SIAMZONE.COM

ดู ทอย สตอรี่มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วพอมาถึงภาค 3 เราก็ไม่ได้ดูเรื่องนี้ในโณงจนกระทั่ง Big Cinema เอามาฉาย ขอบอกว่าภาคนี้มันเป็นอะไรที่ดีมาก ทำออกมาได้สนุก ซึ้งมาก แล้วก็เป็นภาพยนตรืที่ทำให้เสียน้ำตามากที่สุดเลย ตั้งแต่ดู Big Cinema มา เศร้า ซึ้งด้วยมิตรภาพ เหมือนเราโตกับตุ๊กตาพวกนี้จริงๆ ดีมาก ปล ขนาดดูพากไทยนี้ร้องแบบหายใจแทบไม่ทัน ร้องตั้งแต่โดนเก็บไว้ห้องใต้หลังคา T-T

หนังกาก หังเหีี_ ปัญญาิ่ิอ่อน ไร้สาระ ไม่สะนุก ไม่ซึ่ง

คำพวกนี้อย่าใช้กับหนังเรื่องนี้

ซึ่ง เศร้า ร้องแบบบ่อน้ำตาแตกตอนจบเลย มันจบแบบใจหายไม่รู้

ใครว่าหนังนี้ ให้คะแนนแค่ 1 นะ อยากเจอหน้าจริงๆๆ

คงไม่ต้องพูดอะไรมากมายครับ ทุกคนคงรู้จัก ภาคนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แต่รู้สึกภาคก่อนๆสร้างมุกมากกว่านี้ หรือว่าผมรู้สึกไปเอง แต่แนวนี้แหละ ผมเอาใจช่วยทุกฉากเลย หนังเรื่องนี้จะ เน้น คำว่ามิตรภาพเป็นส่วนใหญ่้ ตอนจบเศร้าได้ใจดี
แต่ถ้าให้เต็มร้อยล้าน ผมให้ไม่เต็มร้อยล้านน่ะ ( สงสัยผมโตแล้วมั่ง ผมชอบแนวตลบบ้าบอมากกว่า ) แต่ถ้าเต็มล้าน ทะลุขาดกระจุยครับ

มันเป็นเรื่องจริงที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่ของเล่น!!!
บางทีการที่ "บางสิ่ง" ที่เคยอยู่กับเรามานานแสนนานมันขาดหายไป มันก็อาจทำให้เรามีความรู้สึกที่ว่า "เสียดาย"
ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาที่จากกันไปจะ "สมคววร" แล้วก็จริง แต่ความผูกพันธ์ระหว่างเรากับมันก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม และมันจะทำให้มีความรู้สึกนั้นมากขึ้นเมื่อต้องจากกันไป
อารมณ์ในภาคนี้ยังให้ความรู้สึกซึ้งไม่ค่อยสุด แต่ว่าผมแทบจะร้องไห้ไปกับมันทั้งตอนที่ลงเตาหลอม และฉากสุดท้ายของเด็กชายเจ้าของของเล่น
สุดท้าย...มันก็เป็นของเล่น...ที่ยังให้ความสุขกับผู้อื่นอยุ่เสมอ
เจ้าของอาจจะเปลี่ยนไป อาจจะไม่เหมือนคนเดิม เหมือนกับ "บางสิ่ง" ที่ได้เปลี่ยนไป อาจไม่ได้มีความรู้สึกอย่างเดิมๆ แต่บางทีถ้าเรายังคงเก็บเพียงความทรงจำดีๆ เอาไว้ในหัวใจ ถึงแม้จะจากกันไปมันก็ยังสุขใจที่ได้จดจำมันอยู่เสมอ

ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัวครับ (ประมาณว่าเพิ่งได้ดูเลยเพิ่งมาแสดงความคิดเห็น)
ตามใจตัวเองครับ 9.5 / 10 เลยครับ

Toy Story 3 (2010)

ภาพยนตร์ภาคที่สาม สำหรับ เฟรนไชส์ ทอย สตอรี่ ซึ่ง ภาคที่หนึ่ง และ สอง จะฉายในปีใกล้เคียงกัน แต่ภาคที่สามเว้นระยะห่าง ร่วมๆ 15 ปี

พูดถึงบริษัท pixar ? ชื่อนี้เคยมอบความผิดหวังให้ผู้ชมที่ตั้งตารอไหม? คำตอบคือ "ไม่เคย"

ทอย สตอรี่ 3 ภาคนี้คุ้มค่าการรอคอย ถึงแม้ว่าบทตัวละครหลายตัวจะขาดๆ และเนื้อเรื่องดู "ไม่อิ่ม" ไปบ้าง แต่ ความเป็น "Masterpiece" ของผลงาน ยังคง "อยู่" เสมอ

เนื้อเรื่องที่ทั้งแปลกใหม่ รวมถึงความเป็นแอคชั่นไปในตัว(แหวกแนว) แต่ทว่า กลับกลมกลืนกับความเป็นคลาสสิกได้อย่างลงตัวราวส่วนประกอบที่ได้สัดส่วนเข้ามาผสมอยู่ด้วยกัน รวมถึงตัวละครที่มีของเล่นหลากหลายนานาชนิด ทั้ง บาร์บี้ กับ เคนส์ ที่มีบทในภาคนี้ และยังของเล่นอื่นๆที่ทั้งน่าขบขัน และน่ารักน่าชังอีกมากมาย

การดำเนินเรื่องไม่สะดุด ทั้งไหลลื่นละมุนละม่อม จนดูได้อย่างสนุกสนาน มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครด้วย ถึงแม้หลายฉากจะดูทะแม่งๆไปบ้างก็ตาม

ส่วนตอนจบ ปิดจบได้เศร้าพอดู เข้าใจว่าของเล่นที่เราอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก แต่วันหนึ่งต้องจากกันตลอดไป มันรู้สึกอย่างไร เพราะเราคงใจหายไม่น้อย ที่สิ่งที่ "มีความหมาย" สำหรับเราสิ่งหนึ่งได้หายไปจากชีวิตเรา ทำให้ซาบซึ้งมาก

เนื้อเรื่อง 20/20
คาแรกเตอร์ 18/20
เอฟเฟค CG 19/20
การดำเนินเรื่อง 17/20
ความประทับใจ 19/20

รวมทั้งหมด 93/100 A ครับ

(คะแนนและคำวิจารณ์ทั้งหมดเป็น ค.ห.ส่วนตัวของผมนะครับ)

ชอบมากๆๆๆๆๆ มีครบทุกอารมณ์
ถึงแม้จะร้องไห้ตอนหนังจบ แต่ก็มีความสุขในใจนะ ^^

เพิ่งไปดูมาวันนี้ครับ
ตัวละครบางตัวจากภาคก่อนรู้สึกจะขาดหายไป อาจจะเป็นเพราะเจอชะตากรรมเดียวกันมั้ง? แล้วรู้สึกว่าภาคนี้จะเน้นเรื่องความมันส์แบบลุ้นระทึกมากกว่าแบบซึ้งๆเหมือนภาคที่แล้ว (แต่ก็ชอบนะ อิอิ) ไม่น่าเชื่อว่าตลอดสามภาคที่เขาทำ Toy Story นี่ สนุกทุกๆภาคเลยจริงๆ นี่มันก็ผ่านมา15ปีแล้ว... ดูแล้วได้แง่คิดดีๆเยอะครับ ทำให้เรารู้สึกอยากรักของเล่นเก่าๆของเราสมัยเด็กๆมากขึ้น เสียตรงที่ไม่ค่อยซึ้งเท่าไหร่ ตอนอวสานมันน่าจะซึ้งกว่านี้นี่! เอ๊หรือว่าเราใจแข็งไป? ยังไงถ้าใครยังไม่ไปดู ผมสนับสนุนให้ไปดูนะครับ คุ้มค่ากับเงินมาก......9/10
(ตอนนี้ Pixar กำลังทำ Monster Inc. 2 อยู่ อดทนรอกันให้ดีนะครับ!)

หนังดีๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่แปลกที่เป็นแชมป์ซัมเมอร์ปีนี้ พาพี่พาน้องไปดูกัน สบายใจ อารมณ์ดี

ไม่ต้องดู 3D ก็สนุกครับ เข้าถึงอารมณ์ของเล่นทุกตัว

สุดยอดมากเลยครับเรื่องนี้ !

10/10