ร่วมค้นหาบทสรุปของ 3 วันแห่งความเจ็บปวดใน วันที่รัก

"วันที่รัก" หรือ "Together" ภาพยนตร์รักเคล้าอารมณ์เศร้าที่บอกเล่าเรื่องราวความรักผ่าน 3 วันแห่งความเจ็บปวด นั่นคือ วันที่อยากลืม วันที่ไม่ต้องการใคร และวันที่ไม่ตั้งใจ ผลงานการกำกับภาพยนตร์ของ "ยู - ษรัณยู จิราลักษม์" นำแสดงโดย "ปีเตอร์ - นพชัย ชัยนาม" "บิ๊ก - ทองภูมิ สิริพิพัฒน์" "ตู่ - กฤษณ เศรษฐธำรงค์" "จอย - โสภิตสุดา อิทธิเมธินทร์" และ "โบ๊ท - นิธิศ วารายานนท์" มือเบสจากวง "เดอะ เยอร์ส"

นอกจากนี้ยังมี "มิกกี้ - อิสรีย์ ทองธรรมโรจน์" "ครีม - นภัสสร เอี่ยมเจริญ" และ "กันต์ - กันต์ชนุตม์ เก่งการค้า" รวมถึง "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี" "ป๊อก - ปิยธิดา วรมุสิก" และ "ก้อง - สหรัถ สังคปรีชา" ที่ไม่ได้มาร่วมงาน

บรรยากาศในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง วันที่รัก เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ณ ลานอินฟินิซิตี้ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เริ่มขึ้นด้วยการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ "สิ่งดีดี" ของหนุ่ม กันต์ จากนั้นก็นั่งพูดคุยกับผู้กำกับและเหล่านักแสดงในเรื่อง โดยผู้กำกับ ยู กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "จริงๆ หนังเรื่องนี้พูดถึงความรักที่ถูกลืมระหว่างทางครับ หนังจะเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวดนิดๆ แต่สุดท้ายตอนจบจะอบอุ่นหัวใจนิดๆ ครับผม ก็เป็นหนังที่มีทุกอารมณ์ของความรัก มีทั้งความซึ้ง ความโรแมนติก ความดราม่าของครอบครัว ดูแล้วจะเต็มอิ่มกับความรู้สึกครับ"

นักแสดงรุ่นใหญ่ ตู่ พูดถึงบทบาทของตนเองว่า "เป็นพ่อ คุณอรทัย นะฮะ ตัวเอกในเรื่องนะครับ ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ครับ เป็นคนป่วยที่ครอบครัวไม่เคยรู้เรื่องเลย ชีวิตคนป่วยที่ครอบครัวและคนใกล้ชิดไม่รู้เรื่องเนี่ยเป็นจุดเปลี่ยนทำให้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนแปลง การกระทำตรงนั้นแม้แต่จะคิดที่จะทำยังไม่เคยคิดเลยครับ ตรงนั้นทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปโดยที่ครอบครัวก็ไม่รู้จุดบกพร่องของเราบางอย่าง บางคนไปจนถึงบั้นปลายชีวิตก็มี บางคนตลอดชีวิตเลยก็มี อยากจะให้ไปทัศนาชมกันนะฮะ"

ปีเตอร์ เอ่ยว่า "เล่นเป็น ชาติ ครับ ชาติก็เป็นสามีของคุณป๊อก เป็นครั้งแรกครับที่ได้เล่นบทที่เป็นเหมือนชีวิตดราม่า มีลูก เริ่มจะมองไม่เห็นในเรื่อง แต่ว่าครอบครัวก็ป่วยด้วยครับ" ฟากนักแสดงสาว จอย บอกว่า "รับบทเป็นจักษุแพทย์ค่ะ ชื่อว่า พรพรรณ นะคะ เป็นคุณหมอที่รักษาดวงตาให้คุณชาติแล้วก็ คุณนวล ก็คือพี่ป๊อกนั่นเองนะคะ ดูแลครอบครัวนี้ค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้อย่างที่พี่ยูบอกไว้นะคะก็เป็นเรื่องของความรักที่ถูกลืม เกือบถูกลืม แล้วก็พยายามจะลืม แต่สุดท้ายมันยังคงอยู่ค่ะ ไม่ได้หายไปไหนเลยค่ะ"

บิ๊ก เล่าให้ฟังว่า "ผมเป็น อาจารย์โตมร นะครับ เป็นอาจารย์สอนกีฏวิทยานะครับ ด้วยคาแรกเตอร์ของโตมรนะครับก็เป็นผู้ชายปกติทั่วไปที่มีชีวิตร่าเริงเริงร่า จนวันนึงโดนทิ้งไปก็ฮาไม่ออกครับวันนั้น" ด้านหนุ่ม กันต์ กล่าวว่ารับบทเป็นเด็กมัธยมปลาย "ผมเล่นเป็น โตส ครับผม เป็นเด็กมัธยมปลายคนนึงนะครับ ซึ่งก็มีความรักครั้งแรกของเขาแต่ว่ามันเกิดเหตุที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น" ฝ่าย ครีม พูดว่า "เรื่องนี้นะคะครีมก็เป็น หนอยแน่ เป็นแฟนของโตสแล้วก็ร่วมกันสร้างปัญหา เป็นวัยรุ่นที่สร้างปัญหา"

มิกกี้ บอกว่า "มิกกี้รับบทเป็น สุนิสา ค่ะ ซึ่งจะเป็นแฟนกับ ปฐมพงศ์ (รับบทโดย โบ๊ท) ค่ะ ก็จะมีปัญหาที่คล้ายๆ กับคู่นี้ (คู่ของ กันต์ กับ ครีม) เหมือนๆ กัน แต่ว่าเราจะใช้วิธีการแก้ปัญหาโดยการหนีปัญหาคือแบบหนีไปเลย คือด้วยความที่ตัวสุนิสาเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองมาก แก้ปัญหาได้ก็เลยคิดว่าหนีดีกว่า ซึ่งทำให้เรา 2 คนหนีแล้วไปเจอกับรถของท่านทูลกระหม่อมฯ แล้วก็เลยกลายเป็นปมต่อไปเรื่อยๆ เรา 2 คนก็เป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์โตมร" ส่วน โบ๊ท เพิ่มเติมว่า "ซึ่งอาจารย์โตมรเคยทำผิดพลาดลักษณะนี้ซ้ำมาแล้ว แล้วเรากำลังเจริญรอยตาม อาจารย์โตมรก็เลยยื่นคำปรึกษามาว่ามันไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง"

ผู้กำกับ ยู เล่าตัวอย่างปัญหาความรักในภาพยนตร์ให้ฟังว่า "แต่ละคู่ก็พูดถึงความรักที่แตกต่าง อย่างคู่เด็กวัยรุ่นก็พูดถึงรักแรกที่วุฒิภาวะไม่พร้อม แต่ว่าสุดท้ายเขาพยายามต่อสู้กับความรักแท้ที่มีแก่วุฒิภาวะที่ไม่พร้อม อย่างคู่สองเป็นคู่ครอบครัวพี่ป๊อก พี่ปีเตอร์ ก็พูดถึงความรักที่มาจากเพื่อนอันดับแรก ไม่ใช่ความรักที่มาจากความรักจริงๆ สุดท้ายเมื่อวันเวลามันผ่านไปมันก็เกิดปัญหา แต่สุดท้ายทุกอย่างแก้ปัญหาด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกัน"

นอกจากนี้ผู้กำกับยังเผยความยากง่ายในการเลือกนักแสดงว่า "จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องสะท้อนจากชีวิตมนุษย์จริงๆ สิ่งที่พูดคือความรักที่อยู่ในตัวของเราทุกคน เราจะทำยังไงให้รู้สึกว่าความเชื่อมันเกิดมา ถ้าเกิดเราไม่เชื่อความรักไม่เกิด คราวนี้สิ่งต่างๆ ก็เป็นองค์ประกอบการเลือกตัวละครที่เขาเชื่ออย่างนั้นจริงๆ แล้วคนดูก็เชื่อด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างก็คือผ่านการแคสติ้งที่ค่อนข้างเยอะมาก ทุกคนแม้กระทั่งพี่ป๊อกหรือใครที่เป็นซีเนียร์มากๆ ก็ยังอ่านบทก็ต้องมาแคสต์ ก็ขอบคุณทางเขาที่ให้เกียรติหนังเรื่องนี้ รู้สึกว่าเขารักบทหนังเรื่องนี้ก็เลยให้เกียรติมาแคสต์"

ตู่ เปิดใจถึงฉากที่ยากที่สุดว่า "ซีนในรถนะฮะ ซีนในรถที่อรทัยจะเอาไปส่งบ้านนอกที่เราคุ้นเคยอยู่หรือมีความทรงจำอยู่บางครั้ง ยากครับเพราะเป็นซีนที่ใกล้ชิดทูลกระหม่อมฯ แล้วก็ต้องใช้อารมณ์รวมถึงผู้กำกับ เพราะกล้องเน้นถ่ายใกล้ ยากมากครับ แล้วกังวลด้วย กังวลว่าต้องถ่ายนาน แล้วกังวลว่าตัวเราจะทำให้เสียเวลา รวมทั้งทูลกระหม่อมฯ นั่งอยู่ด้วย" ปีเตอร์ เผยว่า "ของผมน่าจะเป็นอันที่เห็นในตัวอย่างภาพยนตร์นะครับ ก็คืออันที่อยู่ในห้องมืดที่พี่ป๊อกเขาส่องดูสไลด์รูปอยู่ครับ ตอนแรกเหมือนจะคุยกันดีๆ แต่ก็บวกกับอาการทางร่างกายด้วย ตาบอดด้วย ทะเลาะกันด้วย จากนั้นก็ลากยาวขึ้นไปบนห้อง ค่อนข้างจะต่อเนื่องแล้วก็มีหลายอารมณ์อยู่ในนั้นครับ"

จอย พูดว่า "จริงๆ ก็น่าจะเป็นฉากที่เก็บอารมณ์แล้วก็ร้องไห้ค่ะ หมายถึงว่ายอมร้องไห้เพราะปกติตัวละครตัวนี้ต้องค่อนข้างจะแข็งนะคะ แต่เขาจะต้องมีแผลที่เยอะมากเหมือนกัน พอที่จะไม่เคยเปิดเผยให้ใครเห็นมาก่อนว่าแผลนี้เป็นยังไง แล้ววันนึงคนที่เคยทำแผลเกิดขึ้นมาอยู่ตรงหน้าเรา มันต้องค่อนข้างระเบิดออกมา" ฟาก กันต์ เอ่ยว่า "ซีนวิ่งในฝนครับผม พี่ยูให้ผมวิ่งในฝนแบบวิ่งแตะเส้นน่ะครับ ซึ่งเวลาวิ่งก้มมันจะเหนื่อยจะปวดขามาก แล้ววันนั้นวิ่งถ่ายประมาณหลายชั่วโมงมาก จนกระทั่งวิ่งไม่ไหวล้มไป พี่ยูบอกชอบ เอาล้มอย่างนั้นเลย แต่ออกมาภาพสวยมากครับ"

ด้านหนุ่ม บิ๊ก บอกว่า "ผมชอบซีนที่อาจารย์โตมรเอารูปไปเก็บแล้วก็เดินลงมาโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลย แล้วหันมาเจอคนๆ นึงที่เราไม่ได้เจอมานานมากแล้ว ซีนนั้นยากที่สุดเพราะว่าหนึ่งไม่มีไดอะล็อกครับ สองเป็นอารมณ์ที่พูดไม่ถูก เป็นอะไรทุกอย่างที่อยู่ในใจ หนึ่งเราเคยโดนทิ้ง สองคือมันมีล้านคำถามอยู่ในหัวเราตอนนั้น ซึ่งผมว่าอันนี้ยากครับ แล้วก็ใช้จำนวนเทกจำนวนคัตเยอะมาก"

มิกกี้ เล่าให้ฟังว่า "มิกกี้จะชอบตอนที่ไปถ่ายที่จังหวัดนครนายก ก็คือเป็นฉากที่อยู่บนภูเขาแล้วก็ต้องวิ่งตากฝน แล้วก็ต้องนั่งในรถเดียวกับคุณอรทัย หนึ่งคือเกร็งมากด้วย แล้วก็สองต้องพูดประโยคที่เป็นประโยคแบบคำคมทั้งสิ้นเลย ถ้าพูดผิดก็ไม่ได้ความหมายแล้วก็ไม่ได้อารมณ์ที่ต้องการจะสื่อจริงๆ ด้วย ก็เลยยากไปหมดเลย" โบ๊ท พูดว่า "ของผมฉากเดียวกันคือฉากตอนเปิดเรื่อง คือรถเสียไปเคาะรถคุณอรทัย เป็นฉากเดียวที่ต้องปะทะสายตา ต้องเคาะด้วยอารมณ์แล้วส่งอารมณ์ว่าขอไปด้วย รถเสีย ก็ไม่มีอะไรผ่านไปด้วยดี แต่ว่าได้รับคอมเมนต์มาว่าเด็กผู้ชายหน้าตาน่ากลัวจัง (หัวเราะ)"

ยู บอกสาเหตุที่มีฉากฝนตกเยอะๆ ว่า "อันนี้เป็นความคิดส่วนตัว คือผมเคยคิดหนังเรื่องนึงเป็นหนังสั้น เป็นเรื่องที่พูดถึงผู้หญิงผู้ชายที่อยู่ต่างจังหวัด วันนึงผู้ชายก็เข้ามากรุงเทพฯ แล้วผู้หญิงอยู่ที่ระนอง วันนึงพอเขาคิดถึงแฟนฝนก็จะตกทุกครั้งที่เขาคิดถึงแฟน แต่หนังเรื่องนั้นผมไม่ได้ทำ สุดท้ายผมก็เลยเอามาอะแด็ปเข้ามา รู้สึกว่าฝนในหนังทำให้หนังอบอวลไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เพราะเราเห็นฝนเนี่ยฝนเหมือนเป็นตัวแทนของความคิดถึง ความรัก ความเศร้า ทุกคนจะมีความหมายของฝนในแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน"

สำหรับสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากเรื่องนี้ ผู้กำกับกล่าวว่า "เมื่อมาดูปุ๊ปเนี่ยจะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นตัวกระตุ้นทำให้เขาคิดว่าสุดท้ายเนี่ยความรักที่เรามีอยู่เราลืมมันหรือยัง หรือเรายังไม่ลืม แล้วสุดท้ายความรักที่เรามีอยู่เราดูแลดีหรือยัง แล้วมันมีคุณค่ามากน้อยแค่ไหนกับเรา ณ ปัจจุบัน เหมือนได้รีเช็กตัวเองว่าความรักเราเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า"

ตู่ เอ่ยฝากภาพยนตร์ว่า "อยากจะบอกว่าชีวิตของคนเรามีจุดหักเหแตกต่างกันนะฮะ ขอเชิญท่านทุกคนร่วมกันทัศนาภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีทัศนะต่างๆ ในการอยู่ร่วมกัน ไปด้วยกัน Together วันที่รัก ครับ" ผู้กำกับพูดทิ้งท้ายว่า "หนังเรื่องนี้เป็นหนังง่ายๆ ที่พูดถึงหัวใจของตัวเราเอง แล้วก็หนังเรื่องนี้จะพูดถึงว่าอยากให้ความรักดำรงอยู่ต่อไป ไม่ว่าความรักจะเป็นแบบใด แค่นั้นเองครับ"

บทสรุปของความรักที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านช่วงเวลา 3 วันจะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ในภาพยนตร์เรื่อง วันที่รัก เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป