วิจารณ์ ชิงหมาเถิด

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 28 เม.ย. 54 21:38

    ชิงหมาเถิด: Well-written & stunning! A bit redundant sometimes but overall better than expected! One of the most sarcastically reflective films to watch ever.
    [8.5]

  • เมื่อ 4 มี.ค. 54 19:08

    ก็ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ น่ะ
    ดูแผ่นโอกว่า ถ้าอยากดูนะ
    (สำหรับ ผม นะ เพื่อนๆ)

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 11 ก.พ. 54 11:35

    ชิงหมาเถิด: ความสุขจอมปลอมของคนไทยทั้งแผ่นดิน


    (บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของหนัง)


    จากสุนัขตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ที่นำมาซึ่งความสุขของผู้คน ที่ได้คอยเฝ้ามองความเฉลียวฉลาดน่ารักของมัน ไม่ว่าจะเป็นลูกเด็กเล็กแดง หนุ่มสาว วัยกลางคน จนถึงผู้ชรา แต่กลับมีบางคนที่ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับมัน และออกจะหมั่นไส้หรือเกลียดชังเจ้าสุนัขตัวนี้ด้วยซ้ำ โดยสาเหตุหลักๆ มาจากมันมาแย่งความสำคัญเพราะผู้คนที่ให้ความสำคัญกับมันมากเกินไป ปฏิบัติการชิงหมาจึงเริ่มขึ้น

    ทีมชิงหมา
    ผู้ชายสามคน อุดมการณ์เดียวกัน ต่างคนต่างมา และจับผลัดจับผลูมาร่วมมือกันได้ยังไงไม่รู้ แต่นอกเหนือจากอุดมการณ์ที่เหมือนกันแล้ว อีกสิ่งที่เหมือนกัน โดยเขาทั้งสามไม่รู้ตัว คือพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะชิงหมามาทำไม เรียกร้องความสนใจ หมั่นไส้ พิสูจน์ตัวเอง ชิงได้แล้วจะเอาไปทำอะไร เอาไปฆ่า เอาไปปล่อย หรือแม้แต่เอาไปคืนภายหลัง สิ่งที่พวกเขารู้ คือแค่การไปชิงหมามาเท่านั้น โดยไม่ได้ตระหนักเลยว่ามันจะเกิดผลตามมาที่รุนแรง มีผลกระทบต่อผู้คน แม้แต่กับชีวิตของพวกเขาเอง

    ผู้ไล่ล่า
    ในขณะที่ทีมชิงหมาไม่ได้มีแผนการณ์หรือวัตถุประสงค์เด่นชัด ผู้ไล่ล่าทีมชิงหมาซึ่งไม่มีที่มาที่ไป หรือปูมหลังใดๆ แต่รู้จุดหมายของตัวเองชัดเจน คือการตามไล่ล่าทีมชิงหมาทั้ง 3 และกำจัดทุกสิ่ง ที่มาขวางทางหรือเป็นอุปสรรค์ในการไล่ล่า โดยไม่จำเป็นต้องไถ่ถามอะไร แต่ถ้าถามถึงเหตุผลของการไล่ล่า เขาก็อาจตอบไม่ได้เหมือนกัน นอกเหนือจากการทำตามคำสั่ง ไม่จำเป็นต้องคิดอะไร หรือรู้สึกอะไร ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าใครจะเป็นจะตาย ขอให้งานสำเร็จเท่านั้น

    ปัญหาระดับประเทศ
    การติดตามจับกุมผู้อุกอาจมาชิงหมาตัวหนึ่ง และการนำมันกลับมา กลายมาเป็นวาระแห่งชาติ อาวุธยุทโธปกรณ์ และอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ (ล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธและอุปกรณ์ที่พิสูจน์แล้ว ว่าใช้ได้ผลดี) เช่นเดียวกับการระดมกำลังพลเต็มที่เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ แม้ว่านั่นจะเป็นเวลาเดียวกับที่ประเทศกำลังมีปัญหาเรื่องจังหวัดชายฝั่งทะเลกำลังเกิดวิกฤติก็ตาม เพราะเมื่อลำดับความสำคัญแล้ว หมาตัวหนึ่ง มันมีผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่าจังหวัดไกลๆนั่นเสียอีก

    รู้ว่าเขาหลอก
    ระหว่างการหลบหนี เอาตัวรอด ทีมชิงหมา ก็ได้รู้ความจริงว่าหมาหิมะแท้จริงแล้วเป็นแค่สุนัขธรรมดาๆตัวหนึ่ง ที่ถูกจับมาใส่หัวโขนให้กลายเป็นหมาพิเศษ พวกเขามีทางเลือกระหว่างการเปิดเผยความจริงให้สังคมรับรู้ หรือการปล่อยให้สังคมเชื่ออย่างผิดๆ แต่แลกมาด้วยความสุขของประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่มาชุมนุมเรียกร้องให้นำหมากลับมาอย่างบริสุทธิ์ใจ และเชื่อถือว่ามันคือหมาหิมะของจริง มันคือหมาหิมะที่นำมาซึ่งความสุขและรอยยิ้มของประชาชนอย่างถ้วนทั่ว โดยเฉพาะเด่น ที่อาจเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีมากกว่าคนอื่นๆ เมื่อมองว่าเขามีลูกสาวที่เกิดจากเมียที่ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน แต่เขาก็ยังมอบความรักให้กลับลูกสาวคนนี้อย่างบริสุทธิ์ใจ โดยทำเป็นมองไม่เห็นอะไรบางอย่าง เพราะลูกสาวที่เป็นเหมือนน้ำชะโลมหัวใจ ที่เขารักและรักเขาอย่างจริงใจ ท่ามกลางสังคมปัจจุบันที่โหดร้ายกับเขา

    สังคมที่บิดเบี้ยว
    ในขณะที่เด่นต้องดิ้นรนต่อสู้กับสังคมแห่งการแข่งขัน อาร์ตอาจยังไม่ได้อยู่ในโลกนั้น แต่สังคมของเขาก็โหดร้ายไม่แพ้กัน กับสังคมที่ต่างคนต่างอยู่ ไม่ใส่ใจกันและกัน (สะท้อนผ่านบ้านของเขา ที่ผู้คนสนใจแต่เกมส์หน้าจอมากกว่าผู้คนจริงๆ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างๆกำลังเกิดอะไรขึ้น) ทำให้อาร์ตเลิกที่จะติดต่อสื่อสารกับผู้คน หันมาใช้ BB เป็นสื่อในการแสดงความรู้สึก ไปจนถึงการถูกละเลยจากสังคม ทั้งที่เขามีศักยภาพหรืออะไรดีๆในตัวมากกว่านั้น และถ้าคิดว่าสังคมของเด่นและอาร์ตโหดร้ายแล้ว สังคมของแบงค์ก็ยังโหดร้ายยิ่งไปอีก เมื่อคนที่ทำให้สังคมเลวร้าย คือคนในครอบครัวของเขาเอง ที่เลี้ยงลูกด้วยเงินและการรักษาหน้าตาสถานะภาพ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกลับเฉยชาและแสนจะเปราะบาง

    ขบวนการขายฝัน
    การที่หมาหิมะปลอมๆกลายมาเป็นขวัญใจประชาชน ไม่ใช่เหตุบังเอิญหรือเพราะตัวของหมาเอง แต่เกิดจากการขายฝันที่ผ่านการวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี และไม่ใช่แค่หมาหิมะ แต่สังคมทุนนิยมแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยการขายนานาชนิด สะท้อนจากบิลบอร์ดและแผ่นป้ายโฆษณาต่างๆ ที่วาดฝันสวยหรูให้กับสังคม หลอกลวง ไปจนถึงการล้างสมองให้เชื่อว่านี่คือสิ่งถูกต้อง เหมาะสม และยอมรับกันทั่วไป เราจึงได้เห็นประชาชนที่แต่งตัวให้เหมือนหมาหิมะ เราจึงได้เห็นคลีนิครักษาสัตว์ที่มีการทำศัลยกรรมตบแต่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยตอกย้ำความบิดเบี้ยวของสังคม ที่กำลังถูกกัดกินทีละน้อย โดยผู้คนยังไม่ทันได้ตระหนัก

    บทสรุปทีมชิงหมา
    แม้ว่าปฏิบัติการจะไม่ลุล่วง แต่สิ่งที่น่าจะทำร้ายจิตใจของทีมชิงหมามากที่สุด ถ้าพวกเขาได้มีโอกาสได้รับรู้ คือการถูกตัดสินจากสังคมถึงการเป็นประชาชนที่มีปัญหา ล้มเหลว ต่อต้านสังคม เรียกร้องความสนใจ โดยที่สังคมที่ถูกตัดสินก็ไม่ได้รู้เห็นหรือเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นเลย แม้จะทิ้งท้ายด้วยการแสดงความเห็นใจ เป็นห่วงใย และหวังดี แต่ลึกๆก็คือการตอกย้ำว่านี่คือจุดจบของคนที่ฝ่ากระแสของสังคม เหมือนกับที่อาร์ตได้เห็นรายการทีวีที่สรุปชีวิตของเขาเสร็จสรรพ โดยที่เขาไม่มีโอกาสแก้ตัวหรือชี้แจงด้วยซ้ำ

    เก่าไปใหม่มา
    หมาหิมะอาจสร้างความสุขและได้รับความนิยมจากมหาชน แต่ประชานิยมนี้ก็มีวันจืดจาง เมื่อวันหนึ่งข่าวของหมาหิมะเริ่มถอยลงจากพาดหัวข่าวหลักในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ไม่ต้องกังวล ถึงความนิยมนี้จะลดลง สังคมก็ยังสามารถหาสิ่งใหม่ๆมาล่อตาล่อใจประชาชนได้เสมอ และวงจรนี้ก็จะยังคงอยู่ในสังคมต่อไป แม้ว่าสิ่งต่างๆจะเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาไปแล้วก็ตาม

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 10 ก.พ. 54 20:11

    คอมเม้นส่วนมากจะด่าอ่านะ ผมดูจบแล้ว โดยรวมหนังสะท้อนสังคม ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นหนังตลกแต่ที่จริงไม่ใช่ - - หนังสื่อในแง่มุมที่จริงเกี่ยวกับสังคมของประเทศ ผมคิดว่าพี่พงพัฒน์ไม่ได้ทำมันให้ห่วยอย่างที่คนบอก ต้องเปิดใจดู ถ้ามีอคติตั้งแต่แรกก็ไม่สนุก คาแรคเตอร์ทั้งสามคนนี้ ผมชอบมากฉลาดในการเลือกมาก คนรวย คนจน คนฉลาด ซึ่งเหมาะมากกับการมาดำเนินเนื้อเรื่องทำให้รู้อะไรหลายอย่าง ความจริงเกี่ยวกับชีวิตคน แม้โดยรวมจะเนื้อเรื่องพาเครียดก็ตาม พอดูทำให้ผมคิดอะไรได้เกี่ยวกับประเทศเลย คนดูหนังเป็นจะมีบ้างรึเปล่าที่เข้าใจจุดประสงค์ของหนัง คนที่ไม่ชอบ แล้วว่าหนังไทยห่วย คงจะไม่ได้รับสาระของเรื่อง ซึ่งถ้าผมอยากเปลี่ยนให้คนชอบก็คงจะไม่ได้เหมือนกับคำเด่นของเรื่อง "เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดคนได้หรอก" ซึ่งก็จริงมาก

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 7 พ.ย. 53 14:02

    ห่วยมากเลย -_-

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 5 พ.ย. 53 23:51

    หนังก็เรื่อยๆ แต่มะชอบตอนจบ ทำร้ายจิตใจคนดู อิอิ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 3 พ.ย. 53 08:31

    ดูแล้วเสียดายเงินถ้าไม่มีบอยเล่นนะไม่ดูเลยหนังยังไงไม่รู้

  • เมื่อ 2 พ.ย. 53 23:06

    ดูแล้วร้องไห้เลย T TT
    เหมือนวิจารณ์สังคมดีอ่ะ ชอบๆๆ

  • เมื่อ 2 พ.ย. 53 16:58

    หนังสื่อถึงข้อคิดในสังคมปัจจุบันได้ดี...เสียดสีได้สะใจ...หนังแฝงมุขตลกแบบ หึ.หึ...ตลกในลำคอ...ดูได้เรื่อยๆ มีระทึกมาเป้นช่วงๆ ดราม่า ซึ้งๆในตอนท้ายๆ...ให้7.5นะ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 1 พ.ย. 53 13:40

    อยากบอกว่าบทดี ความตั้งใจดี บางตอนของหนังสื่อออกมาโอเคเลย
    แต่ว่ารายละเอียดบางอันที่ต้องการเสียดสีมันดูจงใจไปหน่อย
    บางทีเลยทำให้มันไม่ค่อยขำ แต่ว่าโดยรวมแล้วคือถือว่าดีเลย
    แต่ติดตรงที่บอกไปข้างต้นคือ บางอันแบบว่าดูเหมือนไม่ละเอียด
    ประมาณว่าอยากให้เสียดสีเรื่องนี้ ก็ใส่ๆ เข้ามา
    ซึ่งบางทีมันมาไม่ถูกจังหวะ มันก็เลยกลายเป็นดูเฝือ เยอะ
    ทั้งที่มันน่าจะตลกได้ร้ายกว่านี้เยอะเลย
    เรื่องนี้ชอบ มาริโอ้ กับ โก๊ะตี๋ ดราม่าแบบว่า เออ น่าสงสารแหะ
    สรุปคือ ถ้าหนังได้ให้ความสำคัญรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
    มากกว่านี้ จะเพอร์เฟ็ก และน่าดูกว่านี้มากๆ :)

มีทั้งหมด 14 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • Anger ManagementAnger Managementเข้าฉายปี 2003 แสดง Jack Nicholson, Adam Sandler, Marisa Tomei
  • One Piece Film ZOne Piece Film Zเข้าฉายปี 2013 แสดง Mayumi Tanaka, Houchu Ohtsuka, Ryoko Shinohara
  • JuvenileJuvenileเข้าฉายปี 2003 แสดง Shingo Katori, Miki Sakai, Ann Suzuki

เกร็ดภาพยนตร์

  • A Million Ways to Die in the West - ชาร์ลีซ เธอรอน ต้องสวมผมปลอมขณะแสดงบท แอนนา เพราะเธอโกนหัวเพื่อแสดงภาพยนตร์เรื่อง Mad Max: Fury Road (2015) อ่านต่อ»
  • ทาสรักอสูร - เอ็ม - บุษราคัม วงษ์คำเหลา เป็นคนเสนอให้คุณพ่อ หม่ำ - เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ผู้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับและนักแสดงบท นายหัวเพิ่ม คุยกับ พิ้งกี้ - สาวิกา ไชยเดช เพื่อนของ เอ็ม เพื่อรับบท อู้อี้ ซึ่ง พิงกี้ ก็ตกลงรับบทนี้ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Saand Ki Aankh Saand Ki Aankh Chandro Tomar (Bhumi Pednekar) และ Prekashi Tomar (Taapsee Pannu) พวกเธอทั้ง 2 อายุเกิน 60 ปีแล้ว เธอใด้สร้างแรงบันดาลใ...อ่านต่อ»