อัลบัม Nine Track Mind - Charlie Puth

ชื่อของ ชาร์ลี พุท (Charlie Puth) เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากการร่วมร้องเพลง See You Again ประกอบภาพยนตร์ Fast & Furious 7 ร่วมกับศิลปินแร็ป วิซ คาลิฟา (Wiz Khalifa) ซึ่งนอกจากจะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์แล้วยังเป็นเพลงที่ทำขึ้นเพื่อระลึกถึง พอล วอล์กเกอร์ (Paul Walker) หนึ่งในนักแสดงหลักของภาพยนตร์ชุด Fast & Furious ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเมื่อปี 2013 โดย ชาร์ลี ร่วมเขียนเนื้อร้องเพลงนี้ โดยนึกถึงเพื่อนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ มาถึงปี 2016 นักร้องนักแต่งเพลงหนุ่มได้ปล่อยผลงานเพลงอัลบั้มเต็มชุดแรกชื่อ Nine Track Mind โดยชื่ออัลบั้มหมายถึงตัว ชาร์ลี เองที่ในหัวไม่ได้มีเรื่องให้คิดทีละเรื่อง แต่กลับเป็นคนที่มักจะมีความคิดประมาณ 9 เรื่องผุดขึ้นมาในหัว

ก่อนที่จะออกผลงานเต็มชุดนี้ ชาร์ลี เคยออกอัลบั้มอีพีชื่อ Some Type of Love มาก่อนเมื่อปี 2015 โดย 3 เพลงจาก 4 เพลงในอัลบั้มอีพี ได้มาอวดโฉมในอัลบั้มเต็มชุดนี้ด้วย ได้แก่เพลง Marvin Gaye ซึ่งเป็นเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปินชาวอเมริกัน มาร์วิน เกย์ (Marvin Gaye) ซึ่งดึงตัวสาว เมแกน เทรนเนอร์ (Meghan Trainor) มาร่วมสร้างสีสันให้กับเพลง ตามด้วยเพลง Suffer ที่ ชาร์ลี แต่งจากประสบการณ์จริงที่เขาโดนผู้หญิงคนหนึ่งทำให้ทุกข์ทรมานใจ รวมถึงเพลงที่ทำให้นึกถึงช่วงเวลาดีๆ ในชีวิต Some Type of Love ซึ่งเป็นการบรรยายความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร จึงขอบอกว่าความรู้สึกนั้นเป็นความรักในรูปแบบหนึ่งแทน

เซเลนา โกเมซ (Selena Gomez) เป็นอีกศิลปินสาวที่มาฝากเสียงร้องในอัลบั้มเปิดตัวของนักร้องนักแต่งเพลงหนุ่มด้วยเพลง We Don't Talk Anymore ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคู่รักที่เลิกรากันไปแล้วแต่ไม่พูดคุยกันอีกเหมือนอย่างที่เคย โดย ชาร์ลี ได้แรงบันดาลใจแต่งเพลงนี้จากชีวิตของเพื่อน ที่เคยคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งตลอดเวลาแล้วอยู่มาวันหนึ่งก็เลิกคุยกันไป ด้านเพลงจังหวะช้าหวานซึ้ง ซึ่งเป็นเพลงเปิดอัลบั้มอย่าง One Call Away สะท้อนความรู้สึกของคนที่ต้องอยู่ไกลจากคนรัก ชาร์ลี จึงอยากให้เพลงนี้เปรียบเสมือนบัตรอวยพรแสดงความคิดถึงที่คนยุคหนึ่งใช้ส่งหากัน เพื่อบอกความในใจแก่คนรักที่ไม่ได้อยู่ใกล้กัน