พลาซีโบ ร่วมคอนเสิร์ตกับศิลปินไทยใน สวนเสือมาหาสนุก
ผ่านไปแล้วกับเทศกาลเอาใจผู้ชื่นชอบในเสียงดนตรีกับ "Tiger Translate 2010 presents สวนเสือมาหาสนุก" จัดขึ้น ณ บริเวณลานจอดรถ หลังห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ที่ในปีนี้ชาวร็อกทั้งหลายนอกจากจะได้มันกับคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย ภายในงานยังมีการสร้างสรรค์งานศิลปะจากศิลปินทั้งในไทยและจากฝั่งยุโรปมาให้ได้ชมกันอีกด้วย เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องความสนุกเลยทีเดียว โดย "ปาล์ม - ฐิตวินน์ คำเจริญ" และ "โต้ - สุหฤท สยามวาลา" รับหน้าที่เป็นพิธีกรหลักในงาน
ศิลปินที่มาประชันกันบนเวทีคอนเสิร์ต เริ่มด้วยวง "อะบิวส์ เดอะ ยูธ" (Abuse The Youth) ที่เปิดตัวด้วยเพลง "Electricity" และต่อเนื่องด้วย "Way Out" เป็นการกระตุ้นกันก่อนที่จะขนเพลงจากในอัลบั้มที่ผ่านๆ มา อาทิ "Please" และ "You're So Fine"
หลังจากนั้นสาวเสียงใส "ตุ๊กตา - กันยารัตน์ ติยะพรไชย" หรือ "ลุลา" ก็ขึ้นมาร่วมกันร้องและเล่นในเพลง "ราตรีนี้ (ยังอีกแสนไกล)" ในรูปแบบดนตรีร็อกร่วมกับ อะบิวส์ เดอะ ยูธ แบบที่ไม่ได้หาฟังกันได้ง่ายๆ นัก และเมดเลย์เพลง "ทะเลดำ" กับ "เวลาจะช่วยอะไร" ที่ ลุลา ถึงกับออกปากว่าไม่คิดว่านักร้องเพลงร็อกอย่าง "มิก - มิกข์ วรนิสรา" จะร้องได้เพราะขนาดนี้ นอกจากนี้ ลุลา ยังใส่เอฟเฟกต์เสียงร้องในบางช่วงสร้างความพิเศษให้กับเพลงอีกด้วย ก่อนที่จะมอบเวทีให้กับ อะบิวส์ เดอะ ยูธ ทิ้งท้ายไปกับเพลง "Sunday Afternoon" "How 'Mani' Say I" และ "Sleepwalking "
ศิลปินต่อไปนั้นปรากฏตัวอยู่บนชั้นสองของเวที "มหาจำเริญ" วงอิเลกทรอนิกส์สัญชาติไทย ที่ขึ้นมาผสมผสานดนตรีให้ทุกคนในงานได้กระโดดโลดเต้นไปกับดนตรีแนวอิเลกทรอนิกส์ ก่อนที่ "ฟลัวร์" จะนำมือเบสและมือกีตาร์ออกมาประชันกัน หลังจากนั้น ฟลัวร์ ก็ขอเล่นเพลงตนเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็น "หยั่งรู้" "เปลี่ยน" เป็นต้น ก่อนที่ มหาจำเริญ จะลงมาร่วมร้องเพลง "รักเธอประเทศไทย" ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งดูจะเหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี
ตามติดมาด้วยการปะทะทางดนตรีของ "โมเดิร์นด็อก" และ "ริค - วชิรปิลันธิ์ โชคเจริญรัตน์" ที่สามหนุ่ม โมเดิร์นด็อก เปิดมากับเพลง "บุษบา" จากนั้น ริค ก็ออกมาร่วมร้องในเพลง "สิ่งที่ไม่เคยบอก" ต่อด้วยเพลงเก่า "รักคือฝันไป" ของต้นฉบับ สาว สาว สาว ที่สร้างความสนุกสนานและความประหลาดใจให้กับผู้ชมที่ไม่คิดว่าทั้งสองจะเลือกเพลงนี้มาร้อง นอกจากนี้ โมเดิร์นด็อก ยังนำเพลงอื่นๆ ที่ชวนกระตุ้นต่อมความมัน อย่างเช่น "ติ๋ม" มาให้หลายๆ คนได้กระโดดกันอีกด้วย
ถัดมาเป็นช่วงพิเศษของผู้ชมในวันนี้ คือการได้พบกับวง "พลาซีโบ" (Placebo) จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่เริ่มเพลงแรกกับ "For What It's Worth" และทักทายแฟนๆ ชาวไทยว่า "สวัสดีครับ" เป็นภาษาไทย และสนุกกันต่อกับเพลง "Ashtray Heart" ที่เมื่อได้ยินเสียงตอบรับอย่างดี ไบรอัน ก็กล่าว "ขอบคุณครับ" เป็นภาษาไทยอีกครั้ง จากนั้น พลาซีโบ ก็ขนเพลงของพวกเขามาให้ได้ฟังกันอีกมากมาย ทั้งเพลงจากอัลบั้มล่าสุด "Battle For The Sun" หรือเพลงเก่าจากอัลบั้มอื่นๆ อย่าง "Every You Every Me" ต่อด้วย "The Never-Ending Why"
หลังจากนั้น ไบรอัน ก็พักทักทายผู้ชม ก่อนจะมันกันต่อกับ "Breathe Underwater" และเพลงอื่นๆ มาให้ได้มันกันอีก เริ่มจาก "Meds" ถัดมากับ " Song To Say Goodbye" "Special K" "The Bitter End" นอกจากนี้ยังมีเพลงล่าสุดอย่าง "Bright Lights" มาให้ได้ฟังกันด้วย และตบท้ายก่อนจากกับ "Trigger Happy" "Infra-red" และ "Taste In Men" ก่อนที่ พลาซีโบ จะออกมาโค้งพร้อมกับกล่าวลาผู้ชมในงานและแฟนๆ ที่มาชมพวกเขาในวันนี้
ปิดท้ายงานด้วยการร่วมเล่นดนตรีของวงมากสีสันอย่าง "พาราด็อกซ์" กับ "โต้ - สุหฤท สยามวาลา" ศิลปินรุ่นใหญ่กับแนวดนตรีอิเล็กโทรนิกป๊อป ที่หลังจาก โต้ หมดหน้าที่การเป็นพิธีกรในงาน ก็ขอมาร่วมประชันกับเขาบ้าง โดย พาราด็อกซ์ ขนเพลงของตัวเองมาหลายเพลง อาทิ "เรดิโอ" "ผงาดง้ำค้ำโลก" "ฤดูร้อน" "นักมายากล" "และอำลาเวทีไปด้วยความสนุกสนานกับเพลง " .ด.แดนซ "
ภายในงานยังได้พบกับเหล่าคนบันเทิง เช่น " ีเจ ไมค " หรือ " มเคิล เคนเนท หวอ " จาก แชนแนล [วี] ไทยแลนด์ " ู้ - ธนันต์ บุญญธนาภิวัฒน " มือเบสวง " สลอ" ท้ายสุดแล้วถึงแม้งานในครั้งนี้จะเลิกดึกไปสักหน่อย แต่คอดนตรีก็ยังอยู่ร่วมสนุกกันอย่างไม่สนเวลาที่ล่วงเลยไปกันเลยทีเดียว
