Mini Review : Iron Man 3 ครบรสชาติแต่ยังไม่เต็มอิ่ม

2 พ.ค. 56 17:54 น. / ดู 1,812 ครั้ง / 7 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์


คงไม่น่าแปลกใจถ้าหนังเรื่องนี้จะถล่มรายได้แบบสุดติ่ง ด้วยวันแรกที่เข้าฉายในไทยก็ปาไป45.53 ล้านบาทและคาดไว้ว่าหนังน่าจะเปิดตัวรายได้สูงสุดตลอดกาลในไทยอย่างแน่นอน รวมทั้งไม่ใช่บ้านเราเพียงอย่างเดียวที่ถือว่าทุบสถิติแหลก แถบเอเชียนั้นเข้าขั้นสร้างประวัติศาสตร์รายได้กันเลยทีเดียว ถือเป็นหนังที่ผู้ชมทั่วโลกรอคอยกันจริงๆ


ก่อนการมาในภาคที่ 3 ในภาคแรกนั้นกระแสออกไปในทางบวกและทำให้ Iron man ฟีเว่อร์ขึ้นมา ต่อมาในภาคที่ 2 กระแสคำวิจารณ์กลับสวนทางกับภาคแรกด้วยความที่ยัดมาเยอะเกินไป มาในภาคล่าสุด ก่อนเข้าฉาย สื่อต่างๆออกมายกย่องเลยว่า ภาคนี้เป็นภาคที่ดีที่สุด แต่เมื่อดูจบ.....




ต้องออกปากชมก่อนเลยว่าผู้กำกับที่มากำกับในภาคนี้นั้นทำได้เกินมาตรฐานที่ตั้งไว้ ทั้งๆที่ ผกก.ท่านนี้พึ่งกำกับหนังใหญ่เป็นเรื่องที่ 2 เท่านั้น เพราะหลังจากภาคที่แล้ว ผกก.คนเก่าได้ถอนตัวไป ทำให้ภาระหน้าที่ต่างๆต้องมาตกอยู่กับ ผกก.คนล่าสุด





สิ่งหนึ่งที่ดีที่สุดในภาคนี้คือ การแสดงของเหล่านักแสดงทั้งหลายที่พกความ Professional ที่ไม่มีใครยอมใคร รวมทั้งฉาก Action ต่างๆที่นำมาร้อยเรียงกับตัวหนังได้อย่างเนียนแม้จะไม่ถึงในระดับที่เราต้อง Wow ไปกับมัน แต่ก็น่าพอใจเลยทีเดียว




สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาทำให้ Iron Man ภาคล่าสุดไปไหนไม่ได้ไกลกว่าที่เป็นคือ เรื่องบทภาพยนตร์ ด้วยความที่หนังยังคงเป็นหนัง Marvel ซึ่งลักษณะสูตรในการเดินเรื่องของบทนั้นเหมือนอยู่กับที่ (พระเอกชนะตัวร้ายสามารถปกป้องโลกได้) รวมทั้งแค่เปลี่ยนสเกลหนังทำให้รู้สึกว่าไม่จำเจเท่านั้น



สิ่งหนึ่งที่อาจจะกลายเป็นดาบสองคมของหนังเรื่องนี้คือ เราขอเรียกมันว่า "หักมุม" จะได้ไหม คือชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย ทำนองนี้ โดยเฉพาะตัวร้ายและตัวเอกหลักของเรื่อง ไม่ขอเล่าให้ไปดูกันเอาเอง



ดูๆไปมันก็เหมือนหนังทั่วไป แต่หากพินิจวิเคราะห์กันดูแล้ว หนังเรื่องนี้สามารถสื่อออกมาได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสมัยใหม่ที่หลอกคนดูก่อนที่จะเข้าโรงหนังด้วยซ้ำด้วยการโฆษณาและประชาสัมพันธ์เฉกเช่นเดียวกับในเนื้อหาหนังที่ตัวร้ายสื่อออกมา รวมทั้งการทำให้หนังเรื่องนี้มีโทนหนังที่ดูจริงจังมากขึ้นด้วยการพยายามแสดงให้เห็นว่า โทนี่ สตาร์ค ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่ Super Hero ที่ดูเกินจริง แต่มาตกม้าตายด้วยฉาก Climax ที่แอ็คชั่นสาดใส่ไม่เกิน 10 นาที ทำให้หนังที่เรารอมาเป็นเวลาแสนนานเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า เพื่อจะมาชมบทสรุป เพียงแค่นี้หรือ้



สรุป เป็นหนังที่ครบรสชาติแต่ไม่รู้สึกอิ่มไปกับสิ่งที่ได้ชม หากเทียบกับ3ภาค ผมต้องยอมรับว่าภาคนี้เป็นภาคที่ดีที่สุดของมนุษย์เตารีด แต่หากให้ดูรอบสองผมคงไม่เข้าไปดู ยกเว้นไปเก็บรายละเอียดต่างๆมากกว่า แม้ฉาก Climax จะไม่ค่อยเจ๋งซักเท่าไหร่ แต่ฉาก Action ที่สาดใส่ตลอดกันมาทั้งเรื่องนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ไม่ขอเทียบ The Avenger ที่กลายเป็นหนัง Marvel ที่ดีที่สุดไปครอง แต่หากเกิดทำภาค 4 ต่อมาจริงๆคงไม่อยากไปดูแล้ว และอยากให้ภาค3กลายเป็น the best ของหนังไตรภาคชุดนี้จะดีกว่า และคาดว่า Superman เวอร์ชั่นใหม่น่าจะทำออกมาดีไม่แพ้กัน

ปล.อย่าลืมดู End Credit ช่วงท้ายของหนังด้วยนะ
แก้ไขล่าสุด 2 พ.ค. 56 18:07 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | JNGDPM | 2 พ.ค. 56 18:57 น.

ส่วนตัวรักหนังเรื่องนี้ และคิดว่าไม่หักนะ เพราะเราเดาถูกหมดเลย แหะๆ ตั้งแต่นางเอก ผู้ร้ายตัวจริง อุ๊ป (สปอยล์)

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | (-bsk | 2 พ.ค. 56 20:15 น.

เราชอบแมนดาลินมีหนวดนะเท่ระเบิด

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | ครูซ | 2 พ.ค. 56 20:45 น.

ทำไมไม่แต่คนผิดหวังกับตัวร้ายงะ
ผมออกจะชอบจะตาย
โอเล่ โอเล โอเล โอเล๋ 

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | Kate.K | 2 พ.ค. 56 22:19 น.

เราว่ามันหักมุมแปลกดี ชอบ
เพราะถ้าไม่มีจุดหักมุมเกรียนๆ มันจะทำให้เนื้อเรื่องเครียดมาก

หนังค่ายMarvelก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วคือธรรมะชนะอธรรม
เรื่องบทสรุปไม่ได้หวังว่าจะเป็นไปแบบอื่นได้ ก็เลยไม่ผิดหวังกับหนัง อิอิ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | `ขวัญใจสองหนึ่ง.|๒๑ | 3 พ.ค. 56 21:33 น.

End credit นี่มันมีอะไรง่ะ
ต้องรีบออกจากโรงเลยไม่ได้ดู

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | NOWHERE | 3 พ.ค. 56 23:14 น.

ไม่ดาร์คอย่างที่คิดไว้
ยังคงเป็นสไตล์มาร์เวล

แก้ไขล่าสุด 3 พ.ค. 56 23:14 | ไอพี: ไม่แสดง

#7 | [REC.O] | 6 พ.ค. 56 15:57 น.

ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ครับ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google