ยาคุมลดสิว เลือกอย่างไรให้เกิดผลข้างเคียงน้อยสุด ไม่อ้วน ไม่บวม

ปัญหาสิว ปัญหาใหญ่ที่กวนใจสาว ๆ โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น นอกจากจะทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน หรือเกิดการอักเสบแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ขาดความมั่นใจอีกด้วย ซึ่งวิธีรักษาสิวก็มีหลากหลายวิธีด้วยกัน ทั้งการทายา การรับประทานยา การใช้หัตถการรักษาสิวต่าง ๆ ในบทความนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับวิธีแก้ปัญหาสิวด้วยการทานยาคุมกำเนิดลดสิว หรือที่เรียกกันว่า ยาคุมลดสิว นั่นเอง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดสิวได้อย่างไร กินแบบไหนถึงจะปลอดภัย เรามาหาคำตอบได้ในบทความนี้กันเลย!

ยาคุมกำเนิด (Birth Control Pill)

ยาคุมกำเนิด (Birth Control Pill)​ คือยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง มีผลช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ โดยยาคุมกำเนิดจะไปยับยั้งการตกไข่ รวมถึงมีฤทธิ์ปรับฮอร์โมนในร่างกาย และด้วยฤทธิ์การปรับฮอร์โมนนี้เองจึงทำให้มีการนำเอายาคุมกำเนิดมาใช้เป็นยาคุมลดสิวนั่นเอง

รู้จักประเภทของยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

1.ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมจะมีฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบสำคัญ 2 ฮอร์โมนได้แก่ ฮอร์โมนในกลุ่มเอสโตรเจนและฮอร์โมนในกลุ่มโพรเจสติน ซึ่งยาคุมกำเนิดประเภทนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง รวมถึงช่วยให้ประจำเดือนของสาว ๆ มาตรงเวลา และยังช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนอีกด้วย นอกจากนี้ฮอร์โมนบางชนิดในกลุ่มโพรเจสตินยังมีฤทธิ์ช่วยลดระดับฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้เกิดปัญหาสิวและปัญหาหน้ามันได้

2.ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวเป็นยาที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนกลุ่มโพรเจสตินเพียงชนิดเดียว ซึ่งยาคุมกำเนิดชนิดนี้ถูกผลิตเพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่สามารถใช้ยาคุมลดสิวฮอร์โมนรวมได้

3.ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่มีปริมาณของฮอร์โมนค่อนข้างสูง โดยเป็นยาคุมกำเนิดที่ใช้ทานหลังจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันทันที เพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์

ยาคุมช่วยลดสิวได้จริงไหม

ยาคุมช่วยเรื่องสิวได้จริงไหมคะ? ยาคุมลดสิวมีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน จึงสามารถช่วยลดสิวได้ เนื่องจากตัวยาจะไปลดระดับฮอร์โมนเพศชายลง ทำให้การผลิตไขมันซีบัม (Sebum) จากต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลง ดังนั้นยาคุมจึงช่วยปรับฮอร์โมนลดสิวค่ะ

ยาคุมกำเนิดช่วยลดสิวได้อย่างไร

การเกิดสิวนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน โดยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่เป็นฮอร์โมนในกลุ่มเพศชายจะกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวหนังให้ผลิตไขมันซีบัม
โดยปกติแล้วต่อมหมวกไตและรังไข่ของผู้หญิงจะผลิตฮอร์โมนเพศชายในระดับต่ำ แต่ถ้าหากฮอร์โมนเพศชายเพิ่มสูงขึ้น ก็สามารถทำให้ต่อมไขมันผลิตซีบัมมากขึ้นจนทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนจนเกิดสิวได้ โดยการรับประทานยาคุมลดสิวที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน จะช่วยลดระดับแอนโดรเจนในร่างกาย ซึ่งช่วยลดการเกิดสิวได้

ประโยชน์ของการใช้ยาคุมเพื่อลดสิว



ประโยชน์ของยาคุมที่ลดสิวจะช่วยลดระดับความรุนแรงและการอักเสบของสิวได้ แต่การกินยาคุมลดสิวอาจจะต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์จึงจะเห็นผล เนื่องจากร่างกายต้องใช้ระยะเวลาในการปรับความสมดุลของฮอร์โมนเพศ โดยประโยชน์ของการใช้ยาคุมที่ช่วยลดสิวมีดังนี้

1.ช่วยลดการเกิดสิวผด
2.ลดการอักเสบของสิว
3.ช่วยปรับฮอร์โมนเพศ

ยาคุมชนิดไหนเหมาะกับการใช้ลดสิว

หากสาว ๆ คนไหนมีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมลดสิว อาจจะต้องใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมเท่านั้น เนื่องจากยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมจะประกอบไปด้วย 2 ฮอร์โมนคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้จะสามารถออกฤทธิ์ลดระดับฮอร์โมนเพศชายลงได้

วิธีกินยาคุมลดสิวให้ได้ประสิทธิภาพ



วิธีกินยาคุมลดสิวให้ได้ผลที่ดีที่สุด ได้แก่

1.ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการรับประทานยาคุมลดสิวเสมอ เนื่องจากการรับประทานยาคุมลดสิวทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ปวดศีรษะ รู้สึกเจ็บคัดเต้านม มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด รวมถึงเกิดสิวขึ้นในช่วงแรก

2.ควรแจ้งแพทย์ว่ากำลังใช้ยาชนิดใดอยู่ เพราะส่วนประกอบของยาบางชนิดอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลง และอาจนำไปสู่การตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้ ดังนั้นผู้ที่ใช้ยาบางชนิดจะต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย

3.ผู้ที่มีปัญหาสิวร่วมกับประวัติการเจ็บป่วย หรือมีปัญหาสุขภาพบางชนิดควรแจ้งแพทย์ก่อนใช้ยาคุมลดสิวเสมอ เพราะแพทย์อาจแนะนำให้รักษาสิวด้วยวิธีอื่นแทน

4ยาคุมลดสิวช่วยเพียงการเกิดสิวเท่านั้น ไม่ได้ช่วยรักษารอยดำหรือรอยแดงจากสิว ดังนั้นสาว ๆ ที่ต้องการกินยาคุมลดสิวอาจจะต้องรับประทานยารักษาสิวอื่น ๆ ที่แพทย์แนะนำร่วมด้วย

5.เมื่อรับประทานยาคุมลดสิวควรทานติดต่อกัน เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ

แนะนำ 6 อันดับ ยาคุมลดสิวยี่ห้อไหนดี

ยาคุมลดสิวตัวไหนดี? อย่างที่กล่าวไปว่าการรับประทานยาคุมเพื่อรักษาสิว ต้องรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม เพราะมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่จะช่วยลดระดับฮอร์โมนเพศชายได้ สำหรับยาคุมลดสิวยี่ห้อไหนดี? วันนี้จะมาแนะนำ 6 อันดับยาคุมลดสิว ไม่อ้วน ดังนี้!

1. ยาคุมลดสิว ยี่ห้อ Diane
ยาคุมลดสิวอุดตันยี่ห้อ Diane สามารถใช้รักษาภาวะต่าง ๆ อันเนื่องมาจากมีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ เช่น สิว ผิวมันมาก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อย แต่ยาคุมยี่ห้อ Diane จะมีปริมาณของ Ethinyl Estradiol สูงถึง 0.035 mg จึงเหมาะผู้ที่เคยกินยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนสูงแล้วไม่เกิดผลข้างเคียงด้วย

2. ยาคุมลดสิว ยี่ห้อ Sucee
ยาคุมลดสิวยี่ห้อ Sucee เป็นยาคุมที่สาว ๆ หลายคนเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากยาคุมลดสิวราคาถูกกว่ายาคุมยี่ห้ออื่น ๆ แต่ยาคุมยี่ห้อนี้ก็มีผลข้างเคียงไม่น้อยเลยทีเดียว เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้ มีฝ้า รวมไปถึงการบวมน้ำหรือมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น

3. ยาคุมลดสิว ยี่ห้อ Yasmin
ยาคุมแก้สิว ยี่ห้อไหนดี? ยาคุมลดสิวยี่ห้อ Yasmin เป็นยาคุมที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็แลกมากับข้อดีมากมาย เช่น ช่วยลดการคั่งของน้ำในร่างกาย ทำให้สาว ๆ กินแล้วน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่อยากกินยาคุมกินแล้วไม่อ้วน ลดสิวไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยาคุม Yasmin ยังเหมาะกับผู้ที่ทานยาคุมที่มีส่วนผสมของ Ethinyl Estradiol 0.035 mg แล้วมีอาการเวียนศีรษะอีกด้วย เพราะยาคุมลดสิวยี่ห้อนี้มีปริมาณ Ethinyl Estradiol ลดลง

4. ยาคุมลดสิว ยี่ห้อ Justima
ยาคุมลดสิวยี่ห้อ Justima เป็นยาคุมที่ถูกจัดอยู่ในยาคุมที่มีปริมาณยาต่ำ จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงต่างน้อยกว่ายาคุมลดสิวยี่ห้อที่มีปริมาณยาสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวน้อยหรือไม่รุนแรง รวมถึงผู้ที่กินยาคุมปรับฮอร์โมน ลดสิว

5. ยาคุมลดสิว ยี่ห้อ Yaz
ยาคุมลดสิวยี่ห้อ Yaz มีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป โดยข้อดีคือเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องน้ำหนักขึ้น และเหมาะกับผู้ที่ทานยาคุม Ethinyl Estradiol ในปริมาณมากแล้วเกิดผลข้างเคียง เช่น เวียนหัว คลื่นไส้ นอกจากนี้ยาคุมยี่ห้อ Yaz ยังช่วยลดอาการที่จะเกิดก่อนมีประจำเดือนได้ด้วย แต่ขอเสียคือสาว ๆ ที่รับประทานคุมลดสิวยี่ห้อนี้อาจมีรอบเดือนที่หายไปบ้างในบางเดือน

6. ยาคุมลดสิว ยี่ห้อ Herz
ยาคุมลดสิวยี่ห้อ Herz เป็นยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนต่ำมาก จึงมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่ายาคุมลดสิวยี่ห้ออื่น ๆ และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิวเล็กน้อย รวมถึงยังเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องน้ำหนักหรือบวมน้ำ อีกทั้งยังช่วยลดอาการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือนอีกด้วย

กินยาคุมลดสิว กี่เดือนถึงเห็นผล
การกินยาคุมลดสิวไม่ใช่ว่าจะกินแล้วเห็นผลทันทีนะคะ โดยยาคุมลดสิวจะเริ่มค่อย ๆ เห็นผลเมื่อกินอย่างต่อเนื่องไปแล้วประมาณ 2-3 เดือน และจะเห็นผลชัดเจน เต็มที่มากที่สุดประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หากรับประทานอย่างต่อเนื่องค่ะ

ข้อควรระวังสำหรับการใช้ยาคุมลดสิว



1.ผู้ที่จะเริ่มทานยาคุมลดสิว ผิวใสควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมาได้

2.ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ หรือรับประทานยาชนิดอื่นอยู่ ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาคุมลดสิว เนื่องจากโรคบางชนิดหรือยาบางชนิดไม่สามารถรับประทานร่วมกับยาคุมลดสิวได้

3.หากสาว ๆ คนไหนรับประทานยาคุมลดสิวไปแล้วเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง ควรหยุดยาและเข้าพบแพทย์ทันที

ใครที่ไม่เหมาะกับการใช้ยาคุมลดสิว

ผู้ที่ไม่ควรรับประทานยาคุมลดสิว มีดังนี้

1.ผู้หญิงที่ยังไม่มีประจำเดือน หรือยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์
2.ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
3.ผู้หญิงที่ต้องการจะตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์
4.มีปัญหาการแข็งตัวของหลอดเลือดผิดปกติ
5.มีประวัติป่วยเป็นโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง
6.ป่วยเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม
7.เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับ
8.มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอดหรือขา
9.มีน้ำหนักตัวมากหรือขยับร่างกายลำบาก
10.สูบบุหรี่เป็นประจำ
11.ผู้ที่เป็นไมเกรน

ข้อสรุป

การรับประทานยาคุมลดสิว หน้าใสเป็นเพียงตัวช่วยลดการเกิดสิวหรือบรรเทาการเกิดสิวเท่านั้นนะคะ ไม่สามารถรักษารอยดำ รอยแดง หรือหลุมสิวได้ หากพบว่าตนเองมีปัญหาสิวเยอะมาก ควรเข้าปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุดค่ะ อย่างไรก็ตามยาคุมลดสิวก็เป็นหนึ่งในวิธีรักษาที่แก้ปัญหาจากต้นเหตุวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยลดสิวได้ นอกจากจะรับประทานยาคุมลดสิวแล้ว การรักษาความสะอาดบนใบหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน จึงควรทำควบคู่กันไปด้วยจะเกิดผลมากที่สุดค่ะ


Taylor R. (2022, January 18). Birth Control for Acne. WebMD. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/birth-control-for-acne-treatment