อัลบัม Born To Die - Lana Del Rey

น้ำเสียงทุ้มลึกมีเสน่ห์ของ ลานา เดล เรย์ (Lana Del Rey) จาก Video Games ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2011 สร้างความกระหายใคร่รู่ให้แก่ผู้ฟังว่าสาวคนนี้เป็นใครมาจากไหน และสร้างความคาดหวังด้วยเช่นกันว่าอัลบั้มเต็มของเธอจะเป็นอย่างไร ซึ่ง ลานา ก็ไม่ปล่อยให้นานเกินรอ เมื่อเธอส่ง Born To Die อัลบั้มเปิดตัวชุดแรกที่อัดแน่นด้วย 12 เพลง และเพลงพิเศษอีก 3 เพลง จากฝีมือการร่วมแต่งเนื้อร้องทุกเพลงในอัลบั้มโดย ลานา

ภาพรวมของเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนั้นให้บรรยากาศย้อนยุคจากการนำดนตรีแนวป๊อปและอเมริกานายุค 60 มาเป็นส่วนผสมหลัก โดยนำมาเรียบเรียงเข้ากับดนตรีฮิปฮอปอาร์แอนด์บีร่วมสมัย ซิงเกิลเปิดตัว Video Games ว่าด้วยการถูกทอดทิ้งและความสุขจอมปลอมที่เป็นเพียงภาพลวงตา เพิ่มความเศร้าในบทเพลงให้เด่นชัดด้วยเสียงพิณและเครื่องสายที่บรรเลงคลอตลอดทั้งเพลง

ความเศร้าในน้ำเสียงของ ลานา ยังพบได้ในซิงเกิลต่อมาอย่าง Born To Die เพลงที่เนื้อหาดูมืดมนแต่ก็เป็นสัจธรรมของชีวิต การเปลี่ยนระดับและรูปแบบการใช้เสียงของ ลานา ทำให้บทเพลงดูมีมิติและมีแรงดึงดูดให้เปิดฟังซ้ำๆ ได้ ฟาก Blue Jeans ยังมีร่องรอยความคล้ายคลึงของ 2 ซิงเกิลแรกของเธออยู่บ้าง แต่ที่ต่างออกไปคือการออดอ้อนที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงของเธอเมื่อแสดงความรู้สึกที่มีต่อคนรักในบทเพลง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของ ลานา โดยมีเสียงเปียโนที่ทำให้ย้อนบรรยากาศไปถึงเพลงป๊อปในยุคเก่า

Summertime Sadness เป็นเพลงป๊อปที่จังหวะถูกเร่งให้หนักและเร็วขึ้นเล็กน้อย ทางเนื้อหาก็ยังเกี่ยวกับวันเศร้าๆ ของ ลานา ที่ต้องห่างคนรักไป ส่วน Diet Mountain Dew มีกลิ่นอายฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีจางๆ ในท่วงทำนอง ถึงจะเศร้าแต่ก็ไม่ซึมลึกเหมือนเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม ด้าน National Anthem เปิดเพลงด้วยเครื่องสายและเบส เสียงกลองแบบทหารที่ให้จังหวะกับการร้องแรปเบาๆ ของ ลานา ทำให้เพลงนี้มีความเป็นอาร์แอนด์บีมากขึ้น ขณะที่ Carmen เป็นเพลงช้าที่ออกมาเตือนหนุ่มสาวไม่ให้หลงระเริงไปกับชื่อเสียง