นัท คว้าชัยครองใจมหาชน เป็นสุดยอดนักล่าฝัน ฤดูกาลที่ 5

ขับเคี่ยวกันมานาน ในที่สุดก็มาถึงรอบสุดท้าย สำหรับปฏิบัติการล่าฝัน อคาเดมี แฟนเทเชีย ฤดูกาลที่ 5 หรือ เอเอฟ 5 จนเหลือ 5 นักล่าฝันมาชิงชัยในรอบสุดท้ายบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีเหล่าบรรดาแฟนคลับตามมาให้กำลังใจนักล่าฝันที่ตัวเองชื่นชอบกันอย่างล้มหลาม ไม่ใช่เฉพาะแฟนคลับของ 5 คนสุดท้ายเท่านั้น ยังมีแฟนคลับของนักล่าฝันที่ออกจากบ้านไปแล้วด้วย

เสียงกรี๊ดดังขึ้นภายในฮอลล์เพื่อต้อนรับความตื่นเต้นที่กำลังขึ้นหลังจากนี้ เมื่อพิธีกรดำเนินรายการ "ต้อย - เศรษฐา ศิระฉายา" ออกมากล่าวต้อนรับทักทายคนดู พร้อมแนะนำผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักล่าฝัน อาทิ "ไก่ - สุธี แสงเสรีชน" "แหม่ม - พัชริดา วัฒนา" "ปั๋ง - ประกาศิต โบสุวรรณ" "โอม - ชาตรี คงสุวรรณ" รวมถึงครูใหญ่ของบ้าน "ปุ้ม - อรวรรณ เย็นพูนสุข" ก่อนจะบอกกับคนดูให้ร่วมลุ้นและสนุกสนานให้เต็มที่ก่อนจะจบฤดูกาลนี้ไป

เปิดฉากคอนเสิร์ตเมื่อเหล่านักล่าฝันทั้ง 5 คน ประกอบไปด้วย "ปั๊ม - สหรัส นฤคุปต์ชาญชัย" "กู๊ด - สาธิกา ศิริปุญโญทัย" "รอน - ภัทรภณ โตอุ่น" "นัท - ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม" และ "กี๋ - ฐษชัย ชนะอรรถกาล" ออกมาร้องเพลง "อคาเดมี แฟนเทเชีย" ร่วมกัน

แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่น เมื่อนักล่าฝันที่ออกจากบ้านไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้ง 7 คน อย่าง "กรีน - อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล" "มิกกี้ - อิสรีย์ ทองธรรมโรจน์" "โบว์ - สาวิตรี สุทธิชานนท์" "พริ้ง - สมฤทัย พรหมจรรย์" "ว่าน - ยศนันท์ วงษ์เซ็ง" และ "หนิม - คนึงพิมพ์ พรมกร" มาร้องเพลง "เล่าสู่กันฟัง" ซึ่งทั้งหมดก็กอดกันกลมหลังจากที่ได้เจอเพื่อนอีกครั้ง

จากนั้นก็ได้เวลาเดี่ยวเพลงของแต่ละคน ซึ่งต้องออกมาร้องทั้งเพลงช้าและเพลงเร็วอย่างละ 1 เพลง โดยเป็นเพลงที่แต่ละคนเลือกเอง เริ่มจาก กู๊ด สาวเสียงดีคนเดียวที่ฝ่าฟันมาจนถึงรอบสุดท้ายพร้อมกับล้างอาถรรพ์หมายเลขที่ตนเองได้รับ V10 เมื่อ 3 ฤดูกาลที่แล้วมักจะตกรอบตั้งแต่แรกๆ ขอมาแสดงพลังเสียงตามแนวถนัดในเพลง "Greatest Love Of All" ของ วิทนีย์ ฮุสตัน แล้วเปลี่ยนอารมณ์มาร็อกในเพลง "สักวาปากหวาน" จากต้นฉบับ ดา เอ็นโดรฟิน เมื่อจบทั้ง 2 เพลง ไก่ ถึงกับออกปากชมว่า "ถ้ารายการเป็นรายการประกวดร้องเพลงจริงๆ น้องกู๊ดก็คงจะได้รางวัลได้ไม่ยาก"

ต่อด้วยพี่ใหญ่ของบ้าน กี๋ ที่ขอหยิบเพลง "นาทีสุดท้าย" ของ อีทีซี มาแบบซึ้งๆ กันก่อนจะต่อด้วย "ความเชื่อ" ของวง บอดี้สแลม ที่แสดงได้มันสุดๆ แถม กี๋ ยังก้มลงกราบขอบคุณทุกคนหน้าเวทีอีกด้วย ด้าน แหม่ม ก็ขอชมว่า "การเป็นนักร้องและเอ็นเตอร์เทนเนอร์ของกี๋บนเวทีทำได้ดีมาก มีพลังส่งถึงคนทั่วถึง กำลังไม่ตก ก่อนที่จะไปเป็นศิลปินในวันข้างหน้า วันนี้สิ่งที่กี๋ทำได้ดี คือการใช้เสียงในหลายๆ วิธี เสียงเต็มไปหลบ เสียงสูง เสียงต่ำ แล้วก็ค่อนข้างตรง เป็นพรสวรรค์เป็นสิ่งดีที่เห็นชัดเจน ที่เหลือขอให้มีพลังแบบนี้ตลอดไปโชว์แล้วคนดูสนุก ประทับใจแบบนี้"

เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มอีกครั้ง เมื่อ นัท ขอหยิบเพลงของ ไมเคิล โบลตัน มาถ่ายทอดในเพลง "Go The Distance" จากนั้น นัท ขอสลัดมาดเจ้าชายมาต่อในเพลง "ข้าน้อยสมควรตาย" ของ บิ๊กแอส เพลงที่แฝงนัยสำคัญถึงการกลับเข้ามาบ้านมาอีกครั้งของ นัท ที่ขึ้นต้นเป็นแบบช้าๆ พร้อมกับท่อนท้ายที่เปลี่ยนเป็น นัทรักเธอ ก่อนจะมันกันแบบเต็มเพลง แม้ว่าการร้องของ นัท อาจจะมีผิดพลาดไปบ้างแต่คนดูก็ให้อภัย เหมือนกับ แหม่ม ที่บอกว่า "พี่ว่าความเป็นศิลปินที่ดีบางครั้งเทคนิคการร้องหรือการร้องที่เพอร์เฟกต์ มันไม่ได้สำคัญเท่ากับการมีภาพรวมที่สมบูรณ์ แล้วนัทเป็นตัวอย่างของคนที่มีภาพรวมที่สมบูรณ์"

ตามด้วยเจ้าของฉายาเพี้ยนเสน่ห์ ปั๊ม ที่มาอ้อนคนดูด้วยเพลง "คนไม่เอาถ่าน" ของ บิ๊กแอส และส่งต่อกับเพลงที่ ปั๊ม ขอสัญญาว่าวันนี้สักวันหนึ่ง ปั๊ม จะดีพอสำหรับทุกคน ในเพลง "สักวันจะดีพอ" จาก บอดี้สแลม นับว่าสัปดาห์นี้ ปั๊ม ร้องได้ดีอีกครั้งหนึ่งจน ไก่ ถึงกับออกปากว่า "นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ครั้งที่ 2 เก่งที่เลือกเพลงไม่เกินความสามารถของตัวเอง ปั๊มเข้ามาในลักษณะเด็กป.6 เอ็นท์ติด แต่ตอนนี้เรียนทันแล้ว แต่เกรดอาจจะต่ำหน่อยนิดนึง สิ่งที่ทุกคนให้โอกาส เพราะฉะนั้นรักษาโอกาสนี้ไว้พยายามทำให้ดีที่สุดตามที่พูดไว้"

ปิดท้ายด้วยหนุ่มเท้าไฟ ขาเต้นประจำบ้าน รอน ประเดิมเปิดเวทีของตัวเองด้วยเพลงเร็ว "Fight For You" จาก กอล์ฟ-ไมค์ ที่ออกมาวาดลีลาการเต้นได้ถูกอกถูกใจคนดู และต่อด้วยเพลง "ไม่มีเธอวันนั้น ไม่มีฉันวันนี้" ของ ดีทูบี มาร่ายมนต์สะกดใส่คนดู ขนาด แหม่ม ยังต้องบอกว่า "พี่คิดว่าไม่ใช่แค่ ครูเป็ด (วาเนสซ่า กัณโสภณ) คนเดียวที่ให้เอ แต่ครูทุกคนก็น่าจะให้เอ เพราะว่ารอนเป็นคนเดียวที่เอาทุกวิชามาใช้บนเวทีนี้อย่างครบถ้วน ทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งแสดงฟีลลิ่งของท่าทางทุกอย่าง เอามาใช้ได้อย่างสมบูรณ์"

ความตื่นเต้นทวีความเข้มข้นเป็นอย่างยิ่งสำหรับนาทีประกาศผล เพราะเมื่อทั้ง 5 คนร้องเพลงจบปุ๊บ ต้อย ก็ประกาศปิดการลงคะแนนทันที ในช่วงลุ้นระทึกก็มีการแสดงพิเศษจากนักล่าฝัน 12 คนออกมาคั่นเวลาผ่านเพลง "ปลายฝัน" ต่อด้วยเสียงกรี๊ดต้อนรับนักล่าฝัน 4 คนแรกที่ต้องออกจากบ้านไปก่อน ที่ประกอบด้วย "เบียร์ - ราเชน เสาะแสวง" "เบนซ์ - ภัทรคุณ เฮน" "แนน - พรปวีณ์ อภิโช" และ "เดียร์ - กุลกนิษฐ์ สุภเพชร" ออกมาสร้างความประหลาดใจในเพลง "ช่วงที่ดีที่สุด"

และแล้วช่วงเวลาสำคัญก็มาถึง เมื่อผู้เชิญผลประกาศรางวัลเดินขึ้นมาบนเวทียื่นผลให้ ต้อย เป็นคนประกาศ โดยมีเพื่อนๆ นักล่าฝันทั้ง 11 คน ต่างร่วมลุ้นไปกับคนดูด้วย ซึ่งตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 4 ตกเป็นของ กี๋ ตามมาด้วย กู๊ด กับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ขณะที่ ปั๊ม คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 ไปครอง และเหลือ 2 นักล่าฝัน 2 คนสุดท้าย นัท และ รอน ที่ต้องออกมายืนข้างหน้าเพื่อรอฟังผลชนะเลิศด้วยกัน

ในที่สุด นัท ก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศบนเวทีประกวด อคาเดมี แฟนเทเชีย ฤดูกาลที่ 5 ได้สำเร็จ ท่ามกลางกรี๊ดจากคนดูทั่วทั้งฮอลล์ ซึ่ง นัท แสดงความดีใจด้วยการก้มลงกราบขอบคุณคนดูทุกคนด้านข้างเวที โดย รอน ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 ไป ปิดท้ายฤดูกาลนี้เมื่อเหล่านักล่าฝันทั้งหมด 16 คน ออกมาร้องเพลงสุดท้าย "อคาเดมี แฟนเทเชีย" เป็นการปิดฉากคอนเสิร์ตท่ามกลางเสียงกรี๊ด รอยยิ้ม ความสนุก และความประทับใจไปอีกหนึ่งฤดูกาล

นัท กล่าวความรู้สึกหลังจากได้รับรางวัลว่า "รู้สึกงง ตอนแรกไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นตัวเอง ไม่เคยคิดเรื่องรางวัลอยู่แล้ว ไม่ได้คาดหวัง คาดหวังแค่ขอให้ติดเอเอฟก็พอ อยากที่จะเข้ามาเรียน มาแสดงคอนเสิร์ต อยากมาร้องเพลง พอได้แล้วก็รู้สึกงง พอหายงงแล้วก็รู้สึกดีใจ ภาคภูมิใจ แล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้รับรางวัลนี้ ผมไม่เคยมองว่าเป็นรางวัล ผมมองว่าเป็นของขวัญจากคนดู"

ส่วนเรื่องคำครหากับตำแหน่งสุดยอดนักล่าฝันว่าไม่สมศักดิ์ศรี หลังจากที่เคยออกจากบ้านไปแล้วครั้งหนึ่ง นัท ตอบว่า "เชื่อว่าคนแต่ละคนก็มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง อาจจะมีความคิดเห็นว่าเราไม่เหมาะสม แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นอะไร นัทก็น้อมรับในตำแหน่งที่นัทได้มา ในอนาคตไม่ว่าจะทำงานอะไร นัทจะทำให้ดีที่สุด"

ด้าน รอน เล่าถึงวินาทีที่ต้องออกไปยืนเป็น 2 คน "ลุ้นครับ ลุ้นในฐานะว่าจะได้จริงๆ เหรอ พอพี่นัทได้ ก็ดีใจกับพี่นัทด้วย เพราะว่ารางวัลนี้ก็เป็นรางวัลที่ทุกคนให้กับรอนครับ รอนภูมิใจมากอยู่แล้ว ขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ให้โอกาสรอนตลอด 12 สัปดาห์ ให้รอนได้เรียนในสิ่งที่เรารักเราชอบ และก็จะสัญญาว่าต่อไปเราก็จะพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด จะตั้งใจเรียน พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น จะตั้งใจให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้จริงๆ"