ฮัลลี ลงทุนโกนศีรษะ รับบทนางเอกใน Nappily Ever After
แม้ "ฮัลลี เบอร์รี" (Halle Berry) จะเคยทำผมสีขาวโพลนเพื่อแสดงเป็น สตอร์ม ในภาพยนตร์ชุด "X-Men" แต่นั่นกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ไปเลย เมื่อเทียบกับบทบาทใหม่ของเธอใน "Nappily Ever After" ที่เธอต้องเจริญรอยตามนักแสดงหญิงที่เคยโกนศีรษะเพื่อแสดงภาพยนตร์ อาทิ "ซิกอร์นีย์ วีเวอร์" (Sigourney Weaver) จาก "Alien 3" และ "นาตาลี พอร์ตแมน" (Natalie Portman) จาก "V for Vendetta"
Nappily Ever After เป็นภาพยนตร์รักผสมตลก สร้างจากนวนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ "ทริชา อาร์. โธมัส" (Trisha R. Thomas) เล่าเรื่องของหญิงสาวชื่อ วีนัส ที่เหนื่อยหน่ายกับแฟนหนุ่มที่ไม่คิดจะจริงจังกับเธอมากพอ จึงตัดสินใจเลิกรากับเขาและโกนศีรษะของตัวเองเสีย จากนั้นเธอจะต้องรับมือกับชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และค้นหาความงามที่แท้จริงของตนเองให้ได้
ฮัลลี เปิดเผยว่าเธออยากแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้มาก เพราะแนวตลกเป็นแนวที่เธอไม่ได้แสดงบ่อยนัก จึงเป็นการท้าทายตัวเอง ส่วนเรื่องที่เธอต้องบอกลาผมสีเข้มของเธอไปนั้น นักแสดงสาวกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า "ฉันกำลังจะโกนผมออกหมดเลย ฉันรู้ว่ามันคงกลายเป็นประเด็นถกเถียง แต่เดี๋ยวผมมันก็งอกใหม่เองแหละน่า หวังว่านะ!"
ฮัลลี ที่ยอมรับว่ารู้สึกมั่นใจในความเป็นผู้หญิงของตัวเองมากขึ้นเมื่ออายุขึ้นเลข 4 หวังว่าการโกนศีรษะของเธอครั้งนี้จะกระตุ้นให้ผู้หญิงหมกมุ่นกับความงามภายนอกของตัวเองน้อยลง "ฉันอยากคุยกับเธอ (ตัวละคร วีนัส) เพราะอยากรู้ว่ามันจะรู้สึกเป็นอิสระมากแค่ไหน เพราะฉันเชื่อจริงๆ ว่า ในฐานะผู้หญิง เราถูกนิยามด้วยผมของเรามากจริงๆ" ฮัลลี อธิบาย "เพราะถ้าวันไหนผมฉันดูแย่ ฉันก็จะไม่ออกจากบ้านไประยะหนึ่งเลย"
เพื่อที่จะเติบโตก้าวข้ามไปสู่จุดเดียวกับที่ตัวละคร วีนัส รู้สึก ฮัลลี ปฏิเสธไม่ยอมสวมศีรษะโล้นปลอมเพื่อถ่ายทำ แต่จะโกนศีรษะด้วยตัวเองจริงๆ "ฉันพร้อมแล้วจริงๆ ค่ะ ฉันคิดว่าฉันอยากได้บทเรียนจากหนังเรื่องนี้ เพราะตัวฉันเองก็ยังดิ้นรนกับปัญหาเรื่องผมเผ้าอยู่เหมือนกัน" ฮัลลี กล่าว "ฉันคงจะได้บทเรียนดีๆ จากหนังเรื่องนี้ และหวังว่าผู้หญิงคนอื่นก็จะเป็นเหมือนฉันค่ะ"
ผู้ที่อยากชมบทบาทอันท้าทายนี้ของ ฮัลลี คงจะต้องทนรอนานสักหน่อย เพราะบทภาพยนตร์ร่างสุดท้ายเพิ่งจะเสร็จไปสดๆ ร้อนๆ ไม่นานมานี้ และขณะนี้ผู้กำกับ "แพทริเซีย คาร์โดโซ" (Patricia Cardoso) ก็ยังคงมองหาผู้ที่จะมารับบทพระเอกและบทสมทบอื่นๆ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ฮัลลี คงจะได้เริ่มแสดงภาพยนตร์ที่เธอร่วมอำนวยการสร้างเองด้วยเรื่องนี้เสียที
