อยากผ่อนรถดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม ให้การรีไฟแนนซ์รถช่วยประหยัดเงินได้มากกว่า

การซื้อของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างรถยนต์ในสมัยนี้มักจะไม่ค่อยใช้เงินสดเป็นก้อนมาจ่ายแบบทีเดียว ไม่ว่าจะเพราะเงินสดไม่พอ หรือบางครั้งการผ่อนจ่ายก็ให้สิทธิประโยชน์หลายอย่าง หลายสถาบันการเงินก็ออกโปรโมชันดึงดูดให้ผู้คนมาซื้อรถด้วยการผ่อนจ่าย โดยในช่วงแรกทางสถาบันการเงินมักจะจัดโปรโมชันให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ แต่เมื่อผ่อนไป ๆ มา ๆ ผู้กู้ก็ต้องกลับมาจ่ายดอกเบี้ยแพงอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ทำให้มีหลายคนที่อาจเริ่มมีปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง เริ่มจะผ่อนต่อไม่ไหวก็อยากจะหาทางออก ทางสถาบันการเงินก็มีอีกวิธีที่ช่วยให้คุณสามารถผ่อนชำระหนี้ต่อได้โดยที่จ่ายดอกเบี้ยต่ำลง โดยการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั่นเอง

หลายคนอาจเคยได้ยินถึงการรีไฟแนนซ์รถกันมาบ้างแต่อาจยังไม่เข้าใจ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร เป็นประโยชน์ต่อการชำระหนี้ของคุณอย่างไรบ้าง แล้วถ้าอยากจะเอารถเข้ารีไฟแนนซ์รถจะต้องทำอย่างไร

รีไฟแนนซ์รถ คืออะไร

การรีไฟแนนซ์รถยนต์คือการกู้เงินจากสถาบันการเงินหรือธนาคารแห่งใหม่มาเพื่อนำเงินก้อนมาชำระหนี้ทั้งหมดกับสถาบันการเงินหรือธนาคารเดิม (หรือในบางครั้งก็สามารถรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิมได้) โดยผู้กู้จะสามารถผ่อนจ่ายชำระในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม ช่วยให้ผู้กู้สามารถชำระหนี้ต่อไปจนหมดหนี้ได้

ทำไมการรีไฟแนนซ์รถจึงทำให้การผ่อนชำระดอกเบี้ยต่ำกว่าการผ่อนชำระด้วยสัญญาสินเชื่อเดิมไปเรื่อย ๆ ?

ปกติแล้วเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาขอสินเชื่อรถยนต์เพื่อผ่อนชำระกับสถาบันการเงินหรือธนาคารนั้น ๆ ก็มักจะออกโปรโมชันดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรก แต่เมื่อผู้กู้ที่ทำสินเชื่อรถยนต์นั้นผ่านการผ่อนชำระไประยะหนึ่งจนหมดช่วงโปรโมชัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับเด้งกลับไปสูงเช่นเดิม ผู้กู้จึงรู้สึกว่ายิ่งผ่อนชำระดอกเบี้ยยิ่งแพง ใช้เงินผ่อนชำระต่องวดเยอะขึ้น เหลือเงินไว้ใช้จ่ายน้อยลง

และเพื่อคงการชำระต่อเดือนในราคาเท่าเดิม หลายคนอาจเลือกการจ่ายขั้นต่ำแทน แต่การทำเช่นนั้นยิ่งทำให้ยอดเงินต้นไม่ได้ลดลงมากนัก แต่จ่ายดอกสูงขึ้นแทน และทำให้ปิดหนี้ยากขึ้นไปอีก

เพื่อให้ผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้ต่อไป ไม่กลายเป็นหนี้เสีย ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจึงออกผลิตภัณฑ์รีไฟแนนซ์รถยนต์ ให้ผู้กู้ได้กลับไปผ่อนจ่ายในอัตราดอกเบี้ยโปรโมชันอีกครั้งกับสัญญาสินเชื่อฉบับใหม่แทน ช่วยให้คุณประหยัดค่าดอกเบี้ยได้มาก อีกทั้งยังทำให้คุณสามารถกลับมาจ่ายเงินต้นได้มากขึ้น และปิดหนี้ได้ไวกว่า

โดยรถยนต์ที่สามารถนำมารีไฟแนนซ์รถยนต์ได้นั้นมักจะต้องผ่านการผ่อนจ่ายกับสถาบันการเงินเดิมหรือธนาคารเดิมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด และด้วยเงื่อนไขนี้จึงทำให้การรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นมักจะมีวงเงินส่วนต่างที่ได้จากสถาบันการเงินใหม่ให้มา วงเงินเกินส่วนนั้นผู้กู้เลือกที่จะนำมาใช้จ่ายอเนกประสงค์แล้วผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือจะเลือกรับวงเงินแค่พอปิดหนี้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารเดิมก็ได้เช่นกัน

รีไฟแนนซ์รถ กับ สินเชื่อรถแลกเงิน ต่างกันอย่างไร


เชื่อว่าหลายคนอาจยังแยกผลิตภัณฑ์ทางการเงินระหว่างรีไฟแนนซ์รถกับสินเชื่อรถแลกเงินไม่ออก ในหัวข้อนี้เราจะมาบอกถึงความแตกต่างของทั้งสองตัวนี้กัน

การรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับผู้ที่มีรถติดผ่อน รถยังไม่ปลดภาระหนี้ โดยผู้กู้สามารถนำรถยนต์ไปยื่นขอรีไฟแนนซ์รถกับสถาบันการเงินเดิมใหม่ เพื่อขอวงเงินกู้ไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินเดิม แล้วมาผ่อนต่อกับสถาบันการเงินใหม่แทน

แต่สินเชื่อรถแลกเงินนั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ปลอดหนี้ ไม่ติดผ่อนชำระกับสถาบันการเงินหรือธนาคารไหนอยู่ และจะต้องเป็นผู้ที่เป็นเจ้าของรถ เจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นผู้ขอสินเชื่อรถแลกเงินเท่านั้น

โดยผู้กู้สามารถนำรถไปขอสินเชื่อรถแลกเงิน ทางธนาคารจะพิจารณาและประเมินวงเงินที่อนุมัติ ผู้กู้จะได้วงเงินไปใช้จ่ายอเนกประสงค์แลกกับการโอนกรรมสิทธิ์ตัวรถไปให้เจ้าหนี้ โดยมีสัญญาว่าผู้กู้จะได้รับกรรมสิทธิ์คืนเมื่อผ่อนชำระเงินกู้หมดนั่นเอง

ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเพื่อรีไฟแนนซ์รถ มีอะไรบ้าง

หลาย ๆ คนมักจะบอกว่าการรีไฟแนนซ์รถจะช่วยให้คุณประหยัดเงินมากกว่า แต่หลายครั้งคนที่บอกคุณมักจะไม่ได้บอกถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินเรื่องเพื่อรีไฟแนนซ์รถไว้ด้วย ผู้กู้จำเป็นจะต้องชั่งน้ำหนักในเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียระหว่างการดำเนินการรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ดีเสียก่อน เพราะหากดูโปรโมชั่นไม่ดี การรีไฟแนนซ์อาจทำให้คุณต้องจ่ายเงินเพิ่มโดยไม่จำเป็น

ค่าใช้จ่ายที่มักจะต้องเสียเพื่อรีไฟแนนซ์รถมีดังนี้

-  ค่าประเมินหลักประกัน

การที่สถาบันการเงินหรือธนาคารแห่งใหม่จะให้วงเงินกู้กับคุณจะต้องมีการประเมินหลักประกันเสียก่อนว่าหลักประกันนั้น ๆ มีมูลค่าเท่าไหร่ การประเมินหลักประกันอย่างรถยนต์มักจะมีค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถ ค่าใช้จ่ายในการส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมิน เป็นต้น

สำหรับค่าประเมินหลักประกันนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสัญญารีไฟแนนซ์รถฉบับนั้น ๆ แต่อย่างไรก็ตามก็มีหลายธนาคารที่มีโปรโมชันยกเว้นค่าใช้จ่ายในการประเมินหลักประกันให้ด้วย

-  ค่าธรรมเนียมการจัดรีไฟแนนซ์รถยนต์

เพราะการรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นการย้ายจากสถาบันการเงินหรือธนาคารเก่ามาที่ใหม่ ทำให้มีค่าใช้จ่ายจำพวกการโยกย้ายเอกสารจากที่เก่าไปที่ใหม่เข้ามาด้วย เช่น ค่าดำเนินการ ค่าอากรแสตมป์ ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ โดยค่าใช้จ่ายตรงนี้ทางธนาคารจะหักจากวงเงินกู้ที่อนุมัติไป แต่หากผู้กู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิมหรือธนาคารเดิมส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้

-  ค่าปิดบัญชีสินเชื่อกับธนาคารเก่า

เมื่อสถาบันการเงินหรือธนาคารแห่งใหม่อนุมัติวงเงินกู้มาแล้ว ผู้กู้จะได้เงินก้อนไปปิดหนี้กับธนาคารเก่า บางครั้งทางธนาคารเก่ามักเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการปิดบัญชีด้วย แต่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็มักจะหักจากวงเงินกู้ใหม่เช่นกัน

รีไฟแนนซ์รถเหมาะกับใคร


การรีไฟแนนซ์รถยนต์เหมาะกับใครบ้าง ?

-  ผู้ที่ต้องการลดการชำระดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำลง
-  ผู้ที่ต้องการเงินก้อน เงินด้วน (เพราะการรีไฟแนนซ์รถยนต์มักมีวงเงินส่วนต่าง สามารถนำเงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายอเนกประสงค์ได้)
-  ผู้ที่มีรถยนต์ที่ผ่านการผ่อนชำระมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด
-  ผู้ที่มีรายได้ประจำหรือไม่มีรายได้ประจำก็สามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้

ข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์รถ

ลองมาดูถึงข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์รถ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจถึงการนำรถไปรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ง่ายขึ้น

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถ

-  ช่วยให้คุณสามารถผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยต่ำ (กลับไปผ่อนชำระดอกเบี้ยในอัตราโปรโมชัน)
-  ช่วยให้คุณผ่อนชำระยอดต่อเดือนลดลง
-  การรีไฟแนนซ์มักจะมีวงเงินส่วนเกินนำมาใช้จ่ายอเนกประสงค์แล้วผ่อนคืนในอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับคุณได้
-  ผู้กู้สามารถนำรถยนต์ไปใช้งานได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องผ่อนชำระหมดแล้วถึงจะใช้รถได้

ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์รถ

-  มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเรื่องรีไฟแนนซ์รถ
-  ระยะเวลาปิดหนี้ช้าลง ผ่อนจ่ายนานขึ้น

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถ


เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าต้องการจะรีไฟแนนซ์รถ สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ได้เลย

1. เปรียบเทียบโปรโมชันรีไฟแนนซ์รถ
เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด ควรจะค้นหาโปรโมชันรีไฟแนนซ์รถของแต่ละที่แล้วนำมาเปรียบเทียบกันก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกขอรีไฟแนนซ์ที่ไหน

2. ยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์รถ
เมื่อผู้กู้ตัดสินใจเลือกรีไฟแนนซ์รถกับที่ไหนโปรโมชั่นไหนได้แล้ว ต่อมาให้ทำการเตรียมเอกสารสำหรับขอรีไฟแนนซ์ เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เล่มทะเบียนรถ เอกสารแสดงรายได้ และอื่น ๆ ตามที่สถาบันการเงินหรือธนาคารเรียกขอ

3. พิจารณาวงเงินกู้ใหม่
เมื่อยื่นเอกสารให้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารใหม่แล้วมักจะมีการส่งเจ้าหน้าที่หรือให้เรานำหลักประกัน (รถยนต์) ไปเช็คสภาพก่อน และนำผลการเช็คสภาพรถประกอบกับข้อมูลของผู้กู้มาเพื่อประเมินวงเงินกู้ว่าจะปล่อยให้ผู้กู้ได้เท่าไหร่

4. แจ้งผลอนุมัติเงินกู้รีไฟแนนซืรถยนต์
เมื่อการพิจารณาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะติดต่อผู้กู้เพื่อแจ้งผลการรีไฟแนนซ์รถ จากนั้นจะมีการนัดเข้ามาทำสัญญาสินเชื่อใหม่ และจ่ายเงินก้อนให้ผู้กู้นำไปชำระหนี้กับที่เก่าต่อไป

การดำเนินการรีไฟแนนซ์รถไม่ใช่เรื่องยาก แต่สามารถทำให้ง่ายกว่าเดิมด้วยการรีไฟแนนซ์รถยนต์ผ่าน Refinn เราได้รวบรวมโปรโมชันจากสถาบันการเงินและธนาคารชั้นนำที่เป้นพันธมิตรกับเรา เพียงคุณใส่เงื่อนไขไม่กี่ตัวเลือกระบบก็สามารถคัดเลือกโปรโมชันรีไฟแนนซ์รถที่เหมาะที่สุดให้กับคุณทันที

นอกจากนี้ยังสามารถยื่นเอกสารรีไฟแนนซ์รถกับสถาบันการเงินต่าง ๆ พร้อมกันผ่าน Refinn ได้เลย ประหยัดเวลา สะดวกยิ่งกว่า พร้อมทั้งเรายังสามารถตามผลอนุมัติให้คุณได้อีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรีไฟแนนซ์รถ


วงเงินสูงสุดของรีไฟแนนซ์รถคือเท่าไร?

เมื่อคุณขอรีไฟแนนซ์รถกับที่ใหม่ ปกติแล้วมักจะอนุมัติวงเงินให้กับผู้กู้ไม่เกินมูลค่าโดยเฉลี่ยของรถยนต์ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์นั้น ๆ อย่างเช่น มูลค่าเดิมของรถยนต์อยู่ที่ 1,000,000 บาท นำรถยนต์ไปประเมินแล้วอยู่ที่ 800,000 บาท ทางธนาคารมักจะอนุมัติให้ไม่เกิน 800,000 บาท เป็นต้น

สามารถทำรีไฟแนนซ์รถหลายๆ คัน พร้อมกันได้หรือไม่?

หากผู้กู้มีรถหลายคัน และอยากนำไปรีไฟแนนซ์รถยนต์พร้อม ๆ กันหลายคันสามารถทำได้ปกติ

ข้อสรุปเกี่ยวกับรีไฟแนนซ์รถ

การรีไฟแนนซ์รถเป็นการกู้เงินก้อนจากสถาบันการเงินใหม่เพื่อนำมาปิดยอดหนี้เก่ากับสถาบันการเงินเดิม โดยมีเงื่อนไขว่าการชำระดอกเบี้ยหลังรีไฟแนนซ์รถยนต์จะต้องถูกกว่าการชำระดอกเบี้ยที่เดิม

อีกทั้งการรีไฟแนนซ์รถยนต์ยังมีประโยชน์ในกรณีที่คุณต้องการเงินก้อนด่วน เพราะการรีไฟแนนซ์รถมาที่ใหม่มักจะมีวงเงินที่เกินมาจากการชำระที่เก่า เงินส่วนต่างนี้สามารถนำมาใช้จ่ายอเนกประสงค์แล้วผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าการขอสินเชื่อส่วนบุคคลนั่นเอง