ได้เวลา 5 สาว เดอะ แซทเทอร์เดย์ส สร้างสีสันในเมืองไทย

"เดอะ แซทเทอร์เดย์ส" (The Saturdays) ศิลปินกลุ่มหญิงล้วนหน้าใหม่ส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษ ที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่สีสันของเครื่องแต่งกาย ประกอบด้วย 5 สาว "อูนา ฮีลลี" (Una Healy) "มอลลี คิง" (Mollie King) "วาเนสซา ไวต์" (Vanessa White) รวมถึง 2 สาวจาก เอส คลับ 8 (S Club 8) อย่าง "โรเชล ไวส์แมน" (Rochelle Wiseman) และ "แฟรงกี แซนด์ฟอร์ด" (Frankie Sandford) ขอลุกขึ้นเรียกกระแสนิยมในไทย โดยจะมาปลุกตลาดเพลงป๊อปแดนซ์ให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

ในโอกาสที่มาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรก 3 สาว มอลลี แฟรงกี และ วาเนสซา ตัวแทนจาก เดอะ แซทเทอร์เดย์ส ได้มาร่วมพูดคุยกับสยามโซน.คอม ณ ห้องโลตัส โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงบ่ายของวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา

หนึ่งในซิงเกิลของวง เป็นการนำเพลง Just Can't Get Enough ของวง เดเพช โหมด (Depeche Mode) มาร้องใหม่ พวกคุณรู้จักเพลงนี้มาก่อนหน้านี้ไหม

มอลลี "ถึงพวกเราจะอายุไม่เยอะ แต่พวกเราก็รู้จักเพลงนี้ เพลงนี้เป็นเพลงอมตะ มีเสน่ห์ แล้วก็เป็นเพลงที่ดีมากๆ เป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกดีค่ะ"

จริงหรือเปล่าที่ก่อนหน้านี้มีปัญหากับการตั้งชื่อวง

แฟรงกี "เป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ นะคะกับการตั้งชื่อวง พวกเราต้องมาประชุมกันเพื่อคัดเลือกชื่อวงจากที่มีเป็นร้อยๆ ชื่อ"

อยากให้ลองยกตัวอย่างชื่ออื่นๆ ที่ตั้งมา

มอลลี "ฉันก็จำไม่ได้เหมือนกัน มันมาจากสิ่งที่พวกเราชอบ แล้วก็เอาคำมารวมๆ กัน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากจริงๆ วันเสาร์เป็นวันที่พวกเราชอบมากในสัปดาห์ แล้วพวกเราไม่ต้องการชื่อวงที่ฟังดูธรรมดา เราอยากได้อะไรที่มันต่างออกไป เราก็เลยเลือกชื่อนี้"

ความหมายของชื่ออัลบั้ม Chasing Lights

มอลลี "มันแสดงออกถึงสิ่งที่เรากำลังทำ พวกเรากำลังไล่ตามความฝัน และมันเป็นชื่อที่เพราะมากค่ะ"

การเป็นสมาชิกวงอย่างทุกวันนี้ต่างจากสมัยเป็น เอส คลับ 8 ไหม

แฟรงกี "เกือบจะตรงข้ามกันเลยนะคะ แต่มันก็สนุกมาก ทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย ตอนนั้นฉันยังเด็กมากเลยค่ะ"

รู้สึกอย่างไรกับการเป็นคนมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย

แฟรงกี "รู้สึกแปลกๆ แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นและสนุกมากด้วย"

วางแผนอนาคตของวงไว้ยังไง

มอลลี "ก็อยากจะไปหลายๆ ประเทศที่เราสามารถไปได้ เหมือนกับที่ได้มาเมืองไทยซึ่งเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก เร็วๆ นี้พวกเราก็จะมีอัลบั้มใหม่วางแผงที่ลอนดอน ก็จะได้เจอกับแฟนๆ ทุกคนอีก"

อัลบั้มชุดที่ 2 เป็นอย่างไรบ้าง

วาเนสซา "ตอนนี้ทำอัลบั้มเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเรารู้สึกภูมิใจและชอบมันมาก เราเพิ่งจะถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลงแรกจากอัลบั้มที่ 2 กันไป ชื่อเพลงว่า Forever Is Over ซึ่งยังเป็นแนวป๊อปเหมือนเดิม พวกเรารักเพลงป๊อปค่ะ มันยังคงความเป็น เดอะ แซทเทอร์เดย์ส แต่จะเพิ่มความเป็นบัลลาดมากขึ้น"

อยากแสดงภาพยนตร์บ้างไหม

แฟรงกี "อยากเหมือนกัน เป็นความคิดที่ดี แต่ในนาทีนี้เรื่องงานเพลงของพวกเรามาก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นงานที่พวกเรารักที่จะทำ"

มอลลี "อยากให้มีกล้องคอยติดตามพวกเราตลอดเวลา แล้วก็เอาไปใส่เป็นวิดีโอใหม่ในเว็บไซต์ทุกๆ สัปดาห์ บางทีก็อาจจะได้เห็นเราในมุมที่แย่ๆ และน่ากลัวๆ บ้าง"

จากนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. ก็เคลื่อนตัวมากันที่ร้านอาหาร ZENSE Gourmet Deck & Lounge Panorama ชั้น 17 ห้างสรรพสินค้าเซน สถานที่ที่เราจะได้พบกับความสนุกจาก 5 สาวเป็นครั้งแรกในเมืองไทยในงาน "The Saturdays Zensation Night Party @ Zense" ซึ่งก็มีแฟนเพลงทุกเพศทุกวัยตั้งแต่รุ่นเด็กไปจนถึงรุ่นใหญ่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

และแล้วก็ได้เวลาที่ทั้ง 5 สาวมาปรากฏตัวท่ามกลางเสียงกรี๊ดกับเพลงแรก "If This Is Love" ต่อด้วย "Just Can't Get Enough" แล้วมาชวนแฟนๆ ทำอารมณ์ซึ้งไปในเพลง "Chasing Lights" ซึ่งมี 2 สาว มอลลี และ อูน่า ทำหน้าที่เล่นกีตาร์ให้ได้ฟังไปพร้อมๆ กัน แล้วเสียงกรี๊ดของแฟนๆ ก็ดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงจากเพลง "Issues" ซึ่งแฟนๆ ก็ช่วยร้องตามกันตลอด แล้วตามสาวๆ มาเต้นกันต่อในเพลง "Work" และปิดท้ายด้วย "Up"

จากนั้นทั้ง 5 สาว ได้เอ่ยทักทายแฟนเพลงเป็นภาษาไทยว่า "สวัสดีค่ะ" พร้อมทั้งแนะนำตัวเองกับแฟนๆ นอกจากนี้ยังกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกด้วยกัน แถมยังหยอดคำหวานทิ้งท้ายเป็นภาษาไทยก่อนกลับด้วยว่า "รักนะจุ๊บๆ"