1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. อัลบัมเพลงเด่น

อัลบัม When The Sun Goes Down - Selena Gomez & the Scene

When The Sun Goes Down
ศิลปิน: Selena Gomez & the Scene
อัลบัม: When The Sun Goes Down
จำนวนเพลง: 12 เพลง
แนวเพลง: Pop / Dance
วันที่ออกจำหน่าย:   14 กรกฎาคม 2554
สังกัด: Universal Music

อัลบั้มชุดที่ 3 ของวงดนตรีป๊อปจากประเทศสหรัฐอเมริกา เซเลนา โกเมซ แอนด์ เดอะ ซีน (Selena Gomez & the Scene) ที่มี เซเลนา โกเมซ (Selena Gomez) เป็นนักร้องนำ, เดน ฟอร์เรสต์ (Dane Forrest) เล่นคีย์บอร์ด, โจอี คลีเมนต์ (Joey Clement) เป็นมือเบสกีตาร์, อีธาน โรเบิร์ตส์ (Ethan Roberts) เล่นกีตาร์ และ เกรก การ์แมน (Greg Garman) รับหน้าที่ตีกลอง

สำหรับซิงเกิลแรก Who Says ที่ เอ็มมานูเอล คิริอาโคว์ (Emanuel Kiriakou) เป็นโปรดิวเซอร์ และเขียนเพลงนี้ร่วมกับ พริสซิลาร์ แฮมิลตัน (Priscilla Hamilton) เป็นเพลงป๊อปสนุกสนานที่มองโลกในแง่ดี ด้วยความหมายของเนื้อเพลงที่บอกให้พยายามมีความเชื่อมั่นในตนเอง และอย่าให้ใครก็ตามมาวิจารณ์จนทำให้ตัวเรารู้สึกแย่ลงไปอีก

Love You Like A Love Song ซิงเกิลลำดับที่ 2 เป็นเพลงรักวัยรุ่นในจังหวะอิเล็กโทรป๊อป ที่ทำให้รู้ว่าช่วงเวลาที่หลงรักใครสักคนเป็นช่วงเวลาที่หอมหวาน ซึ่ง เซเลนา เผยว่าได้มอบเพลงนี้ให้กับแฟนหนุ่ม จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) โดยคำว่า baby ในเพลงนี้ เชื่อมโยงไปถึง Baby เพลงดังระเบิดของหนุ่ม จัสติน นั่นเอง

อัลบั้มนี้ยังมีศิลปินชื่อดังมาร่วมงานในหลายเพลง อาทิ We Own The Night เพลงอะคูสติกป๊อปที่มีเนื้อหาพูดถึงความรัก อิสรภาพ และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพลงนี้มีนักร้องสาวจากฝั่งอังกฤษ พิกซี ลอตต์ (Pixie Lott) มาแต่งเนื้อร้องร่วมกับ โทบี แก็ด (Toby Gad) อีกทั้งทาง พิกซี เองก็มาให้เสียงร้องในเพลงนี้ด้วย

ส่วน That's More Like It ได้นักร้องสาว เคที เพอร์รี (Katy Perry) มาเขียนเพลงนี้ร่วมกับ บิลลี สไตน์เบิร์ก (Billy Steinberg) และ จอช อเล็กซานเดอร์ (Josh Alexander) กับแนวคิดมุมกลับที่ว่า ถ้าผู้ชายทำงานทุกอย่างที่ผู้หญิงต้องทำ อย่างเช่นงานบ้านงานครัว จะเกิดอะไรขึ้น

นักร้องยอดนิยม บริตนีย์ สเปียร์ส (Britney Spears) ก็มาแสดงฝีมือร่วมแต่งเพลงรัก Whiplash ที่ถูกถ่ายทอดออกมาในแนวอิเล็กโทรป๊อปจังหวะเร็ว ขณะที่ตัว เซเลนา เองก็มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลงเช่นกัน ในเพลงที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้ม When the Sun Goes Down และ Outlaw

นอกจากนี้ยังมีเพลง Bang Bang Bang ในแนวแดนซ์ป๊อปอิเล็กโทรดิสโก้ที่ให้ความรู้สึกของเสียงสังเคราะห์ในยุค 80 เปรียบเทียบความรักครั้งใหม่ว่าดีกว่าความสัมพันธ์ที่จบสิ้นไปแล้ว ซึ่งนักร้องสาวได้ยอมรับว่าได้แก้ไขเนื้อร้องบางส่วนเพื่อให้เพลงตรงกับชีวิตของเธอเองมากขึ้น ปิดท้ายอัลบั้มด้วย Dices ซึ่งเป็นการนำเพลง Who Says มาทำเป็นฉบับภาษาสเปน

คะแนนโหวตจากผู้ที่เคยฟัง

87%     13% (ทั้งหมด 327 โหวต)
คุณเห็นว่าอัลบัมนี้เป็นอย่างไร
ยอดเยี่ยม ยอดแย่

ข่าวบันเทิง