จอห์นนี ร่วมงาน ทิม ถ่ายทอด อลิซในดินแดนมหัศจรรย์
"ทิม เบอร์ตัน" (Tim Burton) จัดเป็นผู้กำกับคนหนึ่งที่มีผลงานโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยบรรยากาศน่ารักปนสยองขวัญแบบโกธิก ล่าสุด ทิม คว้า "Alice's Adventures in Wonderland" นวนิยายเรื่องดังตั้งแต่ปี 1865 ของนักเขียนชาวอังกฤษ "ลิวอิส คาร์โรลล์" (Lewis Carroll) มาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างการแสดงที่ใช้คนจริงกับเทคนิคโมชันแคปเจอร์ ในเรื่อง "Alice In Wonderland"
Alice's Adventures in Wonderland เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงชื่อ อลิซ ที่ตกลงไปในโพรงกระต่าย และไปพบโลกแห่งจินตนาการที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด หนังสือเล่มนี้เคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ รวมทั้งงานแขนงอื่นๆ หลายต่อหลายครั้ง ฉบับของ ทิม นี้สร้างโดย วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส และดัดแปลงบทโดย "ลินดา วูลเวอร์ตัน" (Linda Woolverton)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ ทิม ได้กลับมาร่วมงานกับนักแสดงคู่บุญอย่าง "จอห์นนี เดปป์" (Johnny Depp) อีกครั้ง หลังจากเคยร่วมงานกันมาแล้วถึง 6 เรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่อง จอห์นนี ได้รับแต่บทแปลกๆ ไม่ซ้ำใคร อาทิ บทเจ้าหนุ่มมือกรรไกรใน "Edward Scissorhands" มาคราวนี้ เขารับบทเป็นชายสวมหมวกในงานเลี้ยงน้ำชา ผู้มีนามว่า เดอะ แฮตเตอร์ หรือ แมด แฮตเตอร์
ส่วนบท อลิซ นางเอกของเรื่องนั้น ทิม เฟ้นหาตัวนักแสดงที่เหมาะสมอยู่นาน กระทั่งได้ตัว "มีอา วาชิคอฟสกา" (Mia Wasikowska) นักแสดงหน้าใหม่วัย 18 ปี จากออสเตรเลีย ที่กรุยทางในอาชีพการแสดงด้วยละครโทรทัศน์ของออสเตรเลีย "All Saints" และเริ่มเป็นที่รู้จักในละครของเอชบีโอ "In Treatment" มีอา ยอมรับด้วยความตื่นเต้นว่า เธอชื่นชอบหนังสือเล่มนี้ และยังเป็นแฟนภาพยนตร์ของ ทิม อีกด้วย
ทิม เองก็ยกย่องงานต้นฉบับของ ลิวอิส มาก เขาจึงตั้งใจจะรักษาแก่นสำคัญของนวนิยายเอาไว้ "มันเป็นงานที่เป็นอมตะ และภาพจินตนาการในเรื่องก็ดูเหนือจริงมาก" ทิม ย้ำด้วยว่างานชิ้นนี้ท้าทายอย่างยิ่ง "ผมยังไม่เคยเห็นใครเอาเรื่องนี้มาทำเป็นหนังได้สมบูรณ์เลย มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยประหลาดๆ มากมาย การพยายามทำให้มันเป็นภาพยนตร์ที่ดีให้ได้เนี่ย เป็นงานที่น่าสนใจมาก"
คณะผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ปักหลักทำงานกันในลอนดอน และยกกองไปถ่ายทำฉากย้อนยุคสมัยวิกตอเรียนกันในสถานที่ที่มีบรรยากาศเก่าแก่หลายแห่งในเมืองทอร์พอยต์และพลีเมาธ์ของประเทศอังกฤษ พร้อมนักแสดงประกอบจำนวน 250 คน การผจญภัยของอลิซในแบบฉบับของ ทิม จะเป็นอย่างไร รอพิสูจน์กันประมาณเดือนมีนาคม ปี 2010
