1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

เปิดมุมมองลึกลับน่าค้นหาของสาว เม ในอัลบั้ม Black Me

เปิดมุมมองลึกลับน่าค้นหาของสาว เม ในอัลบั้ม Black Me

กลับมาพบแฟนเพลงอีกครั้งในอัลบั้มชุด 2 "Black Me" (แบล็ก เม) สำหรับ "เม - จีระนันท์ กิจประสาน" ซึ่งความหมายที่ซ่อนอยู่ในชื่ออัลบั้ม คือ "สีดำ เป็นตัวแทนของความลึกลับ น่าค้นหา ซึ่งยังคงความนิยมตลอดทุกยุคทุกสมัย ถ้าหากเปรียบได้กับผู้หญิง คงเป็นสาวช่างคิดที่เก็บความรู้สึก แต่ซ่อนความมีเสน่ห์และน่าค้นหาเอาไว้" ซึ่งในวันนี้ เม ได้มาพูดคุยเพื่อบอกเล่าให้ฟังกันว่าการกลับมาของงานเพลงชุดนี้ จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง

ช่วงเวลา 2 ปีจากอัลบั้มแรกไปทำอะไรมาบ้าง

"ก็มีอัลบั้มพิเศษค่ะ จริงๆ ตั้งแต่จบอัลบั้มแรก เราก็มีการพูดคุยถึงอัลบั้มสองกันแล้ว แล้วก็ทำมาเรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ ทำมาเรื่อยๆ แต่ว่าจะถูกคั่นด้วยอัลบั้ม ดรีม 2 ก็เลยเหมือนกับว่าชะงักไปช่วงหนึ่ง"

ที่มาของชื่ออัลบั้ม แบล็ก เม

"ตอนแรกที่ใช้ชื่อนี้ เพราะแปลเป็นประมาณว่าหักหลังได้ด้วย เลยอยากให้คนสับสนค่ะ เป็นคำพ้องเสียง ความหมายจริงๆ ที่เราตั้งใจตอนประชุมกัน ทีมงานทุกคนรวมทั้ง เม ด้วย ก็นั่งฟังเพลงกัน ทั้งอัลบั้มที่คัดแล้วเสื้อผ้าก็ทำแล้ว ทุกคนก็รู้สึกว่าเออทำไมเพลงในอัลบั้มนี้ที่เลือกมาดูแปลก โทนความรู้สึกแตกต่างไปจากอัลบั้มแรก ดูหม่นๆ ขรึมๆ ไม่ฉูดฉาด เสื้อผ้าก็เป็นสีดำซึ่งเป็นสีที่เมชอบด้วย เลยกลายเป็น แบล็ก เม แล้ว แบล็ก เม ก็กลายไปเป็นคำพ้องเสียงกับคำนั้น ก็เก๋ดีค่ะ"

ความแตกต่างจากอัลบั้มชุดก่อน

"ต่างจากชุดที่แล้ว คือชุดก่อนจะเป็นป๊อปร็อกที่มีกลิ่นพังก์ค่ะ ส่วนในชุดนี้พื้นฐานจะเป็นป๊อปร็อกอยู่ แต่ว่าจะซอฟต์ลง แล้วจะเพิ่มกลิ่นซาวด์ดนตรีที่เป็นโฟล์กร็อกแล้วก็บัลลาดร็อกด้วย แต่โดยพื้นฐานจะเป็นป๊อปกับร็อกอยู่ค่ะ อัลบั้มนี้ก็จะเป็นเพลงช้ามากขึ้น แล้วเนื้อหาก็จะดูโตขึ้นเพราะ ชุดที่แล้วจะเด็กๆ โวยวายอารมณ์เหงาๆ อัลบั้มนี้อกหักก็จะรุนแรงเลย ลึกซึ้งมากขึ้น"

ทำไมถึงเปลี่ยนแนวไปจากชุดแรก

"เพราะในอัลบั้มแรกเพลงคนเดียวไม่เหงาเท่า 3 คน มีกระแสตอบรับที่ดี ก็คิดว่าแฟนๆ น่าจะชอบ เม ที่ร้องเพลงช้ามากกว่า แต่ถึงจะเป็นเพลงช้า ดนตรีก็ยังหนักแน่น ยังเข้มข้นอยู่ค่ะ"

แล้ว เม เองชอบเพลงช้าหรือเพลงเร็ว

"เม ชอบทั้งสองอย่างค่ะ อย่างอัลบั้ม ดรีม ที่มีเพลง หายไปกับดอกไม้ เม ก็ชอบมากๆ เลย หรืออัลบั้มแรก เม ก็ชอบเพลงเร็ว เพราะว่าเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตก็สนุกไงคะ"

อัลบั้มนี้มีทั้งหมดกี่เพลง

"5 เพลงค่ะ แต่เวลาที่ทำจริงๆ ทำมากกว่า 5 เพลงค่ะ เป็น 10 เพลงเลยแล้วค่อยมาคัดอีกทีหนึ่งค่ะ"

เวลาไปแสดงคอนเสิร์ตรู้สึกแปลกๆ หรือเปล่าที่เหลือแค่ 5 เพลง

"จริงๆ ตอนไปเล่นนี่ เม ก็ไม่ได้เล่นทั้งอัลบั้มอยู่แล้ว เพราะในอัลบั้มแรก เม จะคัดแต่เพลงที่คนรู้จักกันค่ะ แล้วที่เหลือเนี่ย สมมติไปเล่นเป็นโชว์ใช่มั้ยคะ เพลงที่เหลือ เม ก็จะเอาเพลงเร็วของคนอื่นมาเล่นอะไรเงี้ยค่ะ ส่วนอัลบั้มนี้มี 5 เพลงก็จริง แต่เวลาไปเล่น เม ก็จะเล่นแต่เพลงที่คนร้องตามได้ค่ะ แล้วก็เอาเพลงคนอื่นมาร้องด้วย"

เพลงแรกที่ปล่อยไป

"เพลง นอนไม่หลับ...ถ้าไม่กลับพร้อมเธอ เป็นเพลงช้าแต่ว่าจังหวะหนักแน่นค่ะ กระแสก็มีคนพูดถึงกันเยอะค่ะ เค้าบอกว่าเนื้อหา คนเค้าคิดลึกนะ แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่มีอะไร มันเป็นเพลงสนุกๆ แต่ว่าคนจะคิดลึกกับบางประโยคน่ะค่ะ"

เห็นว่าเพลงนี้ใช้คนแต่งถึง 5 คนเป็นเพราะอะไร

"เป็นเพราะว่าต้องช่วยกันระดมความคิดน่ะค่ะ เพราะว่าเนื้อเพลงเนี่ย มีคอนเซ็ปต์มาจาก พี่ปอนด์ (ธนา ลวสุต) พี่ปอนด์เค้าวางคอนเซ็ปต์มา ทีนี้เป็นโจทย์ที่ยาก ก็เลยต้องช่วยกัน แต่ว่า 5 คนเนี่ย ไม่มีใครรับผิดชอบกับคำว่า นอนไม่มัน เลย (หัวเราะ) เม ก็ถามว่า นอนไม่มัน นี่ใครแต่ง ทุกคนก็โบ้ยไปให้ พี่ปอนด์ หมดเลยอะไรเงี้ย แต่ พี่ปอนด์ เค้าป็นคนเคาะคำนี้จริงๆ เค้าชอบมาก"

มีส่วนร่วมอะไรในอัลบั้มบ้าง

"ก็มีเหมือนอัลบั้มแรกน่ะค่ะ แต่ว่าจะถูกนำมาใช้มากกว่าในอัลบั้มเก่าค่ะ เพราะว่าพี่เค้าคงจะมั่นใจขึ้น เพราะตอนแรก เม ขอนั่นขอนี่ไปทุกคนก็ไม่มั่นใจ เพราะเราก็เหมือนกับเพิ่งเป็นนักร้องใหม่ค่ะ ตอนนี้ในส่วนของเพลง เม ก็คิดคอนเซ็ปต์เองค่ะ อย่างแทร็กสุดท้ายชื่อว่า สักวันคงไปถึง ก็มาจากตัวของ เม ค่ะ เรื่องเสื้อผ้า เม ก็ชักชวนพี่สไตล์ลิสต์ที่รู้จักน่ะค่ะ คือเค้าทำให้วง แบล็ค วานิลลา คือเห็นแล้วก็ชอบน่ะค่ะ ก็ลองชวนมาคุยดู เรื่องผมก็เหมือนกัน ก็ขอพี่เค้าคุยกับร้านที่รู้จักค่ะ โทนี่แอนด์กาย เค้าก็เป็นสปอนด์เซอร์ให้"

แล้วอัลบั้มหน้าคิดว่าจะเปลี่ยนอะไรบ้างรึเปล่า

"คิดว่าจะเปลี่ยนนะคะ พื้นฐานคงยังเป็นป๊อปร็อกเหมือนเดิม แต่ เม ก็คิดว่าอยากทำอะไรที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ น่ะค่ะ"

เพลงที่ชอบมากที่สุดในอัลบั้ม

"เพลงที่ เม ชอบมากที่สุด คือเพลง เทียนไข ค่ะ ตั้งแต่เป็นนักร้องมา เม ชอบเพลงนี้ที่สุดเลย เพราะว่าค่อนข้างแปลกน่ะค่ะ ไม่ใช่เพลงที่ตลาดมากนัก อย่างตอนแรกที่ฟังเดโม ยังไม่มีเนื้อร้องเลย เม ก็สามารถที่จะรู้สึกกับมันได้ว่าเศร้ามาก แล้วพอเนื้อร้องเนี่ย เปรียบเทียบคนๆ หนึ่งที่เป็นเหมือนกับเทียนไข ที่สมัยนี้คนไม่ค่อยใช้กัน ถูกเก็บในลิ้นชัก ถ้าไฟดับถึงจะได้หยิบมาใช้ แล้วตัวมันเนี่ยก็หลอมละลายไปเรื่อยๆ มีเวลาที่จำกัดค่ะ เหมือนกับคนที่เค้าไม่มีค่าในสายตาของใครบางคน เค้าจะมาหาเวลาที่ไม่มีใคร แต่เราก็เต็มใจที่จะทำให้เพราะว่าเรารักเค้ามากค่ะ"

แนวเพลงที่ยังคงเป็นแนวซอฟต์ร็อก แต่เนื้อหาของเพลงนั้นมีมุมมองที่โตขึ้นในอัลบั้ม Black Me มีให้ฟังกันแล้ว ตั้งแต่ 7 ธันวาคม เป็นต้นไป

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18

ความคิดเห็น