1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

แม่เบี้ย พร้อมตีแผ่ทุกบทสรุปของผู้ลุ่มหลงในตัณหา

แม่เบี้ย พร้อมตีแผ่ทุกบทสรุปของผู้ลุ่มหลงในตัณหา

"หม่อมน้อย - หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล" ผู้กำกับชั้นครูที่ได้หยิบบทประพันธ์ของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "วาณิช จรุงกิจอนันต์" เรื่อง "แม่เบี้ย" ออกมาตีความใหม่พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวเป็นภาพยนตร์แนวดราม่า-อีโรติกเรื่อง "แม่เบี้ย" ที่เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน ซึ่งครั้งนี้ได้ "ชาคริต แย้มนาม" มาสวมบท ชนะชล นักธุรกิจหนุ่มที่เกิดความลุ่มหลงในความเร้นลับของบรรยากาศเรือนไทยโบราณ ส่วนตัวละคร เมขลา เจ้าของเรือนไทย แสดงโดย "อ้อม - กานต์พิสชา เกตุมณี" ร่วมด้วยนักแสดงที่จะมาเพิ่มความเข้มข้นของเรื่องราวอีกมากมาย อาทิ "ฮัท - จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร" "แม็กกี้ - อาภา ภาวิไล" "เจี๊ยบ - ศักราช ฤกษ์ธำรงค์" และ "ต๊อบ - ชัยวัฒน์ ทองแสง" โดยจัดงานแถลงข่าวภาพยนตร์กันไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 ณ โรงภาพยนตร์ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต

หม่อมน้อย ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้คิดสร้าง แม่เบี้ย ขึ้นมาว่า "มันเป็นเวอร์ชันที่แตกต่างจากทุกเวอร์ชันที่ทำนะครับ ผมได้แรงบันดาลใจมาจากที่มีข่าวว่ามีแม่ลูกคู่หนึ่งที่มาจากอเมริกา แล้วก็แต่งชุดไทยเข้าไปในห้างสรรพสินค้า แล้วก็มีคำวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าโอเวอร์บ้างอะไรๆ บ้าง ทีนี้มันทำให้ผมกลับไปคิดว่าตอนเราไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วประเทศเขาไฮเทคกว่าเราตั้งเยอะ แล้วก็คนญี่ปุ่นใส่ชุดญี่ปุ่น ใส่กิโมโน เขาทำสิ่งที่น่านับถือมาก ทำให้ผมคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไทยที่มองวัฒนธรรมของตัวเอง ในขณะที่ประเทศเราไฮเทคน้อยกว่าเขาเสียอีก"

ผู้กำกับเผยสิ่งที่ได้ค้นพบในบทประพันธ์เรื่อง แม่เบี้ย ว่า "ผมอ่านอีกทีผมเจอสิ่งที่พี่วาณิชได้ซ่อนเอาไว้ในบทประพันธ์ คือจริงๆ แล้วเรื่องเนี่ยเราอาจจะติดกับเวอร์ชันเก่าๆ ในภาพยนตร์ที่เขาทำนะฮะ ที่เป็นเรื่องพิศวาสระหว่าง ชนะชล เมขลา แต่โดยแท้แล้วพี่วาณิชกลับเขียนว่า ขนาดเขียนเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วนะ ว่าความเป็นไทยหายไปไหน ทันสมัยมากเลย คือบ้านเมขลาเป็นบ้านที่หันหลังให้กับการเปลี่ยนแปลงทางวัตถุทันสมัย เป็นบ้านเดียวที่รักษาความเป็นไทยเอาไว้ แล้วก็การที่เมขลาใส่ชุดไทยอยู่บ้าน ทุกคนหาว่าเขาเป็นบ้า เป็นคนวิกลจริต ทำให้ผมเจอประเด็นที่ใกล้เคียงกันมาก ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่พี่วาณิชเขียนเมื่อ 30 ปีที่แล้วมันกลายเป็นทันสมัยในยุคนี้"

ชาคริต เล่าเรื่องราวของ ชนะชล ให้ฟังว่า "เขาเป็นคนที่แทบจะไม่มีตัวตน คือทุกอย่างเขาก็ทำไปเพราะว่าเหมือนทดแทนบุญคุณของพ่อแม่ที่ให้ทุกอย่างกับเขา แฟร์กับเขา โอเพนกับเขา เมมโมรีหรือว่าความจำวัยเด็กก็ไม่มี ทำไมเขาถึงฝันเห็นอะไรก็ไม่รู้ตลอดเวลา ฝันว่าจมน้ำฝันว่าอะไร ซึ่งเป็นอะไรที่ติดตัวมา แล้วคือเขาต้องการหาคำตอบมาตลอดชีวิต จริงๆ แล้วถ้าเป็นคนอื่นมาส้มหล่นขนาดนี้ มีอาณาจักรเป็นของตัวเอง เขาก็คงโอเคอยู่ได้ แต่สำหรับเขาคือยิ่งมียิ่งเหงา ยิ่งไม่ใช่ ยิ่งบีบให้เขาต้องออกไปจากตรงนั้น เพื่อที่จะไปหาความพอดีหรือว่าคำตอบที่เขาไม่รู้ว่าคืออะไร แต่เขาก็อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงอยาก ไม่งั้นชีวิตมันอยู่นิ่งๆ ไม่ได้จนกว่าจะได้คำตอบอันนี้"

ด้าน อ้อม พูดถึงความรู้สึกที่ได้มาแสดงภาพยนตร์ว่า "ดีใจมากค่ะ คือไม่ได้คิดว่าจะเป็นอีโรติกหรือว่าอะไรเลย แต่รู้ว่าเป็นผลงานของครูทางการแสดงของอ้อมด้วย แล้วก็เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ อ้อมก็ยินดีที่จะทำแบบเต็มที่เลย สำหรับอ้อมไม่มีคำว่าจะเล่นไหม แค่หม่อมเลือกอ้อม ให้โอกาสอ้อม อ้อมก็รับเล่นเลยโดยที่เราไม่ได้คิดว่ามันจะต้องอีโรติกหรือว่าเปลืองตัว คิดว่าเป็นงานแสดงแล้วก็เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ก็เป็นบทบาทหนึ่งที่เราต้องทำออกมาให้เต็มที่ที่สุดค่ะ" ส่วน เจี๊ยบ ซึ่งสวมบทเป็น ลุงทิม แง้มบทบาทของตนเองว่า "ลุงทิมก็คือเป็นคนเก่าคนแก่ครับ ซึ่งดูแลเมขลา รู้ความเป็นมาตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วก็คอยห้ามปรามว่ากล่าวตักเตือนเมขลาตลอด"

สำหรับ ฮัท กับบทบาทคนสนิทของ ชนะชล เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ชักนำให้เกิดเรื่องราวเลยก็ว่าได้ โดยเจ้าตัวกล่าวว่า "ของฮัทก็รับบทเป็น ภาคภูมิ ซึ่งจะสนิทกับชนะชลตั้งแต่เด็กๆ เลยแล้วถูกเลี้ยงดูมาด้วยกันนะครับ จนชนะชลเขาไปเรียนอังกฤษ เราก็อยู่ที่นี่ เราก็เรียนมหาลัยฯ อยู่กับเมขลา คือเรียนมหาลัยฯ เดียวกัน แล้วก็หลังจากนั้นพอหลังจากพี่ชนะชลกลับมา เราก็เป็นคนพาพี่ชนะชลไปบ้านเมขลา เขาอยากได้บ้านเรือนไทยเราก็พาไป ทำให้เรื่องราวของ แม่เบี้ย เกิดขึ้นมา ส่วนของคาแรกเตอร์ของฮัทในบทภาคภูมิเป็นคนที่แนวๆ เพลย์บอย เป็นนักธุรกิจหนุ่ม ไม่คิดอะไรมาก อยู่กับปัจจุบัน ทำอะไรมีความสุขก็ทำนะครับ"

ฟากสาว แม็กกี้ ที่รับบทเป็น โกสุม คุณแม่ของ เมขลา ต้องมาแสดงในส่วนของอดีตที่จะส่งผลถึงปัจจุบัน "แม็กกี้ รับบทเป็น คุณโกสุม นะคะ คุณโกสุมเป็นคนที่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่อง แม่เบี้ย นะคะ เพราะว่าเป็นคนที่จะต้องเล่นในพาร์ตอดีต เพื่อส่งผลต่อเหตุการณ์ในปัจจุบันด้วย และเล่นเป็นแม่ของเมขลาค่ะ แต่ว่าเล่นเป็นตอนสาวนะคะ (หัวเราะ) คุณโกสุมจะเป็นผู้หญิงไทยที่สวยเหมือนนางในวรรณคดี เหมือนนางในภาพวาด และคุณโกสุมก็จะเป็นคนที่ยึดมั่นถือมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีไทย รักษาความเป็นไทย ความเป็นผู้หญิงไทยทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเสน่ห์ปลายจวัก ทุกอย่างจะเรียบร้อยมาก คุณโกสุมเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมากที่สุด"

หนุ่ม ต๊อบ ซึ่งแสดงเป็น พจน์ เผยว่า เมขลา คือรักแรก "เป็นแฟนคนแรก ก็เหมือนว่าจริงๆ แล้วเนี่ยเรารักเขามา เรารักเขาฝ่ายเดียวมาตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ อยู่ ก็เหมือนรักแรก แต่คนนี้เขาไม่ได้รักเรา รักเราแบบเพื่อน แต่เราผูกพันมาก ด้วยความที่ว่าประมาณว่าเรารักใครแล้วเราพร้อมที่จะตายเพื่อเขาได้ เรารักเขาแบบรักมากจริงๆ ต่อให้แบบว่ามีป๊า ป๊าอยากให้เราไปแต่งงานกับลูกสาวคนรวย เป็นเหมือนคลุมถุงชนกัน แต่ถามว่าเรารักเขาไหม เราไม่ได้รัก เรารักเมขลา เพราะฉะนั้นคนบาปคนนี้ก็จะมีเนื้อเรื่องนะฮะ ก็คือว่าในช่วงประมาณ 7 วันเนี่ยจะรู้สึกว่าทำไมเมขลาเปลี่ยนไป รู้สึกกระวนกระวายว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป เลยเหมือนพยายามที่จะเจอเขา พยายามที่จะหาเขา แต่สุดท้ายแล้วเนี่ยเหมือนรู้ว่าเขาไปมีใจให้กับคนอื่น คราวนี้คนบาปของเสี่ยพจน์เลยเกิดขึ้นมา"

ผู้กำกับมากฝีมือชวนมาค้นหาคำตอบของความสุขที่แท้จริงในภาพยนตร์ "ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่แล้วนะครับ ไม่ใช่เรื่อง เมขลา ชนะชล อย่างเดียว มันเป็นเรื่องของคนบาปหลายๆ คน ซึ่งจริงๆ แล้วหนังไม่ได้ซีเรียสอย่างที่เราคิดนะฮะ มันไม่ซีเรียสนะ ดูกันสบายๆ แล้วก็จะแตกต่างจากทุกๆ เวอร์ชันที่ทำ ถึงแม้จะพูดเรื่องศีลธรรม แต่ไม่น่าเบื่อขนาดมานั่งสอนศีลธรรมกันตรงๆ มันจะมีตลกด้วย จะมีอะไรสบายๆ มาก แต่อย่างน้อยที่สุดเนี่ยสิ่งที่ผมมุ่งหวังอยากให้พวกเราดู หรือคนปัจจุบันดู แล้วเห็นว่าเออเราเหมือนตัวละครตัวไหนในเรื่องนี้บ้าง อะไรที่เราควรจะลดลงหรือเพิ่มขึ้น หนังตอนจบจะพูดถึงว่าความสุขของมนุษย์ยุคปัจจุบันนั้นคืออะไร จริงๆ เราจะเลือกความสุขได้อย่างไร"

พบกับเรื่องราวเบื้องลึกของความรักและวังวนแห่งกิเลสตัณหาที่เหล่าคนบาปมิอาจต้านทาน ในภาพยนตร์ แม่เบี้ย ติดตามได้ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2558 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55

ความคิดเห็น

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Maleficent - แองเจลินา โจลี ผู้รับบท มาเลฟิเซนท์ เป็นคนเลือก ลานา เดล เรย์ ให้ร้องเพลง Once Upon a Dream จาก Sleeping Beauty (1959) เพื่อเป็นเพลงประกอบหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง อ่านต่อ»
  • มันเปลี่ยวมาก - เดิมทีตัวจ่าเฉยจะออกแบบมาจาก เคน - ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ หรือ ติ๊ก - เจษฎาภรณ์ ผลดี แต่ภายหลังเอาหน้าจ่าเฉยจริงๆ มาปรับใหม่แทน ตัวจ่าเฉยจะพูดไม่ขยับปาก เพราะหากขยับปากพูดแล้วจะเหมือนหุ่นกระบอกมากกว่า อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

ได้รับแรงบันดาลใจจากการปฏิบัติการเผชิญหน้าซึ่งเกิดขึ้นในเดลี ประเทศอินเดียในปี 2008 ทำให้เกิดคำถามขึ้นทั่วอินเดียว่ามัน...อ่านต่อ»