1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

สแลช เปิดคอนเสิร์ตสะท้านพลังร็อกครั้งแรกในเมืองไทย

สแลช เปิดคอนเสิร์ตสะท้านพลังร็อกครั้งแรกในเมืองไทย

"ซอล ฮัดสัน" (Saul Hudson) มือกีตาร์ระดับพระกาฬของวงร็อกอมตะ "กันส์ แอนด์ โรสเซส" (Guns N' Roses) และ "เวลเว็ต รีโวลเวอร์" (Velvet Revolver) สุดยอดลีลาการกรีดกีตาร์บวกความเก๋าผ่านทรงผมดำปรกหน้าหมวกดำใบสูงและสมญานามที่กลายมาเป็นชื่อ "สแลช" (Slash) ที่มีฝีไม้ลายมือและความจัดจ้านแบบหาตัวจับยาก และนี่จะเป็นครั้งแรกที่บทเพลงของ กันส์ แอนด์ โรสเซส จะกระหึ่มในเมืองไทยใน "Slash Live In Bangkok 2011" วันที่ 10 มีนาคม ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี

ก่อนที่ สแลช จะได้อวดลีลาในคอนเสิร์ตให้ชาวไทยได้ชมกัน เขาได้เปิดให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์กันอย่างใกล้ชิด ณ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา

มาเมืองไทยเป็นครั้งแรกหรือเปล่า

"ผมเคยมาเมืองไทยก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งล่าสุดที่ผมมาที่นี่ ผมมาเที่ยว มาดำน้ำ บันจีจัมป์ ทำกิจกรรมแบบบ้าระห่ำ"

ได้ยินว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของ แอลเอ ยูธ เน็ตเวิร์ก ด้วย

"เหตุผลที่เราเข้าไปช่วยเหลือ แอลเอ ยูธ เน็ตเวิร์ก เป็นเพราะพวกเขาช่วยจัดหาบ้านให้เด็กๆ และวัยรุ่นที่เติบโตขึ้นโดยไม่มีครอบครัว ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากผู้ปกครองของเขาถูกจับเข้าคุก และนั่นอาจทำให้เด็กเหล่านี้ต้องเผชิญกับปัญหายาเสพติดหรือการค้าประเวณี ทาง แอลเอ ยูธ เน็ตเวิร์ก ก็จะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการให้ที่พักชั่วคราวหรือถาวร รวมถึงหางานให้ทำด้วย"

เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง

"ผมคิดว่าเป็นแอลกอฮอลล์เป็นพิษ พวกเขาบอกผมว่าผมจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 8 วันหรือ 8 สัปดาห์ แล้วพวกเขาก็ใส่ของบางสิ่งเข้าไปในหัวใจของผม พร้อมกับว่าวิธีนี้จะช่วยได้ ซึ่งตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวก็เอาออกแล้ว"

หมวกนี้มีที่มาอย่างไรเพราะเห็นใส่ตลอด

"ผมได้มาจากร้านค้าในวันหนึ่ง ผมเป็นชอบใส่หมวก เมื่อผมเห็นหมวกใบหนึ่งและผมคิดว่ามันดูดีมาก มันเลยกลายเป็นสิ่งที่ผมใส่อยู่ตลอดเวลา ผมไม่ได้วางแผนที่จะยึดมันเป็นภาพลักษณ์หรืออะไรเลย แค่มันเป็นสิ่งที่ผมใส่เป็นประจำ และผมก็รู้สึกสบายใจที่ได้ใส่ ตั้งแต่ผมอายุสัก 19 หรือ 20 เรื่อยมา"

พูดถึงเพลง Drive Me ที่ทำงานร่วมกับวง สเตต ไลน์ เอ็มไพร์ (State Line Empire)

"เพลงนี้เป็นซิงเกิลของวงดนตรีที่ชนะการประกวด (Guitar Center's Your Next Record with Slash) เพื่อค้นหาวงดนตรีหน้าใหม่ โดยมี ไมค์ คลิง (Mike Clink) เป็นโปรดิวเซอร์"

ใครเป็นศิลปินที่ขอให้มาร่วมงานในอัลบั้มใหม่ด้วยยากที่สุด

"ไม่มีนะครับ มีบางคนที่รับงานไปแล้ว บางคนเดินทางอยู่ ซึ่งผมก็จัดตารางเวลาให้เหมาะสม ซึ่งผมก็ได้ร่วมงานประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ผมคิดว่าจะทำงานด้วย ก็ไม่เลวนักนะครับ"

เพลงไหนที่ใช้เวลาทำนานที่สุดในอัลบั้ม

"ผมว่าไม่มีเพลงไหนนานเป็นพิเศษนะ ที่จริงผมเขียนเนื้อร้องขึ้นมาก่อน แล้วถึงคิดว่าเพลงนี้เหมาะกับเสียงร้องของศิลปินคนไหน พอเสร็จแล้วผมถึงดึงตัวศิลปินมาร่วมงานด้วยตามความเหมาะสม บางครั้งก็มีศิลปินบางคนที่เราต้องซ้อมกันนานหน่อย แล้วเราถึงจะเข้าไปอัดเพลงกันในสตูดิโอทีหลัง"

คุณเคยร่วมงานกับ เฟอร์กี (Fergie) ด้วยใช่ไหม

"ใช่ครับ"

ทำไมคุณถึงคิดว่า เฟอร์กี จะเป็นสาวร็อกได้

"ผมมาจากแอลเอ เช่นเดียวกับ แบล็ก อายด์ พีส์ (Black Eyed Peas) ผมเห็นพวกเขาอยู่บ่อยๆ แต่ผมไม่เคยเจอเฟอร์กี ผมเลยไม่รู้ว่าเฟอร์กีเป็นใครในตอนนั้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี วิล.ไอ.แอม (Will.I.Am) โทรหาว่าผมสามารถไปร่วมแสดงกับพวกเขาในแอลเอได้ไหม ผมก็ตอบว่าได้ เมื่อผมไปถึงที่นั่น พวกเขาบอกว่าเฟอร์กีจะร้องเมดเลย์เพลงร็อกแอนด์โรล ผมก็เลยถามว่าจริงเหรอ ซึ่งเธอก็ร้องได้โดนใจผมมากๆ เวลาผ่านมา 3 ปีครึ่ง มีอยู่เพลงหนึ่งที่ผมต้องการนักร้องร็อกผู้หญิง ผมเลยโทรหาเฟอร์กี"

ศิลปินคนไหนที่เวลาคุณฟังเพลงของเขาแล้วนึกถึงตัวเอง

"ศิลปินที่มีอิทธิพลต่อผมเป็นอย่างมาก เช่น ดิ โอลด์ สโตนส์ (The Old Stones ซึ่งหมายถึง The Rolling Stones) หรือ แอโรสมิธ (Aerosmith) เหล่านี้คือศิลปินที่ผมชอบ"

ผลงานเพลงในปัจจุบันของคุณต่างจากแต่ก่อนอย่างไร

"ผมคาดว่าความแตกต่างคงขึ้นอยู่กับว่าตัวผมมีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในแต่ละช่วงเวลา ไม่ได้ขึ้นกับสิ่งที่ผมคิดมากนัก มันเป็นแค่ตัวผม เลือกเอาสิ่งที่แตกต่างที่ผมเป็น"

รู้สึกอย่างไรที่จะได้เปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทย

"รู้สึกตื่นเต้นครับ ผมเคยมาเมืองไทยมาก่อน แล้วก็สงสัยมาตลอดว่าทำไม กันส์ แอนด์ โรสเซส ถึงไม่ได้มาแสดงที่นี่ ผมเคยมาที่นี่ช่วงวันพักผ่อน บินมาที่นี่และไปเที่ยว เลยเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่จะได้บินมาที่นี่เพื่อเปิดคอนเสิร์ต"

เพลงอะไรบ้างที่คุณจะนำมาร้องในคอนเสิร์ต

"หลายเพลงเลย (หัวเราะ) เราอาจจะไม่ได้เล่นเพลง Don't Cry แต่เราอาจจะเล่นเพลง Sweet Child O' Mine บางเพลงของ กันส์ แอนด์ โรสเซส, เวลเว็ต รีโวลเวอร์ และ สเน็กพิต (Snakepit)"

มีโอกาสไหมที่คุณจะกลับมารวมวงกับ กันส์ แอนด์ โรสเซส อีก

"คำตอบคือไม่ครับ"

และแล้วก็ถึงเวลาที่เหล่าบรรดาแฟนเพลงขาร็อกรอคอยก็มาถึงกับความมันในคอนเสิร์ต Slash Live In Bangkok 2011 ที่พูดได้แบบเต็มปากว่าไม่ทำให้แฟนเพลงผิดหวัง เพราะ สแลช ขนเอาเพลงจากหลายอัลบั้มมาประเคนแฟนเพลงชาวไทย พ่วงด้วยการแสดงแบบเต็มที่เกินร้อย

ศิลปินคนร็อกของไทยมาร่วมชมคอนเสิร์ต อาทิ "ขุนทอง อสุนี ณ อยุธยา" "ป้อม - อัสนี โชติกุล" "ติ๊ด - โสฬส ปุณกะบุตร" "ปู - อานนท์ สายแสงจันทร์" นักร้องนำ "แบล็คเฮด" "แน็ป - ชนัทธา สายศิลา" จาก "เรทโทรสเปค" "เต๋า - ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณกุล" สมาชิกวง "สวีท มัลเลท" "ยอด - ธนชัย ตันตระกูล" มือกีตาร์ "บอดี้สแลม" และวง "เล้าโลม" "อีโบล่า" ถึงคอร็อกรุ่นเล็กอย่าง "เก้า - จิรายุ ละอองมณี" กับเพื่อนนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง "ห่วยขั้นเทพ"

ความมันเริ่มต้นทันทีแบบไม่พูดพล่ามให้มากความ กระแทกทุกอารมณ์ให้กระเจิงด้วยจังหวะสุดเร้าอย่าง "Ghost" "Mean Bone" "Back From Cali" "Nightrain" ก่อนจะตามติดด้วยเพลงดังจากหลายอัลบั้ม อาทิ "Rocket Queen" "Civil War" รวมถึงความพิเศษที่คนกีตาร์รอคอย คือ การเล่นกีตาร์ทำนองเพลงประกอบภาพยนตร์ "Godfather" ไปจนถึงกระทั่งเพลงดังอย่าง "Sweet Child O' Mine" ยาวไปจนถึงเพลงปิดท้าย "Paradise City" เรียกได้ว่าขนเพลงมาเล่นกันแบบไม่ยอมให้แฟนเพลงได้พักหายใจหายคอกันเลย

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21

ความคิดเห็น