1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ฮิโระ ควงคู่ หลันเยี่ยน เปิดตัวภาพยนตร์ 3D Sex and Zen

ฮิโระ ควงคู่ หลันเยี่ยน เปิดตัวภาพยนตร์ 3D Sex and Zen

สร้างความฮือฮาได้ตั้งแต่เริ่มออกตัวประกาศว่าจะสร้างภาพยนตร์แนวอีโรติก 3 มิติเรื่องแรกของโลกออกมาให้ได้ดูกัน ท่ามกลางความสนใจของผู้ชมในหลายๆ ประเทศ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง "3D Sex and Zen" หรือในชื่อไทย "ตำรารักทะลุจอ" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างระหว่างฮ่องกง ญี่ปุ่น และจีน โดยทุ่มงบประมาณมากกว่า 100 ล้านบาท จากฝีมือการกำกับของ "คริสโตเฟอร์ ซุน" (Christopher Sun) หรือ "ซุนลี่จี" (Sun Li Ji)

นอกจากนั้นยังมีการซื้อนำไปฉายในหลายๆ ประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา และประเทศในทวีปยุโรป รวมถึงคอภาพยนตร์ชาวไทยที่ติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ก็จะมีโอกาสได้ชมกันแบบ 3 มิติในระยะเวลา 1 สัปดาห์ และมีการจัดระดับอายุผู้ชมว่าต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวาลัย สยามพารากอน ก็ได้มีการเปิดตัวรอบปฐมทัศน์เรื่องนี้ในเมืองไทย โดยมี 2 นักแสดงนำที่รับบทเป็นคู่สามีภรรยาในเรื่อง "ฮิโระ ฮายามะ" (Hiro Hayama) และ "หลันเยี่ยน" (Leni Lan หรือ Lan Yan) รวมถึง "มาร์ก หู" (Mark Wu) หรือ "หูเย่าฮุย" (Wu Yiu Fai) หนึ่งในผู้เขียนบทและนักแสดง มาพูดคุยถึงเรื่องราวในภาพยนตร์

มาร์ก บอกถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อนได้ไปคุยกับทีมโปรดักชันว่าตลาดหนังทรีดีกำลังบูม ก็เลยคิดว่าน่าจะทำหนังแนวใหม่ที่เป็นทรีดี หลังจากมีหนังเรื่อง Avatar ก็เลยได้แนวคิดว่าหนังแนวอีโรติกยังไม่ใครเคยทำ แล้วก็มั่นใจว่าหนังเรื่องนี้ต้องประสบความสำเร็จแน่นอนครับ" มาร์ก กล่าวถึงจุดเด่นที่เลือกเรื่องราวมานำเสนอเป็นภาพยนตร์ว่า "จะบอกเล่าถึงความรักของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งในอีกแนวทางหนึ่ง บอกเล่าในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่เคยได้เห็นกัน"

ฮิโระ พูดติดตลกถึงการตัดสินใจรับเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ในหนังเรื่องนี้ผมรับบทเป็นหนุ่มมากความสามารถ หน้าตาดี ซึ่งในชีวิตจริงผมเป็นอย่างนั้นไม่ได้ ก็เลยยอมรับที่จะเล่นหนังเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้ชดเชยในชีวิตจริงครับ" ด้าน หลันเยี่ยน กล่าวทักทายก่อนจะบอกถึงบทบาทที่ได้รับว่า "สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลันเยี่ยน (ภาษาไทย) ในหนังเรื่องนี้ฉันรับบทเป็นภรรยาที่เข้มแข็ง พยายามที่จะกู้ความรักของตัวเองกลับมาค่ะ"

มาร์ก เผยถึงในส่วนที่ตนเองต้องรับหน้าที่เป็นนักแสดงว่า "ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้หล่อเหมือนกับฮิโระ แต่ในหนังเรื่องนี้ผมก็ได้รับบทเป็นคนที่มีอิทธิพลในชีวิตของฮิโระในหนัง แล้วจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงยังไง ก็ต้องไปดูกันครับ" ฮิโระ พูดถึงฉากวาบหวิวที่ต้องแสดงกับเหล่านักแสดงสาวสวยว่า "ทุกคนคงจะคิดว่าในระหว่างการถ่ายทำ มีแต่สาวสวยมาห้อมล้อมผมเป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย ผมคิดว่ามันเป็นการทรมานครับ (หัวเราะ)" ส่วน หลันเยี่ยน บอกว่า "สำหรับตัวเองแล้ว มีฉากเซ็กซี่เยอะมาก แต่ว่าจะเป็นยังไงนั้นให้รอติดตามดูกันดีกว่า เพราะว่าจะได้เห็นอีกคนหนึ่งที่แตกต่างจากตัวฉันเองในตอนนี้ค่ะ"

มือเขียนบท มาร์ก เล่าถึงการถ่ายทำภาพยนตร์แบบ 3 มิติให้ฟังว่า "การถ่ายทำแบบ 3 มิติ มุมต่างๆ จะแตกต่างจากการถ่ายหนังแบบ 2 มิติมาก ซึ่งทีมงานทุกๆ คนก็เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เพราะว่าก็ไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านนี้เยอะ ฉาก 2 มิติกับฉาก 3 มิติจะแตกต่างกันมาก ก็ต้องคอยดูว่าถ้าถ่ายแบบ 3 มิติจะต้องเปลี่ยนมุมยังไง ต่างการจากถ่ายแบบ 2 มิติยังไง" ฮิโระ เสริมว่า "สำหรับตัวผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นการปลุกกระแสการถ่ายทำหนังแบบ 3 มิติ ก็หวังว่าหนังเรื่องอื่นๆ หลังจากนี้จะพัฒนาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ"

หลันเยี่ยน พูดถึงสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากการชมภาพยนตร์ว่า "สำหรับตัวเองคิดว่าเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้อยู่ตรงที่เป็นหนังอีโรติกเรื่องแรกของโลก ก็อยากให้ทุกๆ คนช่วยติดตามกัน หลังจากไปดูหนังเรื่องนี้แล้วจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักว่าเราจะต้องคอยดูแลเอาใจใส่กัน เพื่อที่จะได้ประคับประคองความรักให้ก้าวต่อไปได้ในวันข้างหน้าค่ะ" ฮิโระ บอกว่า "หลังจากที่ได้ไปฉายในหลายๆ ประเทศ ผู้ชมก็ให้ความสนใจและเข้าใจในหนังเรื่องนี้มากขึ้น ผมก็หวังว่าทุกๆ คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะกลับไปดูแลตรวจสอบคนรักที่อยู่ข้างๆ เพื่อให้ความรักดำเนินต่อไปครับ"

มาร์ก กล่าวทิ้งท้ายว่า "หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นการรีแพ็กวรรณกรรมเก่ามาทำให้เป็นรูปแบบใหม่ที่ใช้นวัตกรรมที่ล้ำสมัย ก็ต้องขอขอบคุณบริษัททางเมืองไทยที่จัดงานในวันนี้ขึ้นมาได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แล้วก็ขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ด้วยครับ"

ติดตามปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลกกับภาพยนตร์แนวอีโรติกเรื่อง 3D Sex and Zen ซึ่งจะเข้าฉายในระบบ 3 มิติ ระหว่างวันที่ 9-15 มิถุนายน นี้ ส่วนฉบับ 2 มิติ เสียงจีน ติดตามชมได้ที่โรงภาพยนตร์เฮาส์ ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน นี้เป็นต้นไป

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • Law Abiding Citizen
    เข้าฉายปี 2009
    แสดง Jamie Foxx, Gerard Butler, Colm Meaney
  • City of Ember
    เข้าฉายปี 2008
    แสดง Saoirse Ronan, Harry Treadaway, Bill Murray
  • Max Payne
    เข้าฉายปี 2008
    แสดง Mark Wahlberg, Ludacris, Chris O'Donnell

เกร็ดภาพยนตร์

  • Exposed - จี มาลิก ลินตัน ผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์ ต่อสู้เพื่อให้ชื่อของเขาถูกถอดออกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะฉบับดั้งเดิมที่เขาตั้งใจสร้างคือภาพยนตร์ที่พูดภาษาสเปน 70 เปอร์เซ็นต์ เกี่ยวกับการสังหารคนหมู่มาก การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการใช้กำลังทำร้ายเด็กและผู้หญิง โดยมี อิซาเบล ที่แสดงโดย อานา เด อาร์มาส เป็นตัวละครนำเรื่อง แต่ภายหลังกลับถูกตัดต่อให้กลายเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับตำรวจสืบสวน กัลบัน ที่รับบทโดย คีนู รีฟส์ ซึ่งเดิมถูกวางไว้เป็นนักแสดงสมทบ สุดท้ายชื่อผู้กำกับได้เปลี่ยนเป็นชื่อ ดีแคลน เดล ซึ่งเป็นชื่อสมมติแทน อ่านต่อ»
  • The Revenant - ถ่ายทำตามลำดับเหตุการณ์ตามตารางถ่ายทำ 80 วัน ที่กำหนดวันกระจายกินเวลาถึง 9 เดือน ซึ่งนับเป็นระยะเวลาการถ่ายทำที่ยาวนานมาเป็นพิเศษ เพราะภาพยนตร์ถ่ายทำในสภาพอากาศหนาวเย็น สถานที่ห่างไกลความเจริญ และตัวผู้กำกับ อเลฮันโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู และผู้กำกับภาพ เอ็มมานูเอล ลูเบซกี ตั้งใจถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยแสงธรรมชาติเท่านั้นเพื่อให้สมจริงที่สุด ทำให้เวลาการถ่ายทำของแต่ละวันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวของ เวโรนิกา เฮนลีย์ (จาแนล โมเน) นักเขียนสาวระดับสุดยอดหนังสือขายดี พบว่าตัวเองติดในอีกโลกความเป็นจริงอันน่าก...อ่านต่อ»