อัลบัม The Eight Dimensions - Jay Chou

ตั้งแต่ เจย์ ยังไม่ทันเดินได้ด้วยซ้ำไป ที่บ้านก็เริ่มเห็นแววอัจฉริยะทางดนตรีของเขา เพราะแค่ได้ยินเพลงป๊อปสากล เจย์ก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ออกท่าทางตามจังหวะทันที ประกอบกับการเล่นเปียโนเป็นความฝันของคุณพ่อ ซึ่งไม่มีโอกาสได้เรียน เพราะขัดสนทางการเงิน ก็เลยอยากให้ลูกชายมาสานฝันต่อ

ปี 1998 เจย์ ก็เริ่มเข้าวงการในฐานะเบื้องหลัง แต่งเพลงให้ศิลปินร้องทั้งที่ยังเรียนหนังสืออยู่ อาทิ แจ๊กกี้ หวู, หวังลี่หง, จางเสวียโหย่ว, ไช่อี้หลิน ฯลฯ ก่อนจะเริ่มมีผลงานเป็นของตัวเองครั้งแรกเมื่อปี 2000 ตอนที่เขาอายุได้ 21 ปี

อัลบั้มชุดแรก Jay Album ของ เจย์ ได้ แจ๊กกี้ หวู โปรดิวซ์รวมทั้งเป็นผู้จัดการให้ด้วย โดยเจย์ได้แสดงความเป็นศิลปินรอบด้าน ทั้งร้อง แต่งเนื้อร้อง แต่งทำนอง เรียบเรียง และ โปรดิวซ์เองคนเดียว และได้สาวสวย วิเวียน ฉู่ ช่วยแต่งเนื้อร้องเพลง Tornado, Cannot Speak กับ Lovable Woman ให้ด้วย ยอดขายงานชุดแรกได้ถึง 400,000 แผ่น

กันยายน 2001 ภายในเวลาไม่ถึงปี เจย์ ก็ออกอัลบั้มที่ 2 Fantasy งานชุดนี้ เจย์ ผสมผสานแนวร็อก, คลาสสิก, ฮิปฮ็อป รวมทั้ง อาร์แอนด์บีแบบจีนๆ โดยใช้เครื่องดนตรีแบบจีนโบราณใส่ลงไปด้วย ยอดขายชุดนี้ทั่วเอเชียสูงถึง 700,000 แผ่นทั่วเอเชีย

Eight Dimensions ออกตามมาอย่างรวดเร็วทิ้งช่วงห่างจากชุดที่แล้ว 10 เดือน อัลบั้มชุดนี้ใช้เวลาบันทึกเสียงแค่เดือนเดียว เพราะ เจย์ มีตารางที่รัดตัวมาก แต่อัลบั้มนี้ก็ยังคว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวมาได้ถึงสองแผ่น

เดิมทีจะตั้งชื่ออัลบั้มว่า 8:1 แต่ต้นสังกัดเห็นว่าใช้ชื่อ Eight Dimensions จะเหมาะกว่า อัลบั้มชุดนี้เปิดตัวกันด้วยซิงเกิ้ลแรก The Last Battle ซึ่งได้วงปักกิ่ง เอเชีย ฟิลฮาร์โมนิค มาร่วมบรรเลงด้วย

Eight Dimensions สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการดนตรีในไต้หวันในเมื่อ เจย์ สามารถกวาดรางวัลจากงาน Golden Melody Awards (แกรมมี่ของไต้หวัน) กลับบ้านมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาถึง 5 รางวัล นอกจากนี้ เขายังคว้ารางวัล Best Asian Artist Award มาครองได้สำเร็จจากงาน MTV Video Music Awards 2002 ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์

เพลงเด่นในอัลบั้มนี้ ได้แก่ Ye Ye Pao De Cha หรือ Grandfather's Tea ซึ่งเป็นเพลงประกอบโฆษณามือถือยี่ห้อหนึ่งด้วย