หรอก ดังนั้นคนที่เหลืออยู่ ผมเชื่อว่าเป็นคนที่รักดนตรีนะ มันก็รู้สึกดีในด้านหนึ่ง แต่ในด้านของปากท้องก็ต้องเตรียมใจครับ ผมเคยเขียนไว้ในบทความหนึ่งว่ามันอาจจะวนกลับมาในยุคเต้นกินรำกินอีกรอบ เหมือนที่เมื่อก่อนเคยเป็น ผมว่าเราก็คงไม่ลำบากอะไรไปมากกว่านั้นหรอกครับ"

อยากจะบอกอะไรถึงแฟนๆ บ้าง

ติ๊ก "ผมอยากจะเจอเพื่อนๆ นะครับ เหมือนพวกเราโตขึ้นเรื่อยๆ เวลาคนเราโตขึ้นเรื่อยๆ ก็จะห่างสนามเด็กเล่นขึ้นเรื่อยๆ ถ้าวันนี้เพื่อนๆ มีน้อง มีลูกมีหลานก็พามาเที่ยวเล่นได้นะครับ ถ้าอยากนึกถึงอารมณ์เก่าๆ หรือความทรงจำในวัยเยาว์ เรากลับมาอีกครั้งแล้วครับ หวังว่าจะได้พบกับเพื่อนๆ อีกครั้งนึง"

เก้ง "สำหรับเพื่อนใหม่ๆ ด้วย สามารถพบเห็นพวกเราได้ง่ายขึ้นแล้ว ก็อยากจะเจอกับแฟนกลุ่มใหม่ๆ ที่ชอบเรา เข้ามาทักทายได้นะครับ"

ใครที่คิดถึงวง เพลย์กราวด์ และนึกถึงอารมณ์เก่าๆ ที่ห่างหายกันไป ก็หาซื้ออัลบั้ม Playboy & Girl มาฟังให้หายคิดถึงได้ เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8

ความคิดเห็น