จาเรด เลโต ชวนค้นหาความหมายของชีวิตใน Mr. Nobody

"จาเรด เลโต" (Jared Leto) พักงานในฐานะนักร้องและนักดนตรีจากวงร็อก "เธอร์ตี เซเคินด์ส ทู มาร์ส" (30 Seconds To Mars) มาจับงานแสดงภาพยนตร์อีกครั้งใน "Mr. Nobody" ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์แฝงปรัชญาชีวิตที่มาพร้อมโครงเรื่องซับซ้อนแหวกแนว ผลงานภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรกของผู้กำกับชาวเบลเยียม "จาโก แวน ดอร์แมล" (Jaco van Dormael)

จาเรด รับบทเป็น นีโม โนบอดี ชายอายุ 120 ปี ในปีคริสตศักราช 2092 ซึ่งวิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามากจนดาวอังคารกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว นีโม พบว่าตนเป็นคนสุดท้ายและคนเดียวในโลกที่ไม่ได้เป็นอมตะ ขณะเฝ้ารอคอยความตายอยู่นั้น เขาพยายามขบคิดด้วยความทรงจำอันเลือนรางว่าเขาใช้ชีวิตมาอย่างถูกต้องหรือไม่ ทั้งในฐานะลูก สามี และคุณพ่อของใครบางคน

จาเรด กล่าวถึงตัวละครของเขาว่า "ผมแสดงเป็นคนๆ เดียวตั้ง 12 รูปแบบ เป็นตัวละครที่แตกต่างกันไป 12 ตัว คุณจะได้เห็นบางตัวแค่ฉากเดียว และมีตัวหนึ่งที่คุณจะได้เห็นแค่ในฉากหลังเท่านั้น" สำหรับตัวภาพยนตร์โดยรวมนั้น จาเรด มีความเห็นว่า "มันเป็นทั้งภาพยนตร์บู๊ ระทึกขวัญ ตลก แล้วก็เรื่องรักด้วย มันอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดเท่าที่เราเคยทำ หรืออาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดก็ได้ ภาพยนตร์ก็เป็นแบบนี้เสมอแหละครับ"

ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องด้วยบรรยากาศเหนือจริงและซับซ้อน ซึ่งแสดงให้เห็นปรากฏการณ์ผีเสื้อ (Butterfly Effect) ว่าคนๆ หนึ่งสามารถใช้ชีวิตได้แตกต่างหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกขณะเกิดเหตุการณ์สำคัญในชีวิตแต่ละครั้ง ผู้กำกับ จาโก กล่าวสรุปว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกว่าทุกชีวิตล้วนน่าสนใจและทุกชีวิตล้วนยากลำบาก สิ่งที่ยอดเยี่ยมก็คือการจินตนาการถึงทุกสิ่งที่เคยทำมาโดยไม่รู้สึกเสียใจอะไร ผมตระหนักว่าผมไม่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผมได้ แต่ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งคิดว่าชีวิตเป็นเรื่องสนุกมากขึ้นเท่านั้น"

นักแสดงสาวที่เป็นแรงบันดาลใจให้ จาโก สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษ คือ "ซารา พอลลีย์" (Sarah Polley) เธอรับบทเป็น เอลิส คนรักของ นีโม ขณะที่ "ไดแอน ครูเกอร์" (Diane Kruger) และ "ลิงห์ดานฟาม" (Linh Dan Pham) แสดงเป็นภรรยาของ นีโม ในอีก 2 รูปแบบชีวิตที่ต่างออกไป ส่วน "รีส อิฟานส์" (Rhys Ifans) และ "นาตาชา ลิตเทิล" (Natasha Little) แสดงเป็นคุณพ่อและคุณแม่ที่แยกทางกันของ นีโม

นอกจากรายชื่อนักแสดงและทุนสร้างก้อนโต 58 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่จับตามอง คือการกลับมาของ จาโก ที่ทิ้งเก้าอี้ผู้กำกับไปนานกว่า 10 ปี ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเขาคือ "The Eighth Day" ผลงานเมื่อปี 1996 ที่ส่ง 2 นักแสดงนำ "แดเนียล โอเตยล์" (Daniel Auteuil) และ "ปาสกาล ดูเคนน์" (Pascal Duquenne) ขึ้นแท่นนักแสดงยอดเยี่ยมในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานน์ส

แท้จริงแล้ว จาโก เตรียมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2001 แล้ว แต่ใช้เวลาขัดเกลาบทภาพยนตร์นานถึง 6-7 ปี จากนั้นจึงเริ่มถ่ายทำในปี 2007 ในประเทศเบลเยียม เยอรมนี และแคนาดา ปิดท้ายด้วยงานหนักของแผนกสร้างภาพพิเศษที่กินเวลาไปอีกราว 1 ปีเต็ม ในที่สุด Mr. Nobody ก็พร้อมเข้าฉายภายในปีนี้บางประเทศในทวีปยุโรป แต่ขณะนี้ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ผู้ที่สนใจชมเรื่องนี้จึงต้องรอลุ้นกันต่อไป